0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

Part 16 the last memory

5 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1Part 16  the last memory Empty Part 16 the last memory Fri Dec 14, 2012 9:34 am

0ctogus

0ctogus
Admin




ขาเรียวพาร่างตัวเองเดินมาตามขั้นบันใด หยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นเทากับคริสนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เซฮุนที่เดินตามหลังมากับลู่ฮาน ออกแรงบีบมือให้กำลังใจเล็กน้อย ลู่ฮานหันมาสบตาเขาอย่างเห็นใจ พยายามอ้าปากบอกให้ชานยอลขึ้นไปกินข้าวข้างบนก็ได้ มันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรที่จะไปนั่งร่วมกับสองคนนั้น เพราะสถานการณ์ที่ย่ำแย่อยู่ตอนนี้บวกกับนิสัยชอบเยาะเย้ย และแสดงความเหนือกว่าของเทา แล้วไหนจะนิสัยขี้ประชดของคริสอีกล่ะ การไปนั่งอยู่ตรงนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการไปนั่งให้สองคนนั้นสาดน้ำกรดรดบนหัวใจ ให้มันช้ำ พุพอง และทรมาน รวดร้าวเจียนตายขึ้นไปอีก



ร่างโปร่งฉีกยิ้มเล็กน้อย พยายามบ่งบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากมาย ขายาวเดินตามสองคนนั้นไป ที่นั่งทุกที่ถูกจับจองไว้เกือบหมดแล้ว เหลือเก้าอี้ตัวที่อยู่ริมขวาของคริสตัวเดียวเท่านั้นที่ยังว่างอยู่ นั่นว่าแย่แล้ว แต่อะไรก็ไม่เลวร้ายไปกว่าการที่หวงจื้อเทา ศัตรูรักตัวฉกาจ นั่งอยู่ตรงข้าม.....







ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับ ทำให้ชานยอลจำต้องนั่งเก้าอี้ตัวนั่น เทาฉีกยิ้มร้ายที่เห็นดวงตากลมโตแดงก่ำเพราะการร้องไห้ แต่แวบต่อมาเขาก็วางมาดสง่า พยายามข่มชานยอลให้จมดิน ถ้าเขาคิดจะแสดงออกแบบนี้เร็วสักหน่อย เอาให้ทันช่วงที่ชานยอลอ่อนแอ รับรองว่ามันจะส่งผลต่อจิตใจของชานยอลแน่ แต่ตอนนี้ทุกๆอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ชานยอลไม่ได้สนใจ ไม่สิ ร่างโปร่งไม่แม้แต่จะมองด้วยซ้ำ..... ตามกลมจับจ้องไปที่จานอาหารหลากชนิดมากมาย นึกแปลกใจที่วันนี้เจ้าของบ้านเกิดคึกขึ้นมานั่งทานอาหารร่วมกันพร้อมหน้า เขาคิดไปถึงสาเหตุที่คงไม่พ้นเรื่องการหาเรื่องเพื่อที่จะเยาะเย้ยเขา แวบแรกชานยอลยอมรับว่าตัวเองแอบเจ็บปวดแปลบที่หัวใจ แต่เมื่อคิดถึงห้วงเวลาที่อยู่ในห้องน้ำ เขาก็เปลี่ยนความคิด เอาสิ ถ้าจะเยาะเย้ยกัน ก็จัดมาเลย แล้วมาดูกันว่าใครกันแน่ที่จะจมดิน!!!





ร่างโปร่งไม่ได้สนใจสายตางุงงงเต็มไปด้วยคำถามของไค เซฮุน และลู่ฮาน ทั้งสามประหลาดใจไม่น้อยที่ชานยอลไม่ได้มีอาการซึมหรือเจ็บปวดใดๆ ในแววตาของร่างโปร่งไม่ฉายแม้แต่เศษเสี้ยวของความเสียใจเลยด้วยซ้ำ ตากลมกลับเอาแต่จับจ้อง เพ่งสมาธิไปที่ไก่ที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร ราวกับรอให้มีใครสักคนลุกขึ้นมาสั่งว่า เฮ้ ชานยอล นายลงมือเลย




เมื่อได้เวลาคุณยายแม่บ้านก็ลุกขึ้นมาตักข้าวให้ ในขณะที่คยองซูก็ทำหน้าที่ช่วยเสิร์ฟน้ำ ชานยอลก้มศรีษะเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงน่ารำคาญกระทบหู



“พวกมนุษย์ชั้นต่ำ” เทาแสยะยิ้ม มองคุณยายและคยองซูอย่างดูถูก ไคหันขวับไปมองกลับอย่างไม่พอใจ



“ทำไมล่ะ หรือฉันพูดไม่จริง อ้อ แต่ลืมไป นายคงจะไม่คิดแบบฉันสินะ เพราะว่าวันๆเอาแต่ขลุกอยู่กับเพื่อนมนุษย์ กลางคืนก็มั่วอยู่กับไอ้มนุษย์คนใช้นั่น นายคงจะชินกับการสุงสิงกับพวก.........” ร่างบางยิ้มร้าย เว้นจังหวะการพูดเล็กน้อย ตาเฉี่ยวหันไปจับจ้องใบหน้านวลของชานยอล ก่อนจะเอ่ยต่อ จงใจพูดให้กระแทกร่างโปร่งโดยตรง



“คงชินกับการอยู่กับสิ่งมีชีวิตต่ำๆแล้วล่ะสินะ”



“เฮ้ย มากไปป่ะวะ ” เซฮุนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ลู่ฮานพยายามดึงให้ร่างขาวกลับไปนั่งตามเดิม แม้ใจจริงเขาจะนึกหมั่นไส้ และโกรธเทาที่พูดจาแบบนั้น แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสำแดงฝีปากด่าทอกัน ปกติเทาก็ไม่ใช่คนประเภทที่ควรจะยุ่งด้วยอยู่แล้ว ยิ่งโดยเฉพาะเวลาที่มีคริสคอยหนุนหลังด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ว่าร่างบางจะถูกหรือผิด เขาก็สามารถทำให้มันถูกได้เสมอ ผลสุดท้ายคนที่จะซวยก็จะมีแต่เซฮุนเท่านั้นแหละ



“ทำไม แทงใจรึไง เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ”



“แม่ง ปากหรอวะ เออต่ำแล้วไง ต่ำแล้วไปหนักส่วนไหนของแกวะ”



“โอเซฮุน!!!” ไคกับลู่ฮานรีบปรามเซฮุน ไม่งั้นอีกไม่ช้าคงได้มีเรื่องกันมากกว่าจะมานั่งกินข้าว



“ทำไมอะ ก็มันด่าอยู่นี่หว่า มันไม่ได้ด่าแค่ฉันนี่ เล่นด่าพี่ยอล แล้วก็คยองซู จะให้นิ่งได้ไงวะ”



