ความรู้สึกเหมือนเมื่อคืนตอนที่ถูกคริสถูกจับได้ว่าออกไปข้างนอกมา แต่ที่แย่กว่านั้นคือ ครั้งนี้เขาถามถึงเทา คนจากสมาพันธ์ที่ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบไปว่าอะไรด้วยถึงจะดูไม่แย่จนเกินไป
“คือ….”
“อย่าโกหก…”คริสจ้องผมเขม็ง ผมอยากให้เขากลับไปเป็นคนกวนประสาทอย่างเดิมจริงๆ
“ฉัน….คือว่า….เทา เขา เขามาหาฉัน แค่ทัก…”
“คนจากสมาพันธ์ไม่เคยมาเพื่อแค่ทักใคร พวกเขามีจุดประสงค์เสมอ และจุดประสงค์ของเขาก็ไม่เคยเป็นเรื่องดี”ผมเลือดขึ้นหน้าทันทีที่ได้ยิน เขาว่าว่าคนอื่นไม่ดี แต่สิ่งที่เขาทำล่ะมันดีตรงไหน ฆ่าทั้งครอบครัวของพวกกลายพันธุ์อย่างนั้นน่ะหรอ คือจุดประสงค์ที่ดี!!!
“แล้วสิ่งที่นายทำล่ะ มันเป็นเรื่องดีตรงไหน”
“นายหมายถึงอะไร”
“ที่นายฆ่าล้างครอบครัวของพวกกลายพันธุ์ไงล่ะ เทาบอกฉันหมดแล้วว่านายทำอะไรลงไป นายฆ่าทั้งครอบครัวของเทา นั่นน่ะหรอคือจุดประสงค์ที่ดีของนาย แล้วที่ความจริงแล้วนายเองก็ควบคุมธาตุไฟได้ แต่กลับมาให้ฉันช่วย ทำให้ฉันต้องมาอยู่ในโลกบ้าๆนี่ ทำให้ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่ ทั้งๆที่ความจริงแล้วฉันควรจะได้กลับบ้าน ฉันเป็นแค่เด็กธรรมดา เป็นวัยรุ่นที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ นั้นน่ะหรอคือจุดประสงค์ที่ดีของนาย!!! ”
เพียะ!!!
เสียงฝ่ามือคริสกระทบแก้มผม ผมมองเขาตาค้าง น้ำตามันพาลจะไหลเอาดื้อๆ ทั้งตกใจ ทั้งโกรธ
“นายมันจะไปรู้อะไร นายมันจะไปเข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่นได้ยังไง นายมันก็แค่เด็กวัยรุ่นเห็นแก่ตัว ที่สนใจแต่เรื่องของตัวเอง คิดแต่เรื่องของตัวเอง ใครจะเป็นยังไง นายไม่เคยสน! คนสักกี่ล้านจะตาย นายก็ไม่สน! แล้วอย่างนี้นายจะมาว่าฉันได้ยังไง ห๊ะ ปาร์คชานยอล!!!”
“ใช่! ฉันมันเป็นคนเห็นแก่ตัว! แต่ฉันก็ไม่เคยฆ่าใครอย่างนาย!!!”
“นายคิดว่าฉันอยากทำนักหรอ! คิดว่าฉันอยากจะฆ่าครอบครัวของน้องที่สนิทกันอย่างนั้นหรอ! คิดว่าฉันอยากจะทำมันงั้นหรอ! รู้ไว้ซะนะ ปาร์คชานยอล ว่าฉันไม่เคยอยากจะฆ่าพวกเขา ไม่เคยอยากจะให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ฉันต้องทำ ! ฉันต้องทำเพื่อตัวเขาเอง และเพื่ออาณาจักรที่ฉันต้องอยู่นี่!!!!”
“เทาบอกนายว่าอะไรงั้นหรอ! ฆ่าทั้งครอบครัว เพราะอะไรงั้นหรอ คงไม่พ้นเรื่องความกลัวที่พวกโลหะจะกลัวพวกกลายพันธุ์สินะ! ฉันจะบอกความจริงกับนายให้ว่าจริงๆแล้วมันเป็นยังไง! ที่เราต้องกำจัดทั้งเชื้อสายเพราะป้องกันไม่ให้พวกนั้นไปสืบลูกหลานกับพวกโลหะ เพราะเมื่อเกิดทายาทออกมา พวกนั้นจะกลายเป็นเด็กกึ่งโลหะ เป็นสัตว์ประหลาดที่ทำลายล้างทุกอย่าง จำไม่ได้แม้แต่ครอบครัวของตัวเอง แล้วมันจะทำลายล้างพวกเราทุกคนด้วย!!!!”
“ลองนึกดูสิ! ถ้าเกิดพวกปีศาจพวกนั้นแค่สิบตัวอะไรมันจะเกิดขึ้น! บ้านเมืองถูกทำลาย! เมืองข้างเคียงก็ด้วย! ลำพังแค่ปัญหาเรื่องผู้พิทักษ์ตอนนี้ก็มากพออยู่แล้ว! เราไม่ต้องการจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก นายเข้าใจมั้ยปาร์คชานยอล เข้าใจมั้ยว่าฉันต้องทำ ทำเพราะว่ามันจำเป็น ฉันไม่ได้อยากจะฆ่าครอบครัวของเทา!!!”คริสเขย่าตัวผมแรงๆ น้ำตากำลังไหลออกมาจากดวงตาที่เจ็บปวด สับสน โกรธเคือง และโมโหของเขา ผมได้แต่ชะงักกับสิ่งที่เขาพูดทั้งตกใจ ทั้งสะเทือนใจกับเรื่องราวของเขา คริสจำเป็นต้องฆ่าพวกเขา ทั้งๆที่ไม่อยากทำ แล้วเผลอๆคนพวกนี้อาจจะเป็นคนที่คริสเคยรู้จัก เคยพูดเคยคุยด้วยด้วยซ้ำ
“ฉัน….ฉัน…”
“สิ่งที่นายเสียไป มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับสิ่งที่ฉันต้องสละไปให้กับหน้าที่บ้าๆที่ฉันก็ไม่ได้คิดอยากจะทำ แต่มันจำเป็นต้องทำ เพราะถ้าฉันไม่ทำ แล้วใครจะทำ! ใครที่ไหนจะยอมมาทำหน้าที่ตรงนี้เพื่อปกป้องคนอื่นๆกันล่ะ!!!”
