0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

5Element Part 6

2 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

15Element Part 6 Empty 5Element Part 6 Thu Jan 02, 2014 8:46 pm

0ctogus

0ctogus
Admin

ผมยืนเลิกลักทำอะไรไม่ถูก เมื่อถูกสายตาของคริสมองอย่างจับผิด จะโกหกไปก็ไม่ได้ด้วย ในเมื่อหลักฐานทุกอย่างมันตำตาอยู่แบบนี้ แล้วอย่างนี้ผมจะตอบเขาไปว่าอะไรดีล่ะทีนี้


“ว่ายังไง”คริสหรี่ตามองผม ผมไม่เคยชอบสายตาของเขา ยิ่งตอนนี้ก็ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ เพราะตาของเขาเหมือนกับว่ากำลังจะมองลึกลงไปในหัวสมองและจิตใจของผมจนดูเหมือนว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นความลับสำหรับเขาเลย


“เอ่อ คือ….คือ…”


“คืออะไร…”ผมรีบหลบตาเขา พร้อมกับเม้มปากแน่น หัวสมองพยายามขุดข้ออ้างที่มีเหตุผลมากที่สุดขึ้นมา แต่ตอนนี้มันกลับไม่มีอะไรเลยนอกจาก….ความกลัว


“นายออกไปไหนมา”


“อย่าเร่งได้มั้ยเล่า คือว่าฉัน…ฉัน เอ่อ ฉัน…”ผมอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ถูก คริสยิ่งจ้องจับผิดผมมากเข้าไปใหญ่


“ฉันอดทนรอฟังคำโกหกของนายไม่ได้ทั้งคืนหรอกนะชานยอล ตอบมา นาย-ไป-ทำ-อะ-ไร-ข้างนอกนั้น”คริสย้ำคำชัดถ้อยชัดคำ สีหน้าของเขาจริงจังผิดกับเวลาปกติที่เขาชอบกวนประสาทไปเรื่อย ผมเม้มปากแน่น หลบสายตาของเขา ก่อนจะหลับตากลั้นใจตอบ


“ออกไปฝึกมา!!!”เกิดความเงียบไปชั่วขณะ ผมค่อยๆหรี่ตามองหน้าคริส เขาจ้องผมกลับเหมือนกัน แต่สายตาครั้งนี้ดูไม่ขมขู่เท่าตอนแรก คริสเดาะลิ้น ก่อนจะถามผม


“งั้นหรอ”ผมพยักหน้ารับโดยไม่ยอมมองหน้าเขา  อะไรบางอย่างทำให้ผมไม่กล้าบอกความจริงกับเขา ไม่รู้ว่าเพราะผมเริ่มระแวงเขา หรือเพราะอะไรกันแน่


“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก จะอ้ำอึ้งอยู่ทำไม”


“ก็….ก็…”ผมเว้นช่วง ก่อนจะเริ่มใช้วิชาการแถที่มีอยู่น้อยนิดของตัวเอง


“ข้างนอกฝนตก ฉันไม่ถูกกับธาตุน้ำไม่ใช่รึไง ถ้าออกไปฝึกตอนนี้ อาจจะเป็นหวัดก็ได้”คริสนิ่งไปพักหนึ่ง เหมือนกับกำลังคิดอยู่ว่าคำพูดของผมจริงหรือโกหกกันแน่ ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเออออไปด้วย


“ก็จริงของนาย  งั้นนายก็ควรไปพักได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้นายยังมีการฝึกรออยู่อีก”


“นั่นสิ ฉันควรจะนอนได้แล้ว งั้น งั้น ฉันไปนอนแล้วดีกว่า”


“เชิญ”เขาทำหน้ากวนประสาทใส่ผม สาบานได้ว่าถ้าเป็นเวลาอื่นผมต้องสวนกลับเขาไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สำหรับตอนนี้ ผมอยากจะหนีจากเขาให้เราที่สุด  ผมปิดประตูห้อง ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก  ไม่คิดว่าผู้พิทักษ์แห่งโลหะจะหลอกง่ายขนาดนี้นะเนี่ย…




 ------------------------------------------------




“นายคิดว่าฉันหลอกง่ายนักรึไง ชานยอล”คริสที่ยังคงยืนอยู่หน้าประตูพูดขึ้นเบาๆ ดวงตาคมของเขาฉายแววจริงจังระคนขุ่นเคือง ไม่มีทางที่ชานยอลจะปิดบังเขาได้ เพราะดวงตาของเขาเปรียบเสมือนโลหะที่สะท้อนและเห็นความจริงทุกอย่าง เหมือนกับแววตาของจื่อเทา คนจากสมาพันธ์คนนั้น