“ฮ่ะฮ่ะ ทำตัวสมกับเป็นพวกชั้นต่ำจริงๆเนอะ นี่ ดูอย่างชานยอลสิ ไม่เห็นจะเถียงอะไร ไม่รู้ว่าโง่จนไม่เข้าใจ หรือว่ายอมรับว่าตัวเองเป็นพวกต่ำๆ ที่วันๆเอาแต่ทำตัวทุเรศๆ อย่างเช่น เที่ยวไปนอนแหกข้างให้คนอื่น พอตัวจริงเขามาทวงคืนก็แกล้งทำเป็นร้องไห้ บีบน้ำตา น่าสมเพชจังเนอะชานยอล” ร่างโปร่งที่กำลังตั้งท่าจะจิ้มไก่ถึงกับชะงักไป มือเรียวกำช้อนส้อมในมือแน่นจนข้อนิ้วซีด



“ใช่ครับ น่าสมเพช......” ชานยอลเว้นจังหวะการพูด เขาหันไปมองหน้าเทานิ่ง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างออกมา



“แต่ผมสมเพชไอ้พวกที่คิดว่าตัวเองสูงส่งแต่ทำตัวเยี่ยงคนใจต่ำนะครับ คนพวกนี้เนี่ย วันๆนี่นะครับเอาแต่พูดจาให้ร้ายคนอื่น พูดอะไรก็ไม่ค่อยคิดว่าจริงเท็จมันเป็นยังไง จะว่าไปแย่ยิ่งกว่าพวกผมอีกนะครับ คุณเทาเทา อ้อๆ แล้วอีกอย่างนะครับคุณเทาเทา ผมน่ะไม่ได้โง่นะครับ เรียนนี่ก็ได้ A ได้ B ตลอดนะครับ” ร่างโปร่งยิ้มสดใส ในขณะที่จื้อเทานั่งโกรธจนตัวสั่น ตาเฉี่ยวจับจ้องใบหน้านวลอย่างเคียดแค้น เจ็บใจที่โดนตอกกลับมาทั้งๆที่ตัวเองตั้งใจจะให้ชานยอลเจ็บปวด



“คุณเทามีอะไรจะพูดอีกมั้ยครับ ถ้าไม่มี ผมขอกินข้าวแล้วนะครับ บอกตรงๆว่าคุณทำให้ผมเสียเวลากินข้าวมามากแล้วจริงๆ” ทั้งโต๊ะตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างอึ้งกับคำพูดของชานยอล ไม่มีใครหยิบช้อนส้อมตักอาหาร มีเพียงร่างโปร่งเท่านั่น ที่ดูจะสนอกสนใจน้องไก่ตรงหน้าเป็นพิเศษ ชานยอลมองไค สลับกับ เซฮุนและลู่ฮานที่กำลังมองหน้าเขานิ่งด้วยความงุงงง



“อ่าว ไม่กินอะ เย็นแล้วไม่อร่อยนะเว่ย” ไม่พูดเปล่า แต่ดันชูส้อมที่จิ้มไก่ไปมากลางอากาศ ก่อนปากบางจะงับมันเข้าไป เคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เมื่อหมด มือเรียวก็เอื้อมหมายจะไปจิ้มชิ้นใหม่อีก แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อถูกมือบางของเทาบีบอย่างแรง จนส้อมหล่นลงบนโต๊ะ





“โอ๊ย จะทำอะไรผม”



“ปากดีนักนะชานยอล นายกล้าดียังไงมากวนประสาทคนอย่างฉัน”



“ก็ไม่ได้กล้าดีอาครับ แค่พูดตามจริง อ้อ คุณเทาเทาครับ ที่คุณทำอยู่นี่.....เขาเรียกว่าสูงหรือต่ำหรอครับ ถ้าพวกชนชั้นสูงเขาทำกันอย่างนี้นะ ผมคงเป็นไม่ได้อาครับ เพราะผมไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้” ชานยอลยิ้มกว้างตามแบบฉบับของตัวเอง หันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ ปล่อยให้เทานั่งตัวสั่นด้วยความโกรธ หันขวับไปขอความช่วยเหลือจากคริส ร่างสูงแค่นั่งนิ่งสงบ ไม่เอ่ยหรือแสดงท่าทีอะไรออกมา ในหัวของเขากำลังประมวลผลความเปลี่ยนแปลงของชานยอล







ร่างโปร่งตัวต้นเหตุไม่ได้สนใจอะไร เอาแต่นั่งจิ้มโน่น จิ้มนี่ไปเรื่อย เซฮุนที่นั่งข้างๆหันมากระซิบกระซาบ ถามว่าเขาเป็นอะไร ทำไมจู่ๆถึงได้กวนประสาท ปากหาเรื่องอย่างนี้ ชานยอลแค่ยิ้มกว้างและตอบกลับไปว่าเป็นปาร์คชานยอล ร่างขาวทำหน้างงงวย หันไปขอความคิดเห็นจากไค ร่างเข้มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พยักหน้า ยิ้มอย่างเข้าใจความหมายที่ชานยอลบอก รุ่นพี่ของเขาคนนี้กำลังจะกลับไปเป็นปาร์คชานยอลคนเดิมแล้วสินะ ที่นี้ล่ะเจ๋ง คงได้เวลาที่จะได้ดูโชว์อะไรสนุกๆ แล้วล่ะสินะ เซฮุนที่ยังติดอยู่ในเขาวงกตแห่งความงงงวยหันไปหาลู่ฮานที่นั่งอยู่ข้างๆ ร่างเล็กหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกระซิบอธิบาย นี่เขาเพิ่งรู้จักชานยอลนะ เขายังพอรู้เลยว่าชานยอลกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมเซฮุนถึงได้เข้าใจอะไรยากเย็นอย่างนี้นะ คิดแล้วลู่ฮานกลุ้มใจ






เซฮุนที่เพิ่งเข้าใจเรื่องเข้าใจราวกู่ร้องดีใจอยู่ในอก ในที่สุดพี่ชายเขาก็ตาสว่างสักที คราวนี้ละ โอเซฮุนคนนี้จะผสมลงโลง ช่วยกันก่อสงครามประสาทเลยคอยดู ไคชี้หน้า มองตาเพื่อนอย่างรู้ทัน เซฮุนยักคิ้วกลับพร้อมกับยกยิ้มกวนประสาทตามสไตล์ของตัวเอง




ได้เวลาสนุกแล้วสิพวกเรา







ด้านเทาที่ถูกร่างสูงเมิน ก็ยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเก่า ตาเฉี่ยวจมองใบหน้านวลอย่างเคียดแค้น คริสไม่เคยทำอย่างนี้กับเขามาก่อน ร่างสูงเปลี่ยนไปก็เพราะชานยอล!!! เทาเกลียดผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า ทุกๆอย่างที่ประกอบเป็นร่างนี้ขัดหูขัดตาเขาไปหมด ยิ่งรู้ว่าคริสไปเอามันมาเป็นของเล่นด้วยแล้วยิ่งเกลียด ไอ้มนุษย์ชั้นต่ำ!!! ไอ้มนุษย์ต่ำต้อยที่กล้าดีมาแย่งของของเขาไป เขาจะไม่มีวันปล่อยให้มันหยิ่งผยอง ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างนี้ได้หรอก มันจะต้องชดใช้ ต้องได้รับการสั่งสอนให้มันหลาบใจ จะได้รู้ซะบ้างว่าใครกันแน่ที่เหนือกว่า !!!