“ฉัน…ฉัน….ขอโทษ”
“หึ แล้วที่นายบอกว่าฉันควบคุมธาตุไฟได้นั้นน่ะ จริงอยู่ว่าฉันทำได้ แต่ฉันไม่ได้มีพลังมากพอจะควบคุมทั้งสองธาตุไปพร้อมๆกัน ทุกๆวันที่ฉันต้องควบคุม พลังของฉันจะลดลงเรื่อยๆ แล้วความสมดุลของพลังแห่งธาตุก็จะลดลงตามไปด้วย และเมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่ฉันเริ่มทนไม่ไหว ความสมดุลระหว่างห้าธาตุจะพังทลายลงไปด้วย เพราะทุกธาตุมันเชื่อมโยงถึงกัน!”
“ฉัน….”
“เด็กอย่างนายจะไปเข้าใจอะไร สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ฟังอะไรมา ก็เชื่อตามเขาหมด ทั้งๆที่ไม่เคยมาถามอะไรจากฉันสักคำ หึ อย่างนี้ก็สมควรแล้วที่จะกลับไป นายมันไม่มีค่าอะไรพอให้พวกฉันต้องฝึกฝนให้ด้วยซ้ำ!!!”คริสตะคอกใส่หน้าผม น้ำตาผมร่วงเผาะลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ฉัน…ฉัน…มะ ไม่กลับแล้ว…”
“หึ….ที่ผ่านมานายก็ไม่เคยสู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ คิดมาตลอดไม่ใช่หรอว่าตัวเองทำไม่ได้ ถึงนายจะไม่ได้พูดกับฉัน แต่ฉันก็มองออก ความศรัทธาในตัวเองของนายมันไม่เคยมีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น!”
“…..มะ…ไม่”
“กลับไปซะเถอะ ฉันไม่ต้องการบังคับใคร ถ้านายทำไม่ได้ ฉันจะกลับไปทำหน้าที่นั้นแทนเอง”
“แต่นาย…”
“สนใจคนอื่นเขาด้วยหรอ”ผมชะงักไปกับคำพูดของเขา ไม่ได้อยากยอมรับ แต่เจ็บที่เขาพูดอย่างนั้นใส่
“ต่อให้พลังของฉันลดลง อย่างมากฉันก็แค่ตายเร็ว แต่อย่างน้อยโลกนี้ก็ยังอยู่ไปได้อีกสักปีสองปี ส่วนนายจะไปเสวยสุขที่ไหนก็เชิญ!!!!”
“คริส….”
“อยากกลับโลกนั้นมากไม่ใช่หรอ ฉันจะเป็นคนพานายกลับไป เดี๋ยวนี้เอง!!!”คริสตะวาดก่อนจะกระชากแขนผมให้เดินตามออกมาจากห้อง ท่ามกลางสายตาของคนอื่นๆที่กำลังจะเดินมาหาผมที่ห้อง
“คริส! นายจะพาชานยอลไปไหน!”ลู่หานถามเสียงหลง เป็นครั้งแรกที่ผมอยากให้เขารั้งผมเอาไว้
“ลู่หาน….คริสจะพาผมกลับ”
“อย่าฟ้อง! ในเมื่อนายเป็นคนอยากกลับเอง!!!!”
“พี่ครับ พี่จะทำอะไร พี่ก็รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพี่ชานยอลกลับ!”ไคพยายามวิ่งเข้ามาขวาง
“ผมไม่ชอบขอร้อง แต่พี่ช่วยหยุดเถอะ”เซฮุนเองก็พยายามรั้งคริสเอาไว้
“ถ้ามีใครกล้าเข้ามาขวางฉันสักคน ฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่”คริสประกาศ คราบคนอารมณ์จอมกวนประสาทหายไปหมด จนผมแทบจำตอนเขาน่ารักไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องยอมให้นายจัดการ!!!”ลู่หานขัดคำสั่ง ก่อนที่น้ำที่ถูกทำเป็นรูปแซ่จะพุ่งเข้ามาหาคริส แต่ชั่ววินาทีที่มันใกล้จะมาถึงตัว คริสก็เรียกไฟสีขาวสว่างจ้าขึ้นมาเสียก่อน ฉับพลันนั้นที่น้ำปะทะกับเปลวไฟ ไฟที่ควรจะดับกลับยิ่งโหมขึ้นสูงขึ้น ผมรู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ไฟธรรมดา
“ลู่หาน หยุด! ไฟจากลิเทียมยิ่งใช้น้ำยิ่งรุนแรงขึ้น!!!”เซฮุนร้องบอก
“อย่างเดียวที่จะดับได้คือกราไฟต์”ไคพูดขึ้นหลังกำแพงไฟสีขาว
“รีบไปหาแกรไฟต์มาซะ ก่อนที่พวกนายจะถูกไฟครอกตาย พวกนายก็รู้ว่าลิเทียมเป็นธาตุโลหะอย่างเดียวที่ทำปฏิกิริยากับไนโตเจนในอากาศ”คริสพูดก่อนจะดึงผมไป
“คริส! นายจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!!!”เสียงลู่หานตะโกนไล่หลังมา
“พี่ครับ กลับมาเถอะ!”
“บ้าจริง! หยุดตะโกน แล้วช่วยกันดับไฟก่อนเถอะน่า!!!”
