0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

Part 10 Tears overflow

5 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1Part 10  Tears overflow Empty Part 10 Tears overflow Fri Dec 14, 2012 9:24 am

0ctogus

0ctogus
Admin

อีกฝากหนึ่งของคฤหาสถ์ บรรยากาศช่างแตกต่างจากห้องของคริสโดยสิ้นเชิง ห้องสี่เหลี่ยมที่เคยเป็นที่หลับนอนของชานยอลและเซฮุน ตอนนี้ได้ถูกเจ้าของบ้านร่างเล็กยึดครองไว้เสียแล้ว และเมื่อจับเด็กกวนประสาทมาเจอกับผู้ใหญ่จอมเอาแต่ใจ อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ อ่า คุณลองนึกภาพดูสิ





“โอ๊ย ผมเจ็บนะ” เซฮุนร้องเสียงดัง เมื่อลู่ฮานกดสำลีลงไปบนแผลของเซฮุน





“ใครใช้ให้นายออกแรงเยอะล่ะ เห็นมั้ย แผลเปิดหมด” ลู่ฮานดุไปก็ใช้สำลีชี้หน้าคนเจ็บไป





“แล้วใครใช้ให้มาจูบผมก่อนล่ะ เป็นคนเริ่มเองนะ” ลู่ฮานหน้าขึ้นสีเมื่อเซฮุนตอกกลับมา จริงอย่างที่เซฮุนว่านั้นแหละ เขาเป็นคนเริ่มก่อนแล้วหลังจากนั้น…...ทุกอย่างก็เลยตามเลย





“หยุดพูดไปเลย” ร่างเล็กว่าก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำแผลให้คนที่นอนบนเตียง เพราะกิจกรรมการบริหารบนเตียงที่ทั้งคู่เล่นกันทำเอาแผลที่กำลังจะสมานของเซฮุนเปิดออก ดีที่มันไม่ได้เป็นอะไรมากนักแค่มีเลือดซึมออกมาบ้างเล็กน้อย ทำแผลให้ใหม่ก็น่าจะดีขึ้น อาการของเซฮุนดีขึ้นเร็วอย่างน่าแปลกใจ ด้วยเพราะลู่ฮานชอบสรรหายาไม่ว่าจะยาสมุนไพร หรือยาแผนปัจจุบันมาให้กินบ้างล่ะ ทาบ้างล่ะ บางครั้งเซฮุนก็เบื่อกับการต้องตื่น ต้องลุกขึ้นมาให้ร่างเล็กนี่ทำแผลให้เหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้ขัดอะไรลู่ฮาน ก็แค่นั่งนิ่งๆ บ่นบ้างบางครั้งคราว แต่ที่ขาดไม่ได้คือการทำหน้าซังกะตายเต็มที่ เขามักจะบอกลู่ฮานว่า จะทำแผลอะไรเยอะแยะ เดี๋ยวก็หาย และสิ่งที่ลู่ฮานตอบกลับมาเล่นเอาเขาหน้าหงายไปเลยทีเดียว







“ฉันรู้จักพิษเจ้าหมานั่นดีกว่านาย เพราะฉะนั้นเลิกบ่นแล้วนั่งนิ่งๆซะ โอเค๊” เซฮุนทำปากขมุบขมิบเลียนแบบท่าทางลู่ฮาน จนร่างเล็กต้องเอาคีมบหนีบสำลีเคาะศรีษะเข้าให้ นี่ถือเป็นเหตการณ์ปกติสามัญแสนธรรมดาของเขาทั้งคู่











วันๆเซฮุนกับลู่ฮานไม่ทำอะไรมากไปกว่าการ.....เถียง และเถียง แล้วก็เถียง คาดว่าชาตินี้ถ้าไม่ได้เถียง ทั้งคู่คงขาดใจตายกันไปข้าง และเรื่องที่ทำให้พวกเขาเถียงกันได้ก็มีตั้งแต่เรื่องของกิน ทำแผล อากาศวันนี้ และอีกต่างๆนานาที่บรรยายไม่หมด ลู่ฮานมักจะจ้องหน้าเซฮุนเขม็งเพื่อให้เซฮุนหยุดเถียง ส่วนเซฮุนก็ชอบกรอกตาไปมาเมื่อไม่ได้ดั่งใจ







เรื่องเถียงมันเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับพวกเขาทั้งสอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทะเลาะกัน เถียงกันมากแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นเลือดตกยางออกหรือต้องเสียน้ำตา ตรงกันข้ามทั้งคู่มักมีรอยยิ้มปรากฎอยู่บนใบหน้าเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโรคจิตชอบทะเลาะกัน หรือเพราะมีความสุขที่ได้คุยกับอีกคนกันแน่ ในห้องนี้แทบจะไม่เคยเงียบสงบเลย มันมักจะดังโหวกเหวกแทบจะทั้งวัน จะมีบางทีที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเงียบๆ อย่างตอนไหนน่ะหรอ ก็...........





“ต้องให้ทำอย่างนี้รึไงถึงจะหยุด” ลู่ฮานเผยอปากออกเล็กน้อย เผยให้เห็นคมเขี้ยวยาว ลิ้นเล็กเลียมันช้าๆ เซฮุนตกใจเล็กน้อยก่อนจะกรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย ร่างขาวยอมนั่งนิ่งๆไม่ปริปากโวยวาย ก็เล่นใช้มุขนี้ใครจะกล้าหื้อ ขัดใจทีเป็นโดนกัดสิ เขายิ่งไม่ชอบการเจ็บตัวอยู่





“เลือดผมไม่อร่อยหรอก”







‘หวานที่สุด”





“ห๊ะ แอบกินไปแล้วหรอ”





“ฮ่ะ ฮ่ะ เปล่า แค่คิด”





“กวนประสาท”





‘เลียนแบบนายไง”





“หยุดเลย” เซฮุนจ้องหน้า ลู่ฮานหัวเราะชอบใจใหญ่ ร่างขาวยิ่งจ้องหน้าเขม็งเข้าไปอีก แต่ลู่ฮานก็ยังคงไม่สนใจแสร้งทำเป็นหัวเราะเสียงดัง สุดท้ายเซฮุนได้แต่ถอนหายใจ ทำไมไม่เคยชนะไอ้แวมไพร์เอาแต่ใจนี่สักทีนะ





“ฉันรู้นะ คิดอะไร”





“นี่นอกจากจะชอบขู่แล้วยังอ่านใจได้ด้วย?” ร่างขาวเลิกคิ้ว





“แน่นอนล่ะ” ลู่ฮานกอดอกภูมิใจ





“ติงต๊อง” ลู่ฮานมุ่ยหน้าลงทันที





“แวมไพร์อ่านใจได้หรอ งั้นคุณคริสก็อ่านใจได้ดิ” ร่างเล็กพยักหน้า สีหน้าหมองลงทันทีเมื่อได้ยินชื่ออีกฝ่าย เขากำลังกังวลเรื่องชานยอล ลู่ฮานรู้ดีว่าคริสมีนิสัยยังไง และดูว่าครั้งนี้จะรุนแรงมากเสียด้วย คนที่รับเคราะห์อย่างชานยอล

