0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

Part 11 Innocent sorrow

+2
plengklui
0ctogus
6 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1Part 11  Innocent sorrow Empty Part 11 Innocent sorrow Fri Dec 14, 2012 9:26 am

0ctogus

0ctogus
Admin


ด้วยเพราะพิษไข้ทำให้ชานยอลนอนซมอยู่บนเตียง ตลอดทั้งวันมีเพียงคุณยายเท่านั้นที่เข้ามาดูแลเขา คอยเช็ดตัว คอยทำแผลให้ ส่วนร่างสูงแทบไม่มาให้เห็นแม้แต่เงา ชานยอลไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่คริสไม่มาดูดำดูดีเขาเลยสักนิด





มันน่าตลกดีนะครับ ที่ผมมักจะผิดหวังทุกครั้งเมื่อคนที่ยืนอยู่ที่ประตูไม่ใช่คุณคริส แต่เป็นคุณยาย ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมเป็นอย่างนั้น ทั้งๆที่ผมควรจะดีใจที่เขาไม่มาไม่ใช่เหรอ ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย บางครั้งผมก็อยากรู้ว่าใจของผมเป็นอะไร บางทีก็ร้องหา แต่บางทีก็ขับไล่ มันน่าหงุดหงิดที่ผมเป็นอย่างนั้น มันเหมือนกับว่า ผมจะเกลียดก็ทำไม่ได้ จะรักก็ทำไม่ลง ทุกๆอย่างคลุมเครือ และสับสน ไม่รู้ว่าควรจะเดินหน้าหรือถอยหลังดี





ความสับสนทางอารมณ์และความรู้สึกกำลังเล่นงานผม ผมไม่อาจปฎิเสธหรือยอมรับได้เต็มปากว่ารักคุณคริส ผมสร้างภาพคุณคริสสองคนขึ้นมาในใจ คนหนึ่งใจร้าย อีกคนหนึ่งใจดี มันน่าตลกดีเนอะที่ผมคิดอย่างนั้น ผมรักคุณคริสที่ใจดีและอ่อนโยน ผมตอบไม่ได้หรอกว่าทำไมถึงรักได้แค่ในช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับผมความรักไม่ใช่เรื่องเหตุผลแต่มันคืออารมณ์และความรู้สึก ไม่ต้องถามเหตุผลหรอกว่าทำไมถึงรัก ผมตอบคุณไม่ได้หรอก ผมรู้สึกดีกับการเห็นรอยยิ้มของเขา ใจเต้นเวลาที่เขาชอบพูดชมผม และประหม่าทุกทีที่สบเข้ากับตาคมคู่นั้น เขามีแรงดึงดูดที่ซ่อนความอ่อนโยนและอบอุ่นเอาไว้ เดิมผมรู้สึกอยากเข้าหาเขา มันทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด แต่ตอนนี้แรงดึงดูดของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนแต่กลับแฝงไปด้วยความเร่าร้อน และรุนแรง ในขณะที่ในตัวผมกลับเริ่มสร้างแรงต่อต้านแรงดูดนั้นขึ้นมา แต่มันก็ยากที่จะทานทนแรงดึงดูดจากเขา ในตัวเราทั้งคู่เหมือนมีทั้งแม่เหล็กต่างขั้วและขั้วเดียวกันอยู่ภายใน เราทั้งดึงดูดและผลักไสซึ่งกันและกัน........





มาคิดดูแล้วผมก็รู้สึกสมเพชตัวเองนะ ฮ่ะฮ่ะ รักคนที่เขาไม่แม้แต่จะสนใจเรา สร้างภาพคนใจร้าย และผลักไสความโกรธ ความเกลียดของตัวเองให้คนนั้น โดยที่จะปกป้องคนที่แสนดีเอาไว้ มันน่าตลกจริงๆ ว่ามั้ย ทั้งๆที่โดนทำร้ายแบบนั้นแต่จิตใต้สำนึกก็ยัง....รักเขา ยังปกป้องเขา ภาวนากับตัวเองทุกวินาทีว่าคนตรงหน้าที่ทำร้ายเรา เป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่คนที่เรารักหรอก สักวันหนึ่งคนที่ใจดีคนนั้นจะกลับมา แต่เปล่าเลย ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เรื่องจริงมันโหดร้ายและตอกย้ำเรายิ่งกว่านั้นเยอะ ถึงแม้เขาจะทำร้ายผมมากขนาดนั้นแต่ทำไมกันนะ ทำไมผมถึงเกลียดเขาไม่ลงเลย....

ผมเกลียดตัวเองที่รู้สึกแบบนี้จริงๆ



ชานยอลยกมือตัวเองขึ้นดูอย่างอ่อนแรง ดวงตากลมโตมองฝ่ามือตัวเองด้วยความตัดพ้อระคนเศร้าใจ ร่างโปร่งเลื่อนมือไปสัมผัสรอยแผลที่ถูกกัดที่ลำคอ ปากอิ่มยกยิ้มเหยียดตัวเองขึ้นมาน้อยๆ หยาดน้ำใสค่อยๆไหลออกจากดวงตากลม เขาสมเพชตัวเองที่เป็นแบบนี้ ทั้งอ่อนแอและโง่เขลา แม้จะโดนทำร้ายแต่เขากลับยัง......รัก



อาจจะเพราะอย่างนี้ใช่มั้ย คุณคริสถึงได้มองว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ เพราะจิตใจของมันไม่ซื่อตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่โดนทำร้ายสารพัดแต่มันกลับยังรัก และเมื่อรักมนุษย์ก็มักจะอ่อนแอ ยอมแม้กระทั่งรู้ว่าตัวเองต้องเจ็บ แล้วเมื่อสิ่งที่หวังไม่เป็นที่ใจต้องการมันก็มักจะก่นด่าโชคชะตา หรือไม่ก็ร่ำร้องสมเพชตัวเอง เพราะเป็นแบบนี้สินะคุณคริสถึงได้ดูถูกนักหนา ผมได้แต่ยิ้มสมเพชตัวเองที่เป็นแบบนี้



“ ทำไมชานยอล ทำไมนายถึงเป็นคนแบบนี้ นายอ่อนแอได้ขนาดนี้เลยหรอ” ชานยอลหัวเราะเย้ยหยั่นตัวเอง หยาดน้ำใสไหลอาบแก้มทั้งสอง ร่างโปร่งร้องไห้ให้กับโชคชะตาและความอ่อนแอของตัวเองโดยไม่เกรงกลัวเลยว่าตัวเองกำลังป่วยอยู่ การร้องไห้หนักอย่างนี้ไม่เป็นผลดีกับตัวเขาแน่ ชานยอลค่อยๆชูมือข้างหนึ่งขึ้นเหนืออากาศ รอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา



“แค่ร่างกายนี้ใช่มั้ยที่คุณต้องการ” เขาทิ้งมือให้ตกลงข้างตัว “ถ้ามันสำคัญ แล้วที่ผมป่วยทำไมถึงไม่มาดูเลย” ชานยอลยิ้มทั้งน้ำตา ทั้งเศร้าทั้งสมเพชตัวเอง



ร่างโปร่งกุมผ้าห่มแน่น เม้มริมฝีปากจนซีด ปล่อยให้น้ำตาค่อยๆไหล หวังเพื่อจะอาบหัวใจที่เจ็บปวดดวงนี้ให้มันหายป่วยเสียที แค่สักช่วงหนึ่งก็ยังดี ชานยอลร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนผล็อยหลับไป.....