จื้อเทานั่งนิ่งไปสักพัก ก่อนจะหยิบส้อมขึ้นมาแย่งจิ้มอาหารที่ชานยอลกำลังจะจิ้มไป ร่างบางยกยิ้มร้ายก่อนจะหันไปป้อนคริส ชานยอลมองตามชิ้นอาหารของตัวเองไป แวบเดียวเท่านั้นที่ดวงตาฉายแววเศร้าสร้อย แต่สุดท้ายความสดใส ร่าเริงก็เข้าครอบคลุมเหมือนเดิม ร่างโปร่งหันหน้ากลับมามองอาหารต่อ กวาดตามองหาของกินไปทั่วๆ ฉับพลันนั้นดวงตาก็ระยิบเป็นประกายเหมือนคนเกิดไอเดียอะไรบางอย่าง มือเรียวเอื้อมไปจิ้มชิ้นเนื้อตรงหน้าพร้อมกับชูมันขึ้นกลางอากาศ






“เฮ้ย เห็นนี่แล้วนึกถึงไอ้แบคเลยว่ะ จำได้ป่ะ ที่มันนั่งทำสเต็กเนื้อให้พวกเรากินอะ แล้วมันรสชาติแย่ยิ่งกว่าพี่ทำอะ” ชานยอลหัวเราะร่า เซฮุนกับไคจ้องหน้ากันนิ่ง นึกประมวลผลตามคำพูดของรุ่นพี่ ไอ้แบคเนี่ยนะจะทำ อย่าว่าแต่สเต็กเล้ย เข้าครัวยังไม่เคย ไอ้เรื่องที่ชานยอลพูดมานี่เรื่องโกหกแล้วล่ะ แต่จะทำเพื่ออะไรนี่ทั้งสองก็ยังไม่เข้าใจ รู้แค่ตอนนี้อะไรตามน้ำได้ก็ตามไปก่อน เดี๋ยวโชว์มันจะสะดุด หมดสนุกกันพอดี



“เออใช่พี่ ผมจำได้ วันนั้นกลับบ้านไปผมท้องเสียเลยพี่” ไคว่าแกล้งทำหน้าระรื่นเต็มที่



“ฮ่าๆ นายแม่งพลาดว่ะ ฉันนี่ไม่แม้แต่จะแตะ กลัว” เซฮุนว่า



“เขาทำอาหารแย่ขนาดนั้นเลยหรอ” ลู่ฮานที่นั่งงงอยู่นานเอ่ยถามขึ้น เขาอยากมีส่วนร่วมกับบทสนทนานี้บ้าง ไม่ใช่นั่งเงียบงงงวยไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือน......คริสกับเทา



“แย่มากเลยครับคุณลู่ฮาน แย่ชนิดที่.....ชาตินี้อย่าทำอีกเลยนะครับ” ชานยอลอธิบายไปหัวเราะไป มือเรียวก็เอื้อมไปจิ้มอาหารมาที่จาน ร่างสูงที่จับจ้องทุกการกระทำของร่างโปร่ง นึกแปลกใจไม่น้อยที่ชานยอลไม่ได้สนใจหรือหึงหวงอะไรเลยที่เทาเอาอกเอาใจเขา เขารู้สึกหงุดหงิดที่ร่างโปร่งเอาแต่หันไปมองคนอื่นๆ ไม่สนใจเขาเลยสักนิด ทำไมเด็กน้อยที่แสนอ่อนแอของเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังนั่งเศร้าโศก ร้องไห้เพราะเขามีคนอื่นอยู่เลยไม่ใช่หรอ แล้วทำไมตอนนี้.......



“เฮ้ย ไอ้ฮุนจำตอนนั้นได้ป่ะที่แบคมันลองทำกับข้าวแล้วเอาไปให้รุ่นพี่ซูโฮอะ” เสียงทุ้มเอ่ย ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม



“เออพี่ โคตรฮาอะครั้งนั้น ลู่ฮาน รู้มั้ยว่าพี่ซูโฮท้องเสีย ไปมหาลัยฯไม่ได้เลยวันนึงเต็มๆ” ร่างขาวหันมาพูดกับลู่ฮาน พยายามดึงให้ร่างเล็กมีส่วนร่วมกับบทสนทนาของพวกเขา



“ระหว่างชานยอลกับแบคคนนั้น ใครทำเก่งกว่า”



“อื้อหือ......ตอบยาก” ทั้งไคกับเซฮุนพูดออกมาพร้อมกัน ส่งผลให้ชานยอลหันไปตีแขนดังป๊าบๆ



“โหย ไรวะ ต้องฉันดิ่” ทั้งสี่คนหัวเราะออกมาพร้อมกัน ปล่อยให้คริสและเทานั่งนิ่งเพราะขาดประสบการณ์ร่วมกับคนทั้งสี่ทำให้ทั้งสองได้แต่นั่งเฉยๆ เหมือนถูกตัดขาดไปอีกโลกหนึ่ง







จื้อเทาหงุดหงิด ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ เมื่อการกระทำของตัวเองที่หวังจะใช้เป็นอาวุธ ทำร้ายจิตใจชานยอลแต่ดันถูกเป้าหมายเมินเฉยใส่ซะนี่ ร่างบางจงใจใช้ช้อนส้อมกระแทกจานแรงๆ ทำให้เกิดเสียง เพื่อเรียกร้องความสนใจ ทั้งสี่คนหันมามอง เทาตีหน้านิ่งไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะจิ้มเนื้อปลาเข้าปากคริส จงใจให้เลอะปากหนาออกมาเล็กน้อย เขาแสร้งทำเป็นตกอกตกใจ มือบางหยิบผ้ากันเปื้อน ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ ค่อยๆบรรจงเช็ดปากให้อีกฝ่าย ตลอดเวลาที่เทาหมกหมุ่นอยู่กับการเช็ดปาก ตาคมหันไปจับจ้องดูปฎิกริยาของชานยอล