จะเป็นยังไง เขาแทบไม่อยากจินตนาการ





“เป็นอะไรไป”





“คิดเรื่องชานยอล”





“เออใช่ ไปห้องคุณคริสมาไม่ใช่หรอ เจอพี่กางป่ะ” ลู่ฮานพยักหน้าน้อยๆ เจอน่ะมันเจออยู่ แต่สภาพไม่ค่อยดีเท่าไร





“เฮ้อออ เจออยู่หรอก แต่นอนซมเลย”





“เขาไม่ได้ทำแบบที่พวกเราทำใช่ป่ะ ไม่งั้นนะ....ไอ้พี่หยอยอ่วมแน่” ลู่ฮานหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อเซฮุนพูดถึงเรื่องนั้น ทำไมไอ้เด็กนี่มันพูดเรื่องนี้ได้ไม่อายปาก





“กลัวว่าจะทำมากกว่าน่ะสิ คริสแรงเยอะกว่าฉันอีกนะ”





“งั้นคงไม่รอด” เซฮุนหัวเราะ แต่ก็ต้องเงียบเพราะลู่ฮานดูมีสีหน้ากังวล มือเล็กจับมือเขาแน่น พร้อมส่งสายตาเว้าวอนมาที่เขา





“เซฮุนถ้าชานยอลออกมาจากห้อง นายต้องทำให้เขาหัวเราะนะ แค่ยิ้มได้ก็ยังดี” แม้เขาจะไม่เข้าใจความหมายทั้งหมด แต่ดูจากน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังไม่แฝงแววขบขันของลู่ฮาน ทำให้เขาพยักหน้ารับแต่โดยดี ลู่ฮานยิ้มน้อยๆเมื่อ

เห็นเซฮุนตอบรับคำขอ





“ไอ้พี่เอ๋อมันไม่เป็นไรหรอก” เซฮุนพูดย้ำให้ตัวเองและลู่ฮานฟัง ตัวเขาเองก็มีรางสังหรณ์เป็นห่วงพี่ชายตัวเองเหมือนกัน แต่เขาจะต้องไม่อ่อนแอ เมื่อชานยอลออกมาเขาจะต้องทำให้พี่ของเขายิ้ม ลู่ฮานพยักหน้ารับคำพูดของเซฮุน ตากวางหันมองออกไปในทิศทางห้องของคริส.......จะเป็นยังไงบ้างนะ ชานยอล เซฮุนที่เห็นท่าทางเป็นกังวลผิดนิสัยของร่างเล็กทำให้เขาชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง เพื่อไม่ให้ลู่ฮานหมกมุ่น





“นี่ เมื่อกี้บอกว่าอ่านใจได้หรอ อธิบายที”





“เคยเข้าใจไรง่ายๆมั้ย” ลู่ฮานคนเดิมเริ่มกลับมา ร่างเล็กส่ายศรีษะเอือมระอาร่างขาว





“พูดมาก อธิบายดิ”





“ก็อ่านใจได้ แต่ไม่ได้ทะลุทุกอย่างหรอก ถ้านายมีสติอยู่กับตัว จิตไม่หลุดลอย จิตไม่อ่อนไป ฉันก็อ่านไม่ได้ อีกอย่างอ่านมากๆฉันก็เหนื่อย มันใช้พลังงานเยอะ ไม่อยากรู้จริงไม่ทำหรอก” ลู่ฮานร่ายยาว เซฮุนพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ





“อย่างคุณคริส ก็ทำได้ ใช่มั้ย”





“ได้ ยิ่งกว่าฉันด้วย แต่ไม่ค่อยชอบทำเท่าไร บอกว่ามันไม่สนุกถ้ารู้ทุกอย่าง” ลู่ฮานหยุดพูดไว้แค่นั้น ไม่มีเหตผลอะไรที่เขาต้องเล่านิสัยคริสให้เซฮุนฟัง ลู่ฮานทวนประโยคที่ตัวเองพูดซ้ำอีกครั้งในสมอง ใช่ คริสเป็นแบบนั้น เขาจะไม่อ่านใจบ่อย เพราะถ้ารู้ทุกอย่างมันจะไม่สนุก คริสชอบที่จะคาดเดาอีกฝ่ายแล้ววางแผนให้ฝ่ายนั้นติดกับเขาเองมากกว่า มันท้าทายความสามารถและได้ชัยชนะที่คุ้มค่ากว่า คริสเป็นแวมไพร์ที่เก่งกาจกว่าแวมไพร์ตนอื่นๆ บางทีมันก็ดีสำหรับเขา แต่บางทีมันก็แย่เหมือนกัน เพราะเขาเองยังตามเกมส์ของคริสไม่ค่อยจะทันเลย มันทำให้เราไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถึงจะเข้ากับสถาณการณ์ได้





“คุณคริสจะอ่านใจไอ้พี่ชานยอลมั้ย” เซฮุนถามทำลายภวังค์ของลู่ฮาน





“ไม่แน่ คริสไม่ใช่คนที่จะเดาได้ง่ายๆหรอก”





“ว่าแต่ อ่านใจนี่จะเหมือนหนังทไวไลท์มั้ย แบบที่พระเอกอ่านใจนางเอกไม่ได้”





“เพ้อเจ้อจริงๆ ไม่หรอก บอกแล้วไงว่าถ้ามีสติกับตัวเองตลอด เราก็อ่านไม่ได้” เซฮุนพยักหน้าเข้าใจ ในหัวประมวลตามข้อมูลที่ได้มา ช่วงระยะเวลาสั้นๆที่เขาได้อยู่กับลู่ฮาน ทำให้เขาได้รู้จักร่างเล็กเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก คงเพราะแรกๆเขาแทบจะไม่มองหน้าหรือสนใจร่างเล็กนี่เลยด้วยซ้ำ ลู่ฮานทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวของแวมไพร์มากขึ้นตั้งแต่เรื่องว่าทำไมเขากับคริสถึงกินข้าวธรรมดาได้ เพราะแวมไพร์ก็กินได้อย่างคน แค่ไม่ค่อยชอบกินเท่าไร มองว่าอาหารพวกนี้เป็นพวกอาหารขยะด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย เพราะสำหรับเซฮุนรสชาติอาหารที่นี้ก็อร่อยดี ที่สำคัญมันทำมาจากวัตถุดิบชั้นดี แต่อย่างว่าอาหารคนไม่ใช่อาหารแวมไพร์ จะให้แวมไพร์มานั่งกินแฮมเบอร์เกอร์ก็ไม่ใช่เรื่อง ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องว่าแวมไพร์ไม่ได้ต้องกินเลือดทุกวัน มันขึ้นอยู่กับประมาณแต่ละครั้งที่กินเข้าไป ลู่ฮานมักจะตอบคำถามที่เขาต้องการรู้อยู่เสมอ รวมไปถึงเรื่องเมื่อกี้ด้วย แวมไพร์อ่านใจได้เมื่อเราจิตอ่อน แล้วตอนไหนจิตอ่อน จิตแข็งล่ะเซฮุนครุ่นคิด แต่เมื่อไม่ได้คำตอบเขาก็ล้มเลิกไป เรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์ที่เขารู้มาอาจจะไม่ได้ละเอียดมากนักแต่อย่างน้อยมันก็เพิ่มพูนความรู้ให้กับเขา แต่มีเรื่องเดียวที่คาใจเซฮุนก็คือ......พันธสัญญา เขาก็ไม่กล้าที่จะถามมันออกไป ด้วยเพราะกลัวความจริงที่ตัวเองต้องรับรู้ ถ้าพันธะนั่นร้ายแรงหรือทำอย่างโหดร้าย เขากลัวว่าหากมันเป็นเช่นนั้นจริงๆแล้วมันจะทำให้เขามองลู่ฮานเปลี่ยนไป ร่างเล็กที่เผลออ่านใจอีกคนถึงกับหน้าหมองลง สำหรับเขาการทำพันธสัญญากับเซฮุนถือเป็นเรื่องที่เขาต้องการมาตลอด แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนความพึงพอใจของเซฮุนด้วย เขาไม่อยากบังคับเด็กคนนี้ เพราะเซฮุนคือคนสำคัญของเขา.....คือคนที่เขาถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ







