0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

Ferret Love Part 7

3 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1Ferret Love Part 7 Empty Ferret Love Part 7 Thu May 23, 2013 12:04 pm

0ctogus

0ctogus
Admin

“เป็น เป็น ตัวผู้............ของ ชาน ยอล”พ่อผมทวนอีกครั้ง


“ไม่ใช่ ไม่...”ผมรีบแย้งแต่ก็โดนคริสตะหวาดกลับมาเสียก่อน


“เงียบไปเลยไอ้ตัวเมีย!! ใช่!!! ผมเป็นตัวผู้ของชานยอล!!!”


“มั๊มม!!!”


“ไม่ต้องมาขึ้นเสียง!!! จับฉันทำหมันไม่พอ ยังปิดเรื่องของเรากับบ้านนายอีก!!!”


“เมื่อกี้นายว่าไงนะ!!!” พ่อถามขึ้นมาหลังจากที่เริ่มได้สติบ้างแล้ว


“ผมเป็น..//มั๊ม!”


“เงียบ ไอ้ตัวเมีย!!!..................ผมเป็นตัวผู้ของชานยอล เป็นคู่ของไอ้ตัวเมียนี่ แล้วเราก็เคยผสมพันธุ์กันแล้วด้วย!!!” คริสเน้นคำว่าผสมพันธุ์เหมือนต้องการย้ำให้รู้ถึงความสัมพันธ์ของเรา แต่ดูท่ามันจะไม่ใช่อย่างนั้นเลย.........



พ่อกำมือแน่นพร้อมกับจ้องคริสเขม็ง


แม่ยืนเท้าเอวมองหน้าผม


พี่สาวใช้ส้อมชี้หน้าคริสสลับกับผม


ขอล่ะ อย่าพูดอะไรอีกเลย ไม่งั้นคราวนี้.....



“ผมพูดจริงนะครับ เราผสมพันธุ์มาแล้วสองวัน สองคืนเต็มๆ!!!”



“ปาร์คชานยอล!!!!” งานนี้ได้ตายศพไม่สวยแน่เลย เอาไงดีๆ จะให้พ่อรู้เรื่องเราไม่ได้ ไม่งั้นล่ะยุ่งแน่ เรื่องยาวชัวร์


“พ่อครับ คือ คือ ผมอธิบายได้ คือ คือ ..........”


“อะไร!!!”


“เขา เขา.....................เขา......”


“ทำไม”


“ซ้อมละครน่ะครับ!!!”


“ลูกว่าไงนะ”


“ซ้อมละครน่ะครับ ใช่!!! ละครที่คณะ คือ คือเขาเล่นเป็นเมาคลีน่ะครับ เลย เลย พูดจาแบบสัตว์ป่านิดนึง แล้ว แล้วแบบ............เพื่อความสมจริง เราเลยตกลงกันจะสวมบทนี้ทั้งวันน่ะครับ แหะๆ”


“ไอ้ตัว......”


“ผมขอตัวไปซ้อมก่อนนะครับ กำลังอินเลยตอนนี้ เฮ้ย ไอ้คริส ไปซ้อมกัน” ผมรีบลากคริสขึ้นบ้าน ขืนปล่อยให้อยู่ละยุ่งแน่ แค่นี้ผมก็เกือบแถต่อไม่ไหวแล้ว พระเจ้าเถอะ!!! ชายปาร์ค อยากบ้า


“ยูรา ชานยอลมีเพื่อนชื่อคริสด้วยหรอ”


“เอ่อ..........หนูรู้จักแต่ไค คง คงเป็นเพื่อนใหม่มั้งคะพ่อ”


“หรอ แล้วไอ้ละครนี่ดูเขาจะเล่นถึงบทบาทมากเลยนะ”


“นั่นสิ............”


“อย่างกับเป็นสัตว์ป่าจริงๆ”





-------------------------------------------





“นายลากฉันขึ้นมาทำไม แล้วละครบ้าบอนั่นมันอะไรกัน ห๊า!!!” คริสแหกปากลั่น นี่เฟอร์เร็ทหรอเนี่ย คิดว่า หมา ดุจริง!!!


“ถ้าป๊ะป๋าไม่บอกงั้น เราสองคนก็ได้ซวยกันน่ะสิมั๊ม!!!”