เมื่อเห็นว่าร่างโปร่งแค่จ้องนิ่งๆ ไม่ได้แสดงท่าทีหึงหวงอะไร ร่างสูงก็นึกยั่วะ อยากแกล้งชานยอล มือใหญ่เลื่อนไปจับมือบาง ออกแรงบีบเบาๆ ก่อนจะแลบลิ้นเลียนิ้วเทาช้าๆ จงใจหันองศาให้ชานยอลเห็นเพียงแค่คนเดียว ร่างโปร่งที่นั่งจ้องอยู่ถึงกับหน้าชาทำอะไรไม่ถูก แวบหนึ่งตากลมเจือไปด้วยความเสียใจ แวบความคิดต่อมาสั่งการให้เขาหยุดอ่อนแอซะ ไม่ ชานยอล นายต้องไม่เสียใจ อย่าอ่อนแออีก หยุดได้แล้ว พอแล้ว!!! ร่างโปร่งหลับตานิ่ง พยายามข่มอารมณ์ ก่อนจะหันกลับไปคุยกับคนอื่นๆต่อ แสร้งทำเป็นไม่สนใจ คริสชักสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างเทาออกจากตัว ตาคมจับจ้องใบหน้านวลด้วยความไม่พอใจ เด็กน้อยของเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้ ไม่เคยเมินเฉย หรือไม่สนใจเขามาก่อน เขาสังเกตุว่าชานยอลเปลี่ยนแปลงไปได้ตั้งแต่ยอมลงมาทานข้าวแล้ว พอมาถึงก็โดนเทาแขวะ ตอนแรกเขาคิดว่าชานยอลอาจจะร้องไห้ หรือเดินหนีขึ้นบ้าน แต่เปล่าเลย นอกจากจะไม่หนีแล้ว ชานยอลกลับสวนกลับไปด้วยคำพูดที่แรงกว่า จากนั้นก็กลับไปกินข้าวตามเดิม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั้นยังไม่สร้างความประหลาดใจให้เขามากเท่ากับการที่ชานยอลสามารถคุยเล่น เฮฮากับคนอื่นได้อย่างหน้าตาเฉย ไม่ได้มีท่าทีเศร้าสร้อย หรือเสียใจอะไรเลยกับการกระทำของเขาเมื่อบ่ายเลย






ตาคมเฝ้ามองดูทุกการกระทำ ทุกคำพูดของชานยอล ร่างโปร่งยังคงทำหน้าระรื่น นั่งทานนั่งคุย หัวเราะต่อกระซิกกับทุกคนโดยเฉพาะคิมจงอิน ไอ้เด็กเวรที่เขาไม่ชอบ!!! นึกฉุนในใจว่าทำไมต้องเป็นไอ้เด็กนี่อีกแล้ว มือใหญ่ออกแรงบีบช้อนส้อมระบายความโกรธเมื่อเห็นชานยอลหันไปยิ้มให้ไค ใครสั่งให้นายยิ้มให้มัน ปาร์คชานยอล!!!



“พี่คริส อาหารพวกนี้ไม่อร่อยเลยเนอะ เลือดยังอร่อยซะกว่า” เทาพูดขัดขึ้นมา พยายามเรียกร้องความสนใจจากร่างสูง.......และรวมถึงคนทั้งโต๊ะด้วย ชานยอลและคนอื่นหันกลับมามองเล็กน้อย ยังไม่ทันที่ทั้งสี่จะหันกลับไป ร่างบางก็พูดขัดขึ้นก่อน



“โดยเฉพาะเลือดมนุษย์ พี่คริส แล้วที่พี่เลี้ยงพวกมันไว้ เพราะจะได้กินเลือดง่ายๆสินะ แบบที่ค่อยๆกินทีละนิดแล้วก็รอมันตาย เฮ้อ ชานยอลนายมีค่าแค่นี้เองหรอเนี้ย” เทาจงใจหันหน้าไปหาชานยอล



“ตอแหล!”



“พอๆไอ้ฮุน” ชานยอลรีบห้าม ยิ่งเราอารมณ์เสียเท่าไร โมโหเท่าไร มันก็จะยิ่งเข้าทางคนคนนี้ ทางเดียวที่จะชนะได้ก็แค่นิ่งแล้วตอกกลับไปด้วยคำพูดที่เจ็บแสบกว่าเท่านั้น



“คุณเทาเทาครับ คุณก็ยังเห็นว่าผมยังปกติดีอยู่ไม่ใช่หรอครับ ไม่ได้เจ็บป่วยขาดเลือดปางตาย บางทีนะครับคุณเทาเทา คนของคุณอาจจะติดใจเลือดผม แล้วเลี้ยงตลอดไปเลยก็ได้ ใครจะรู้” ไค เซฮุน ลู่ฮาน คุณยายแม่บ้าน และคยองซูที่ยืนอยู่ใกล้ๆถึงกับยิ้มสะใจในคำพูดของชานยอล ต้องอย่างนี้สิ ตอกกลับไปซะบ้าง ให้คนนิสัยแย่ๆหน้าชาไปบ้าง





เทาได้แต่นั่งตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธแค้น ปาร์คชานยอล มันจะมากไปแล้ว มันจะมากไปแล้ว คอยดูนะ จื้อเทาคนนี้จะเอาคืนสักวัน จะทำให้เจ็บแสบยิ่งกว่าที่นายทำไว้กับฉัน ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้พวกชั้นต่ำ ไอ้พวกไร้ค่า!!!





ชานยอลเลิกสนใจจะต่อปากต่อคำต่อ ร่างโปร่งหันกลับไปพูดคุยเล่นเฮฮา สนุกสนานกับเพื่อนต่อ ปล่อยให้เทานั่งคับแค้นต่อไป ร่างบางทนต่อไปได้ไม่นานนักก็ลุกขึ้นยื่นเต็มความสูง ก่อนจะเอ่ยออกมา



“พี่คริส ฉันอยากขึ้นห้องแล้ว”



“มีขาก็เดินเองดิ่วะ” เซฮุนลอบพูดเบาๆ คริสนั่งนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ เขาอยากรู้นักว่าถ้าเขาขึ้นห้องไปกับเทา ชานยอลจะทำหน้ายังไง จะนิ่งได้อย่างนี้จริงหรอ เด็กน้อยของฉัน นายจะทนได้จริงๆน่ะหรอ



ร่างสูงลุกขึ้นยืน ตั้งท่าจะเดินขึ้นไปข้างบน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นชานยอลทำหน้ายิ้มระรื่น ตักไส้กรอกให้ไค

“อ่ะ ตักให้ เห็นจ้องอยู่นานละ”



“ขอบคุณพี่ เฮ้ยพี่ ปากเลอะ”



“ไหนๆ” ชานยอลหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาเช็ดมั่วๆรอบปากอิ่ม แต่มันก็ไม่โดนที่เลอะเสียที ไคที่นึกรำคาญเอื้อมมือไปเช็ดปากให้ การกระทำทั้งหมดเล่นเอาคริสโกรธเลือดขึ้นหน้า





คิมจงอิน นายมีสิทธิอะไร มีสิทธิอะไร!!!