“นี่ จะมองหน้าผมอีกนานมั้ย” เซฮุนดึงลู่ฮานออกจากภวังค์ ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อถูกทัก ใบหน้าซับสีเลือดเมื่อเห็นว่าตัวเองโน้มหน้าลงไปใกล้คนบนเตียงแค่ไหน





“ไม่อยากจะมองนักหรอก”





“อ้อ แต่อย่าจูบแทนว่างั้น” เซฮุนเอ่ยกวนๆ ร่างขาวหยิบแอปเปิ้ลเข้าปากก่อนจะนั่งกินไปยิ้มไป ใบหน้าตอนมีความสุขของเซฮุนทำเอาลู่ฮานหมั่นไส้เล็กๆ ร่างเล็กแย่งแอปเปิ้ลในมือร่างขาวออกมา และแน่นอนเซฮุนไม่ยอมอยู่เฉยๆ

แน่ พวกเขาจึงเกิดสงครามยื้อแย่งแอปเปิ้ลขนาดย่อมๆขึ้นในห้อง สุดท้ายสงครามก็จบลงด้วย.....





“เซฮุน เอาคืนมานะ!!!” ลู่ฮานเอ่ยเสียงแข็งเมื่อเซฮุนแย่งแอปเปิ้ลของเขาไป ร่างขาวลอยหน้าลอยตาก่อนจะยัดมันเข้าปาก





“แน่จริง แย่งจากปากดิ กล้าป่ะล่ะ” เซฮุนยักคิ้วยียวน





“ได้!!! อย่าคิดว่าไม่กล้านะ” ร่างเล็กประกาศก้องก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนตัวเซฮุน ปากเล็กประกอบปากจูบกับเซฮุน พยายามใช้ลิ้นเกี่ยวแอปเปิ้ลเข้าปากตัวเอง ไม่รู้ว่าจูบนี้ แอปเปิ้ลหรือปากอีกฝ่ายที่หวานหอมกว่ากัน.......















--------------------------------------------------























เวลาที่เราหกล้ม เราก็จะหายามาทาแผล จากนั้นไม่นานมันก็จะดีขึ้น อย่างร้ายแรงที่สุดก็แค่ฝากรอยแผลเป็นทิ้งไว้ให้เราจดจำ แต่สำหรับชานยอลมันไม่ใช่อย่างนั้น เขาเป็นแผลฉกรรจ์ที่หัวใจ หัวใจดวงน้อยๆของเขาที่เคยสะท้อนภาพของคริส แววตาคมที่ดึงดูดให้เขาต้องจ้องมอง ริมฝีปากที่มักจะยิ้มให้อยู่เสมอ สุ่มเสียงที่มักจะเอ่ยชมนิสัยบ๊องๆของเขา เหตุการณ์ทุกๆอย่างที่ถูกบันทึกไว้ในหัวใจของเขา บางครั้งที่เขาก็ยกยิ้มมีความสุขให้กับภาพเหล่านั้น แต่สุดท้าย...........มันก็ค่อยๆถูกทำลายโดยน้ำมือของชายอีกคนหนึ่ง ผู้ชายที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับคุณคริสของเขาเหลือเกิน แต่ผู้ชายคนนั้นช่างโหดร้าย ทำร้ายหัวใจของเขาด้วยคำพูดดูถูก และการกระทำที่เหยียดหยามศักดิ์ศรีของเขา หัวใจดวงน้อยๆค่อยๆหลั่งน้ำตา หยาดน้ำใสหยดลงแปดเปื้อนภาพในหัวใจชานยอลจนขมุกขมัว ภาพของคริสที่ยิ้มให้เขาเริ่มเลือนลางลงไปทุกที ทุกที มันถูกแย่งชิงด้วยภาพชายอีกคนที่มีรอยยิ้มเย้ยหยั่น ชานยอลอยากผลักไส อยากตะโกนด่า ขับไล่ให้ผู้ชายคนนั้นออกไป หัวใจของเขามีไว้สำหรับคริสที่อ่อนโยน ไม่ใช่ปีศาจแวมไพร์ตนนั้น













ชานยอลนอนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้ตอนนี้ด้านนอกจะเต็มไปด้วยความมืดมิดของรัตติกาลก็ตาม ดวงตากลมโตที่เคยซุกซนกลับฉายแววแห่งความเศร้า หยาดน้ำใสคลอหน่วงที่เบ้าตา หากเขาหลับตาลงหยดน้ำเหล่านั้นก็คงหลั่งรินออกมาเป็นแน่ สัมผัสถูกกอดจากที่เอวทำให้ชานยอลสะดุ้ง ที่สะดุ้งไม่ใช่เพราะตกใจแต่เพราะกลัวสัมผัสนี้มากกว่า ร่างโปร่งพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดอีกฝ่าย คริสดึงอีกคนเขาหาตัวมากขึ้นจนแผ่นหลังชานยอลแนบกับแผงอกของตน ปากหนาก้มลงกระซิบถอยคำที่เสียดแทงหัวใจชานยอลจนร่างโปร่งต้องหลั่งน้ำตา







“สร้อยนั่น.....ฉันจะคืนให้ทีหลังนะ ให้ชู้อย่างฉันดูแลสร้อยของสามีนายไปก่อนแล้วกัน หึหึ ” ลิ้นร้อนตระหวัดติ่งหูคนในอ้อมกอด ชานยอลเบี่ยงตัวหนีสัมผัสนั้น หยาดน้ำตาค่อยๆไหลเป็นสาย เขายังจดจำได้ดีกับภาพเหตการณ์เมื่อค่ำ ร่างสูงคนนี้ยังคงมอบฝันร้ายรสขมปนคราวเลือดเหมือนเดิม บทรักที่ไม่ได้อ่อนหวาน ไม่มีความห่วงใย มีเพียงการออกคำสั่ง และการดูถูก.......