“ทำไมถึงต้องเป็นนายด้วย จื่อเทา” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นลอยๆ แวบหนึ่งที่ความเจ็บปวดเจืออยู่ในดวงตาคมคู่นั้น ก่อนที่เขาจะขจัดมันไปจนหมด แล้วจึงพูดขึ้น


“นายบีบบังคับให้ฉันต้องเป็นศัตรูกับนายเองนะ จื่อเทา”ร่างสูงเอ่ยก่อนที่ดวงตาของเขาจะกลายเป็นโลหะแวววาว


“จงสะท้อน” เฉียบพลันนั้นภาพจื่อเทาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางความมืดก็ฉายอยู่ในแววตาของเขา       เด็กหนุ่มกำลังเดินทางไปที่ไหนสักแห่งหนึ่งที่คริสไม่รู้จัก ก่อนที่เขาจะเริ่มหันมองซ้ายมองขวาเหมือนจับได้ว่าตัวเองกำลังถูกจ้องมองอยู่


“พี่ใช่มั้ย!!!”จื่อเทาตะโกนถามอย่างกราดเกรี้ยว แต่คริสกลับนิ่งเฉยแล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ


“เก่งขึ้นนี่”


“หึ! เลิกใช้นัยน์ตาเพชรนั่นสักที!!!”จื่อเทาตะโกนสั่งอย่างเดือดดาล เมื่อเขาเริ่มหมดความอดทนจากการถูกจับจ้อง


“หยุดสิ่งที่นายกำลังจะทำซะ จื่อเทา”


“พี่รู้…..”เทาพูดด้วยความตกใจ เขามั่นใจมากว่าครั้งนี้เขาทำทุกอย่างอย่างรอบคอบ ไม่มีช่องโหว่งพอให้คริสรู้ตัวถึงการมาเยือนของเขาด้วยซ้ำไป


“นายไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับสมาพันธ์บ้าๆนั่นเลยสักนิด  เทา”


“พี่มันจะไปรู้อะไรล่ะ!”


“พวกมันเป็นคนเลว! มันหลอกใช้นาย! พอนายทำทุกอย่างสำเร็จ สุดท้ายมันก็ฆ่านายทิ้ง ถอนตัวออกมาเถอะ!”


“หึ! พี่ว่าพวกผมเป็นคนเลว แล้วพี่ล่ะ ไม่เลวเลยรึยังไง!!!”คริสชะงักงันไป นัยน์ตาเพชรของเขาเริ่มสั่นไหว ภาพของจื่อเทาเริ่มพร่ามัว  


“พี่ไม่ได้ตั้งใจ…”


“ฆ่าคนทั้งคน นั่นคือไม่ได้ตั้งใจรึยังไง!!!!”เฉียบพลันนั้นภาพในอดีตก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวของคริสตัดการเฝ้ามองเทาออก ร่างหญิงคนหนึ่งนอนโชกไปด้วยเลือด ที่ท้องของเธอถูกโลหะสีแดงฉานแทงทะลุปักร่างของเธอให้นอนอยู่บนพื้น ดวงตาที่เบิกโพล่งของเธอมองมาที่ร่างสูง ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต


“ฆะ ฆะ….ฆ่าฉันทำไม”


“ผม….ผม….ผม ไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษ”ร่างสูงเอ่ยเสียงสั่น หยาดน้ำตาหลั่นรินลงมาจากดวงตาคู่คม ความกลัว รู้สึกผิด สับสน และเศร้าโศกถาโถมเข้ามาสู่จิตใจราวกับคลื่นยักษ์ที่สาดซัดเข้าสู่ชายฝั่ง แล้วหอบเอาความเบิกบานใจและรื่นรมย์ทั้งหลายกลับลงสู่ห้วงลึกใต้ท้องทะเล เป็นเวลาอยู่นานที่เขาสั่นสะท้าน และตื่นตระหนกกับภาพความทรงจำในอดีต ก่อนที่เขาจะค่อยๆสงบลง ความคิดแรกที่แวบเข้ามาคือ เขาจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง เพราะหากช้าไปก้าวเดียว นั่นหมายถึงหายนะที่กำลังจะมาเยือน