“ชานยอล ขึ้นห้องกับฉัน เดี๋ยวนี้” ร่างสูงกระชากแขนชานยอลจนร่างโปร่งเซถลาไปตามแรงดึง



“โอ๊ย อะไรของคุณเนี่ย ผมจะกินข้าว ปล่อย”



“ขึ้นห้อง จะกินอะไรนักหนา”



“พี่คริส!!!” เทาแผดเสียง ตาเฉี่ยวมองมือหนาที่จับข้อมือชานยอล ร่างบางรีบเดินเข้ามากระชากออก ชานยอลชักสีหน้าเล็กน้อย นึกหงุดหงิดใจที่นั่งกินข้าวอยู่ดีๆ ก็มีปีศาจสองตัวมาอาละวาดใส่เขา คนหนึ่งก็จะให้ไปด้วย อีกคนก็ไล่เขา ร่างโปร่งนึกบ่นประปอดกระแปดในใจไปเรื่อย ระหว่างที่กำลังบ่นจู่ๆความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในสมอง.....ไล่งั้นหรอ ไล่หรอ หึหึ มาดูละกันว่าจะไล่ได้มั้ย

“คุณคริส จะให้ผมขึ้นห้องแล้วหรอครับ” ร่างโปร่งถามเสียงอ่อน



“ใช่!!! ขึ้นห้องเดี๋ยวนี้!”



“โหย แต่ว่าผมยังกินไม่อิ่นเลยนะ คุณคริสอยากจะกินผมแล้วหรอครับ รอหน่อยไม่ได้หรอ” ชานยอลแกล้งพูดเสียงออดอ้อน ทำหน้าน่าสงสารเต็มที่ มือเรียวทั้งสองจับมือของร่างสูง ออกแรงเขย่าเล็กน้อยเป็นเชิงขอร้องให้คริสยอมใจดีกับเขา คริสผงะไปเล็กน้อยที่เห็นท่าทางของชานยอล



“ปาร์คชานยอล!!! ” จื้อเทาเรียกชานยอลด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ตากลมหันมามองก่อนจะหันกลับไปส่งสายตาออดอ้อนร่างสูงต่อ



“พี่คริส พาเทาขึ้นห้อง!” เอาสิ่ ตะโกนเลยๆ แล้วมาดูกันว่าใครจะชนะ จื้อเทา



“เฮ้ยพี่ยอล ปล่อยพวกเขาไปเหอะ อย่ารบกวนเลย เดี๋ยวคืนนี้พี่มานอนห้องผมก็ได้ เตียง…..กว้าง” ลู่ฮานตกใจตาแทบถล่นเมื่อได้ยินไคพูดอย่างนั้น ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะกล้าพูดจากวนประสาทคริส ทำไมวันนี้ถึงได้พูดอย่างนั้นออกมา ทั้งๆที่ก็รู้ดีอยู่ว่าคริสจะโมโห ไม่กลัวจะถูกอาละวาดอีกหรือยังไงกัน



“ไอ้ไค พูดอะไรไปเนี่ย” ร่างเล็กถามเสียงค่อย ไคแค่ยักคิ้วพร้อมกับอ้าปากพูดแบบไม่มีเสียงว่า คอยดูละกันพี่ ร่างเข้มยกยิ้ม



“ชานยอล ขึ้นห้อง!!!” แล้วก็ได้ผล คริสลากชานยอลขึ้นบันใดไปอย่างรวดเร็ว จื้อเทาได้แต่ยืนมองตัวสั่น โกรธแค้นที่ตัวเองกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้



“อุ่ย ดูเหมือนคุณคริสเขาจะควงผิดคนเนอะ” เซฮุนพูดลอยๆแกล้งเหลือบมองร่างบางเล็กน้อย เทากำมือแน่นจนข้อนิ้วซีด รีบชักเท้าเดินกลับขึ้นห้องตัวเองไปอย่างอารมณ์เสีย



“ฮ่ะ ฮ่ะ สะใจว่ะแม่ง เป็นไงพี่ลู่ฮาน แผนผม เจ๋งป่ะล่ะ ไอ้เทาถึงกับหน้าแหก” ไคระเบิดหัวเราะออกมา



“นี่ไค หันไปดูหน้าคนโน่นหน่อยสิ นายยังจะหัวเราะออกมั้ย” ลู่ฮานพยักเพยิดหน้าไปทางคยองซูที่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่



“อุ่ย งานงอกเลยเรา” ไครีบเดินไปหาอีกฝ่าย เอ่ยง้อเล็กน้อยก่อนจะพากันหนีขึ้นห้องไป ทิ้งให้เซฮุนกับลู่ฮานนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกันสองคน



“ดูเหมือนว่าเราจะเหลือกันอยู่แค่นี้”



“ดีดิ ทำไรจะได้ไม่ต้องเกรงใจ” เซฮุนกันมายิ้มกรุ่มกริ่ม



“คุณยายอยู่ด้วย เห็นมั้ยไอ้เด็กกวนประสาท!!!”



“โหหห เดี๋ยวนี้ทะลึ่งนะเนี่ย ยังไม่ทันจะบอกว่าจะทำอะไรเล้ย”



“โอเซฮุน”



“ครับบบบ”



“กวนนักน้า!!!”



“กวนวันละนิดจิตใจแส่ม”



“หยุดเล่นมุข4Dแบบนี้สักทีเถอะ” ลู่ฮานส่ายหน้าเอือมระอา



“ทำไรผิดอะ” เซฮุนชี้หน้าตัวเอง ทำหน้างงงวยเต็มที แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นจากลู่ฮานและคุณยายแม่บ้าน.....


คริสกระแทกปิดประตูจนเกิดเสียงดัง ชานยอลที่โดนเหวี่ยงเข้ามาในห้อง นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดที่ถูกบีบข้อมือแรงๆ มือเรียวยกขึ้นลูบข้อมือตัวเองไปมา พยายามบรรเทาความเจ็บที่ตนได้รับ ร่างสูงสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ร่างโปร่งที่ไม่ทันระวังตัว มือใหญ่กระชากร่างนั่นเข้ามาใกล้ จ้องลึกไปในดวงตาอีกฝ่าย ตากลมมองกลับไป หากแต่แววตาเลื่อนลอยเหมือนคนสติหลุด ท่าทางที่แข็งกร้าว กวนประสาทเมื่อครู่มลายหายไปจนหมดสิ้น ลงเหลือไว้แต่ชานยอลที่กลายเป็นซอมบี้มีเพียงร่างกาย หากแต่ไร้หัวใจ เพราะก้อนเนื้อนั้นมันเจ็บปวดจนด้านชา ไม่อยากจะรับรู้ความรู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว

“เมื้อกี้ ข้างล่างนั่น นายเป็นบ้าอะไรของนาย!!!” คริสตะวาดใส่หน้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะยืนน้ำตาซึม ตกใจกลัวแล้วผงะถอยกรูออกไป แต่ตอนนี้ไม่ สภาพจิตใจและสมองของเขา บันทึกภาพเหล่านี้ซ้ำๆ จนมันเริ่มด้านชา.......ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอะไรอีกแล้ว