-------------------------------------------------







ร่างสูงที่กำลังเริงร่าอยู่บนเรือนร่างของอีกคนส่งเสียงขัดใจในลำคอเมื่อตอนนี้เด็กน้อยของเขาดื้อกว่าเมื่อบ่ายนัก ร่างโปร่งเอาแต่เม้มปากจนช้ำเพื่อสะกัดกั้นเสียงครางออกมา ต่อให้เขาออกคำสั่งหรือเร่งเร้าร่างกายนี้แค่ไหน ชานยอลก็ไม่ยอมหลุดเสียงออกมา ปากอิ่มที่เม้มเข้าหากันจะซีดเซียวมากขึ้นเมื่อเจ้าของรู้สึกเสียวซ่าน แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมครางออกมาอยู่ดี ทีแรกคริสยังคงข่มอารมณ์โมโหได้อยู่ แต่เมื่อมากๆเข้าร่างสูงก็ยิ่งหงุดหงิด





“จะดื้อทำไมชานยอล” ร่างสูงก้มลงซุกไซร้ซอกคอคนใต้ร่างในขณะที่ส่วนล่างก็ขยับเข้าออกเป็นจังหวะ แม้เขาจะกระแทกไปโดนจุดกระสันของชานยอลหลายครั้ง แต่ร่างโปร่งก็ยังไม่ยอมครางออกมาเสียที





“เมื่อบ่ายนายยังครางชื่อฉันไม่หยุดเลยนะ” คริสยกยิ้มร้าย ชานยอลที่รองรับแรงตัณหาอีกฝ่ายเปรยตามองด้วยดวงตาปริ่มน้ำตา





“ร้องไห้หรอ ทำไม!!! เสียใจที่มีอะไรกับคนอย่างฉันรึไง หึ นายร้องไห้แต่ร่างกายนายกลับกำลังร้องหาฉันอยู่นะ น่าสมเพชจริงๆ ” ร่างสูงยิ้มเมื่อเห็นว่าส่วนอ่อนไหวของร่างโปร่งในมือเริ่มมีน้ำไหลออกมาแล้ว..........ร่างกายที่ทรยศเจ้าของ!!!





คริสเร่งจังหวะมือไปพร้อมๆกับการสอดใส่ที่ช่องทางด้านหลัง ร่างสูงเร่งเร้า โลมเลียจนชานยอลหลุดเสียงครางออกมาเล็กน้อย ร่างโปร่งรีบใช้มือปิดปากกั้นเสียงทันที คริสยิ่งโมโหหนักกว่าเก่าเมื่อเห็นปฎิกริยาเช่นนั้น







“ทำไม จะเก็บเสียงไปครางให้สามีที่บ้านฟังรึไง!!!” อีกแล้ว.....คำพูดดูถูก อีกแล้ว......ที่เขาต้องร้องไห้ให้กับคำพูดของคนนี้ ชานยอลหันหน้าหนีไปอีกทาง เขาไม่อยากเห็นหน้าร่างสูง และไม่อยากให้คนคนนี้เห็นหยาดน้ำตา

ของตัวเอง แต่ดูเหมือนคริสจะรู้ทันความคิดชานยอล ร่างสูงจับคางชานยอลให้หันมามองตน





“มองหน้าฉัน!! สามีที่บ้านไม่ได้สอนให้มองหน้าตอนมีอะไรกันรึไง” ชานยอลยกมือขึ้นเตรียมจะตบหน้าอีกฝ่ายแต่ก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงชูสร้อยในมือ ร่างโปร่งเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ มือเรียวพยายามคว้าสร้อยกลับมาแต่ก็ไม่เป็นผล





“หึหึ ครางชื่อฉันสิ ร้องหาฉันสิ แล้วฉันจะคืนสร้อยของสามีนายให้” ร่างโปร่งมองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยดวงตาที่แสนเจ็บปวด ฝ่ามือเรียวง้างขึ้นเตรียมจะตบเข้าไปที่หน้าอีกฝ่าย แต่ก็ต้องชะงัก ชานยอลรู้สึกอึ้ง ผิดหวัง และเสียใจ เขาไม่คิดว่าคริสคนที่เคยแสนดีกับเขาจะกลายเป็นปีศาจร้ายที่พูดจารุนแรงและดูถูกเขาถึงขนาดนี้





"ผมไม่ครางชื่อคุณหรอก ทำไมต้องทำกับผมแบบนี้" ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงปวดร้าว แต่นั่นไม่ได้ทำให้คริสสนใจ ซ้ำยังยิ่งขัดใจที่เขาไม่ยอมครางชื่อเสียที





“มีหน้าที่สนองก็สนองซะอย่าปากมาก” แล้วคริสก็ระบายอารมณ์โกรธ โมโหของตัวเองใส่ร่างข้างใต้อย่างไม่สนใจว่าชานยอลจะเจ็บปวดแค่ไหน แล้วบทรักที่แสนเจ็บปวดก็ดำเนินต่อไปบนหัวใจที่แสนจะรวดร้าวของชานยอล





ร่างโปร่งได้แต่มองการกระทำของร่างสูงด้วยดวงตาที่ปวดร้าว อีกแล้ว อีกแล้วที่พูดจาทำร้ายเขา จะสงสาร เห็นใจเขาบ้างได้มั้ย ชานยอลไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร แล้วไม่รู้ว่าจะทำอย่างไหนให้ร่างสูงพอใจ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ไม่ทำอะไร คริสก็เอาแต่โมโหใส่เขาอยู่เสมอ







จะทำอะไรก็ไม่ดีในสายตา ต้องให้ตายก่อนมั้ยถึงจะพอใจหรอ









--------------------------------------------------







คริสลูบไล้เอวชานยอลก่อนจะบีบเฟ้นเบาบ้างแรงบ้างไปตามอารมณ์ ปากหนาดูดเม้มซ้ำๆบริเวณหัวไหล่จนเกิดรอยแดง ชานยอลนอนนิ่งไม่ผลักไสอะไรเขา จนคริสผิดสังเกตุ ร่างสูงพลิกตัวชานยอลให้หันหน้ามามองตน





“เป็นอะไรอีก”





“ผมไม่ดิ้น ไม่ดีรึไง”





“ปาร์คชานยอล” ร่างโปร่งช้อนตามองด้วยแววตาที่เฉยชา





“กล้าดียังไงมองฉันแบบนั้น” ชานยอลไม่ตอบอะไร แต่เสหน้ามองไปทางอื่นแทน คริสเลิกที่จะต่อล้อต่อเถียงร่างสูงก้มลงซุกไซร้ซอกคออีกฝ่าย ร่างโปร่งนอนนิ่งๆ ไม่ขัดขืนสัมผัสอีกฝ่าย