เสียงของพวกเขาเบาลงเรื่อยๆเมื่อผมถูกพาออกมาไกลมากขึ้น เราสองคนตรงไปยังลานหน้าพระราชวัง ทันทีที่มาถึง คริสก็เรียกสัตว์อารักษ์ขาออกมา ผมไม่เคยรู้สึกไม่อยากขึ้นมันมากขนาดนี้มากก่อนในชีวิต
“คริส…ฉันขอโทษ ฉัน…ฉัน จะอยู่”
“นี่ไม่ใช่หรือ สิ่งที่นายต้องการ”เขาพูดก่อนจะผลักให้ผมขึ้นไปบนหลังมังกร ก่อนที่มันจะสยายปีกทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
มังกรบินอย่างรวดเร็วจนภาพรอบๆกลายเป็นแค่เส้นสีต่างๆ และยิ่งบินไปไกลเท่าไร ความเร็วของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนผมกลัว เลยได้แต่เกาะตัวมันเอาไว้แน่น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ กว่าจะรู้ตัวอีกที มันก็ลดความเร็วลง แล้วพุ่งลงยังผืนป่าของวูดีล่าแล้ว ฉับพลันนั้นผมรู้ได้ทันทีว่าคริสจะพาผมไปไหน…..เขาจะพาผมกลับไปยังต้นไม้ต้นนั้น
“คริส….ฉันไม่กลับแล้ว ไม่กลับแล้ว อย่าทำอย่างนี้เลย ฉันขอโทษ”ผมขอโทษเขา พยายามให้เขาเปลี่ยนใจ แต่ก็เปล่าประโยชน์ คริสไม่สนใจผมเลย
“นี่คือสิ่งที่นายต้องการไม่ใช่หรอ ฉันก็กำลังจะพานายกลับแล้วนี่ไง”คริสพูดก่อนที่เขาจะลากผมเดินตามไปด้วย
“คริส…ไม่เอาแบบนี้ คริส! กลับเถอะ!”ผมพยายามยื้อตัวเองเอาไว้ ไม่เคยคิดว่าเมื่อจะได้กลับขึ้นมาจริงๆ กลับไม่อยากกลับอย่างนี้
คริสไม่สนใจสิ่งที่ผมพูด เขายังคงลากผมเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้นมากขึ้น แต่ละฝีก้าวที่เข้าใกล้ มันยิ่งทำให้ผมร้อนรน แต่แล้วทุกอย่างก็หนีไม่พ้น เมื่อผมถูกผลักให้เข้าไปในโพรงต้นไม้ต้นนั้น
“กลับไปซะ กลับไปยังที่ที่นายมา”
“ไม่! คริส!!!”ผมพยายามร้องห้าม แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว
วูมมมมมม!!!
เกิดเสียงและแสงประหลาดขึ้นจากฝ่ามือของคริส ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นแสงขาวสว่างวาบไปทั่ว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหมุนเคว้งอยู่กลางอากาศ เหมือนกำลังลอยอยู่ในห้วงอวกาศที่ไม่มีแรงโน้มถ่วงอยู่สักพัก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆกลับสู่สภาวะปกติ ผมค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะพบว่าตัวเองนั่งอยู่บนพื้นบริเวณที่วิ่งไล่ตามออบตินเข้าไป…
“บ้าน…”
เมี้ยวว~
เสียงออบตินร้องก่อนที่มันจะวิ่งเข้ามาหาผมแล้วแลบลิ้นเลียหน้า ผมไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกดีใจเลยที่ได้เจอมันอีกครั้ง
“ฉันไม่น่าเจอแกเลย….ฉันไม่น่ากลับมาที่นี่เลย”ผมพูดก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน
-------------------------------------------------------
การกลับมาเจอคุณป้าอีกครั้งไม่ทำให้ผมรู้สึกดี ถึงคุณป้าจะวิ่งเข้ามากอดผมทันทีที่เห็น แล้วถามผมสารพัดคำถามว่าผมหายไปไหนมา ทำไมไม่บอกก่อน รู้มั้ยว่าป้าเป็นห่วงแค่ไหน ซึ่งผมก็โกหกไปทุกคำตอบ และแน่นอนว่าคุณป้าไม่เชื่อ ผมถึงได้มานั่งเป็นจำเลยถูกทนายซักอยู่ในห้องนั่งเล่นนี่ไง
“ชานยอล ตอบป้ามาตามความจริง หลานหายไปไหนมา”คุณป้าถามผมเป็นรอบที่ล้านของวัน ผมเม้มปากแน่น พร้อมกับหลบตาที่จ้องมองผมเขม็ง จะให้อธิบายยังไงว่าไปอีกโลกมา นั่นดูไม่ใช่คำตอบปกติเลยนะ ออกจะ….บ้าไปด้วยซ้ำ
“ผม….บอกคุณป้าไม่ได้”
“อะไรนะ! นี่หลานมีความลับกับป้างั้นหรอ หลานกลายเป็นคนอย่างนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร!”คุณป้าตะโกนเสียงดังจนเจ้าออบตินที่นอนอยู่บนตักผมสะดุ้งตื่น ก่อนจะวิ่งไปหลบใต้โซฟา ผมนึกอยากให้ตัวเองแปลงร่างเป็นแมวได้จริงๆ อย่างน้อยผมก็ยังวิ่งไปหลบได้ ไม่ต้องมานั่งถูกซักอยู่อย่างนี้