“ต้องเรียกประชุมเหล่าผู้พิทักษ์ด่วน”เขาเอ่ยเบาๆกับตัวเอง ก่อนที่จะค่อยๆเดินจากไป



--------------------------------------------------------




  ตอนเช้าทรมานกว่าที่ผมคิด  ผมถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างด้วยเหตุผลว่าต้องรีบออกเดินทาง ใช่ ต้องรีบออกเดินทาง ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม และก็ไม่รู้จะถามใครด้วย เพราะตอนนี้ทุกคนดูสับสนวุ่นวายมาก ไค ลู่หาน และเซฮุน กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมข้าวของ พวกเขาปฏิเสธที่จะให้คนรับใช้เตรียมให้ ด้วยเหตุผลอะไรอันนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จะเหลือก็แต่คริสคนเดียวที่ไม่วุ่นวายอะไร แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน ผมเลือกที่จะไม่ถามอะไรเขาจะดีกว่า



“จะไม่ถามอะไรหน่อยหรอ ปกตินายเป็นพวกชอบจุ้นไม่ใช่รึไง”ไม่ทันขาดคำ จู่ๆคริสก็พูดขึ้นตอนที่ผมแบกข้าวของของตัวเองมารอทุกคนที่หน้าลานพระราชวัง ผมหันไปค้อนเขาขวับ พร้อมกับเบ้ปากใส่ ก่อนจะตอบ



“ฉันไม่ได้ชอบจุ้นสักหน่อย”คริสพยักหน้าเออออแต่ดูยังไงเขาก็แกล้งล้อเลียนผมเท่านั้นล่ะ


“เราจะเดินทางไปเมอร์ทีโก้กัน ไคเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าที่นั่นคือเมืองแห่งโลหะ”


“เมอร์ทีโก้? ห๊ะ ทำไมเราต้องไปด้วยล่ะ”ผมหลุดถามไปเพราะความสงสัย


“ฝึกไงล่ะ นายคิดว่าฉันจะพานายไปทัศนศึกษาเลอร์วันน่ารึยังไง”


“ไม่กวนประสาทสักวันจะได้มั้ยห๊ะ!”ผมสะบัดเสียงใส่อย่างเหลืออด แต่ดูอีกฝ่ายจะรู้สึกสนุกมากกว่าจนกลัว


“กวนนายแล้วสนุกที่สุดเลยล่ะ ที่เราต้องไปฝึกถึงที่นั้นก็เพราะการฝึกจะได้ผลดีเมื่ออยู่ในเมืองของธาตุๆนั้น และที่เราต้องเร่งก็เพราะว่าพลังของนายกำลังตื่น ยิ่งฝึกได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งดีเท่านั้นล่ะ”


“ถ้าแบบนี้ หมายความว่าคนที่ฝึกให้ฉันก็ต้องเป็น………..นายงั้นสิ”ผมถามอย่างกลัวคำตอบ ถ้าเป็นอย่างที่คริสว่า คนที่จะฝึกผมในวันนี้คงไม่พ้น…


“ใช่ ฉันเอง”คริสตอบพร้อมกับยกยิ้มกวนประสาท จนผมเบ้ปากใส่อย่างไม่สบอารมณ์


หลังจากนั้นบทสนทนาของพวกเราก็จบลง แล้วการเดินทางที่แปลกประหลาดที่สุดของผมก็เริ่มขึ้น พวกผู้พิทักษ์เรียกสัตว์วิเศษออกมา เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพวกเขาทำอย่างนั้น ไคมีสัตว์วิเศษเป็นสิงโตตัวมหึมา ขนแผงคอของมันเป็นสีทองอร่ามอย่างกับว่าเส้นขนมันทำมาจากทองคำอย่างไรอย่างนั้น ลู่หานเป็นกวางที่ทำมาจากน้ำ สีของมันเหลือบไปทางฟ้าใส ดูสง่างาม แต่ขณะเดียวกันมันก็ดูเหมือนไม่มีตัวตน จนตอนที่ลู่หานขึ้นไปอยู่บนหลังมันนั้นแหละผมถึงได้เชื่อว่ามันมีตัวตนจริงๆ เซฮุนเป็นม้าสีน้ำตาล ดูใกล้เคียงกับคำว่าปกติมากที่สุดแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามันมีตาสีทอง คริส….มังกร ทั้งตัวเหมือนทำมาจากโลหะ แต่ไม่ได้เป็นแบบหุ่นยนตร์หรือเครื่องจักร มันเหมือนกับว่ามันมีเนื้อหนังจากโลหะ เลือดจากปรอทอย่างไรอย่างนั้น  ส่วนผม…..ไม่มี!!!