“ชักชอบสัมผัสฉันขึ้นมาแล้วสิ” คริสบีบคางอีกฝ่ายจนร่างโปร่งนิ้วหน้า





“ไม่มีทาง คุณหยุดดูถูกผมสักทีเถอะ”





“นายมีดีอะไร ให้ฉันดูถูกไม่ได้ จากเท่าที่ดู.....ก็ไม่เห็นมี” คริสยิ้มเหยียด ชานยอลถึงกับอึ้ง น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ร่างสูงเห็นเขาเป็นอะไร นึกว่าเขาคือสิ่งของ คือผักปลาที่ไร้ความรู้สึก ไร้หัวใจ นึกอยากจะทำอะไร พูดอะไรก็ได้งั้นหรอ



คริสแทบจะไม่มองเลยด้วยซ้ำว่าชานยอลกำลังร้องไห้ เขายังคงสนใจอยู่กับเรือนร่างอีกฝ่าย ร่างโปร่งพยายามผลักไสเขาออกห่างตัวทั้งโกรธทั้งเสียใจที่เจอคำพูดแบบนั้น





“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับผม” ชานยอลเม้มปากแน่น พยายามกั้นเสียงสะอื้น คริสละใบหน้าขึ้นมาสบตากับชานยอล





“ผมเป็นคน ผมก็มีหัวใจ ผมรู้สึกเป็น เจ็บเป็น ร้องไห้เป็น” มือเรียวทุบที่อกซ้ำไปซ้ำมา “ทำไมต้อง ฮึก พูดแบบนี้ ผมไปทำอะไรให้คุณ คุณ.....คริสผมไปทำอะไรให้คุณ ทำไม ทำไมคุณคริส” ชานยอลถามซ้ำไปซ้ำมาด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด ร่างสูงผงะไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายใบหน้าก็ราบเรียบไม่แฝงอารมณ์ใดๆ รอยยิ้มหยันปรากฎบนใบหน้าร่างสูง



“หึ เพราะนายมันอ่อนแอเอง ที่นายเสียใจ ที่ร้องไห้ก็เพราะนายมันอ่อนแอเอง ชานยอล!!!” คริสมองด้วยสายตาเย็นชา





“ทำไม ฮึก คุณจะสนใจผมบ้าง แคร์ผมบ้างไม่ได้เลยหรอ แค่พูดดีๆกับผมสักครั้ง ฮึก ก็ยังดี”





“มนุษย์อย่างนาย ฉันไม่จำเป็นต้องเห็นค่า จำไว้ ชานยอล สำหรับฉันนายมันก็แค่เครื่องสนองความต้องการของฉัน มันก็แค่นั้น” ชานยอลปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย สะอื้นจนตัวโยน ตากลมมองร่างสูงด้วยความเจ็บปวด









น้ำตาของชานยอลไม่ได้ทำให้อีกคนซาบซึ้งสักนิด ซ้ำร้ายมันกลับทำให้เขารู้สึกว่าเขาชนะเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าคนคนนี้ ไม่สิ แวมไพร์ตนนี้หัวใจทำด้วยอะไร ทำไมมันถึงได้เย็นชาและโหดร้ายกับเขาอย่างนี้ มนุษย์สำหรับเขามันก็แค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่อ่อนแอ และหาข้อดีอะไรไม่ได้ คริสยกยิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้ชานยอลนอนร้องไห้บนเตียงคนเดียว.........อีกแล้วสินะ......ที่ไม่สนใจเขา.......อีกแล้วสินะที่ทำเหมือนเขาเป็นสิ่งของ







การมีอยู่ของเขาแค่เพียงร่ายกายเท่านั้น อีกฝ่ายไม่เคยรับรู้ หรือสนใจหัวใจของเขาเลย





สำหรับคุณคริสหัวใจของผมมันก็แค่มีไว้ให้ร่างกายขับเคลื่อนสินะ ไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย









-----------------------------------------------------









ร่างสูงที่แช่ตัวอยู่ในห้องน้ำนั่งมองสร้อยที่อยู่ในมือของเขาด้วยดวงตาราบเรียบไม่แฝงแววใดๆ เมื่อบ่ายคริสอาศัยตอนที่ชานยอลหลับ เขาไปเก็บสร้อยที่ตัวเองปาลงพื้นไปแล้วซ่อนมันเอาไว้ไม่ให้ชานยอลเห็นได้ ในหัวของร่างสูงนั่งคิดลำดับเหตการณ์ ความเป็นเหตุเป็นผลต่างๆนานา รวมไปถึงสาเหตที่เขาเอาสร้อยนี้มาด้วยแม้เขาจะรู้ดีว่าเป็นสร้อยของแม่ชานยอลก็ตาม!!!











ใช่!!! คริส รู้ รู้มาตลอดว่าสร้อยนี้เป็นของแม่ชานยอล แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ ซ้ำยังแกล้งเข้าใจผิดว่ามันคือของสามีชานยอล เพื่ออะไรน่ะหรอ หึ ถ้าเขายอมรับว่านั่นคือสร้อยของแม่ แน่นอนว่าเขาจะต้องจำใจยอมคืนสร้อยนั้นให้ชานยอลแต่โดยดี มันไม่มีเหตผลอะไรที่เขาจะใช้มันเป็นข้อต่อรอง ลองจินตนาการดูว่าหากเขาประชดประชันชานยอลตอนมีอะไรกันว่าถ้าไม่ทำจะไม่คืนสร้อยของแม่งั้นหรอ มันดูงี่เง่าและน่าขันไม่น้อย แน่นอนว่าคนอย่างเขาจะไม่ทำอะไรอย่างนั้นแน่นอน สู้แกล้งเข้าใจผิดว่านั่นคือของสามีชานยอลมันยังจะมีประโยชน์เสียมากกว่าด้วยซ้ำ และด้วยนิสัยของชานยอลที่ถือทิฐิตัวเองไม่ยอมอธิบายว่าสร้อยนั้นแท้จริงแล้วเป็นของใคร เพราะถือว่าคนอย่างเขาคงไม่ฟังเหตผล และไม่สนใจคำอธิบาย นั่นยิ่งทำให้มันเข้าทางเขามากเข้าไปอีก











ส่วนสาเหตที่เขายึดสร้อยมา ก็เพื่อแค่รั้งให้ชานยอลอยู่กับเขาจนถึงเวลาทำพันธสัญญามันก็แค่นั้น แล้วหลังจากนั้นสร้อยนี่ก็จะไม่จำเป็นสำหรับเขาอีกต่อไป แผนที่แยบยลกับการเล่นละครที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เขาต้องการ คริสเป็นมากกว่าแวมไพร์ป่าเถื่อนที่อาละวาดไปวันๆ เขาสุขุม เยือกเย็น ทุกการกระทำของเขาล้วนมีเหตผล มีที่มา และจุดประสงค์ของการกระทำนั้นอยู่เสมอ สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณรอดพ้นเงื้อมมือของปีศาจคตนนี้ คือ อย่าไว้ใจ อย่าเผลอไผล ไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนและรสชาติอันหวานหอมของเขา!!!