“คือ…ผมก็ไม่ได้อยากปิด แต่…ตอบมันดู…”
“ป้า-ต้อง-การ-ความ-จริง”คุณป้าตัดบท บอกตรงๆเลยว่าตอนนี้ผมกลัวคุณป้าพอๆกับตอนที่คริสตะวาดเลยด้วยซ้ำ ผมนั่งลังเลอยู่สักพักว่าจะบอกดีไม่บอกดี คุณป้าไม่มีทางเกซักแน่ถ้ายังไม่ได้คำตอบ แล้วผมก็ไม่อยากจะถูกกดดันอย่างนี้ไปตลอดด้วย แต่ว่า…ถ้าพูดความจริงไป คุณป้าจะเชื่อหรอ
“คุณป้าอยากรู้จริงๆหรอครับ”ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ใช่น่ะสิ! ตอบป้ามา ก่อนที่ป้าจะหมดความอดทน”แน่นอนว่าคุณป้าของผมอดทนจะซักผมอย่างนี้ได้เป็นวันๆล่ะ เพราะฉะนั้น…ผมคงต้องบอกความจริง
“ถ้าผมบอกคุณป้า คุณป้าอย่าหาว่าผมบ้านะครับ”
“ว่ามาสิ”ผมสูดหายใจลึก ก่อนจะพูดออกมา
“ผมไปอีกโลกหนึ่งมา!”คุณป้าชะงักกับคำตอบของผม สีหน้าของคุณป้าเหมือนเพิ่งได้ฟังผมบอกว่าผมท้องอะไรแบบนั้น คือมันทั้งอึ้ง ตกใจ และตลก
“ชานยอล…หลานล้อป้าเล่นรึไงกัน”
“เปล่าครับ ผมพูดจริงๆ ผมไปอีกโลกหนึ่งมา มันมีชื่อว่าเลอร์วันน่า โลกที่คนมีพลังวิเศษตามห้าธาตุหลัก ก็พวกธาตุไม้ น้ำ โลหะ ไฟ แล้วก็ดินแบบนั้นล่ะครับ ….”แล้วผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ที่ผมวิ่งไล่ตามออบตินจนหลุดเข้าไปในห้องที่ไม่มีอยู่จริงในบ้านไปจนถึงเรื่องที่ผมเป็นผู้พิทักษ์ให้คุณป้าฟัง และเมื่อผมเล่าจบ คุณป้าก็เงียบไปพักใหญ่ จนผมคิดว่าคุณป้าช็อกไปแล้วถ้าคุณป้าไม่พูดขึ้นมา
“หลานอย่ามาล้อเล่นนะ นี่ไม่ตลกนะชานยอล”
“ถ้าคุณป้าไม่เชื่อ ผมจะทำให้คุณป้าดูก็ได้ว่าผมควบคุมไฟได้จริงๆ”ผมบอกก่อนเสกลูกไฟขึ้นมาบนฝ่ามือก่อนจะดับมันแล้วหันไปหาคุณป้า คุณป้านิ่งไป ไม่พูดอะไร แต่ปากอ้าค้าง ตาก็จ้องไปที่ฝ่ามือของผมอยู่นาน ก่อนที่คุณป้าจะได้สติ หลับตาลงพร้อมกับพึมพำว่าขอให้ฉันตื่นๆ แต่พอคุณป้าหยิกตัวเองแล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม คุณป้าก็เลยเปลี่ยนไปพึมพำอย่างอื่นแทนว่า นี่ฉันเก็บเด็กพลังวิเศษมาอย่างนั้นหรอ พอได้ยินอย่างนั้นผมก็เลยฉุกคิดได้ขึ้นมา
“คุณป้าเจอผมได้ยังไงหรอครับ”ผมถามออกไป คุณป้าสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะหันมาตอบผมอย่างลังเล
“ที่ป้าเคยบอกว่าหลานมาอยู่กับป้าเพราะพ่อแม่ของหลานตายเพราะอุบัติเหตุน่ะ ความจริงแล้วป้าโกหก ป้าเจอหลานถูกใส่ตะกร้ามาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านพร้อมกับป้ายชื่อที่บอกชื่อของหลาน”ผมพยักหน้ารับ คนจากอคิวร่าคงทำอย่างนั้น แต่ผมคงไม่มีหวังจะได้รู้ว่าใครเป็นคนพาผมมา เพราะคุณป้าไม่เห็นเขา
“ชานยอล…แล้วทำไมหลานถึงกลับมา”
“คือ….ผมทะเลาะกับคนที่นั้น…นิดหน่อย ความจริงก็ไม่นิดเท่าไรล่ะครับ มันใหญ่มาก มากจน…..ผมไม่รู้จะทำยังไง”แล้วผมก็เล่าเรื่องที่ทะเลาะกับคริสให้คุณป้าฟัง สีหน้าของคุณป้าจากที่เคยอึ้งตอนผมเล่าเรื่องเลอร์วันน่ากลับบูดบึ้ง แล้วก็พร้อมที่จะดุผมได้ทุกเมื่อ
“ป้าไม่เคยสอนให้หลานเห็นแก่ตัวอย่างนั้นนะชานยอล! หลานควรจะกลับไป! กลับไปอย่างเร็วที่สุดเลยด้วย!!!”
“ผมขอโทษ….แต่นั้นล่ะครับปัญหา ผมไม่รู้จะกลับไปยังไง”ผมบอกเสียงอ่อย
“ก็ใช้วิธีเดียวกับที่ไปที่นั้นสิ!”ผมส่ายหน้าก่อนจะตอบ
“ผมลองแล้ว มันไม่ได้ ห้องลับนั้นไม่ออกมา มีแต่กำแพงให้ผมวิ่งทะลุเข้าไป”
“มันต้องมีสักทางสิ! ถ้าหลานสำคัญกับที่นั้นจริง ที่นั้นต้องให้หลานกลับไป!”
“ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้นครับคุณป้า”
“ถ้าอยากให้มันเป็นอย่างนั้น ก็ลุกขึ้นมาทำมันให้เป็นจริงสิ! ลุกขึ้น! ชานยอล เรามีเรื่องใหญ่ต้องทำกันแล้ว!!!”คุณป้าพูดก่อนจะลุกขึ้นพรวด
“ทำ…ทำ….ทำอะไรกันหรอครับคุณป้า”คุณป้าถอนหายใจก่อนจะตอบผม
“ก็หาทางพาหลานกลับไปที่นั้นน่ะสิ!!!”