“ซวยยังไง มันจะมีอะไรซวยยิ่งกว่าการทำหมันนั่นอีกล่ะ!!”


“นาย ......................จะถูกจับไปปล่อย พ่อป๊ะป๋า.............ไม่....ไม่ชอบเฟอร์เร็ท!!! ใช่ ไม่ชอบเลยสักนิด ถ้าเขารู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน พ่อป๊ะป๋าก็จะเอามั๊มไปปล่อย ไม่ให้เข้าบ้าน ย้ายบ้านหนี แล้วที่ร้ายแรงที่สุด....................”ผมนิ่งคิด อะไรที่มันร้ายแรงสำหรับมั๊มวะเนี่ย ร้ายแรงแบบมากๆ มากพอจะขู่ได้....



“ที่ร้ายที่สุด........................จะเจื๋อนตรงนั้นของมั๊มทิ้ง!!! คราวนี้มั๊มก็จะผสมพันธุ์ไม่ได้!!! ตายดับอนาถ!!! ไม่มีจุ๊ดจู๋ กลายเป็นกระเทยเฟอร์เร็ท!!!”



“หยุด!!!! หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย!!!”คริสแหกปาก พร้อมกับปาหมอนใส่หน้าผม ...........รุนแรงชะมัด


ผมคว้าหมอนมากอดก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้น ในขณะที่คริส........นั่งสบายก้นบนเตียง


“เข้าใจยัง ว่าถ้าบ้านป๊ะป๋ารู้ มั๊มจะซวยไง”


“เออ!!! แต่เรื่องมันยังไม่จบ!!! นายพาคู่นายไปทำหมันได้ไง!!! รู้มั๊ยว่ามันน่าอัปยศแก่วงศ์ตระกูลแค่ไหน!!!”


“ก็.....................”


“จะแก้ตัวอะไร ไอ้ตัวเมียปลิ้นปล้อน!!!”


“ป๊ะป๋า ป๊ะป๋า มีเหตุผลนะ คือ.........คือ.... เรา เราสองคนเป็นคู่กันใช่ป่ะ ป๊ะป๋าก็ต้อง........หวงมั๊มสิ เกิดมั๊มไปยุ่งกับคนอื่นขึ้นมา ป๊ะป๋าจะทำไง”ผมแถซะจนสีข้างถลอก นี่ถ้าคำพูดสร้างความเจ็บได้ ป่านนี้ผมคงนอนเลือดโชกไปละ คริสหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำ แล้วก้มหน้ามาใกล้ๆผม


“หวงฉันหรอ” คริสยิ้มอย่างรู้ทัน


“อะ อะไร....ใครจะหวงเฟอร์เร็ทหื่นอย่างนายกัน” ผมเฉไฉก่อนจะปีนขึ้นมาบนเตียง แต่ยังไม่ทันจะล้มตัวนอน ก็ถูกคริสดึงมานั่งตักเสียก่อน


“หวงฉันหรอ” คริสกระซิบข้างหู ผมสาบานได้ว่าผมไม่ได้หวงเขานะ แต่พอเขามาพูดแบบนี้แล้วมัน......................เขินแฮ่ะ เหมือนว่า............เราโดนรู้ทันเลย


“จะนอน ปล่อย” ผมเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับดิ้นขลุกขลักไปมา แต่ยิ่งหนี คริสก็ยิ่งกอดผมไว้แน่นขึ้น จมูกโด่งคลอเคลียอยู่กับผิวแก้มของผม ก่อนจะจูบเบาๆ


“จะหวงทำไม ในเมื่อกลิ่นนายมันก็อยู่บนตัวฉัน ไม่มีตัวอื่นมายุ่งกับฉันหรอก เข้าใจมั้ย ตัวเมียของตัวผู้” จากที่เขินกลายเป็นชะงัก......................ตัวเมียตัวผู้อีกแล้ว!!!