“ฉันก็ไม่ได้อยากทำร้ายนายนักหรอก ชานยอล ถ้าจะโทษก็จงโทษตัวเองซะที่อ่อนแอ” คริสยกยิ้มร้าย ร่างสูงแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำ ปล่อยความคิดตัวเองไปอย่างเรื่อยเปื่อยเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็ค่อยยันตัวขึ้นจากอ่าง สวมเสื้อคลุมอาบน้ำ ยังไม่ทันที่เขาจะทำอะไรมากกว่านั้น ก็ต้องชะงักเพราะเสียงของตกจากนอกห้องผสมไปกับเสียงคนเคาะประตูหลายๆที ร่างสูงก้าวขาฉับๆเดินออกมาดู ภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าทำเอาเขาตกใจไปครู่หนึ่ง ชานยอลนอนล้มพับอยู่กับพื้น ข้างตัวมีเศษแก้วน้ำตกแตก กระจายเต็มพื้น



“มาทำอะไรตรงนี้ วิธีเรียกร้องความสนใจรึไง” ชานยอลปรือตามอง เขาไม่มีแรงพอจะตอบอีกฝ่าย คริสเดินเข้ามาใกล้ร่างโปร่งแต่เขาก็ต้องผงะเมื่อได้กลิ่นคราวเลือดจางๆ เสียงเคาะประตูรัวทำให้ร่างสูงได้สติ เขาหัวเสียนิดหน่อยแต่ก็ยอมเดินไปเปิดประตู



“คุณชานยอลคะ คุณชานยอล เป็นอะไรรึเปล่าคะ” เสียงคุณยายแม่บ้านร้องด้วยความตกใจ เธอรีบวิ่งเข้ามาพยุงชานยอลให้ขึ้นไปนอนบนเตียง





“เรียกร้องความสนใจด้วยวิธีนี้ ลงทุนเกินไปมั้งชานยอล”





“ผม ปะเปล่า ทำไม คุณ....” ชานยอลตอบตะกุกตะกัก ร่างโปร่งแทบไม่มีแรงจะพูดแล้ว





“คุณชานยอลกำลังจะลุกมาเปิดประตูให้ดิฉันค่ะคุณคริส แต่คงพลาดล้มลงไปเสียก่อน” คุณยายตอบแทน เธอเลื่อนมือไปอังหน้าผากร่างโปร่ง





“คุณคริสคะ!!! คุณชานยอลตัวร้อนมากเลย โอ๊ะ!!! เลือด คุณชานยอลถูกแก้วบาดด้วย” คุณยายร้องเมื่อเห็นเลือดจำนวนมากไหลออกจากฝ่ามือชานยอล เศษแก้วบางส่วนกรีดลึกเข้าไปในแผล กลิ่นคราวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้องยิ่งปลุกสัณชาตญาณดิบในตัวของคริสให้ปะทุขึ้น





“หึ จัดการให้เรียบร้อยซะ ฉันรำคาญจะดู ” ร่างสูงถอยห่างออกมาจากเตียง ชานยอลมองตามด้วยความเจ็บปวด แค่พยุงเขาขึ้นจากเตียงยังไม่ทำ นี่ถึงขั้นถอยออกห่างเลยหรอ รังเกียจกันมากเกินไปแล้ว





“คุณชานยอลเป็นยังไงบ้างคะ ” ร่างโปร่งมองคุณยายด้วยดวงตาแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะพิษไข้หรือเพราะเขากำลังจะร้องไห้







“ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวยายทำแผลให้” คุณยายแม่บ้านรีบลงไปข้างล่างทันที ไม่นานนักเธอก็มาพร้อมอุปกรณ์ทำแผล คริสยืนกอดอกทำหน้าไม่สบอารมณ์มองดูคุณยายทำแผล มือเหี่ยวค่อยๆใช้ผ้าสะอาดเช็ดเลือดชานยอล ก่อนจะนำสำลีชุบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค ร่างโปร่งชักมือกลับทันที คริสกรอกตาไปมา รู้สึกรำคาญท่าทางอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายเพียงแค่ส่งสายตาเป็นเชิงเร่งให้คุณรีบๆทำแผลให้เสร็จๆสักที หลังจากคุณยายทำแผลเสร็จเธอก็รีบเดินมาหาคริสทันที สีหน้าเธอฉายแววกังวลจนร่างสูงขมวดคิ้วสงสัย





“อะไรอีก”





“คุณชานยอลคงเป็นหวัด ไข้แกขึ้นสูงมากๆเลย”





“ฉันรู้แล้ว แล้วยังไง ก็รีบๆจัดการไปซะสิ” ร่างสูงเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ คุณยายแม่บ้านพยักหน้า เธอเดินไปยกอาหารมาให้ชานยอล คุณยายตักข้าวป้อนร่างโปร่ง ชานยอลสำลักข้าวออกมา คุณยายรีบยื่นน้ำให้ดื่มแก้อาการสำลัก





“อ่อนแอ” คริสหัวเราะในลำคอ ร่างโปร่งพยายามกินข้าวให้หมดเร็วๆ เขาไม่อยากถูกร่างสูงคนนี้ดูถูกอีกแล้ว มันเจ็บและทรมานจิตใจของเขา







ที่ชานยอลล้มป่วยแบบนี้สาเหตน่าจะมาจากเพราะเจ้าตัวคิดมาก เครียดหนักจนสภาพจิตใจย่ำแย่ส่งผลมาถึงร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแออีก ซ้ำร้ายเมื่อวานเขายังแช่ตัวในอ่างน้ำเป็นเวลานานอีก ทำให้ร่างกายยิ่งแย่กว่าเดิม ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชานยอลจะไข้ขึ้นแบบนี้







ชานยอลพยายามรีบกินข้าวให้มันหมดๆ ร่างสูงจะได้เลิกว่าเขาอ่อนแอ เลิกดูถูก แต่ด้วยเพราะรีบมากเกินไปทำให้ยิ่งสำลักเข้าไปใหญ่ เศษอาหารที่ทานเข้าไปบางส่วนกระเด็นไปโดนร่างสูงที่ยืนห่างออกไปไม่ใกล้ไม่ไกลนัก





“สกปรก” คริสพูดอย่างหัวเสีย เขาสะบัดมือปัดเศษอาหารออกจากชุดคลุมอาบน้ำออก



“ผม ขอโทษ” ร่างโปร่งพูดเสียงเบา



“รีบๆกินยา แล้วนอนๆไปสักที” คริสเอ่ยเร่ง เขาเริ่มเบื่อที่จะดูภาพแบบนี้





คุณยายแม่บ้านหยิบยาเม็ดเล็กยื่นให้ชานยอล ร่างโปร่งกลับเม้มปากแน่นไม่ยอมกิน คุณยายคะยั้นคะยอเท่าไรก็ไม่ยอม คริสที่เห็นดังนั้นยิ่งหัวเสียเข้าไปใหญ่