ชานยอลหลับไปได้สักพักคุณยายแม่บ้านก็เข้ามาดูอาการ สีหน้าฉายแวววิตกกังวล ทั้งวันมานี่ชานยอลก็ไม่ค่อยจะทานยาอยู่แล้ว ยิ่งร้องไห้หนักอย่างนี้ยิ่งทำให้อาการทรุดลง มือเหี่ยวยกขึ้นอังหน้าผากคนบนเตียงช้าๆก่อนจะต้องรีบชักมือกลับ

“คะ คุณคริสคะ ไข้ไม่ลดลงเลย” เธอหันไปบอกเจ้านายที่ยืนหน้านิ่งกอดอกอยู่ มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา



“คุณชานยอลคงร้องไห้หนักมาก” เธอเอ่ยเมื่อสบเข้ากับแก้มที่อาบไปด้วยคราบน้ำตา ร่างสูงเปรยตามองด้วยแววตายากจะเข้าใจ



“จัดการงานของเธอซะ” คุณยายค่อยๆถอดเสื้อ เช็ดตัวให้ชานยอล



“อ๊ะ คะ คุณคริส อย่าทำผม” ทันทีที่คุณยายสัมผัสตัว ชานยอลก็ละเมอร้องด้วยความตกใจ เธอเงยหน้ามองเจ้านายด้วยความเศร้า และเช่นเดิมคริสแค่ตีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา



ทุกๆครั้งที่คุณยายเห็นรอยแผลตามตัวชานยอล เธอถึงกับน้ำตาซึม ไม่รู้ว่าตอนที่โดนชานยอลจะเจ็บปวดมากแค่ไหน นึกสงสารจับใจที่เด็กคนนี้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เด็กที่บริสุทธิ์คนนี้กำลังจะถูกทำให้บิดเบี้ยวด้วยฝีมือของเจ้านายของเธอ คุณยายนึกหวั่นใจสิ่งที่ชานยอลจะต้องพบเจอต่อจากนี้ มันคงจะโหดร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอจะช่วยอะไรได้ ลำพังตัวเธอเองยังแทบเอาตัวไม่รอด ทุกคนในบ้านนี้รู้ดีว่าคริสเป็นยังไง ไม่ใช่เรื่องฉลาดนักที่จะยื่นมือไปช่วย



“หื้ออ คุณคริส อย่าทำผม” เธอสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ชานยอลใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด ราวกับว่าฝันร้ายกำลังหลอกหลอนเขาอยู่



“คุณคริส ฮือออ ทำไม ทำแบบนี้กับผม” น้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มนวล คุณยายหันหน้ามาหาเจ้านายตัวเอง



“ปลุกดีมั้ยคะคุณคริส คุณชานยอลคงกำลังฝันร้าย สงสารแก”



“หึ” คริสหลุบตามอง ร่างสูงยกยิ้มมุกปาก ชานยอลยังคงติดอยู่ในฝันร้ายอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีคนมาช่วย



“ฮึก คุณคริส อย่าทำผม อย่าทำ” ชานยอลร้องขอทั้งน้ำตา มือไม้ปัดป่ายไปทั่ว คุณยายจับรวบข้อมือคนป่วยเพื่อให้สะดวกต่อการใส่เสื้อผ้า



“เสร็จแล้วก็ไปทำงานอื่นต่อสิ” คริสเอ่ยเสียงเรียบ คุณยายโค้งศรีษะก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมหันกลับมามองชานยอลที่นอนอยู่บนเตียง......เด็กคนนี้ช่างน่าสงสาร



คริสทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างเตียง ยกมือขึ้นกอดอก ตาคมเปรยมองคนป่วย เขาเพียงแค่นั่งนิ่งๆฟังชานยอลละเมออยู่อย่างนั้น โดยไม่มีท่าทีว่าอยากจะปลุกร่างโปร่งเลยสักนิด



“คุณคริส ฮึก ฮือ ไม่เอา ผมไม่เอา อย่า” ชานยอลสะบัดหน้าไปมา



“อย่าทำผม ไม่!!! ผมไม่เอา” ร่างโปร่งร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ แต่คริสก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น



“ฮือออ อย่าทำผม ผมขอร้อง ฮึก ผมขอ” ชานยอลพลิกตัว เขยิบตัวเขามาใกล้เขามากขึ้น ฝ่ามือเรียวข้างที่ดีอยู่ยกขึ้นกำกางเกงเขาอย่างหาที่พึ่ง คริสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย



“คุณเอา คุณคริสที่ใจดีไปไว้ไหน เขาหายไป ไหน ฮึก”



“เขาไม่เคยมีตัวตนต่างหากชานยอล” คริสว่า ก่อนจะยกหนังสือตรงหัวเตียงขึ้นอ่าน



ที่ร่างสูงเข้ามาไม่ใช่เพราะมาดูแลอาการป่วยของชานยอล หากแต่มาเพื่อดูสภาพเหยื่อของตนว่าพร้อมสำหรับเรื่องคืนนี้แค่ไหน คริสนั่งอ่านหนังสือต่อไปโดยปล่อยให้ชานยอลนอนละเมอร้องไห้อยู่อย่างนั้น เขาเพียงแค่นั่งนิ่งฟังสิ่งที่ชานยอลพูด แต่หาได้สนใจหรือสะทกสะท้านเลย



เวลาผ่านไปจนร่วงเลยเข้าสู่เวลาโพล้เพล้ แสงอาทิตย์ลำสุดท้ายแสดส่องเข้ามาในห้องปลุกคริสให้ละออกจากโลกส่วนตัวของเขา ร่างสูงผินหน้ามองออกไปทางนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าถูกอาบไปด้วยแสงสีชมพูอมส้ม ร่างสูงวางหนังสือลงก่อนจะยกยิ้มมุมปาก



“ได้เวลาแล้วสินะ” คริสลูบริมฝีปากตัวเอง คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ตามแบบฉบับ แล้วร่างนั้นก็หายลับไป มีเพียงหนังสือที่ตกอยู่บนเก้าอี้เท่านั้นที่บอกว่าครั้งหนึ่งเขาเคยนั่งอยู่ตรงนี้



สายลมเย็นจากภายนอกหอบพัดเอากลิ่นกุหลาบป่าเข้ามาในห้อง ชานยอลกระชับผ้าห่มแน่น ร่างโปร่งพลิกตัวหันหลังให้กับหน้าต่าง ด้วยเพราะร่างกายที่อ่อนแอทำให้เขาอยากนอนพักผ่อนให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเจออุปสรรคเข้าให้แล้ว สายลมที่เย็นและรุนแรงกว่าระลอกแรกพักโหมเข้ามาจนผ้าม่านปริวสไว ชานยอลค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าผืนดำถูกแต่งแต้มไปด้วยพระจันทร์เต็มดวงที่ส่องแสงเหลืองนวลไปทั่วบริเวณ หากแต่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นสักนิด บรรยากาศคืนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นไอแปลกๆ วังเวง และน่ากลัวผิดกับคืนก่อนๆที่ผ่านมา ร่างโปร่งค่อยๆยันตัวลุกขึ้นหมายจะไปปิดหน้าต่าง แต่ละย่างก้าวผ่านไปอย่างยากเย็น เขาแทบจะไม่มีแรงเดินแล้ว มือเรียวที่แสนจะบอบบางค่อยๆปิดหน้าต่างช้าๆ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสายตาพลันไปสบเข้ากับดวงตาสีแดงฉาน สุนับสีดำหนึ่งในสี่ตัวนั้นกำลังนั่งมองเข้าอยู่จากพื้นสนามหญ้า ชานยอลผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง สายลมเย็นหอบเอากลีบกุหลาบสีแดงเข้ามาในห้อง ร่างโปร่งพยายามเรียกสติให้กลับคืนมาก่อนจะเลื่อนมือไปปิดหน้าต่าง ตากลมค่อยๆมองกลับไปยังจุดๆเดิมที่สุนัขนั่งอยู่.......แต่สิ่งที่ปรากฎมีเพียงความว่างเปล่า