เหตุที่ทำให้ชานยอลเปลี่ยนไป ทำตัวก้าวร้าว พูดจายั่วโทสะ ดั่งเช่นที่ทำที่โต๊ะอาหาร ก็ไม่ใช่เพราะอะไร เขาเพียงแต่เล่นละคร สร้างเกราะกำบังขึ้นมาป้องกันตัวเองจากคำพูดร้ายๆของเทา แค่ไม่อยากจะอ่อนแอ หรือทำตัวน่าสมเพชอีกแล้ว พยายามจะเปลี่ยนตัวเอง ดึงเอาความกล้าหาญและหยิ่งทะนงออกมามากที่สุด ภาวนาอยู่ทุกขณะจิตให้การแสดงของตนแนบเนียน และเจ็บแสบแทงใจคนทั้งสองมากที่สุด ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี หากแต่ตอนท้ายมันก็พังทลายลงเมื่อร่างสูงยอมลุกขึ้น เตรียมจะขึ้นห้องกับเทา ใช่ มันดูไม่มีอะไร มันดูไม่ร้ายแรงพอจะทำให้คนคนหนึ่งหมดสิ้นแล้วซึ่งทุกอย่าง แต่เปล่าเลย อนุภาพของมันร้ายแรงกว่านั้นมาก ลองคิดดูสิ ในขณะที่คุณกำลังอ้อนวอนขอครั้งแล้วครั้งเล่า แทบจะสยบลงแทบเท้า เขากลับไม่เคยเหลียวแลคำขอเลยสักนิด แต่เมื่อเป็นอีกคน คนอื่นที่ดีกว่า คนอื่นที่ร้อนแรง และสนองได้ดีกว่า เขากลับ........ตอบรับโดยไม่เอ่ยขัดอะไรเลย......สักคำ


คุณเจ้าของครับ ลูกหมาตัวนี้ไม่มีค่าพอให้คุณสงสารหรือเมตตาเลยหรอ
ผมเป็นแค่หมาโง่ตัวหนึ่งที่บังเอิญเดินหลงเข้ามาในชีวิตคุณ
แล้วก็เป็นแค่ตัวแทนของคุณเทาเทา อย่างนั้นหรอครับ


ชานยอลยืนประชันหน้ากับอีกฝ่ายนิ่ง ไม่ตอบอะไรกลับไป ปล่อยให้คริสหัวเสียอยู่อย่างนั้น ร่างสูงเขย่าตัวจนร่างโปร่งเซไปตามแรง ถึงจะดุ จะด่า ตวาดเสียงดังแค่ไหน ชานยอลก็เอาแต่นิ่งไม่ตอบหรือแสดงท่าทางเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น คริสที่อดรนทนไม่ไหว ผลักร่างโปร่งจนเซไปนั่งลงกับปลายเตียง ตากลมชายตามองดูสภาพเตียงที่ยับยู่ยี่ บ่งบอกให้รู้ว่ามันผ่านศึกรักมาอย่างหนักหน่วง ฉับพลันนั้นความเจ็บแปลบก็แล่นเป็นริ้วผ่านขั้วหัวใจ กงเล็บของมันค่อยๆกรีดบาดลึกลงไปในจิตใจ หยดเลือดแห่งความโศกเศร้าหลังรินออกมาเป็นสาย หากแต่เจ้าของของมันได้แต่นั่งนิ่งตัวชา ไม่ร้องไห้ ไม่แสดงท่าทีใดๆ


มันเจ็บ เจ็บเสียจนร้องไม่ออก


เตียงที่เคยเป็นของหมาโง่ตัวนี้ ไม่สิ เขาแค่มาอาศัยนอนที่นี่เฉยๆ ไม่ได้มีค่าพอจะเป็นเจ้าของมัน วันนี้มันกลับกลายเป็นของใครอีกคน ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง คงจะชอบความร้อนแรงสินะ ถึงได้รักเขา หลงเขา ไม่เหลียวแลลูกหมาสีขาวที่แสนจืดชืดคนนี้ วันนี้เพิ่งจะเข้าใจว่าหมาโง่ตัวนี้ไม่มีทางจะได้รับความรักจากเจ้าของเลย.....ไม่มีวันเลยจริงๆ.....


ชานยอลนั่งนิ่งบนปลายเตียง ไม่เอ่ยพูดอะไรออกมา ร่างโปร่งปล่อยให้ความคิดต่างๆไหลซึมเข้ามาในหัวสมอง ราวกับคนเลื่อนลอย เสียสติ......


ใช่ครับ ผมเหมือนคนเสียสติ บางครั้งการเป็นคนบ้า วิกลจริตก็ดีกว่าการเป็นคนปกติที่ต้องแบกรับและรู้ความเป็นไปของปัญหาต่างๆในชีวิต แต่ความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าแค่อยาก แล้วจะเป็นได้

ผมปล่อยให้ความคิดต่างๆไหลนย้อนกรอกลับไปกลับมา ฉายซ้ำๆในหัวสมอง ภาพเทปความทรงจำสีจางค่อยๆฉายภาพ ตอนที่ผมเด็กยังเป็นเด็ก เด็กน้อยแก้มกลม จอมทะเล้นที่นั่งเล่นดินน้ำมันไปยิ้มไป มือเล็กๆค่อยๆหยิบเอาแท่งไม้กดลงบนก้อนดินน้ำมัน จนมันเป็นหลุม บุ๋มลงไป เด็กน้อยยิ้มกว้าง ชูดินน้ำมันไปมา แต่สักพักหนึ่งใบหน้าก็บูดบึ้ง เขาหันไปคว้าเอาก้อนน้ำมันอีกอัน ดึงบิออกมาเล็กน้อย แล้วก็โปะลงไปที่หลุมนั่น นวดคลึงจนมันกลายเป็นเนื้อเดียวกัน.....


ถ้าชีวิตของผมคือก้อนดินน้ำมัน คุณคริสก็ไม่ต่างอะไรกับแท่งไม้แท่งนั้น แท่งไม้เข้ามาทักทายก้อนดินน้ำมัน ทุกครั้งที่เราได้พบปะพูดคุยกัน แท่งไม้นั่นก็จะกดตัวเองลงบนดินน้ำมันจนเกิดเป็นหลุมขึ้นมา ทำซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนก้อนดินน้ำมันมีแต่ร่างรอยของแท่งไม้ แต่แล้ววันหนึ่งแท่งไม้แท่งนั้นก็ติดใจ อยากจะไปหาคนอื่น เขาหนีหายไป ไม่กลับมาแลเจ้าก้อนดินน้ำมันอีก ทิ้งให้เป็นหลุมอยู่อย่างนั้น.....ไม่กลับมา


ในชีวิตจริงเราไม่สามารถหาอะไรมาอุดหลุมนั้นได้ การที่คนคนหนึ่งเข้ามาเหยียบย้ำบนพื้นที่ชีวิตของเรา ก็ไม่ต่างอะไรจากการกดดินน้ำมันให้เป็นหลุม การที่เรารับเขาเข้ามาในชีวิตถือเป็นเรื่องง่าย หากแต่การอนุญาติให้เขาหายไปนี่สิที่ยากกว่า ทุกๆร่องรอยที่เขาฝากไว้ ล้วนมีที่มา มีความทรงจำ มันกดย้ำลึกลงไปในชีวิต จิตใจ และติดค้างอยู่ทุกห้วงคำนึงของเรา ผมไม่สามารถลบภาพของคุณคริสได้ ร่องรอยที่เขาทิ้งไว้ มันมีมากเหลือเกิน สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่.....เมินรอยเหล่านั้น หากแต่วันใดที่พลั้งเผลอ สุดท้ายร่องรอยพวกนั้นก็เข้าเล่นงานผมอยู่ดี.....