“แล้วผมล่ะ”ผมชี้มาที่ตัวเอง


“เรียกออกมาได้ก็แปลกแล้ว มานี่! ไปกับฉันก็แล้วกัน”คริสเสนอ


“ไค พี่ขอไปด้วยคนสิ”


“อย่าทำให้มันช้ากว่านี้น่า ไปๆกับคริสมันนั้นแหละ”ลู่หานว่าก่อนที่คริสจะสั่งให้มังกรคว้าตัวผมขึ้นมาบันหลังของมัน


“วะ หว๊า!!! ทำบ้าอะไรของนายเนี้ย!!!”ผมแหกปากร้องโวยวาย การโดนมังกรคว้าตัวมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิดเดียว!!!


“ก็อยากช้าเอง เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว” คริสว่าก่อนที่มังกรจะโผขึ้นสู่ท้องฟ้า ด้วยความเร็วที่ผมแทบจะเป็นลมตาย ผมรีบเกาะตัวมังกรไว้แน่นจนมันรู้สึกรำคาญ ส่งเสียงคำรามอย่างหงุดหงิด แต่ผมก็ไม่สน ความกลัวตกมันมีมากกว่าจะกลัวมังกรพ่นไฟใส่ ให้ตายยังไงผมก็จะเกาะมันไปตลอดการเดินทางนี่ล่ะ!!!



     จากวูดีล่า ใช้เวลาราวสามสี่ชั่วโมงในการมาถึงเมอร์ทีโก้ ที่นี่ไม่เหมือนวูดีล่าเลยสักนิด มันแปลกประหลาดมากจนแทบไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริง เมืองทั้งเมืองทำมาจากโลหะ มีการเรียงสีกันเหมือนการไล่สีภาพวาด ตรงกลางอาคารทุกหลังเป็นสีทอง ถัดมาเป็นสีเงิน ถัดออกไปอีกเป็นสีทองแดง หลังจากนั้นก็เป็นหลากสีผสมปนเปกันไป ทุกสิ่งทุกอย่างแวววาวเหมือนหลุดออกมาจากนิยายไซไฟมากกว่าจะเป็นของที่มีอยู่จริง  การทำเหมือนแร่มีให้เห็นอยู่ทั่วทั้งเมือง ที่ใจกลางของเมืองมีพระราชวังหลังใหญ่ตั้งตระหง่าน และเมื่อเข้าไปใกล้ๆ ผมก็แทบลืมหายใจ พระราชวังทำมาจากทองคำ ประดับประดาด้วยทองคำขาวและเงินบริสุทธิ์



“ขอต้อนรับสู่เมอร์ทีโก้ มหานครแห่งโลหะ และศาสตราวุธ”คริสพูดขึ้น ก่อนจะสั่งให้มังกรร่อนลงไปยังกลางลานกว้างภายในพระราชวัง


“ไม่ได้มาซะนาน ยังดูเหมือนเดิมเลยนะ”ลู่หานพูดขึ้นตอนที่ทุกคนถึงที่หมายกันแล้ว


“ยังหรูหราเหมือนเดิม เป็นพระราชวังที่ผมล่ะอยากได้จริงๆ”ไคพร้อมกับมองไปที่พระราชวัง


“งั้นนายก็….”คริสพูดได้แค่นั้นก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้นขัด


“ท่านคริส!!!! โอ้ เจ้าชายของกระหม่อม!!!”เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยการปรากฏตัวของผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีท่าทางตื่นตกใจอยู่ตลอดเวลา เขาวิ่งซอยเท้าเข้ามาหาพวกเรา ก่อนที่เขาจะโค้งศีรษะให้คริสแล้วเริ่มร่ายยาว


“กระหม่อมทำตามคำสั่งของพระองค์เรียบร้อยแล้วพะยะค่ะ จัดห้องให้ผู้พิทักษ์แห่งอัคคีคนสุดท้าย!!! นับเป็นเกียรติของกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้เลยพะยะค่ะ!!!!”เขาพูดด้วยท่าทีตื่นเต้นเกินคำว่าปกติ ก่อนจะคุมน้ำเสียงกลับเป็นเหมือนเดิม แล้วถามต่อ