ชานยอลพยายามรีบเดินกลับไปที่เตียง ร่างโปร่งสังเกตเห็นกลีบกุหลาบจำนวนมากหล่นอยู่ตามพื้น ส่งกลิ่นที่หอมรัญจวนใจคละคลุ้งไปทั่วห้อง พวกมันมีสีแดงสดราวกับโลหิต นิ้วเรียวค่อยๆบรรจงเก็บมันขึ้นมา หยดเลือดที่ไหลซึมจากแผลของเขาค่อยๆฉาบสีลงบนกลีบกุหลาบ เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ค่ำคืนนี้บรรยากาศทุกอย่างล้วนสวยงามหากแต่แฝงไปด้วยความพรั่นพรึง



ก็อก ก็อก



เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดปลุกให้ชานยอลหลุดจากภวังค์ คุณยายแม่บ้านค่อยๆเปิดประตูเข้ามา ในมือของเธอมีถาดอาหารเย็นมาด้วย ร่างโปร่งค่อยๆเดินเข้าหาคุณยายเพื่อจะช่วยถือของ





กลีบกุหลาบค่อยๆร่วงหล่นลงพื้น กลีบของแปรเปลี่ยนเป็นสีดำช้าๆจนทั่วทั้งกลีบ หากเขาจะหันกลับมาสนใจมันสักนิดก็คงจะได้เห็นสิ่งท่แปลกประหลาดนี้.......

“คุณยาย ผมช่วย”



“คุณชานยอลลุกมาทำไมคะ กลับไปนอนเถอะค่ะ”



“แต่คุณยาย”



“คุณชานยอลป่วยอยู่นะคะ ไปนอนรอที่เตียงเถอะค่ะ” คุณยายปราม ชานยอลได้แต่พยักหน้ายอมทำคำสั่งแต่โดยดี ร่างโปร่งค่อยๆทรุดตัวลงนอนบนเตียงช้าๆ รอให้คุณยายยกอาหารมาให้



คุณยายค่อยๆป้อนอาหารให้ชานยอล แม้รสชาติอาหารจะดีแค่ไหนแต่ชานยอลก็ยังคงยืนยันว่าจะไม่ทานต่อ สุดท้ายเธอจึงต้องยอมแต่โดนดี มือเหี่ยวยื่นยาสองสามเม็ดให้ชานยอล ร่างโปร่งอิดออดอยู่พักหนึ่งก่อนจะยอมทาน



“คุณยาย คุณ…คริส” ชานยอลเอ่ยถาม เมื่อตลอดวันมานี่เขาไม่เห็นร่างสูงเลย คุณยายถอนหายใจยาวราวกับหนักใจที่จะตอบคำถามของเขา



“................เดี๋ยวก็คงมาล่ะมั้งคะ เธอคงไปทำธุระของเธอ”



“ธุระ?”



“บางอย่าง การรู้มากก็ไม่เป็นผลดีต่อคุณชานยอลหรอกนะคะ” คุณยายยิ้มเศร้า ชานยอลเข้าใจประโยคนั้นหากแต่ไม่ได้เข้าใจความหมายของมัน คุณยายแม่บ้านห่มผ้าห่มชานยอลจนมาถึงอก ก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเบาๆ ร่างโปร่งเหลือบตามองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมให้คุณยายลูบผมของเขาต่อไป เปลือกตาบางค่อยๆหลับตาลง เธอลูบผมเขาอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยเรียกชานยอลให้ตื่นขึ้น



“คุณชานยอลคะ”



“ค ครับๆ”



“……..ยาย.....ยายขอโทษนะคะที่ช่วยคุณชานยอลไม่ได้เลย” หญิงชราพูดเสียงเศร้าสลด



“มันเป็น....ชะตากรรมของผมเอง” ร่างโปร่งคลี่ยิ้มบางเบา คุณยายกุมมือคนบนเตียง เธอยกมันขึ้นมาราวกับต้องการจะอ้อนวอขอให้เขาทำอะไรสักอย่าง



“ยาย.....คืนนี้คุณชานยอลจะต้องไม่.....”



ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงนายใหญ่ของบ้านเอ่ยขึ้นขัดจังหวะ



“หน้าที่ของเธอ แค่มาป้อนข้าวไม่ใช่หรอ” คริสเอ่ยเสียงเรียบ คุณยายหน้าเจื่อน เธอเตรียมจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกชานยอลรั้งไว้เสียก่อน



“คุณยาย”



“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำนะ” ร่างสูงวาดยิ้มที่มุมปาก



“ยายขอโทษค่ะคุณชานยอล” เธอว่าเสียงเศร้า แล้วเดินออกจากห้องไป คริสปิดประตูไล่หลังดังปัง สร้างความตกใจให้กับคนบนเตียงไม่น้อย ร่างสูงสาวเท้าเดินเข้ามาหาก่อนจะยืนกอดอกจ้องมองชานยอลอยู่ที่ปลายเตียง





“เมื่อกี้คุยอะไรกัน”



“ปะ เปล่า”



“นั่นไม่ใช่คำตอบของคำถามฉัน”



“ผม ผม”



“คุยอะไรกัน!!!”ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ ตาคมฉายแววเอาจริงเอาจัง



“ทำไมจะต้องขึ้นเสียงด้วย”



“คุยอะไรกัน” คริสเอ่ยเสียงอ่อนลงเล็กน้อย ดูก็รู้ว่าเขากำลังข่มอารมณ์โมโหตัวเองอยู่



“ผมไม่รู้ คุณเข้ามาก่อนแล้วก็ไล่คุณยายไปไงล่ะ คุณยายเหมือนกำลังจะเตือนอะไรบางอย่าง แค่นั้นเอง”



“หึ พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก” คริสกรอกตาไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ แต่แวบเดียวเท่านั้น ร่างสูงหันกลับมามองชานยอลด้วยดวงตาที่เหมือนเมื่อก่อน ดวงตาที่คุณคริสคนใจดีใช่มองชานยอล ร่างโปร่งตกอยู่ในภวังค์ แค่เพียงชั่วครู่ที่ชานยอลเฝ้ามองตาคู่นั้นด้วยความดีใจระคนสงสัย สุดท้ายความรู้สึกเดียวที่ปรากฎขึ้นในหัวคือ.....ไม่น่าไว้ใจ คนคนนี้ไม่น่าไว้ใจ จากบทเรียนเมื่อวานทำให้เขาเริ่มระวังตัวมากขึ้น



“คุณ.....” ชานยอลจับจ้องดวงหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาจริงจัง



“หื้ม เด็กน้อยของฉัน” นิ้วแกร่งเกลี่ยผมที่ปกปิดดวงหน้าคนบนเตียงออกอย่างเบามือ ร่างโปร่งถดคอหนีสัมผัสอีกฝ่าย คริสส่งเสียงขัดใจเล็กน้อย หากแต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขามากขึ้น นิ้วแกร่งยังคงคลอเคลียอยู่กับใบหน้าของเขา