“เมื่อไรจะเลิกเรียกตัวเมีย ฟังแล้วยังไงไม่รู้ ไม่มีคนเขาเรียกงี้กันหรอกมั๊ม”


“งั้นคนเรียกกันยังไง”


“ก็...........เรียกชื่อ บางคู่ก็เรียกแทนว่า พ่อ แม่ เหมือนคู่พ่อแม่ป๊ะป๋าไรเงี้ย”


“งั้นหรอ........ป๊ะ...........ป๋า” ผมหลุดยิ้ม ทั้งเขิน ทั้งจั๊กจี้ ทั้งขำ จนมันปนเปกันไปหมด ไม่รู้ว่าต้องอาย หรือต้องหัวเราะกันแน่ แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้คือหน้าแดง และยิ้มจนแก้มแทบปริ



งั้นหรอ......ป๊ะ.....ป๋า


ย๊า .....................ชอบจัง




“ชอบล่ะสิ งั้นขอรางวัลหน่อย”คริสว่าพร้อมกับก้มลงซุกไซร้ซอกคอของผม ฝ่ามือหนาที่ว่องไวอย่างเฟอร์เร็ทเริ่มซุกซนสอดเข้าไปใต้เสื้อผ้าของผม ผมรีบคว้ามือเขาเอาไว้ ก่อนจะดีดจมูกดุเขาอย่างที่ชอบทำตอนเขาเป็นเฟอร์เร็ท


“ไม่! เพิ่งเกิดเรื่อง เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็มาเจื๋อนจุ๊ดจู๋หรอก นอนเลย ไอ้มั๊มหื่น!!!” ผมว่าก่อนจะล้มตัวนอนโดยหันหน้าเข้ากำแพง



“นิดนึงก็ไม่ได้หรอ” คริสเกยคางกับไหล่ของผม..................อืม เกือบระทวยละ..............ถ้าไม่ติดที่ทรงผมนั้นน่ะนะ




“ไม่! นอนเลย พรุ่งนี้ต้องไปมอแต่เช้า คืนนี้ไม่ว่างทำอะไรทั้งนั้น!!” คริสเบ้ปาก แต่ก็ยอมเชื่อฟังแต่โดยดี ผมว่าเขาไม่ได้อยากจะเป็นคนดียอมเชื่อฟังอะไรผมหรอก แต่เพราะกลัวโดนเจื๋อนมากกว่า
แต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะถ้าเราทำ.........อืม แบบนั้น พรุ่งนี้ผมต้องไปมอสายแน่ ดะ เดี๋ยวนะ ไปมอหรอ........เฮ้ย!!!



“มั๊ม!!! พรุ่งนี้มั๊มจะเป็นเฟอร์เร็ทมั้ย”ผมแหกปากลั่น เพราะถ้ามั๊มไม่กลับร่างล่ะก็ซวยแน่ คริสทำหน้าคิด ก่อนจะยักไหล่ แล้วตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย


“ไม่รู้สิ...”


“ไม่รู้ไม่ได้!!! ถ้าไปที่มอฯทั้งสภาพคนอย่างนี้จะบอกกับทุกคนว่าอะไร!!!”



“จะไปยากอะไร”คริสว่าพร้อมกับดึงผมเข้าไปกอด แล้วกดหัวผมให้ซุกอยู่กับอกของเขา ก่อนจะพูดประโยคที่ไม่รู้จะช่วยให้ดีใจหรือหนักใจขึ้นดี....






“ก็บอกไปสิ..............ว่าเป็นตัวผู้ของนายไง”







-----------------------------------------------







“มั๊ม!!! ก่อนเข้าไป ทวนอีกทีสิ่ ห้ามทำอะไรบ้าง!!!” ผมที่กำลังอยู่หน้ามหาลัยฯพูดขึ้น ในขณะที่ตัวต้นเหตุความวุ่นวายกับทำแค่...




ยืนกอดอกพิงกำแพง





“ห้ามพูดจาแปลกๆ ห้ามโวยวาย ห้ามทำตัวแบบเฟอร์เร็ท ห้ามเกี้ยว ห้ามนัวเนีย ห้าม...........ผสมพันธุ์!!!”



“ดีมาก ห้ามแหกกฎสักข้อนะ โอเค ไปได้” ผมว่าก่อนจะเดินนำเข้าไปในมหาลัยฯ หวังว่าไอ้ไคยังไม่มานะ ยังไม่พร้อมจะ...