“เอ่อ….ว่าแต่….ไหนล่ะพะยะค่ะ ผู้พิทักษ์แห่งอัคคีคนสุดท้าย”เขาพูดพร้อมกับมองหาไปด้วย ผมถึงกับหน้าชา นี่ผมดูไม่เหมือนผู้พิทักษ์ขนาดนั้นเลยหรอ คริสหัวเราะ ก่อนจะมองมาที่ผมแล้วตอบ


“นี่ไง ผู้พิทักษ์แห่งอัคคี”ผู้ชายคนนั้นเบิกตาโพล่ง ขยับแว่นที่สวมอยู่ ก่อนจะจ้องผมเขม็งซะจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก


“นี่หรือพะยะค่ะ…..โอ้!....”เขาอุทานเสียงดัง แต่น้ำเสียงไม่ได้เป็นแบบปลาบปลื้มแน่นอน มันออกจะเหมือน….ผิดหวังซะมากกว่า จนผมเม้มปากแน่น เตรียมจะเข้าสู่โหมดชานยอลคนรู้สึกแย่ ถ้าคริสไม่พูดขัดขึ้นซะก่อน


“ดิคคอน  ฉันมีธุระต้องไปทำอีก ฝากเอาข้าวของพวกนี้ไปเก็บด้วยแล้วกันนะ อ้อ แล้วก็อาหารกลางวัน เราจะไม่เข้ามากินที่นี่ ส่วนมื้อเย็น เราคงจะไปช้ากว่าเวลาสักชั่วโมงนะ ฝากจัดการให้เรียบร้อยด้วยล่ะ”


“ได้เลยพะยะค่ะ!!!”ดิคคอนรับคำอย่างขยันขันแข็งก่อนจะวิ่งหอบเอาข้าวของของทุกคนไปเก็บด้วยตัวคนเดียว



  หลังจากนั้นคริส ไค และผมก็ตรงไปยังโรงฝึก ส่วนลู่หานกับเซฮุนมีธุระต้องไปทำเลยแยกตัวออกไป ซึ่งนั่นก็ดีมากๆสำหรับผม เพราะการฝึกครั้งนี้คงเหมือนนรกแน่ถ้าเพิ่มลู่หานเข้ามาด้วย ทันทีที่มาถึงผมแทบจะแหกปากลั่นให้กับความอลังการของมัน เพราะโรงฝึกนี้ทำมาจากทองคำ และมีขนาดใหญ่โตมาก ถ้าให้เทียบผมว่าช้างคงเข้าไปอยู่ที่ได้เป็นร้อยตัว แต่ที่น่าแปลกคือ มันไม่มีประตู


“ที่นี่ไม่เหมือนโรงฝึกที่วูดีนหรอกนะ”คริสพูดขึ้นก่อนจะควบคุมโลหะให้เกิดช่องโหว่แล้วเดินเข้าไป ผมอ้าปากค้างก่อนจะเดินตามเข้าไป ภายในโรงฝึกหรูหราและกว้างขวางเหมือนกับภายนอก ผมแทบคิดไม่ออกว่าเราจะฝึกอะไรกันได้ในที่สวยงามแบบนี้


“วันนี้ฉันจะให้ไคมาช่วยฝึกนายด้วย เพราะในเรื่องการสอนนาย เขามีประสบการณ์มากกว่าฉัน”คริสเว้นช่วงก่อนจะพูดต่อ


“วันนี้การสอนไม่มีอะไรมาก แค่ว่านายจะต้องล้มฉันให้ได้แค่นั้น”


“แค่นั้น?”ผมทวนคำ เมื่อการฝึกวันนี้มันดูง่าย


“ใช่ แค่นั้น”คริสยกยิ้ม


“ระยะเวลาล่ะ จำกัดมั้ย”


“ไม่  พร้อมจะเล่นรึยังล่ะ”


“พร้อม”คริสยกยิ้ม ก่อนที่เขาจะพูดให้สัญญาณ


“1….2…….3 เริ่มได้!!!”เฉียบพลันนั้นผมก็ขว้างลูกไฟใส่เขา จนเปลวไฟลุกท้วมตัวของเขา



“บ้าจริง!!!!”เขาคำรามอย่างโมโห ก่อนที่ร่างของเขาจะทรุดฮวบลงกับพื้น ผมหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะเดินเข้าไปหา


“ไหนล่ะ ผู้พิทักษ์แห่งโลหะที่เก่งนักเก่งหนา โด่ว ไม่เห็นจะเก่งเลย!!!”