“ทำไมคุณ.....” ชานยอลขมวดคิ้วเป็นปม คริสเพียงแค่หัวเราะในลำคอเบาๆ ปากหนาค่อยๆทามทับลงบนกลีบปากอิ่ม เชื่องช้า อ่อนโยน ไร้ซึ่งการจาบจ้วง ลิ้นสากละเมียดเลียชิมกลีบปากซ้ำๆ ชานยอลยังคงนิ่งเฉย ไม่เผลอไผ เผยอปากให้ร่างสูง ตากลมโตมองเสี้ยวหน้าของคนบนร่างด้วยความสงสัย มันน่าแปลกที่ปีศาจอย่างคริสจะมาทำดีกับเขา มันไม่มีเหตุผล ไม่สิ เหตุผลที่ต้องอ่อนโยนน่ะมันมี แต่ชายตรงหน้าคนนี้น่ะหรือที่จะยอมอ่อนโยนกับเขา สิ่งเดียวที่สรุปได้ก็คงหนีไม่พ้นการหลอกให้ตายใจอีกเช่นเคย ฉับพลันนั้นหยาดน้ำใสค่อยๆไหลอาบแก้มเนียน เจ็บปวดเหลือเกินกับการถูกเล่นตลกกับความรู้สึกตัวเอง หัวใจถูกย้ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความรักที่มีให้ไม่เคยถูกมองเห็น พยายามแล้วพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะปกป้องชายคนหนึ่งผู้เป็นใจของของหัวใจ กรีดกันความโกรธเกลียดออกจากชายคนนั้น แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นการเล่นละครตลบตะแลงทำร้ายความรักและความจริงใจของเขา เจ็บแล้วนะ ทรมานแล้วนะ เหนื่อยแล้วนะ



หยาดน้ำใสค่อยๆไหลไปโดนริมฝีปากร่างสูง คริสละใบหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย เด็กน้อยของเขาร้องไห้อีกแล้ว ร้องทั้งๆที่เขายังไม่ทันทำอะไร



“ร้องทำไม” ชานยอลเช็ดน้ำตาออกลวกๆ กลีบปากคลี่ยิ้มสดใส รอยยิ้มที่คริสรัก รอยยิ้มที่ชานยอลเคยมีก่อนจะเข้ามาที่ห้องนี้



“คุณต้อง ทำพันธะนั่นใช่มั้ย หื้ม ทำสิ ผมจะไม่ดื้อ ดีมั้ย ผมสัญญา” ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหล หากแต่ยังคงมียิ้มสดใสปรากฎอยู่บนใบหน้า



“นาย....เป็นอะไรของนาย”ร่างสูงขมวดคิ้วสงสัยกับพฤติกรรมอีกฝ่าย เรื่องนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเขาไม่น้อย



“ผมไม่เป็นไร แต่ ผมขออะไรสักอย่างได้มั้ย” ร่างโปร่งพูดเสียงตะกุกตะกัก คริสเพียงแค่นิ่งเงียบไป รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ



“ตอนที่ทำ ช่วยกลับมาเป็นคุณคริสที่ใจดีกับผมได้มั้ย ทำเหมือนว่ารักผมได้มั้ย “ ชานยอลเอ่ยร้องขอด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม พยายามเสแสร้งทำว่าตัวเองมีความสุข เป็นปาร์คชานยอลที่สดใสร่าเริงคนเดิม มือเรียวยกขึ้นแนบแก้มกร้านอย่างเบามือ เอียงคอมองราวกับขอคำตอบจากอีกฝ่าย



“หื้ม ได้มั้ย” แววตาเจือไปด้วยความหวัง ปากบางยังคงส่งรอยยิ้มมาให้ คริสนิ่งไปชั่วอึดใจ แต่นี่ไม่ใช่เวลามายั้งคิดหรือลังเลใดๆทั้งสิ้น ร่างสูงแค่พยักหน้าตอบ ปากหนาทามทับลงบนกลีบปากอิ่มอีกครา ชานยอลเผยอปากออกเปิดทางให้ลิ้นร้อนเข้ามาสำรวจความหวานภายใน ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กภายในอย่างไม่รีบร้อน เต็มไปด้วยความอ่อนโยน แม้รสจูบจะหอมละมุนสักเพียงไหนแต่ก็ไม่สมารถหลอมหัวใจของชานยอลได้ ตลอดเวลาที่คริสมอบจุมพิศเขายังคงร้องไห้ ตากลมเอาแต่มองเสี้ยวหน้าของคนบนร่างด้วยแววตาตัดพ้อ พอหลับตาลงน้ำตาก็ร่วงเผาะ ชานยอลยกแขนเรียวขึ้นโอบรอบคอร่างสูง พยายามจะดื่มด่ำความอ่อนโยนที่ร่างนี้หยิบยื่นให้



ขอแค่เวลานี้ก็ยังดีที่ผมจะได้คุณคริสคนนั้นกลับมา แม้จากนี้ผมจะต้องพบเจอแต่ฝันร้ายก็ตาม




คริสละริมฝีปากออกมาอย่างอ่อยอิ่ง ตาคมสบเข้ากับดวงตาอีกฝ่าย ร่างสูงแปลกใจเล็กน้อยที่เขาไม่เห็นความเศร้าในดวงตาคู่นั้น หากแต่สิ่งที่สะท้อนกลับมามีเพียงภาพของเขา รอยยิ้มน้อยๆถูกวาดขึ้นที่กลีบปากอิ่ม มือเรียวโน้มหน้าร่างสูงให้เข้ามาใกล้ก่อนจะทามทับริมฝีปากลงไป กดจูบให้อย่างอ่อนหวาน หอมละมุนไปด้วยกลิ่นไอความรักที่เขามีให้ ความรักที่มีมากเหลือเกิน ความรักที่มีอยู่ตลอดแม้จะถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เจ้าของความรักนั้นกลับไม่เคยสนใจเลย ลิ้นเล็กดูดดุนลิ้นสากซ้ำไปซ้ำมา ปากอิ่มดูดเม้มปากหนาเบาบ้างแรงบ้างสลับไปตามอารมณ์ ตั้งใจปรนเปรอให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ เพราะนี่คือคุณคริสของเขา คือคุณคริสที่เขารัก ไม่ใช่ปีศาจตนนั้น ชานยอลเอียงคอเพื่อสะดวกในการแลกรสจูบให้กับอีกฝ่าย มือเรียวละจากลำคอไปปลดกระดุมเสื้อร่างสูง ลูบไล้ สัมผัสแผงอกอย่างเบามือ ราวกับว่าหากออกแรงมากกว่านี้ร่างตรงหน้าจะเจ็บ ไม่เพียงแต่ชานยอลที่พยายามปลดอาภรณ์อีกฝ่ายออก คริสก็เช่นกัน ร่างสูงค่อยๆถอดเสื้อผ้าชานยอลออก เขี่ยมันไปให้พ้นทาง มือใหญ่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของชานยอลอย่างหลุ่มหลง แม้ร่างนี้จะบอบช้ำ จะบุบสลายสักแค่ไหน แต่สำหรับเขามันคือร่างที่สวยงามที่สุด หอมหวานจนทำให้เขาคลั่งไคล้ ร่างสูงถอนจูบออกมาก่อนจะจูบลงไปซ้ำๆ ปากหนาดูดเม้มปากอิ่มอยู่หลายทีกว่าจะยอมละออกมา เขาเลื่อนใบหน้ามายังลำคออีกฝ่ายดูดเม้มจนเกิดรอยแดงไปทั่ว ลิ้นร้อนลากช้าๆไปตามร่องกระดูกไหปราร้า ชานยอลถดคอหนีด้วยความจักจี๊ คริสส่งเสียงหัวเราะในลำคอ ลิ้นหนาลากต่ำลงมาที่ยอดอกที่กำลังชูชัน แตะสัมผัสเบาๆ ก่อนจะครอบครองมันด้วยริมฝีปาก กดจูบซ้ำๆจนมันแดง ยอดอกอีกข้างถูกจับจองด้วยมือใหญ่ สะกิดเบาๆพอให้รู้สึกเสียวซ่าน



“อื้มมมม.......อื้ออออ.....คะ คุณ คริส” ชานยอลครางเสียงกระเซ่า ปรือตามองคริสด้วยสายตาที่หวานเชื่อมเพราะแรงราคะ ผมจะจดจำสีหน้าของคุณคริส จะบันทึกการกระทำของคุณเอาไว้ทั้งหมด เพราะ ณ ตอนนี้ ผู้ชายที่อยู่หน้าผมคนนี้ คือคุณคริสที่ผมรัก......