“ไอ้ยอล!!!” ตายยากจริง!!! ไคที่นั่งอยู่บนสแตนด์ตะโกนเรียกพร้อมกับกวักมือยิกๆ ผมหันมามองคริสอย่างลังเลก่อนจะพูดย้ำอีกครั้ง


“ห้ามแหกกฎสักข้อนะ เข้าใจมั้ยมั๊ม!!! ระหว่างที่ป๊ะป๋าซ้อม มั๊มก็ไปนั่งรอตรงนู่นนะ ห้ามไปไหน เด็ดขาด โอเคนะ” คริสพยักหน้าส่งๆ ผมตั้งท่าจะเดินขึ้นสแตนด์ไป แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง ทุกคนที่อยู่แถวนั้นต่างมองไปที่คริสกันเป็นตาเดียว


“ผมจะเชื่อฟังทุกอย่างเลยครับป๊ะป๋า ตั้งใจซ้อมนะครับบบบบ” คริสแหกปากเสียงดัง พร้อมกับยักคิ้วให้ผม ไอ้กวนประสาท!!!! บอกว่าห้ามพูดจาแปลกๆ ห้ามโวยวาย แล้วเมื่อกี้มันคืออะไร!!!


“ยอล ใครวะ!!!! เดี๋ยวนี้เป็นป๋าเลี้ยงอิหนูแล้วหรอวะเนี่ย”


“ห๊ะ!!! จะบ้าหรอ”


“แต่อิหนูนายนี่มัน............ตัวโคตรโตอะ ถามจริง ป๊ะป๋ารุกหรือป๊ะป๋ารับอิหนูอาคร้าบบบบบบบบ”


“กวนละไอ้ดำ ซ้อมไปไป เชียร์ เชียร์ เชียร์!!!!”





หลังจากนั้นผมก็ซ้อมเชียร์โดยมีไอ้ไคคอยซักเรื่องคริสตลอด กว่าจะเลิกสงสัยเล่นเอาผมเหนื่อย ดีนะที่ความแถมันมีอยู่ในตัวสูง เลยเอาตัวรอดไปได้ ส่วนไอ้คนที่สร้างความวุ่นวายให้ก็นั่งกระดิกเท้าไม่ทำอะไรเลยอยู่นั่นไง คริสนั่งอยู่ที่เดิมอยู่อย่างนั้นตลอดเวลาที่ผมซ้อม แต่แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้ทำตัวเป็นประโยชน์นักหรอก บางทีก็จะยิ้มให้ผม โบกไม้โบกมือให้ อย่าคิดว่าทำตัวน่ารักครับ เขาตั้งใจจะกวนประสาทผม หึ!!! ไอ้บ้าเอ๊ย



“เอาน้องๆ ไปพักได้ เจอกันอีกทีตอนบ่ายโมงนะ”เสียงพี่ประธานตะโกนบอก ผมโยนขวดเชียร์ใส่ถุงก่อนจะเดินลงสแตนด์ไป แต่แล้วไอ้ไคมันก็ลากผมไปกอดคอ แถมก้มซิบข้างหูอีก


“ยอล ถามจริงไอ้ลูกนัทนั่นกับนายเป็นไรกันแน่วะ” นั่นไง มันมาอีกแล้ว อุตส่าห์แถไปได้ ยังไม่เคลียร์อีก!!!


“จะให้เป็นไร ก็บอกคนรู้จักๆ คนรู้จักอะ เข้าใจป่ะดำ” ผมพูดย้ำหลายๆรอบ พร้อมกับเริ่มเก็บขยะที่อยู่บนแสตนด์.....ไม่รู้ว่าเก็บเพราะเขิน หรือเพราะรักความสะอาดกันแน่...


“หรอ จริงดิ”


“เออจริง!!! จะถามอะไรนักหนา ขี้เกียจตอบ”


“ก็ไม่ได้ไรนะเว้ย แต่ถามเพื่อความแน่ใจ เพราะถ้าไม่ได้เป็นไรกัน ช็อตนี่ก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง”ไคพูดพร้อมกับชี้ไปที่ม้านั่ง ผมมองตามไปก่อนจะพบเข้ากับ....





คริสกำลังโอบไหล่ กระซิบกับพี่ดาวมหาลัยฯคนนั้น!!!