บางครั้งผมก็คิดอยากจะเก็บร่องรอยเหล่านั้นไว้ในใจ เก็บภาพดีๆที่ตัวเองเคยมีไว้ตรงนั้น กีดกันภัยร้ายทุกๆอย่างออกจากพื้นที่ส่วนนั้น ผมดูแลมันอยู่ได้สักพัก แต่ช่วงหลังมานี่คุณคริสกลับเข้ามาเหยียบย้ำและทำลายมันจนเสียหาย แทบไม่เหลือชิ้นดี อีกนานเท่าไรหรือ กว่าวงจรแห่งความเศร้าโศกของผมจะจบลงเสียที ผมคงทนเห็นความรักที่สวยงามของผมโดนทำลายอีกต่อไปไม่ได้แล้วล่ะครับคุณคริส ขอโทษนะครับ ถ้าในวันนี้ผมจะขอเลือกเดินหนีออกจากชีวิตของคุณ อยู่กันไปเราก็ทรมาน อยู่กันไปก็มีแต่ทำร้ายกัน สู้จากกันไปมันคงจะดีกว่า......จริงมั้ยครับคุณคริส


คุณเองก็คงจะดีใจที่ลูกหมาโง่อย่างผม ออกไปจากชีวิตเสียทีใช่มั้ยครับ จะได้ไม่มีคนมาทำให้หัวเสีย หงุดหงิดอย่างนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยเลยที่จะคิดหนีไปจากคุณ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะคิดอย่างนั้น แต่วันนี้ มันร้ายแรงเกินกว่าผมจะรับได้แล้วจริงๆ ผมคิดหาทางหนี แต่ก็หาหนทางไปต่อไม่เจอ ทุกอย่างตันไปหมด แต่แล้วเหมือนพระเจ้าก็เห็นใจผม พระองค์ดลบันดาลให้เมื่อบ่ายผมบังเอิญตื่นขึ้นมาได้ยินบทสนทนาของคุณลู่ฮานกับเซฮุนเข้า........

“ไอ้นรกเอ๊ย ทำไมวะ ทำไมพี่ชานยอลต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย”


“เบาๆสิ เดี๋ยวชานยอลตื่นขึ้นมาหรอก”

“ลู่ฮาน พาพี่เอ๋อหนีกันเถอะ ผมทนดูพี่ผมเจ็บอย่างนี้อีกไม่ไหวแล้วนะ” เซฮุนพูดอย่างเดือดดาล เจ็บใจแทนผมที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้

“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก…..” คุณลู่ฮานพูดเสียงอ่อน

“มันจะไม่มีหนทางเลยจริงๆหรอ ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของพี่ชานยอลอีกแล้วนะ” คุณลู่ฮานนิ่งเงียบไป เงียบจนผมเกือบจะเลิกแกล้งหลับ แล้วลุกขึ้นมาเสียแล้ว ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับตัวหรือทำอะไรมากกว่านั้น คุณลู่ฮานก็พูดขึ้นก่อน....

“มันก็มี....แต่ ชานยอลคงไม่ทำหรอก”

“อะไรล่ะ! บอกผมที”

“เบาๆสิ เดี๋ยวชานยอลก็ตื่นหรอก เฮ้อออ.....ไอ้วิธีทีว่านั่นมันเป็นมนตร์โบราณน่ะ คาถากีดกัน โดยคนที่จะทำจะต้องแลกสิ่งของล้ำค้าที่สุดของตัวเอง แลกกับมนตรา ผลของมนตร์นี้มันจะกีดกันคนสองคนให้อยู่ห่างออกจากกัน ไม่มีวันจะได้อยู่ใกล้กัน ถ้าเข้าใกล้กัน อีกฝ่ายคนที่ไม่ได้ทำมนตร์ก็จะเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ว่ากันว่าผิวหนังจะถูกกรีดออกเป็นริ้วๆ เลือดออกมาไม่หยุด ถ้ายังดึงดันจะเข้าใกล้อีกก็อาจถึงขั้นตายได้ เขาทำได้แค่เฝ้ามองดูเท่านั้น แต่คนที่ร่ายมนตร์นี้ได้มีไม่กี่คนหรอกนะ ตอนนี้ก็เหลืออยู่แค่คนเดียว เพราะว่ามนตร์นี้มันเป็นมนตร์โบราณ แถมยังมีผลร้ายแรงพักหลังเลยกลายเป็นมนตร์ต้องห้ามไปแล้ว”

“ผมจะบอกเรื่องนี้กับพี่ชานยอล แล้วคนที่ทำได้ นายรู้จักเขามั้ย”

“อย่าบอกเลย มันไม่คุ้มหรอก คนที่ทำได้น่ะหรอ ฉันไม่รู้ แต่ไอ้ไครู้”

“ดี! งั้นผมจะไปบอกมัน”

“เซฮุน อย่าเลย นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ ฉันกลัวชานยอลจะตื่นมาได้ยินเข้า” เซฮุนจิ๊ปากในลำคอ แต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ ผมแกล้งนอนหลับต่อไปสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นมา.....


ขอบคุณนะครับคุณลู่ฮาน ขอบคุณที่ชี้ทางให้ผม

เดิม ตอนแรกผมกลัว กลัวว่าคุณคริสจะทรมานถ้าผมทำมนตร์ไปแล้ว คุณคริสจะเข้าใกล้ผมไม่ได้ แต่ผมลืมไป ว่าเขาคงจะไม่อยากมาเล่นกับลูกหมาหลงทางอย่างผมหรอก ในเมื่อเขาได้ของใหม่ไปแล้วนี่ จริงมั้ย.....
ระหว่างที่ผมกำลังคิดนู่นคิดนี่ จู่ๆคุณคริสก็เรียกชื่อผม ผมตกใจสะดุ้งโหย่ง ก่อนจะคลุมสติแล้วขานตอบ

“มัวแต่คิดอะไรอยู่ ทำไมคิดถึงไอ้ไคมันมากนักรึไง อยากกลับลงไปหามันมั้ยล่ะ”

“เปล่า”

“เหอะ! ตอนอยู่กับมันดูนายจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับฉันนะ”

“คุณคิดอย่างนั้นหรอ”

“อย่ากวนประสาท”

“อืม” คุณคริสหันขวับมามองตาขวาง ผมทำอะไรผิดอีกแล้ว....