พอคริสดูดดุนชิมรสอีกข้างเสร็จก็หันมาหาอีกข้าง ทำอยู่อย่างนั้นจนพอใจก่อนจะละใบหน้าออกมา ลิ้นสากลากเลื้อยเลียวนรอบสะดือสวยจนชานยอลเกร็งตัวด้วยเพราะรู้สึกโหวงๆที่ท้อง คริสจูบซับสะดือซ้ำไปซ้ำมา ใบหน้าค่อยๆเคลื่อนลงต่ำลงมาเรื่อยๆถึงท้องน้อย ลากลิ้นลงมาจนถึงขนอ่อน มือใหญ่สาละวนยุ่งอยู่กับการลูบไล้โคนขา บ้างแกล้งเกลี่ยมือให้โดนส่วนอ่อนไหวสร้างความเสียวซ่านให้กับเจ้าของมัน ร่างโปร่งบิดตัวเล็กน้อย คริสไล้นิ้วแกร่งไปตามความยาวของมัน มือใหญ่เข้ากอบกุมมันเอาไว้ทั้งหมดก่อนจะรูดขึ้นลงช้าๆ แปรเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น เร็วขึ้น เรียกเสียงครางจากชานยอลได้เป็นอย่างดี


“อ๊า.......อ่า.......อื้มมม......คะ คุณคริส ....อ้า” ชานยอลแหงนหน้ามองเพดานด้วยความเสียวซ่าน ตากลมหวานฉ่ำไปด้วยแรงอารมณ์ ปากอิ่มที่บวมเจ่อจากการจูบเผยอออก เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าตัวเองตอนนี้เย้ายวนคริสแค่ไหน ร่างสูงเร่งจังหวะรูดมือให้เร็วขึ้นไปอีกเมื่อเห็นปฎิกริยาคนใต้ร่าง


“อื้อออ..............อ๊า.............คุณคริส........อื้มม........คริส....คริส ” ผมครางออกมาเสียงดังอย่างไม่อาย รู้ดีที่สุดว่าคนตรงหน้านี้ชอบอะไร เขาปรารถนาที่จะให้ผมร้องหา เรียกชื่อเขาดังๆ ผมอยากจะทำให้เขามีความสุขที่สุด แม้ใจผมตอนนี้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม



ชานยอลสอดนิ้ว ขยุ้มผมคริสระบายอารมณ์ความเสียวซ่านที่กำลังปะทุไปทั่วร่าง ร่างสูงเร่งรูดมือขึ้นลงจนร่างโปร่งถึงฝั่งฝัน น้ำสีขาวเปรอะเปื้อนเต็มมือแกร่ง คริสเตรียมจะเลียชิมความหอมหวานอีกฝ่าย แต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยคำพูดของคนใต้ร่าง



“มันสกปรก ผมกินเอง” ชานยอลยกยิ้มน้อยๆก่อนจะเลียชิมคราบน้ำที่เปรอะเปื้อนตามนิ้วมืออีกคนช้าๆ ลิ้นเล็กดูดเลียทำความสะอาดง่ามน้ำทุกนิ้วจนมือคริสสะอาดก่อนจะประกบปากจูบอีกฝ่าย ดูดเม้มปากหนาซ้ำๆ มือไม้ออกแรงดันผลักให้ร่างสูงล้มตัวลงนอนกับเตียง ขาเรียวค่อยๆพาตัวเองขึ้นไปนั่งทับสะโพกคนข้างใต้ บดเบียดสะโพกเข้าหาเสียจนส่วนอ่อนไหวทั้งสองเสียดสีกัน มือใหญ่บีบเฟ้นบั้นท้ายคนด้านบนเสียจนมันเป็นรอยมือ ร่างสูงส่งเสียงครางในลำคอเมื่อชานยอลจงใจเพิ่มแรงบดเบียดเข้ามาอีก



“อื้มมม.........อ่า............” ชานยอลละริมฝีปากออกมา เขาส่งยิ้มสดใสให้กับคริสอีกครั้ง แล้วก้มลงใช้ปากครอบครองส่วนอ่อนไหวของคริส




ผมใช้ลิ้นเลียชิมความเป็นชายของคุณคริส ดูดเม้มส่วนปลายซ้ำๆ ใช้ฟันขบเบาๆไปทั่ว คุณคริสครางต่ำในลำคอ ผมพยายามจะมอบความสุขให้กับร่างนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ อยากให้เขา คุณคริสคนที่ผมรักมีความสุขที่สุด เพราะวันนี้คือคืนวันทำพันธสัญญา ถึงแม้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่ผมทั้งสุขและเศร้าที่สุดก็ตาม แต่เพื่อเขา ผมจะยอมทำ.........ทุกอย่าง



ผมปรนเปรอความเป็นชายของคุณคริสด้วยปากอยู่อย่างนั้น บรรจงลากลิ้นเลียไปตามความยาวช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาเร็วขึ้น เมื่อคุณคริสเริ่มส่งเสียงครางต่ำในลำคอ เรียวลิ้นผมสัมผัสเข้ากับหยาดน้ำที่เริ่มปริ่มตรงส่วนปลาย ผมจงใจดูดดุนลิ้นตรงนั้นซ้ำๆ



“อื้มมม....” คุณคริสครางต่ำ มือใหญ่กดศรีษะผมให้ก้มลงเพื่อจะได้ครอบครองส่วนนั้นมากขึ้น ผมส่งมือเข้าไปเคล้นคลึงก้อนกลมทั้งสองตรงหว่างขาคุณคริส เรียวลิ้นก็ดูดเลียส่วนอ่อนไหวนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนคุณคริสปลดปล่อยในปากผม ผมใช้ลิ้นตระหวัดกลืนน้ำสีขาวเข้าไปจนหมด เลียน้ำบางส่วนที่เลอะอยู่ที่มุมปากช้าๆ ดวงตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าสุขสมของคุณคริส น้ำตาเจ้ากรรมมันพาลจะไหลเอาเสียดื้อๆ อย่าร้องไห้ชานยอล อย่าร้อง.....



ชานยอลเม้มปากจนรู้สึกเจ็บ หากแต่ก็ยังบดเบียดสะโพกเข้าหาคริสมากขึ้น ร่างสูงเลื่อนมือไปลูบไล้สะโพกมน ตั้งท่าจะพลิกตัวอีกคนให้กลับมาอยู่ใต้ร่าง ชานยอลหยุดมืออีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยประโยคไม่คาดฝันออกมา