“เห็นเขาคุยกันตั้งแต่เราอยู่บนสแตนด์ละ แต่ไอ้กอดคอกระซิบนี่เพิ่งทำหลังจากเราทำตะกี้นี่ล่ะ” ผมเผลอกำมือแน่น ก่อนจะถลึงตาใส่ไอ้คริสที่แทบจะไม่สนใจมองผมเลย หึ!!! สนใจแต่ผู้หญิงสินะ!!!



“ใครเป็นคนชวนคุยก่อน”



“อิหนูของนายว่ะ” ฮึ่ย!!! ป๊ะป๋าไม่ปลื้มละนะ!!! ผมจ้องคริสเขม็งพร้อมกับนั่งนับหนึ่งถึงสิบในใจ ถึงสิบแล้วยังไม่เลิกยุ่งกัน คราวนี้เจอดีแน่!!!




1 2 3 4 5 6 7





“เฮ้ย ยอล ใจเย็นนะเว้ย”ไอ้ไคกระซิบข้างหูของผม พร้อมกับตบแก้มผมเบาๆ



“อืม!!!”




8.....เริ่มเอาแขนลง แต่สุดท้ายก็ยกขึ้นมาโอบมากขึ้นอีก!!!



9….กระซิบหัวเราะต่อกระซิกกันสุดๆ



10….จับแก้มผู้หญิงคนนั้น!!!



ป๊ะป๋าไม่ทน!!!


ผมเดินปึงปังเข้าไปยืนหน้าคริส ก่อนจะแหกปากลั่น




“กลับบ้านไป!!!”



“ไอ้ยอล....”


“กลับบ้านไป!!! ไม่อยากเห็นหน้า มาทำไมก็ไม่รู้ มาแล้วก็วุ่นวาย กลับไปเลยไป เบื่อขี้หน้า น่ารำคาญ!!!”ผมหาข้ออ้างไล่เขากลับบ้าน เพราะไม่อยากให้เขาไปยุ่งกับคนอื่น


“ว่าไงนะ!!!”คริสเลิกคิ้วพร้อมกับจ้องหน้าผมเขม็ง


“กลับบ้านไป! รู้มั้ยว่าฉันอายคนอื่นแค่ไหนที่มีนายมาเฝ้า ผมนั่น การแต่งตัว การพูด รู้มั้ยว่ามันน่าอาย!!! ฉันต้องกลายเป็นตัวตลกก็เพราะนาย!!! กลับไปซะ อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้ฉันขายหน้า!!!”


“เฮ้ยยอล แรงไปป่ะวะ” ไครั้งแขนผม แต่ผมก็สะบัดมันออกอย่างแรง คริสเม้มปากแน่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาผม ดวงตาคมที่เจ้าเล่ห์ตลอดเวลากลับฉายแววเจ็บปวด หัวใจผมกระตุกวูบ แต่ความหึงหวงมันมีมากกว่า ผมต้องไล่เขากลับบ้าน ผมไม่อยากให้ใครเห็นเขา ไม่อยากให้เขายุ่งกับเขา..


“นาย............ไม่เคย.................ภูมิใจในตัวฉันเลยใช่มั้ย”


“ใช่!!! สำหรับฉัน นายมันก็แค่ภาระที่แบกไปไหนก็มีแต่จะอายคนอื่นเขา!!!”


“ภาระ....”คริสพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิว พร้อมกับกระพริบตาถี่ๆ ปากหนาเผยอออก ก่อนจะยิ้มสมเพชตัวเอง ท่าทางเหมือนไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน


“ถ้า......ถ้า....ไม่มีฉัน นายคงดีใจใช่มั้ย”


“ใช่!!! กลับไปซะ!!!”คริสหลับตาข่มอารมณ์ ก่อนจะนิ่งไป


“คริส เป็นอะไรรึเปล่าคะ”พี่ดาวคณะจับไหล่คริสเอาไว้ มันยิ่งทำให้ผมโมโหหนักกว่าเก่า


“บอกให้กลับไง!!!”