“คือ….”
“อย่าโกหก…”คริสจ้องผมเขม็ง ผมอยากให้เขากลับไปเป็นคนกวนประสาทอย่างเดิมจริงๆ
“ฉัน….คือว่า….เทา เขา เขามาหาฉัน แค่ทัก…”
“คนจากสมาพันธ์ไม่เคยมาเพื่อแค่ทักใคร พวกเขามีจุดประสงค์เสมอ และจุดประสงค์ของเขาก็ไม่เคยเป็นเรื่องดี”ผมเลือดขึ้นหน้าทันทีที่ได้ยิน เขาว่าว่าคนอื่นไม่ดี แต่สิ่งที่เขาทำล่ะมันดีตรงไหน ฆ่าทั้งครอบครัวของพวกกลายพันธุ์อย่างนั้นน่ะหรอ คือจุดประสงค์ที่ดี!!!
“แล้วสิ่งที่นายทำล่ะ มันเป็นเรื่องดีตรงไหน”
“นายหมายถึงอะไร”
“ที่นายฆ่าล้างครอบครัวของพวกกลายพันธุ์ไงล่ะ เทาบอกฉันหมดแล้วว่านายทำอะไรลงไป นายฆ่าทั้งครอบครัวของเทา นั่นน่ะหรอคือจุดประสงค์ที่ดีของนาย แล้วที่ความจริงแล้วนายเองก็ควบคุมธาตุไฟได้ แต่กลับมาให้ฉันช่วย ทำให้ฉันต้องมาอยู่ในโลกบ้าๆนี่ ทำให้ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่ ทั้งๆที่ความจริงแล้วฉันควรจะได้กลับบ้าน ฉันเป็นแค่เด็กธรรมดา เป็นวัยรุ่นที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ นั้นน่ะหรอคือจุดประสงค์ที่ดีของนาย!!! ”
เพียะ!!!
เสียงฝ่ามือคริสกระทบแก้มผม ผมมองเขาตาค้าง น้ำตามันพาลจะไหลเอาดื้อๆ ทั้งตกใจ ทั้งโกรธ
“นายมันจะไปรู้อะไร นายมันจะไปเข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่นได้ยังไง นายมันก็แค่เด็กวัยรุ่นเห็นแก่ตัว ที่สนใจแต่เรื่องของตัวเอง คิดแต่เรื่องของตัวเอง ใครจะเป็นยังไง นายไม่เคยสน! คนสักกี่ล้านจะตาย นายก็ไม่สน! แล้วอย่างนี้นายจะมาว่าฉันได้ยังไง ห๊ะ ปาร์คชานยอล!!!”
“ใช่! ฉันมันเป็นคนเห็นแก่ตัว! แต่ฉันก็ไม่เคยฆ่าใครอย่างนาย!!!”
“นายคิดว่าฉันอยากทำนักหรอ! คิดว่าฉันอยากจะฆ่าครอบครัวของน้องที่สนิทกันอย่างนั้นหรอ! คิดว่าฉันอยากจะทำมันงั้นหรอ! รู้ไว้ซะนะ ปาร์คชานยอล ว่าฉันไม่เคยอยากจะฆ่าพวกเขา ไม่เคยอยากจะให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ฉันต้องทำ ! ฉันต้องทำเพื่อตัวเขาเอง และเพื่ออาณาจักรที่ฉันต้องอยู่นี่!!!!”
“เทาบอกนายว่าอะไรงั้นหรอ! ฆ่าทั้งครอบครัว เพราะอะไรงั้นหรอ คงไม่พ้นเรื่องความกลัวที่พวกโลหะจะกลัวพวกกลายพันธุ์สินะ! ฉันจะบอกความจริงกับนายให้ว่าจริงๆแล้วมันเป็นยังไง! ที่เราต้องกำจัดทั้งเชื้อสายเพราะป้องกันไม่ให้พวกนั้นไปสืบลูกหลานกับพวกโลหะ เพราะเมื่อเกิดทายาทออกมา พวกนั้นจะกลายเป็นเด็กกึ่งโลหะ เป็นสัตว์ประหลาดที่ทำลายล้างทุกอย่าง จำไม่ได้แม้แต่ครอบครัวของตัวเอง แล้วมันจะทำลายล้างพวกเราทุกคนด้วย!!!!”
“ลองนึกดูสิ! ถ้าเกิดพวกปีศาจพวกนั้นแค่สิบตัวอะไรมันจะเกิดขึ้น! บ้านเมืองถูกทำลาย! เมืองข้างเคียงก็ด้วย! ลำพังแค่ปัญหาเรื่องผู้พิทักษ์ตอนนี้ก็มากพออยู่แล้ว! เราไม่ต้องการจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก นายเข้าใจมั้ยปาร์คชานยอล เข้าใจมั้ยว่าฉันต้องทำ ทำเพราะว่ามันจำเป็น ฉันไม่ได้อยากจะฆ่าครอบครัวของเทา!!!”คริสเขย่าตัวผมแรงๆ น้ำตากำลังไหลออกมาจากดวงตาที่เจ็บปวด สับสน โกรธเคือง และโมโหของเขา ผมได้แต่ชะงักกับสิ่งที่เขาพูดทั้งตกใจ ทั้งสะเทือนใจกับเรื่องราวของเขา คริสจำเป็นต้องฆ่าพวกเขา ทั้งๆที่ไม่อยากทำ แล้วเผลอๆคนพวกนี้อาจจะเป็นคนที่คริสเคยรู้จัก เคยพูดเคยคุยด้วยด้วยซ้ำ
“ฉัน….ฉัน…”
“สิ่งที่นายเสียไป มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับสิ่งที่ฉันต้องสละไปให้กับหน้าที่บ้าๆที่ฉันก็ไม่ได้คิดอยากจะทำ แต่มันจำเป็นต้องทำ เพราะถ้าฉันไม่ทำ แล้วใครจะทำ! ใครที่ไหนจะยอมมาทำหน้าที่ตรงนี้เพื่อปกป้องคนอื่นๆกันล่ะ!!!”