“ผม จะทำเอง” ร่างสูงเลิกคิ้ว มองชานยอลด้วยความแปลกใจ ชานยอลปฎิเสธที่จะไขความข้องใจ มือเรียวจับส่วนอ่อนไหวรูดขึ้นลงจนมันแข็งขืน สะโพกมนยกขึ้นก่อนจะค่อยๆกดรับส่วนอ่อนไหวนั้นเข้ามาทั้งหมด ชานยอลกัดปากจนห่อเลือด คิ้วสวยขมวดเข้าหากันจนมันแทบจะเป็นเส้นเดียวกัน หยาดน้ำใสเอ่อล้นที่หางตา ร่างโปร่งกลั้นใจหลับตาแน่นก่อนจะค่อยๆขยับสะโพกขึ้นลง ชานยอลขยับสะโพกต่อไปอย่างเชื่องช้า เพราะถูกความเจ็บปวดจากช่องทางที่เสียดสีขัดขวาง คริสครางต่ำในลำคอ เขาต้องการมากกว่านี้ อยากจะหลอมรวมกับร่างนี้แทบขาดใจ ร่างสูงพลิกตัวชานยอลลงมาอยู่ใต้ร่าง สอดใส่เข้าออกด้วยจังหวะที่ต่างชั้นจากชานยอลมากนัก ใบหน้าติดหวานนิ้วหน้าด้วยความเจ็บปวด มือเรียวจิกผ้าห่มแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว คริสยังคงเร่งจังหวะการสอดใส่ต่อไปเรื่อยโดยไม่สนใจคนใต้ร่าง ปากหนาประกบปากจูบปากอิ่ม ลิ้นร้อนสอดเข้าไปสำรวจความหอมหวานภายใน ตักตวงอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่ช่วงล่างก็สอดใส่ไปเรื่อยๆ ตาคมเหลือบหันไปมองพระจันทร์ที่สาดส่องแสงเหลืองนวลเข้ามาในห้อง คริสยกยิ้มเป็นนัยอะไรบางอย่าง เขาเร่งจังหวะสอดใส่ให้เร็วและแรงกว่าเดิม ทุกครั้งที่เข้าไปก็เน้นกระแทกให้โดนจุดกระสันซ้ำๆ



“อ๊า อ้า........อื้อออ.....คุณ.....คริส......คริส......อ๊า....คริส......” เผยอปาก ตาหยาดที่เยิ้มไปด้วยแรงราคะหันมาสบเข้ากับตาคม คริสกระแทกซ้ำเข้าไปที่จุดๆเดิม ร่างโปร่งยิ่งเผลอไผลไปกับอารมณ์ดิบที่เริ่มไต่ขึ้นสูงเรื่อยๆ โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าผ้าพันแผลที่มือตัวเองได้ถูกคริสดึงออกไปแล้ว นิ้วแกร่งลูบไล้ไปตามปากแผลเบาๆ ระวังไม่ให้ชานยอลรู้ เขาค่อยๆใช้เล็บกรีดฝ่ามือตัวเองจนเลือดสีเข้มไหลซึมออกมา
หนึ่งโลหิตจำต้องหลั่งเพื่อบวงสรวง



“อ๊ะ คุณคริส” ดวงตาชานยอลฉายแววตกใจ คริสแค่ยกยิ้มให้แต่ไม่ใส่ใจจะอธิบายอะไร ร่างสูงถอนความเป็นชายออกมาทั้งหมดก่อนจะโถมกลับเข้าไปจนสุด ด้วยแรงที่ถาโถมเข้ามาทำให้ชานยอลเผลอบีบฝ่ามือแรงขึ้น เลือดสีสดไหลเข้าผสมผสานกันเป็นสีเดียว ร่างโปร่งเริ่มนิ่วหนาด้วยความเจ็บปวด หากแต่บ่อเกิดของมันเกิดจากความปวดแสบปวดร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างหลังจากที่เลือดคริสไหลเข้ามา ชานยอลบิดตัวเร่าๆทั้งเสียวซ่านจากช่วงล่างและความเจ็บปวดจากเลือดที่ไหลเวียนในกาย ยิ่งคริสกระแทกกระทั้นเข้ามา เขาก็ยิ่งทุรนทุราย ปวดแสบปวดร้อนไปทั่วตัวโดยเฉพาะบริเวณสะโพก รู้สึกราวกับร่างจะแตกสลายเสียให้ได้



คริสดูดเม้มปากชานยอลซ้ำๆจนบวมเจ่อ ช่วงล่างกระแทกถี่ๆอีกไม่กี่ทีชานยอลก็ถึงฝั่งฝัน ร่างโปร่งปลดปล่อยเลอะเต็มที่นอนไปหมด ในขณะที่คริสเองก็ปลดปล่อยในตัวเขา หยาดน้ำตาเอ่อไหลออกมาจากหางตาของชานยอลช้าๆ ไม่แน่ใจนักว่าเพราะสุขสมหรือเสียใจจนต้องหลังน้ำตา ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วทั้งร่าง ปวดแสบปวดร้อนราวกับนอนอยู่ในกองไฟ ชานยอลกัดปากด้วยความเจ็บปวดจนเลือดไหลซิบๆ คริสก้มลงจูบซับเลือดเบาๆ ลิ้นสากลากเลียชิมเลือดจนพอใจ



“มันแค่เริ่มเท่านั้น ชานยอล มันแค่เริ่ม” คริสยกยิ้ม จูบซับปากอิ่มซ้ำๆ ออกแรงบีบมือให้เลือดไหลมากขึ้น ชานยอลบิดเร่าๆด้วยความทรมาน


“คุณทำอะไร อึก” ร้องไม่ออก ชานยอลเจ็บปวดจนร้องไม่ออก คริสยกยิ้มร้ายแต่เพียงชั่วครู่เดียวรอยยิ้มนั้นก็จางหายไป


“อ่า ฉันต้องเป็นคุณคริสที่ใจดีสินะ............ทนเจ็บหน่อยนะเด็กน้อยของฉัน” ก้มลงประทับจูบอย่างอ่อนโยนที่หน้าผากคนใต้ร่าง นิ้วแกร่งเกลี่ยไปตามผิวแก้มเนียนที่ชื่นเหงื่อและน้ำตา ปากหนาประทับจูบที่หน้าผากอีกครั้ง จากนั้นไล่พรมจูบมาที่จมูกรั้น ริมฝีปากอิ่ม ดูดเม้มเบาๆไปมาหลายๆทีจนพอใจจึงละออกมา ปากหนาลากเฉียดไปตามผิวกายที่แดงระเรื่อของชานยอล ประทับจูบซ้ำๆบริเวณสะโพก ส่วนที่ชานยอลเจ็บปวดมากที่สุด รอยสัญลักษณ์บางอย่างค่อยๆปรากฎขึ้น ยิ่งรอยนั้นชัดมากขึ้นเท่าไร ความเจ็บปวดที่แล่นภายในร่างชานยอลก็ยิ่งโหมกระหน่ำราวกับไฟที่ได้แหล่งเชื้อเพลิงมากขึ้น


“อึก ผม เจ็บ” หยาดน้ำใสไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของชานยอล ร่างโปร่งแอ่นตัว บิดเร่าไปมาด้วยความทรมาน


“นิดเดียว ชานยอล อีกแค่นิดเดียว” ตาคมเฉมองพระจันทร์ด้านนอก มืดจันทร์ที่เคยสีเหลืองเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด แสงนวลค่อยๆมืดสลัวลง คริสหันหน้ากลับมาสนใจชานยอล เมื่อเห็น



http://0ctogus.forumth.com

2Part 11  Innocent sorrow Empty Re: Part 11 Innocent sorrow Fri Dec 14, 2012 1:31 pm

0ctogus

0ctogus
Admin

ร่างโปร่งบิดเร่ารุนแรงกว่าเดิม ตาคมเลื่อนมามองสะโพกมน ยกยิ้มสุขสมเมื่อเห็นรอยสัญลักษณ์เริ่มเด่นชัด ร่างสูงก้มลงลากลิ้นเลียรอยนั้นช้าๆ พรมจูบเบาๆซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะละริมฝีปากออกมา ตาคมมองสัญลักษณ์รูปมังกรที่ปรากฎบนสะโพกชานยอล ชานยอลไล่สายตามองตามอีกฝ่าย ร่างโปร่งหลั่งน้ำตาออกมาอย่าช่วยไม่ได้ พยายามแล้วที่จะห้ามมัน แต่สุดท้ายก็ไร้ทางยับยั้ง แม้เขาจะไม่รู้ความสำคัญของสัญลักษณ์นั่น แต่อะไรที่ทำให้คริสยิ้มอย่างนั้นได้มันก็คงจะไม่ส่งผลดีกับเขาแน่นอน