“ถ้านั่นคือสิ่งที่นายต้องการ.............”ตาคมที่ฉายแววเจ็บปวดและผิดหวังเหลือบมองผม ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง


“ฉันก็จะไป” พูดจบคริสก็เดินออกไปทันที เสี้ยวหน้าที่มักจะกวนประสาทตลอดเวลากลับเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจมันนักหรอก ตอนนี้ผมกำลังโล่งอกที่เขาไปสักที


“ยอล.....แรงไปป้าววะ”


“ไม่รู้ ไม่สน!!! ไปได้ก็ดี อยู่ก็เป็นภาระ!!!”ผมตะโกนไล่หลัง มั่นใจว่าเขาได้ยินแน่ๆ หึ!! ดี!! จะได้ไม่อยากอยู่ จะได้หนีกลับบ้านไป


“ยอล....”


“อะไร” ผมว่าพร้อมกับมองแผ่นหลังที่หายลับไปทีละนิดของเขา จนตอนนี้แทบมองไม่เห็นแล้ว

“ถามตรงๆ ภาระที่ว่าน่ะ ทางกาย หรือทางใจ..........”ไคนิ่งไปก่อนจะพูดต่อเมื่อเลิกคิ้วถาม


“ที่ต้องคอยหวงเขากันแน่วะ” ผมนิ่งเงียบไปก่อนจะรีบแถตอบ


“กิน กินข้าวกันเหอะว่ะ หิวแล้ว”พูดเสร็จผมก็ลากไอ้ไคไปที่โรงอาหารทันที โดยไม่ได้สนใจคริสเลย....







-----------------------------------------







“We will, we will rock you! rock you! We cheer for we win We will cheer and we will try. Never, never mind. V.I.C.T.O.R.Y. !!!” เสียงกองเชียร์ร้องเพลงเชียร์
อย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะจบลงด้วยความเงียบ เมื่อรอคำสั่งของรุ่นพี่




“ไอ้ยอล ป่านนี้คริสของนายจะถึงบ้านยังน่ะ ไม่ลองโทรเช็คดูวะ”



“ช่าง! เช็คทำไม” ผมโบกมือปัดไม่สนใจคำพูดของไอ้ดำ


“อ้าว ไอ้นี่ เกิดเขาหลงทงหลงทาง ขึ้นรถผิดสงผิดสายไรงี้ เดี๋ยวมันจะ.....”


“ก็เรื่องของเขาดิวะ โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ยังกลับบ้านไม่เป็นก็ไม่................เฮ้ยยยยยย เมื่อกี้ว่าไงนะดำ!!!”


“เกิดเขาหลงทางมะ.....”


“เฮ้ยยยยยยยยยยยย!!! เวรแล้ว!!!” ผมแหกปากลั่น ก่อนรีบวิ่งลงแสตนด์ ลืมไปซะสนิทว่าคริสกลับบ้านเองไม่เป็น!!!


“พี่ครับ ผมขอกลับก่อนนะครับ พอดีติดธุระ ด่วนมาก!!! ขอโทษนะครับ!!!”ผมรีบบอกรุ่นพี่ที่คุม เขายังไม่ทันจะตอบอะไร ผมก็ชิ่งไปก่อนแล้ว


“ลืมได้ไงวะเนี่ยไอ้ยอล โง่จริง!!!” ผมเคาะหัวตัวเองหลายๆที ก็ดันโง่ลืมซะได้ว่ามั๊มกลับบ้านเองไม่เป็น โหย แล้วปล่อยไปคนเดียวแบบนั้น จะเป็นยังไงมั่งเนี่ย...คงไม่ได้ ...




หลงทางหรอกนะ




ไวเท่าความคิด ผมรีบตรงดิ่งกลับบ้านทันที ไม่นานนักก็มาถึง บ้านทั้งหลังเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปข้างในทันที



“มั๊ม มั๊ม !!! อยู่ไหน ป๊ะป๋าขอโทษ”



เงียบ.....ไม่มีเสียงตอบรับ





“มั๊ม!!! มั๊ม!!! อยู่ไหน” ผมวิ่งวนไปทั่วบ้าน หาทุกที่ก็แล้ว เดินวนอีกรอบก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมาเลย...




มั๊มไม่อยู่บ้าน...