“ฉัน…ฉัน….ขอโทษ”
“หึ แล้วที่นายบอกว่าฉันควบคุมธาตุไฟได้นั้นน่ะ จริงอยู่ว่าฉันทำได้ แต่ฉันไม่ได้มีพลังมากพอจะควบคุมทั้งสองธาตุไปพร้อมๆกัน ทุกๆวันที่ฉันต้องควบคุม พลังของฉันจะลดลงเรื่อยๆ แล้วความสมดุลของพลังแห่งธาตุก็จะลดลงตามไปด้วย และเมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่ฉันเริ่มทนไม่ไหว ความสมดุลระหว่างห้าธาตุจะพังทลายลงไปด้วย เพราะทุกธาตุมันเชื่อมโยงถึงกัน!”
“ฉัน….”
“เด็กอย่างนายจะไปเข้าใจอะไร สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ฟังอะไรมา ก็เชื่อตามเขาหมด ทั้งๆที่ไม่เคยมาถามอะไรจากฉันสักคำ หึ อย่างนี้ก็สมควรแล้วที่จะกลับไป นายมันไม่มีค่าอะไรพอให้พวกฉันต้องฝึกฝนให้ด้วยซ้ำ!!!”คริสตะคอกใส่หน้าผม น้ำตาผมร่วงเผาะลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ฉัน…ฉัน…มะ ไม่กลับแล้ว…”
“หึ….ที่ผ่านมานายก็ไม่เคยสู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ คิดมาตลอดไม่ใช่หรอว่าตัวเองทำไม่ได้ ถึงนายจะไม่ได้พูดกับฉัน แต่ฉันก็มองออก ความศรัทธาในตัวเองของนายมันไม่เคยมีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น!”
“…..มะ…ไม่”
“กลับไปซะเถอะ ฉันไม่ต้องการบังคับใคร ถ้านายทำไม่ได้ ฉันจะกลับไปทำหน้าที่นั้นแทนเอง”
“แต่นาย…”
“สนใจคนอื่นเขาด้วยหรอ”ผมชะงักไปกับคำพูดของเขา ไม่ได้อยากยอมรับ แต่เจ็บที่เขาพูดอย่างนั้นใส่
“ต่อให้พลังของฉันลดลง อย่างมากฉันก็แค่ตายเร็ว แต่อย่างน้อยโลกนี้ก็ยังอยู่ไปได้อีกสักปีสองปี ส่วนนายจะไปเสวยสุขที่ไหนก็เชิญ!!!!”
“คริส….”
“อยากกลับโลกนั้นมากไม่ใช่หรอ ฉันจะเป็นคนพานายกลับไป เดี๋ยวนี้เอง!!!”คริสตะวาดก่อนจะกระชากแขนผมให้เดินตามออกมาจากห้อง ท่ามกลางสายตาของคนอื่นๆที่กำลังจะเดินมาหาผมที่ห้อง
“คริส! นายจะพาชานยอลไปไหน!”ลู่หานถามเสียงหลง เป็นครั้งแรกที่ผมอยากให้เขารั้งผมเอาไว้
“ลู่หาน….คริสจะพาผมกลับ”
“อย่าฟ้อง! ในเมื่อนายเป็นคนอยากกลับเอง!!!!”
“พี่ครับ พี่จะทำอะไร พี่ก็รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพี่ชานยอลกลับ!”ไคพยายามวิ่งเข้ามาขวาง
“ผมไม่ชอบขอร้อง แต่พี่ช่วยหยุดเถอะ”เซฮุนเองก็พยายามรั้งคริสเอาไว้
“ถ้ามีใครกล้าเข้ามาขวางฉันสักคน ฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่”คริสประกาศ คราบคนอารมณ์จอมกวนประสาทหายไปหมด จนผมแทบจำตอนเขาน่ารักไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องยอมให้นายจัดการ!!!”ลู่หานขัดคำสั่ง ก่อนที่น้ำที่ถูกทำเป็นรูปแซ่จะพุ่งเข้ามาหาคริส แต่ชั่ววินาทีที่มันใกล้จะมาถึงตัว คริสก็เรียกไฟสีขาวสว่างจ้าขึ้นมาเสียก่อน ฉับพลันนั้นที่น้ำปะทะกับเปลวไฟ ไฟที่ควรจะดับกลับยิ่งโหมขึ้นสูงขึ้น ผมรู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ไฟธรรมดา
“ลู่หาน หยุด! ไฟจากลิเทียมยิ่งใช้น้ำยิ่งรุนแรงขึ้น!!!”เซฮุนร้องบอก
“อย่างเดียวที่จะดับได้คือกราไฟต์”ไคพูดขึ้นหลังกำแพงไฟสีขาว
“รีบไปหาแกรไฟต์มาซะ ก่อนที่พวกนายจะถูกไฟครอกตาย พวกนายก็รู้ว่าลิเทียมเป็นธาตุโลหะอย่างเดียวที่ทำปฏิกิริยากับไนโตเจนในอากาศ”คริสพูดก่อนจะดึงผมไป
“คริส! นายจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!!!”เสียงลู่หานตะโกนไล่หลังมา
“พี่ครับ กลับมาเถอะ!”
“บ้าจริง! หยุดตะโกน แล้วช่วยกันดับไฟก่อนเถอะน่า!!!”