“กินๆมันเข้าไปสักที ปาร์คชานยอล”







“ไม่ ผมไม่กินยานี้ เคยกินแล้วอ้วก ”







“เรื่องมาก งั้นก็ไม่ต้องกินมัน” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ คุณยายแม่บ้านยื่นยามาให้พรางกระซิบบอกให้รีบๆทาน ไม่งั้นคริสคงจะยิ่งโมโหมากขึ้น ร่างโปร่งดื้อด้านอยู่พักหนึ่งแต่สุดท้ายก็ยอมเปิดปากรับยาเข้าไป ด้วยความที่เขาไม่ชอบยานี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้ชานยอลแทบอยากจะอ้วกมันออกมา ร่างโปร่งพะอืดพะอมอยู่นาน คริสหันหน้ามามองดวงสายตาเป็นเชิงถามว่า คราวนี้จะอะไรอีก ชานยอลรีบกลืนยาลงไป มือเรียวไขว่คว้าหาน้ำมาดื่มทันที





“แค่นี้ก็จบเรื่อง” คริสเอ่ย หลังจากนั้นคริสก็สั่งให้คุณยายแม่บ้านเช็ดตัวให้ชานยอลต่อ คุณยายเตรียมจะถอดเสื้อร่างโปร่งออก ชานยอลขัดขืนเล็กน้อย เขาไม่อยากให้ใครเห็นร่างที่เต็มไปด้วยแผล และบอบช้ำแบบนั้น แต่เมื่อคิดถึงร่างสูงที่ยืนอยู่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดทันที ชานยอลยอมให้คุณยายถอดเสื้อผ้าออกแต่โดยดี เธอดูตกใจเล็กน้อยกับภาพเบื้องหน้าที่ปรากฎ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการใดๆ หากเธอแสดงสีหน้าสงสารหรือตกใจ ชานยอลก็จะรู้สึกไม่ดี ซ้ำยังอาจจะแย่ลงไปอีก มือเหี่ยวค่อยๆบรรจงเช็ดตัวให้ร่างโปร่ง ทุกครั้งที่หยดน้ำเกลือกกลิ้งไปสัมผัสรอยแผล ชานยอลก็จะเม้มปากแน่นจนซีดเพราะความแสบ เธอรู้สึกสงสารชานยอลเหลือเกิน ทำไมเด็กคนนี้ที่แสนจะร่าเริง และซุกซนถึงต้องมาเจอกับเจ้านายของเธอ บางครั้งเธอก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะคิดว่านิสัยร่าเริงของชานยอลเป็นเรื่องดีมั้ย มันทำให้ผู้คนหลงรักและยิ้มไปกับนิสัยนั้น และเช่นเดียวกับเจ้านายของเธอ คริสหลงรักนิสัยแบบนั้น แต่คริสไม่ได้เหมือนคนอื่น เมื่อเขาหลงหรือรักอะไรบางอย่าง เขาก็ต้องได้มาครอบครอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม คริสไม่สนสภาพจิตใจอีกฝ่าย ไม่สนว่าจะรู้สึกยังไง จะร้องไห้แค่ไหน เขาไม่เคยสน สิ่งเดียวที่เขาสนคือร่างกายที่ตอบสนองความต้องการของเขา ตราบใดที่เขายังเป็นเจ้าของมัน และมันยังจงรักภักดีกับเขาอยู่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น ในทางกลับกันเมื่อใดที่เขาเริ่มเบื่อของของเขา เขาก็จะเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดี และถ้าหากของของเขาทรยศเขาละก็ .................อู๋อี้ฟานคนนี้จะบดขยี้มันให้แหลกคามือ



“อ๊ะ ผมแสบ” ชานยอลร้องตกใจ เมื่อมือคุณยายไล่ไปถูกแผลถูกกัดที่คอ





“ขอโทษค่ะคุณชานยอล เจ็บมากมั้ย” ร่างโปร่งพยักหน้าเบาๆ เขาอยากจะตอบไปว่าที่เจ็บเขาเจ็บที่ใจมากกว่าร่างกาย แผลนี้ทำให้เขานึกถึกความโง่ของตัวเองที่เผลอไปกับสัมผัสร่างสูง





ไม่นานนักคุณยายก็เช็ดตัวให้ร่างโปร่งเสร็จ เธอเตรียมจะใส่เสื้อผ้าให้แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคริสออกคำสั่งให้ทายาให้ชานยอลก่อน



“มันขัดใจเวลาเห็นแผลพวกนั้น ตอน......”





“ยะ อย่า” ร่างโปร่งร้องขอด้วยเสียงอิดโรย เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้





“ตอน…..”



“ไม่”





“หึหึ ก็ได้ แต่คืนนี้ช่วยเป็นเด็กดีกับฉันหน่อยนะ ไม่งั้นทั้งบ้านได้รู้เรื่อง........นั้นแน่” คริสยกยิ้มร้าย ถึงแม้เขาจะไม่ได้เอ่ยคำนั้นออกไป แต่สิ่งที่เขาพูดมันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรนัก ชานยอลน้ำตาไหลด้วยความอับอาย





คุณยายค่อยๆป้ายยาไปตามรอยแผลบนร่างของชานยอล ใส่เสื้อผ้าเนื้อบางให้ จากนั้นก็ดึงผ้ามาห่มให้ ชานยอลยิ้มบางๆเป็นการขอบคุณ พอเสร็จคุณยายก็เดินไปเปิดหน้าต่างออกเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ชานยอลจะได้รู้สึกดี เสร็จหน้าที่แล้วเธอก็เดินออกจากห้องไป


http://0ctogus.forumth.com

2Part 10  Tears overflow Empty Re: Part 10 Tears overflow Fri Dec 14, 2012 1:28 pm

0ctogus

0ctogus
Admin



แสงอาทิตย์แรกของวันค่อยๆสาดส่องเข้ามาในห้อง ร่างโปร่งตาโตด้วยความตกใจ รีบหันขวับมามองที่ร่างสูงซึ่งนั่งห่างออกไปไม่มากนัก มือเรียวกำผ้าห่มแน่นอย่างลุ้นระทึกกลัวว่าแสงอาทิตย์จะส่องไปโดนคริสมั้ย ใจหนึ่งเขาก็อยากให้มันแผดเผาร่างสูงคนนี้ไป เรื่องทั้งหมดจะได้จบๆสักที แต่อีกใจเขากลับอยากวิ่งไปปิดหน้าต่าง ไม่ให้แสงส่องเข้ามา เขาเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้เหลือเกิน