“พี่ชานยอล…”ไคเรียกชื่อผมเบาๆ


“ไม่ต้องตกใจไค หมอนี่ประมาทเอง  โลหะที่ไหน ก็แพ้ไฟทั้งนั้นแหละ นายได้หลอมละลายในกองไฟนั่นแน่ คริส!”


“เอ่อ….พี่ครับ…ถ้าผมเป็นพี่ ผมจะไม่เข้าไปหรอกนะ”


“ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอกน่า นายก็เห็นว่าหมอนี่แพ้ตั้งแต่ไม่ถึงสองวิที่เริ่มเกมส์”ผมพูดอย่างภาคภูมิใจก่อนจะเดินเข้าไปใกล้คริส  


“ไง! ละลายไปหมดรึยัง”ผมพูดก่อนจะดับไฟทั้งหมด เฉียบพลันนั้นผมก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อร่างของคริสค่อยๆสลายไป


“คริส!!!   นายตายไม่ได้นะ!!!”ผมร้องลั่นก่อนจะวิ่งเข้าไปหา แต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อร่างของคริสระเหยกลายเป็นไอไปซะแล้ว


“น่าดีใจจังที่นายไม่อยากให้ฉันตาย”เสียงคริสดังขึ้นด้านหลัง ก่อนที่ทองแดงสีแดงฉานจะพุ่งเข้ามาตรึงร่างของผมไว้

“นะ นะ นายยังไม่ตาย?”


“คิดว่าฉันจะตายง่ายๆแค่ถูกไฟของพวกฝึกหัดเผารึยังไง ชานยอล”


“แต่เมื่อกี้นาย….”


“แค่ใช้คุณสมบัติของโลหะในการสะท้อนร่างของฉันก็แค่นั้นเอง”ผมเบิกตากว้าง นี่ผู้ชายคนนี้สะท้อนร่างตัวเองเนี่ยนะ มันยิ่งกว่าที่ไคใช้ธาตุไม้ ลู่หานธาตุน้ำซะอีก ผู้ชายคนนี้ทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง


“ดูนายจะสงสัยความสามารถของฉันนะ”เขาพูดก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆผม ก่อนจะพูดต่อ


“โลหะกับฉันเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ฉันทำทุกอย่างที่โลหะทำได้ และตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่นายจะแพ้แล้วล่ะ”คริสพูดก่อนที่เขาจะสั่งให้รวดทองแดงเหล่านั้นกดร่างของผมให้คุกเข่าลง


“ฉันไม่ยอมหรอก! ฉันไม่มีทางแพ้นายหรอก!!!”ผมตะโกนบอกก่อนที่จะเผาร่างตัวเอง แล้วใช้ความร้อนหลอมละลายทองแดงเหล่านั้น


“ดูเหมือนว่าฉันจะกระตุกต่อมนายแล้วสินะ”คริสพูดเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ผมเร่งให้อุณหภูมิของไฟร้อนขึ้นอีก เพราะเท่าที่จำได้ ทองแดงจะหลอมเมื่ออุณหภูมิสูง ขณะที่ทองแดงกำลังถูกไฟผมหลอมละลาย คริสกลับไม่รีบร้อนอะไร เขายังคงยืนมองผมอยู่เฉยๆเหมือนความร้อนพวกนั้นทำอะไรเขาไม่ได้ ผมเลยเร่งให้ไฟร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนัก ทองแดงทั้งหมดก็ละลาย ปล่อยให้ผมเป็นอิสระ


“ละลายได้แล้วหรอ ไวดีนี่…..แต่…”คริสเว้นช่วงก่อนจะพูดต่อ


“นายจะเหลือไฟไว้สู้กับฉันหรอ”เฉียบพลันนั้นผมก็รู้ได้ทันทีว่าที่คริสยอมให้ผมละลายมันทั้งหมด เพราะต้องการให้ผมเหนื่อยจนไม่มีแรงพอจะเรียกไฟที่ร้อนแรงกว่านี้ได้แล้ว…..นี่ผมพลาดไปใช่มั้ย