เสียงของพวกเขาเบาลงเรื่อยๆเมื่อผมถูกพาออกมาไกลมากขึ้น เราสองคนตรงไปยังลานหน้าพระราชวัง ทันทีที่มาถึง คริสก็เรียกสัตว์อารักษ์ขาออกมา ผมไม่เคยรู้สึกไม่อยากขึ้นมันมากขนาดนี้มากก่อนในชีวิต
“คริส…ฉันขอโทษ ฉัน…ฉัน จะอยู่”
“นี่ไม่ใช่หรือ สิ่งที่นายต้องการ”เขาพูดก่อนจะผลักให้ผมขึ้นไปบนหลังมังกร ก่อนที่มันจะสยายปีกทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
มังกรบินอย่างรวดเร็วจนภาพรอบๆกลายเป็นแค่เส้นสีต่างๆ และยิ่งบินไปไกลเท่าไร ความเร็วของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนผมกลัว เลยได้แต่เกาะตัวมันเอาไว้แน่น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ กว่าจะรู้ตัวอีกที มันก็ลดความเร็วลง แล้วพุ่งลงยังผืนป่าของวูดีล่าแล้ว ฉับพลันนั้นผมรู้ได้ทันทีว่าคริสจะพาผมไปไหน…..เขาจะพาผมกลับไปยังต้นไม้ต้นนั้น
“คริส….ฉันไม่กลับแล้ว ไม่กลับแล้ว อย่าทำอย่างนี้เลย ฉันขอโทษ”ผมขอโทษเขา พยายามให้เขาเปลี่ยนใจ แต่ก็เปล่าประโยชน์ คริสไม่สนใจผมเลย
“นี่คือสิ่งที่นายต้องการไม่ใช่หรอ ฉันก็กำลังจะพานายกลับแล้วนี่ไง”คริสพูดก่อนที่เขาจะลากผมเดินตามไปด้วย
“คริส…ไม่เอาแบบนี้ คริส! กลับเถอะ!”ผมพยายามยื้อตัวเองเอาไว้ ไม่เคยคิดว่าเมื่อจะได้กลับขึ้นมาจริงๆ กลับไม่อยากกลับอย่างนี้
คริสไม่สนใจสิ่งที่ผมพูด เขายังคงลากผมเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้นมากขึ้น แต่ละฝีก้าวที่เข้าใกล้ มันยิ่งทำให้ผมร้อนรน แต่แล้วทุกอย่างก็หนีไม่พ้น เมื่อผมถูกผลักให้เข้าไปในโพรงต้นไม้ต้นนั้น
“กลับไปซะ กลับไปยังที่ที่นายมา”
“ไม่! คริส!!!”ผมพยายามร้องห้าม แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว
วูมมมมมม!!!
เกิดเสียงและแสงประหลาดขึ้นจากฝ่ามือของคริส ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นแสงขาวสว่างวาบไปทั่ว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหมุนเคว้งอยู่กลางอากาศ เหมือนกำลังลอยอยู่ในห้วงอวกาศที่ไม่มีแรงโน้มถ่วงอยู่สักพัก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆกลับสู่สภาวะปกติ ผมค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะพบว่าตัวเองนั่งอยู่บนพื้นบริเวณที่วิ่งไล่ตามออบตินเข้าไป…
“บ้าน…”
เมี้ยวว~
เสียงออบตินร้องก่อนที่มันจะวิ่งเข้ามาหาผมแล้วแลบลิ้นเลียหน้า ผมไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกดีใจเลยที่ได้เจอมันอีกครั้ง
“ฉันไม่น่าเจอแกเลย….ฉันไม่น่ากลับมาที่นี่เลย”ผมพูดก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน
-------------------------------------------------------
การกลับมาเจอคุณป้าอีกครั้งไม่ทำให้ผมรู้สึกดี ถึงคุณป้าจะวิ่งเข้ามากอดผมทันทีที่เห็น แล้วถามผมสารพัดคำถามว่าผมหายไปไหนมา ทำไมไม่บอกก่อน รู้มั้ยว่าป้าเป็นห่วงแค่ไหน ซึ่งผมก็โกหกไปทุกคำตอบ และแน่นอนว่าคุณป้าไม่เชื่อ ผมถึงได้มานั่งเป็นจำเลยถูกทนายซักอยู่ในห้องนั่งเล่นนี่ไง
“ชานยอล ตอบป้ามาตามความจริง หลานหายไปไหนมา”คุณป้าถามผมเป็นรอบที่ล้านของวัน ผมเม้มปากแน่น พร้อมกับหลบตาที่จ้องมองผมเขม็ง จะให้อธิบายยังไงว่าไปอีกโลกมา นั่นดูไม่ใช่คำตอบปกติเลยนะ ออกจะ….บ้าไปด้วยซ้ำ
“ผม….บอกคุณป้าไม่ได้”
“อะไรนะ! นี่หลานมีความลับกับป้างั้นหรอ หลานกลายเป็นคนอย่างนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร!”คุณป้าตะโกนเสียงดังจนเจ้าออบตินที่นอนอยู่บนตักผมสะดุ้งตื่น ก่อนจะวิ่งไปหลบใต้โซฟา ผมนึกอยากให้ตัวเองแปลงร่างเป็นแมวได้จริงๆ อย่างน้อยผมก็ยังวิ่งไปหลบได้ ไม่ต้องมานั่งถูกซักอยู่อย่างนี้