“หรือว่าจะหลงทางจริงๆ” ผมพูดกับตัวเอง ก่อนจะวิ่งออกไปตามหาเขาข้างนอก ไปทุกที่ที่คิดว่าเขาน่าจะไปอยู่ ทั้งแถวบ้าน แถวมหาลัยฯ ห้างฯ ทุกที่ที่เคยไปด้วยกัน แต่สุดท้าย....ก็ไม่เจอเขาเลย




ผมยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา ค่ำแล้ว ป่านนี้จะถึงบ้านรึยังนะ ผมตัดสินใจเดินวนหาเขาที่สวนสาธารณะอีกรอบ แต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายเลยกลับบ้าน เผื่อว่าเขาจะมาถึงแล้ว ทุกคนกลับมากันหมดแล้ว แต่คนที่หวังจะเจอกลับยังไม่มา เฮ้อ ไม่น่าไปพูดแบบนั้นเลย เฟอร์เร็ทซื่อๆอย่างนั้น จะมีใครรับเขาได้มั้ยนะ ป่านนี้จะเป็นยังไงมั่งก็ไม่รู้..




ผมทรุดนั่งกับโซฟาอย่างแรง ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม แล้วหลับตา เอนหัวพิงพนักโซฟา แล้วคิดถึงคริส ผมนี่มัน...ฮึ่ย!!! บ้าจริงโว๊ย ผมเคาะหัวตัวเองหลายๆรอบ ก่อนจะขยี้หัวอย่างบ้าคลั่ง ไอ้ยอลเอ๊ย ฮึ่ย!!!




“ชานยอล เป็นไรลูก!!!”แม่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง



“แม่.........ผมทำมั๊มหาย”ผมตอบพร้อมกับกอดเอวแม่เอาไว้แล้วซุกหน้ากับไหล่ของท่าน


“อีกแล้วหรอลูก ทำอีท่าไหนล่ะน่ะ”


“ผมดันปากเสียไปไล่เขา”


“เขาคงน้อยใจ เดี๋ยวก็กลับมาล่ะลูก อย่าคิดมากเลย” ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะกอดแม่แน่นขึ้นอีก


“ของสิ่งไหนที่เป็นของเรา สักวันมันก็ต้องกลับมาหาเราอยู่ดี นี่ก็ดึกมากแล้ว ขึ้นไปนอนเถอะ”แม่พูดพร้อมกับลูบผมเบาๆ
ผมพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเดินอย่างอดมลายตายอยากขึ้นห้องไป แล้วล้มตัวนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า พลางคิดถึงคำพูดของแม่..
ของสิ่งไหนที่เป็นของเรา สักวันมันก็ต้องกลับมาหาเราอยู่ดี



“แล้วถ้าเขาไม่กลับมาล่ะครับแม่.....ผมจะทำยังไง”ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะมองไปยังที่ว่างที่คริสเคยนอนอยู่ตรงนั้น และถามคำถามเดิมกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น...




หลังจากนั้นคำถามนั้นก็กลายเป็นคำถามที่ผมถามตัวเองทุกวัน ทุกวัน แต่มันก็ไม่เคยได้คำตอบเลย...


ผมยังคงตามหาเขาต่อไปเรื่อยๆ และไปในทุกๆที่ที่คิดว่าเขาจะไปจนคนแถวนั้นจำหน้าได้ และไปจนได้เห็นสถานที่นั้นๆในแต่ละฤดูจนครบ...



ฤดูหนาว สามเดือนเต็มที่ผมเฝ้าตามหาเขา


ฤดูใบไม้ผลิ เข้าสู่เดือนที่หก แต่ผมก็ยังหาคริสไม่พบ


ฤดูร้อน เข้าสู่เดือนที่เก้า แต่ก็ยังไร้เงาของคริส


ฤดูใบไม้ร่วง เข้าสู่เดือนที่สิบสอง แต่สุดท้าย...





คริสก็ยังไม่กลับมา...




--------------------------------------------



ผมเดินไร้ชีวิตชีวามาทรุดนั่งลงกับม้านั่งหน้าคณะ ก่อนจะฟุบตัวนอนกับโต๊ะ เมื่อคืนผมไม่ได้นอน.....
ความจริงก็นอนน้อยมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว เพราะทุกคืนผมจะอยู่นั่งรอเขา เผื่อว่าเขาจะกลับบ้านมา...