มันทรมานอย่างนี้ใช่มั้ย คุณถึงได้อยากจะทำมัน เพราะมันโหดร้ายอย่างนี้ใช่มั้ยคุณถึงได้ยอมเป็นคุณคริสใจดีให้ผม เพื่อให้ผมยอมจำนนแต่โดยดี หัวใจคุณทำด้วยอะไรคุณคริส


“จบแค่นี้ใช่มั้ย” ชานยอลเอ่ยเสียงอ่อนแรง เหนื่อยล้าทั้งแรงกายแรงใจ เจ็บปวดหัวใจจนไร้ซึ่งหนทางจะต่อกร


“ทนอีกหน่อยสิ เด็กน้อยของฉัน ไม่อยากมีความสุขด้วยกันหรอ หืม” ร่างสูงยกยิ้ม รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นแต่เขารู้ดีว่ามันคือการเสแสร้ง ชานยอลมองลึกเข้าไปในดวงตาคม สายตาที่เขามองคริสเต็มไปด้วยความผิดหวัง และตัดพ้อ หยาดน้ำใสปริ่มล้นอยู่ที่ขอบตา ปากหน้าจูบซับที่ดวงตากลม หยาดน้ำใสค่อยๆไหลอาบแก้มเนียน


“ทนเจ็บอีกนิดแล้วเราจะได้มีความสุขไปด้วยกัน.....ตลอดไป” สำหรับชานยอลแค่นี้มันก็เจ็บมากพอแล้ว เจ็บมากจนเกินจะทานทน ทั้งถูกหักหลัง ย่ำยีความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของเขา ทั้งถูกทำร้าย ดูถูก ต่างๆนานา



ตาคมหันกลับไปมองพระจันทร์เมื่อแสงสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของแสงจันทร์ที่มืดสลัวลงเรื่อยๆ ร่างสูงยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก ชานยอลที่มองตามไปได้แต่ร่ำไห้ให้กับตัวเองในใจ คริสหันหน้ากลับมาคลอเคลียกับปากอิ่ม ดูดเม้มซ้ำๆจนบวมเจ่อ ปากอิ่มตอบสนองต่อสัมผัสนั้นอย่างอ่อนโยน หากแต่แฝงไปด้วยความทุกข์ระทม และแน่นอนคริสไม่คิดจะใส่ใจอะไรกับมัน เขามีเรื่องที่ต้องทำมากกว่ามานั่งสนใจความรู้สึกชานยอล ร่างสูงช้อนตัวอุ้มชานยอล พาออกไปที่ระเบียงด้านนอก ร่างโปร่งที่ไม่ทันตั้งตัว เผลอโอบคอคริสไว้เป็นหลักยึด เลือดสีสดค่อยๆไหลจากฝ่ามือ เปรอะเปื้อนลำคออีกฝ่าย คริสหลับตาข่มสัณชาตญาณดิบในตัว มันยากที่จะห้ามใจไม่ให้ดูดเลือดชานยอล คริสจัดแจงท่าให้ชานยอลนั่งหันหลังให้เขา ก่อนจะซ้อนตัวเองเขาข้างหลังจนแผนอกแนบเนื้อเข้ากับแผนหลังอีกฝ่าย ร่างโปร่งสั่นน้อยๆเมื่อสายลมเย็นยะเยือกเข้าปะทะเนื้อหนังมังสาที่ไร้เครื่องปกปิด กลีบกุหลาบมากมายถูกพัดปลิวมาตกอยู่รอบคนทั้งคู่ ชานยอลมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ในขณะที่คริสมองว่ามันช่างสวยงามเหลือเกิน ร่างสูงโอบชานยอลไว้หลวมๆพอให้อีกฝ่ายรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง ปากหนาจูบซับที่หลังใบหูไล่ลงมาเรื่อยๆถึงลำคอ ชานยอลเม้มปากแน่น หลับตา พยายามข่มอารมณ์เศร้าในใจ



คริสเลื่อนมือไปลูบไล้สะโพกมนเรื่อยไปถึงหว่างขา เคล้าคลึงส่วนอ่อนไหวชานยอลอย่างเบามือ ร่างโปร่งเชิดหน้าขึ้น อ้าปากเผยอออกด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ปากหนาจูบขมับร่างด้านหน้าอย่างอ่อนโยน ตาคมจับจ้องดวงจันทร์ที่เริ่มขุ่นมัวด้วยเพราะถูกเงาของโลกทามทับ ร่างสูงเลื่อนมือข้างที่ถูกกรีดขึ้นเหนือใบหน้าของชานยอล ให้หยดเลือดสีเข้มไหลเข้าไปในปากอิ่ม ชานยอลขมวดคิ้วเป็นปมเพราะรสชาติของเลือดที่ขมปร่าไปทั่วทั้งปาก พยายามเบือนหน้าหนีแต่ก็ถูกคริสรั้งไว้เสียก่อน ชานยอลจำต้องกลืนเลือดอีกฝ่ายเข้าไป ความเจ็บปวดร้อนรุ่มแผ่กระจายไปทั่วร่าง รุนแรงยิ่งกว่าครั้งก่อนมากนัก ร่างโปร่งหอบหายใจราวกับจะขาดใจ คริสเบี่ยงเบนความสนใจชานยอลโดยการปลุกอารมณ์ดิบ มือใหญ่จับส่วนอ่อนไหวนั้นรูดขึ้นรูดลง ชานยอลบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่านและความทรมานภายในร่าง คริสเร่งรูดมือให้เร็วขึ้นไปอีกเรียกเสียงครางกระเซ่าจากร่างด้านหน้าได้เป็นอย่างดี


“อื้อออ.....อ๊ะ......อ๊า คริส ผม.....ร้อน” คริสกดจูบที่ขมับก่อนจะเอ่ยตอบ



“นี่ยังไม่ใช่ของจริงเลยนะเด็กน้อย” ลิ้นร้อนเลียติ่งหูชานยอลเบาๆ




แต่ละครั้งที่ชานยอลดื่มเลือดเข้าไป แผ่นหลังเนียนก็จะปรากฎลายเส้นอะไรบางอย่างขึ้นมา ทุกครั้งที่มันเด่นชัดเลือดสีสดก็จะค่อยๆไหลออกมา ชานยอลนั่งหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด


“ฮึก.....ผมเจ็บ”


“อีกนิดสิ ทนอีกนิดสิ” คริสเร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้นไปอีก


“อ๊ะ......อ้า........คุณ....คริส” ทั้งเสียวทั้งเจ็บปวดกับการร่วมรักที่เคล้าไปด้วยน้ำตา



แสงจันทร์เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนๆ ปากหนายกยิ้มเมื่อเห็นว่าพระจันทร์เปลี่ยนเป็นสีส้ม อีกไม่นานเขาก็จะทำพันธสัญญาเสร็จ อีกไม่นานเท่านั้น ร่างนี้จะตกเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ



ชานยอลอีกไม่นาน อีกไม่นานเท่านั้น นายก็จะตกเป็นทาสรักของฉันไปตลอดกาล


คริสกำมือแน่นให้เลือดยิ่งหลั่งรินมากขึ้น เขาไม่แม้แต่จะสนใจความรู้สึกเจ็บปวดสักนิด ร่างสูงจ่อมือให้เลือดไหลรินเข้าไปในโพรงปากชานยอล ในขณะที่มืออีกข้างก็เร่งจังหวะรูดขึ้นลงเร็วขึ้นเรื่อยๆจนน้ำเริ่มปริ่มที่ส่วนปลาย