“คือ…ผมก็ไม่ได้อยากปิด แต่…ตอบมันดู…”
“ป้า-ต้อง-การ-ความ-จริง”คุณป้าตัดบท บอกตรงๆเลยว่าตอนนี้ผมกลัวคุณป้าพอๆกับตอนที่คริสตะวาดเลยด้วยซ้ำ ผมนั่งลังเลอยู่สักพักว่าจะบอกดีไม่บอกดี คุณป้าไม่มีทางเกซักแน่ถ้ายังไม่ได้คำตอบ แล้วผมก็ไม่อยากจะถูกกดดันอย่างนี้ไปตลอดด้วย แต่ว่า…ถ้าพูดความจริงไป คุณป้าจะเชื่อหรอ
“คุณป้าอยากรู้จริงๆหรอครับ”ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ใช่น่ะสิ! ตอบป้ามา ก่อนที่ป้าจะหมดความอดทน”แน่นอนว่าคุณป้าของผมอดทนจะซักผมอย่างนี้ได้เป็นวันๆล่ะ เพราะฉะนั้น…ผมคงต้องบอกความจริง
“ถ้าผมบอกคุณป้า คุณป้าอย่าหาว่าผมบ้านะครับ”
“ว่ามาสิ”ผมสูดหายใจลึก ก่อนจะพูดออกมา
“ผมไปอีกโลกหนึ่งมา!”คุณป้าชะงักกับคำตอบของผม สีหน้าของคุณป้าเหมือนเพิ่งได้ฟังผมบอกว่าผมท้องอะไรแบบนั้น คือมันทั้งอึ้ง ตกใจ และตลก
“ชานยอล…หลานล้อป้าเล่นรึไงกัน”
“เปล่าครับ ผมพูดจริงๆ ผมไปอีกโลกหนึ่งมา มันมีชื่อว่าเลอร์วันน่า โลกที่คนมีพลังวิเศษตามห้าธาตุหลัก ก็พวกธาตุไม้ น้ำ โลหะ ไฟ แล้วก็ดินแบบนั้นล่ะครับ ….”แล้วผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ที่ผมวิ่งไล่ตามออบตินจนหลุดเข้าไปในห้องที่ไม่มีอยู่จริงในบ้านไปจนถึงเรื่องที่ผมเป็นผู้พิทักษ์ให้คุณป้าฟัง และเมื่อผมเล่าจบ คุณป้าก็เงียบไปพักใหญ่ จนผมคิดว่าคุณป้าช็อกไปแล้วถ้าคุณป้าไม่พูดขึ้นมา
“หลานอย่ามาล้อเล่นนะ นี่ไม่ตลกนะชานยอล”
“ถ้าคุณป้าไม่เชื่อ ผมจะทำให้คุณป้าดูก็ได้ว่าผมควบคุมไฟได้จริงๆ”ผมบอกก่อนเสกลูกไฟขึ้นมาบนฝ่ามือก่อนจะดับมันแล้วหันไปหาคุณป้า คุณป้านิ่งไป ไม่พูดอะไร แต่ปากอ้าค้าง ตาก็จ้องไปที่ฝ่ามือของผมอยู่นาน ก่อนที่คุณป้าจะได้สติ หลับตาลงพร้อมกับพึมพำว่าขอให้ฉันตื่นๆ แต่พอคุณป้าหยิกตัวเองแล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม คุณป้าก็เลยเปลี่ยนไปพึมพำอย่างอื่นแทนว่า นี่ฉันเก็บเด็กพลังวิเศษมาอย่างนั้นหรอ พอได้ยินอย่างนั้นผมก็เลยฉุกคิดได้ขึ้นมา
“คุณป้าเจอผมได้ยังไงหรอครับ”ผมถามออกไป คุณป้าสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะหันมาตอบผมอย่างลังเล
“ที่ป้าเคยบอกว่าหลานมาอยู่กับป้าเพราะพ่อแม่ของหลานตายเพราะอุบัติเหตุน่ะ ความจริงแล้วป้าโกหก ป้าเจอหลานถูกใส่ตะกร้ามาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านพร้อมกับป้ายชื่อที่บอกชื่อของหลาน”ผมพยักหน้ารับ คนจากอคิวร่าคงทำอย่างนั้น แต่ผมคงไม่มีหวังจะได้รู้ว่าใครเป็นคนพาผมมา เพราะคุณป้าไม่เห็นเขา
“ชานยอล…แล้วทำไมหลานถึงกลับมา”
“คือ….ผมทะเลาะกับคนที่นั้น…นิดหน่อย ความจริงก็ไม่นิดเท่าไรล่ะครับ มันใหญ่มาก มากจน…..ผมไม่รู้จะทำยังไง”แล้วผมก็เล่าเรื่องที่ทะเลาะกับคริสให้คุณป้าฟัง สีหน้าของคุณป้าจากที่เคยอึ้งตอนผมเล่าเรื่องเลอร์วันน่ากลับบูดบึ้ง แล้วก็พร้อมที่จะดุผมได้ทุกเมื่อ
“ป้าไม่เคยสอนให้หลานเห็นแก่ตัวอย่างนั้นนะชานยอล! หลานควรจะกลับไป! กลับไปอย่างเร็วที่สุดเลยด้วย!!!”
“ผมขอโทษ….แต่นั้นล่ะครับปัญหา ผมไม่รู้จะกลับไปยังไง”ผมบอกเสียงอ่อย
“ก็ใช้วิธีเดียวกับที่ไปที่นั้นสิ!”ผมส่ายหน้าก่อนจะตอบ
“ผมลองแล้ว มันไม่ได้ ห้องลับนั้นไม่ออกมา มีแต่กำแพงให้ผมวิ่งทะลุเข้าไป”
“มันต้องมีสักทางสิ! ถ้าหลานสำคัญกับที่นั้นจริง ที่นั้นต้องให้หลานกลับไป!”
“ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้นครับคุณป้า”
“ถ้าอยากให้มันเป็นอย่างนั้น ก็ลุกขึ้นมาทำมันให้เป็นจริงสิ! ลุกขึ้น! ชานยอล เรามีเรื่องใหญ่ต้องทำกันแล้ว!!!”คุณป้าพูดก่อนจะลุกขึ้นพรวด
“ทำ…ทำ….ทำอะไรกันหรอครับคุณป้า”คุณป้าถอนหายใจก่อนจะตอบผม
“ก็หาทางพาหลานกลับไปที่นั้นน่ะสิ!!!”