“เฮ้อออออ”ผมถอนหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะแหงนหน้ามองต้นไม้ที่ครั้งหนึ่งเคยเจอเขา ผ่านไปหนึ่งปีแล้วที่คริสหายไป ระยะเวลาที่ยาวนานไม่ได้ทำให้ผมลืมเขาได้เลย แต่มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงเขามากขึ้นเสียด้วยซ้ำ


“เมื่อไรจะกลับมานะ”ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ


“ว่าไงนะไอ้ยอล ใครกลับใครไปวะ”


“มั๊ม” ผมตอบสั้นๆก่อนจะหลับตา แต่ยังไม่ทันจะนอน ไอ้ดำก็ฉุดผมลุกขึ้นเสียก่อน


“หยุดเลย หมดเวลานอนละเพื่อน ต้องไปซ้อมเชียร์น้องแล้ว”


“เออๆๆๆๆๆ” ผมตอบส่งๆก่อนจะเดินตามไอ้ไคไป ผมขึ้นปีสองแล้ว ต้องกลายมาเป็นพี่คุมเชียร์เองแล้ว ผมเอื้อมมือไปหยิบใบเช็คชื่อขึ้นมา ก่อนจะขานเรียกชื่อน้องๆ ก็ไม่ได้อยากทำหรอกครับ แต่มันเป็นนโยบายของคณะ..


“คิมฮานึล”


“มาค่ะ”


“ปาร์คฮาริม”


“มาครับ” ผมนั่งขานชื่อต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงคนสุดท้าย ที่ทำเอาผมขมวดคิ้ว ชื่อบ้าอะไรวะเนี่ย



“อู๋.....อู๋ อะไรวะเนี่ย อู๋อี้ฟาน”


เงียบกริบ..



“อู๋อี้ฟาน” ผมพูดย้ำอีกรอบ พร้อมกับเงยหน้ามองไปที่แสตนด์



เงียบกริบ...




“อู๋อี้ฟาน มามั้.....”


“มาครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง เสียงนี้มัน!!!


ผมรีบหันขวับกลับไปมอง น่ะ น่ะ นี่มัน...



“ฝากตัวด้วยนะครับ.......”ผมอ้าปากพะงาบๆ ก่อนจะเบิกตาโพล่ง เมื่อไอ้รุ่นน้องอู๋อี้ฟานไรนั้น ก้มลงมากระซิบบางอย่างแล้วยักคิ้วให้ ก่อนจะเดินขึ้นไปยืนบนสแตนด์ ผมจะไม่อึ้งเลย ไม่ช็อคเลย ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้พูดว่า...










“ฝากตัวด้วยนะครับ.........................ป๊ะป๋า”









The end






Writer Talk ::

ทาด๊า จบแล้ววววววว จบแบบ ผ่างงงงงงงงงงงงงงง!!! 555555555555 เหมือนปล่อยระเบิดแล้วจากไปยังไงอย่างงั้น
แต่เราขอเลือกจบแบบนี้ดีกว่านะ มันมีเสน่ห์ดี(?) อีกอย่างคือ ไรท์เริ่มหมดมุขแล้ว -“- จบแบบนี้น่าจะสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว หวังว่าทุกคนคงชอบตอนจบนะ แล้วก็ขอบคุณทุกคนมากๆที่ติดตามเรื่องนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นฟิคป่วงๆ งงๆ ก็ตาม ขอบคุณมากจริงๆ รีดเดอร์ทุกคน ไว้เจอกันในผลงานเรื่องต่อๆไปนะ ขอบคุณ

http://0ctogus.forumth.com

2Ferret Love Part 7 Empty Re: Ferret Love Part 7 Sat Jun 15, 2013 12:23 am

BenDobi

BenDobi

จบ.. จบ... จบ....
ห๊า!!!~ จบแล้วอ๋อ T^T 
ยังไม่หายคิดถึงมั๊มเลยอ่า ~~~
แต่ก็จะรอเรื่องต่อไป และติดตามเรื่อยๆน้าาาาา

3Ferret Love Part 7 Empty Re: Ferret Love Part 7 Tue Jun 18, 2013 7:45 pm

HANAMI

HANAMI

โอ้้ยยยยยยยย


กรี๊ดดดแป๊บ เขินมากกกกกก

ฮือออออ สุดๆแบ้ววว

โอ้ยยย น่ารักกกกกกกกกก

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