“คราวนี้ก็ถึงตาฉันบ้างล่ะน่ะ”คริสพูดก่อนที่โลหะสีเทาเหลือบน้ำเงินจะพุ่งออกมาถ่วงร่างของผมเอาไว้ ความหนักอึ้งของมันทำให้ผมเริ่มขยับเขยืนร่างกายไม่ได้ และเริ่มทรุดตัวลงเรื่อยๆ ทางเดียวที่ผมจะหลุดออกมาได้ คือต้องใช้ไฟเท่านั้น ผมเรียกไฟออกมาอีกครั้ง คราวนี้ความร้อนของมันน้อยกว่าครั้งแรก แต่ผมก็ฝืนเร่งให้มันไต่อุณหภูมิขึ้นสูงเรื่อยๆ


“ ระวังจะเป็นลมเอานะ เพราะจุดหลอมเหลวของแทนทาลัม ไม่ต่ำแบบทองแดงหรอกนะ”ผมไม่สนใจเสียงของเขาก่อนจะเผาโลหะบ้าบอของเขาให้หลอมละลาย แต่ต่อให้เพิ่มอุณหภูมิ หรือเผาไปนานเท่าไรโลหะพวกนั้นก็ไม่หลอมละลายเสียที ซ้ำร้ายร่างกายผมยิ่งถูกกดให้คุกเข่าลงมากขึ้นเรื่อยๆอีก


“พี่คริส ผมว่าพอเหอะ พี่ชานยอลจะแย่เอานะ”


“นายไม่อยากรู้รึไงว่าเขาใช้ไฟได้สูงสุดเท่าไร”ไคนิ่งเงียบไป ก่อนจะยืนมองผมอย่างเป็นห่วง  ผมเร่งให้ไฟเผาโลหะพวกนั้นมากขึ้นไปอีก ยิ่งเร่งปฏิกิริยาเท่าไร ร่างกายผมก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้นเท่านั้น ดวงตาของผมเริ่มพร่ามัว ผมเริ่มหอบหนัก เหงื่อท่วมทั้งร่าง แต่กลับกันโลหะกลับไม่เป็นอะไรเลย ผมรวบรวมพลังไว้ให้มากที่สุด ก่อนจะเรียกเปลวไฟออกมา ฉับพลันนั้นโลหะก็หลอมละลาย แต่หลอมไปได้ไม่ถึงครึ่ง เปลวไฟของผมก็ค่อยๆมอดดับลง และต่อให้ผมจะพยายามเรียกมันมากเท่าไร เปลวไฟก็ไม่ตอบสนอง ซ้ำร้ายโลหะนั้นก็ค่อยๆถ่วงให้ผมทุดตัวลงกับพื้น


“หลอมแทนทาลัมได้งั้นหรอ อืมมม….ไม่เลวแฮ่ะ”


“ฉันต้องไม่แพ้นะ!!!”ผมร้องโวยวาย


“เลิกอาละวาดสักทีเถอะน่า ปกติก็น่ารำคาญอยู่แล้ว ยิ่งมาโดนปลุกพลังนี่ยิ่งน่ารำคาญเข้าไปใหญ่”


“วะ วะ ว่าไง…แฮ่ก แฮ่ก นะ!!!”คริสสาวเท้าเข้ามาหา ก่อนจะย่อตัวนั่งลงแล้วสลายโลหะพวกนั้น


“ย้ำอีกทีก็ได้ว่านายมันน่ารำคาญ  เอ้า สรุป นายแพ้ฉัน แก้ตัวในตาต่อไปก็แล้วกัน!!!”


“บ้าเอ๊ย!!!”ผมโวยวายอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมกับนอนแผ่ไปกับต้นไม้อย่างหมดสภาพ


“เลิกโวยวายแล้วลุกขึ้นมาซะ”


“วะ วะ วะว่าไงนะ ฝึกต่อเลยหรอ….แต่ แต่…ไฟ…หมดแล้วนะ”คริสเลิกคิ้วเหมือนผมถามคำถามที่โง่เง่าที่สุดก่อนจะตอบผมด้วยน้ำเสียงสบายๆ


“โทษที แต่ฉันไม่ได้ให้นายฝึกใช้ไฟ”


“แล้ว…แล้วจะให้ฝึกอะไร!!!”คริสยิ้มก่อนจะตอบกลับมา


“โลหะไงล่ะ”

http://0ctogus.forumth.com

25Element Part 6 Empty Re: 5Element Part 6 Fri Jul 11, 2014 6:37 pm

ky_palm



พี่คริสโหดจังเพลาๆหน่อยสิ

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