“อ้า…..อื้ออออ.....คุณคริส.....อ๊า......ไม่ไหว......คริส” ชานยอลครางเสียงกระเซ่าฟังไม่เป็นศัพท์ คริสเร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้น มืออีกข้างก็กำแน่นให้เลือดยิ่งไหลเข้าไปในปากชานยอล ลายเส้นมากมายปรากฎบนแผ่นหลังเนียน มองคร่าวๆเห็นคล้ายรูปมังกรที่ปรากฎบนสะโพกชานยอล


ตาคมมองไปยังพระจันทร์ที่สีเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ จากส้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน อีกไม่นานเท่าไรมันก็คงจะกลายเป็นสีแดงฉานทั้งดวง คริสยกยิ้ม ลิ้นร้อนเลียติ่งหูช้าๆพร้อมกับ ปากหนาก็ดูดเม้มมันเบาๆ ในขณะที่มือใหญ่ก็ยังคงรูดขึ้นรูดลงอยู่อย่างนั้น ยิ่งพระจันทร์แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานมากเท่าไร สายลมเย็นยะเยือกก็ยิ่งโหมพัดเข้าใส่มากขึ้นเรื่อยๆ กลีบกุหลาบปลิวไหวอยู่ท่ามกลางสายลมนั่น กลิ่นหอมรัญจวนของมันคละคลุ้งไปกับกลิ่นคราวของเลือด คริสเร่งจังหวะการรูดมือเร็วขึ้นอีก นิ้วแกร่งลูบไล้ริมฝีปากชานยอลไปมาอย่างลุ่มหลง ตาคมมองรวดลายที่ปรากฎบนแผ่นหลังของชานยอล ลายเส้นทั้งหมดเกือบครบแล้ว ขาดอีกเพียงไม่กี่เส้นเท่านั้นมันก็จะเสร็จสมบูรณ์
อีกไม่นานแล้วชานยอล อีกไม่นาน


“อ๊า…..คุณคริส.....อื้อออ......หลังผม ......อึก......เจ็บ” ชานยอลครางออกมาด้วยความเสียวซ่านผสมปนไปกับความเจ็บปวดจากแผ่นหลัง ตากลมเริ่มหลั่งน้ำตามากขึ้น คริสไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ตาคมยังคงจับจ้องไปที่ดวงจันทร์ นิ้วแกร่งไล่นิ้ววนที่ส่วนปลาย รูดขึ้นรูดลงจนชานยอลใกล้ปลดปล่อย


“อื้มมม......อื้อออ.......ผม.....ไม่ไหว.....อ๊า....คริส.....คริส” ชานยอลครางเสียงลั่น


ในที่สุดเวลาที่คริสรอคอยมันก็มาถึง ชานยอลปลดปล่อยออกมาในเวลาเดียวกับที่ลายเส้นบนแผ่นหลังก็วาดครบเสร็จสมบูรณ์ เผยให้เห็นรูปสัญลักษณ์มังกรที่สยายปีกเต็มแผ่นหลังเนียน ทุกลายเส้นถูกอาบไปด้วยเลือดสีสด ตาคมหันกลับไปมองยังดวงจันทร์ ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฎคือดวงจันทร์สีเลือดที่ส่องแสงส้มสลัวอาบไล้ร่างของชานยอล ร่างโปร่งนอนหอบแฮ่กราวกับจะขาดใจ ทั้งเหนื่อยล้าทั้งเจ็บปวดที่แผ่นหลัง


บัดนี้วังวนชีวิตของชานยอลได้ถูกหยุดไว้เพียงเท่านี้ จากนี้เขาจะไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว หากแต่ก็ไม่ใช่ก็ภูตผีเช่นกัน วิญญาณของเขาจะดำรงอยู่ในวังวนแห่งความตายอันเป็นนิรันดร์ และจะกลายเป็นทาสรักของคริสอย่างนี้ไปชั่วกัปชั่วกัลย์



หนึ่งชีพต้องสังเวยสู่ความตาย หนึ่งวิญญาณต้องถูกพันธนาการ

เราทั้งสองจักผูกมัดติดตรึงกันไปชั่วกัปชั่วกัลย์


“ยินดีด้วยกับการเป็นทาสรักของฉันไปตลอดกาล” เขายกยิ้มก่อนจะลากลิ้นเลียติ่งหูชานยอล ร่างโปร่งฟังได้เพียงเท่านั้นแล้วก็สลบไปในอ้อมกอดของอีกฝ่าย.........


---------------------------------------------------------------------

http://0ctogus.forumth.com

3Part 11  Innocent sorrow Empty Re: Part 11 Innocent sorrow Tue Dec 18, 2012 11:32 pm

plengklui



รักเขาเข้าให้แล้ว ลดาของฉัน TT
โถ ที่รัก คำพูดนี้ทำให้แม่ยกเจ็บจิ๊ดๆ
'เป็นคุณคริสที่ใจดีของผมได้มั๊ย' T__T

คือถ้าเข้าไปในเรื่องได้ ขอเอาถาดไปตีหัวอิพี่คริสสักที่นึงเห๊อะ!!
น้องบอกว่าเจ็บ ไอ้พี่บ้านี่ก็ยัง!! ฮึ่ยยยย T^T
โคตรสงสารหยอยเลยว่ะ ต่อจากนี้จะเป็นยังไงเนี่ย

#คู่ฮุนฮานอย่ามัวแต่สวีทหวาน เน่ฮุนมาช่วยพี่เอ๋อแกด้วยย

4Part 11  Innocent sorrow Empty Re: Part 11 Innocent sorrow Fri Dec 21, 2012 10:32 am

bew


ผู้มาเยือน

บีบคั้นอารมณ์ที่สวด สงสารน้องยอลหว่ะ
รักแวมไพร์เย็นชาที่ไม่มีหัวใจแบบนี้
ถ่อออออออน้ำตาไหลพราก T__________T
ฮุนฮานนิ่ก็หวานไม่เกรงใจใจใครเรย

5Part 11  Innocent sorrow Empty Re: Part 11 Innocent sorrow Wed Mar 13, 2013 11:40 am

KellySc



ไม่อยากอ่านไปถึงตอนจบเลย TT เศร้า 555 อ่านแล้วร้องไห้ตาม ~ ชานยอลไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้เลยเธอ

6Part 11  Innocent sorrow Empty Re: Part 11 Innocent sorrow Tue Mar 26, 2013 8:02 pm

pachaam_

pachaam_

คนละโหมดกะฮุนฮันเลยอ่ากรี๊ด T _ T
คู่นั้นสวีทแบบมดท่วมจอ แต่คริสยอลมันแบบ
โอยยย พี่คริสนี่โครตตอแหลสร้างภาพน่าตบมาก
5555555555

https://twitter.com/_5Qwc

7Part 11  Innocent sorrow Empty Re: Part 11 Innocent sorrow Wed Apr 10, 2013 2:01 am

rquniqa



เกลียดอีพี่คริสอ่ะ
เอาแบบละมุนๆเหมือนฮุนฮานได้ป่าว
สงสารยอลมากเลยรักคริสมาขนาดนี้
แต่อิพี่คริสกลับทำกับยอลแบบนี้
อ่านแล้วจะร้องไห้

8Part 11  Innocent sorrow Empty Re: Part 11 Innocent sorrow Wed Jun 26, 2013 10:43 pm

panaddaj



"ยินดีด้วยกับการเป็นทาสรักของฉันไปตลอดกาล"
จะยินดีด้วยดีไหมเนี่ย

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