คริสค่อยๆย่างก้าวเข้ามา แสงแดดค่อยๆอาบไล้เลียผิวของเขา แต่มันไม่ได้เผาร่างเขาให้หมอดไหม้ ร่างสูงส่งเสียงหัวเราะในลำคอก่อนจะทรุดตัวนั่งกับเก้าอี้ข้างเตียง เขาก้มหน้าลงไปกระซิบข้างใบหูอีกฝ่าย





“อ่า......จะดีใจหรือเสียใจดีที่ฉันไม่ตาย ” คริสเอ่ย ร่างโปร่งตกใจที่คริสอ่านความคิดเขาออก ร่างสูงหัวเราะเย้ยหยั่นท่าทางของชานยอล



“หึหึ คนมักจะเชื่อว่าพวกเราจะไหม้เกรียมเมื่อถูกแดด ความจริงเราแค่มองอะไรได้ไม่ชัดในเวลากลางวัน ก็เหมือนกับคนที่มองได้ไม่ดีนักในเวลากลางคืน” คริสเอ่ยพร้อมกับหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง แสงแดดอาบไล้ไปทั่วใบหน้าของเขา ภาพที่คริสเห็นตอนนี้คล้ายกับภาพขาวดำ ร่างสูงหันกลับมาสนใจคนป่วยต่อ ชานยอลเขยิบตัวหนีห่างออกมา แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิด ทำให้เขาห่างออกไปได้ไม่มากนัก คริสโน้มตัวเข้าไปใกล้ ข้อนิ้วแกร่งเกลี่ยไปตามผิวแก้มที่มีคราบน้ำตา



“ฉันชอบเวลานายยิ้มมากกว่าร้องไห้นะ” คริสพูดเสียงอ่อนโยน ชานยอลเบี่ยงหน้าหลบ ดวงตากลมโตที่แดงเพราะพิษไข้และจากการร้องไห้มองเขาอย่างไม่เข้าใจ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ผู้ชายคนนี้จะเอายังไงกับเขา จะให้รักหรือจะให้เกลียดกันแน่





“ผมไม่เข้าใจ”





“อะไร” ร่างสูงเลิกคิ้ว





“ทำไม.....” ชานยอลไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะพูดยังไงออกไป





“รอยยิ้มของนายมันดึงดูดฉัน ฉันชอบเวลาที่นายยิ้ม ฉันตกหลุมรักรอยยิ้มนั้น” นิ้วยาวไล้ไปตามกลีบปากอิ่ม ชานยอลขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าคริสต้องการอะไรจากเขา ปากหนาค่อยๆดูดเม้มริมฝีปากของเขาเบาๆ ก่อนจะผละออก “ แต่ร่างกายของนายมันดียิ่งกว่ารอยยิ้มนั้นซะอีก มันทำฉันแทบบ้า” ร่างโปร่งหน้าชาเมื่อได้ยิน ชานยอลอึ้งจนร้องไม่ออก เขาง้างมือขึ้นหมายจะตบหน้าร่างสูงแต่ก็ถูกคริสจับมือไว้ได้เสียก่อน





“ไอ้เลว” คริสหัวเราะในลำคอ





“จะว่าไป ฉันก็ตกหลุมรักนายทั้งตัวเลยนะ” คริสหัวเราะเย้ยหยัน ชานยอลอาศัยที่คริสเผลอฟาดมือตบจนใบหน้าคริสหันไปอีกทาง ร่างสูงยกยิ้มร้าย





“เก็บแรงไว้สำหรับคืนนี้เถอะ ปาร์คชานยอล” ร่างสูงยกยิ้มร้าย





“ไปให้พ้น” ชานยอลเอ่ยไล่ทั้งน้ำตา ร่างสูงหัวเราะในลำคอก่อนจะลุกเดินออกไป





“คืนนี้นายจะเป็นของฉันทั้งตัว และวิญญาณ!!! ชานยอล หึหึ”







เมื่อจันทราแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด หนึ่งโลหิตจำต้องหลั่งเพื่อบวงสรวง

หนึ่งชีพต้องสังเวยสู่ความตาย หนึ่งวิญญาณต้องถูกพันธนาการ

เราทั้งสองจักผูกมัดติดตรึงกันไปชั่วกัปชั่วกัลย์




-------------------------------------------------------------

http://0ctogus.forumth.com

3Part 10  Tears overflow Empty Re: Part 10 Tears overflow Tue Dec 18, 2012 9:38 pm

plengklui



'การมีอยู่ของเขาเพียงแค่ร่างกายเท่านั้น'

มันเจ็บตรงนี้!! T^T
คือแบบรันทดจริงๆนะ ทั้งๆที่อิพี่คริสก็รู้แล้วว่าสร้อยเส้นนั้นเป็นของหม่าม้ายอล
แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย
ชอบเขาก็ไม่ทำดีๆวะ *ฮึ่ยยย*

เมนยอลค่ะ (555+)
เห็นน้องเจ็บ เราทนไม่ด้ายยยย TT
ยอลมันเป็นคนซื่อจริงๆเนาะ บอกคริสก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว แต่อิพี่คริสก็ยัง!!
#บอมส์บ้านคริสแม่ง #อินอีกแล้ว 55

-----------------------------------------
คู่ฮุนฮานทำเรา =///////= อั๊ยยย ไปฟินแลนด์ด้วยกันมั๊ยคะไรเตอร์ 55555
เดี๋ยวนี้สาวไทยใจเกาหลีต่างพากันไปจับจองหมู่บ้านที่ฟินแลนด์กันถ้วนหน้า =.,=
เพราะมันมีคู่อย่างนี้อยู่ไง ทำให้ชีวิตแต่ละวันมันอิ่มเอิบและอิ่มเอม เอม เอม ~ *ลอยละล่อง*

4Part 10  Tears overflow Empty Re: Part 10 Tears overflow Tue Mar 26, 2013 9:03 am

pachaam_

pachaam_

สงสารลดาอ่าแง้ร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ T _ T
พี่คริสสสรอยยิ้มของลดาอ่าๆๆๆ รักไม่ใช่หรอ
เกลียดพี่คริส
ชอบกลอนที่ไรต์แต่งมาก ลึกซึ้งสุดๆ

https://twitter.com/_5Qwc

5Part 10  Tears overflow Empty Re: Part 10 Tears overflow Wed Apr 10, 2013 1:38 am

rquniqa



โว้ยยยยยยยอิพี่คริาแม่งงงโครตเลว
ชั่วมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากกกกกกกกกกกก
จะไม่ทนแล้วระทำแบบนี้หับชานยอลได้ไงง
สักวันอิพี่คริสจะต้องเจ็บปวดแบบที่ชานยอลเป็น
ไม่ยอมๆๆๆๆๆๆๆ

6Part 10  Tears overflow Empty Re: Part 10 Tears overflow Wed Jun 26, 2013 10:39 pm

panaddaj



เอาเข้าไป ๆ
ชอบรอยยิ้มของนาย
เนี่ยนะที่ว่าชอบอะ
ทำร้ายชานยอลตลอด ๆ อะ
คริสใจร้ายมาก

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