“นายมันขวางหูขวางตาฉันจริงๆ เคยมั้ยที่จะทำให้ฉันอารมณ์ดี” ขวางหูขวางตาหรอ.......ทนอีกหน่อยนะ ต่อไปคุณจะไม่ต้องเห็นผมอีกแล้ว

“ถ้าผมไม่อยู่ คุณจะ.....คิดถึงผมมั้ย”



แก้ไขล่าสุดโดย 0ctogus เมื่อ Fri Dec 14, 2012 1:43 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

http://0ctogus.forumth.com

2Part 16  the last memory Empty Re: Part 16 the last memory Fri Dec 14, 2012 1:43 pm

0ctogus

0ctogus
Admin


“หึ! คนอย่างฉันไม่เคยคิดถึงนาย นายไม่มีค่าพอให้ฉันใส่ใจหรอก”

“หรอครับ”

“จะถามเอาอะไร”

“คุณคริส.........ถ้าวันหนึ่งเราไม่รู้จักกัน ถ้าวันหนึ่งชีวิตคุณไม่มีผม คุณจะรู้สึกยังไงหรอครับ” คุณคริสขมวดคิ้ว ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา

“หึ.......รู้สึกดีมั้ง” ผมสัญญาครับว่าผมจะออกไปจากชีวิตคุณให้เร็วที่สุด แต่ผมขอได้มั้ย ขอผมมีภาพความทรงจำเกี่ยวกับคุณเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้ภาพนั้นเป็นภาพที่มีค่าที่สุด สวยงามที่สุดจะได้มั้ย......


คำขอสุดท้ายของเจ้าหมาโง่คนนี้ คุณจะให้มันได้มั้ยครับ


“เลิกพร่ามอะไรไร้สาระสักทีชานยอล แล้วเมื่อกี้ที่พูดยั่วฉันข้างล่างนั่น ช่วยกลับมารับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วย ” คุณคริสยกยิ้มร้าย ผลักผมลงกับเตียง เตียงที่เขาเคยทำเรื่องอย่างว่ากับใครอีกคน......


มือใหญ่ตรึงข้อมือผมไว้กับเตียง ก้มลงซุกไซร้ซอกคอ ผมไม่ขัดขืน ไม่โวยวายเหมือนครั้งก่อนๆ แต่กลับนอนนิ่ง ยอมให้เขาทำตามอำเภอใจ ปากหนาค่อยๆดูดเม้มลำคอจนขึ้นเป็นรอยจ้ำแดงๆ คมเขี้ยวแหลมค่อยๆฝังลึกเข้าไปดูดกินเลือดช้าๆ นี่อาจเป็นหยดเลือดหยดสุดท้ายแล้วที่คุณได้กินมัน คุณอาจจะไม่ชอบรสชาติของมัน แต่ผมอยากให้คุณกินมันไปให้มากพอที่คุณต้องการ ผมอาจจะมีค่าเป็นแค่อาหารของคุณ เป็นแค่ที่สนองความต้องการยามคุณเหงา แต่สำหรับผม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน ไม่ว่าคุณจะทำร้ายผมแค่ไหน แต่คุณก็ยังคงเป็นคุณคริสที่ผมรัก เป็นคนที่ผมมอบทั้งชีวิตและจิตใจให้.....

ลิ้นหนาค่อยๆลากเลียต่ำไปตามไหปราร้า มือใหญ่ปลดเปลื้องอาภรณ์ ก่อนจะเขวี้ยงออกไปให้พ้นทาง คุณคริสค่อยๆลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของผม สะกิดยอกอกที่กำลังชูชันเร็วๆ ผมหลุดเสียงครางดังออกมาให้ร่างสูงได้ยิน คุณคริสยกยิ้มร้ายตามแบบฉบับของเขา ตาคมจ้องมองไปทั่วร่างของผม จากนั้นก็ค่อยๆก้มลงเลียยอดอก อีกข้างก็สะกิดแรงบ้างเบาบ้างไปตามแรงอารมณ์ ผมเอื้อมมือขึ้นไปโอบรอบคอเขา ครางเสียงน่าเกลียดออกมาเป็นระยะๆ ยิ่งมือใหญ่ที่กำลังลูบไล้อยู่เลื่อนต่ำลงไปยังบริเวณท้องน้อย เขยิบไปเรื่อยๆจนใกล้ถึงส่วนอ่อนไหว คุณคริสค่อยๆสัมผัสส่วนนั้นช้าๆ จงใจแกล้งผม

“อื้ออ อ๊า คุณคริส” ผมครางเสียงกระเส่า ร่างกายกำลังร้องเรียกสัมผัสที่มากกว่านี้


มือใหญ่จับส่วนอ่อนไหวรูดขึ้นลงเร็วๆ ยิ่งทำให้ผมเสียวซ่านมากขึ้น รีบจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังร่างสูง คุณคริสจิ๊ย์ปากไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขายังคงสนใจกับการกลั่นแกล้งผม บางจังหวะก็รูดมือขึ้นลงเร็วๆ แต่บางจังหวะก็ชักช้าเสียจนน่าหงุดหงิด ผมแอ่นตัวเข้าหาตามความต้องการของร่างกาย ไม่ได้อยากจะเสนอตัวให้ร่างสูง คุณคริสหัวเราะเย้ยหยั่นก่อนจะเอ่ยออกมา

“ต้องการฉันมากรึไงชานยอล น่าสมเพชจริงๆ” ภาพของผมในใจคุณมันคงเป็นแค่หมาโง่ตัวหนึ่ง ที่ทำตัวน่าสมเพชไปวันๆ คุณอาจจะเบื่อ อาจจะเหนื่อยที่ต้องทนดูมัน แต่อีกไม่นานหมาโง่ๆตัวนี้ก็จะไปจากคุณแล้ว ช่วยทนอีกหน่อยนะ ช่วยอยู่กับหมาโง่ตัวนี้อีกหน่อยนะ.....


คุณคริสเริ่มเร่งจังหวะการรูดมือเร็วขึ้น จนส่วนปลายเริ่มมีน้ำไหลปริ่มออกมา เมื่อเห็นดังนั้นร่างสูงจึงรีบชักมือขึ้นลง ในที่สุดผมก็ปลดปล่อยเต็มมือของเขา คุณคริสมองมันอย่างรังเกียจ เบ้ปากไม่สบอารมณ์นิดหน่อย ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปในช่องทาง ผมข่มตาหลับแน่น สะกัดกั้นความเจ็บปวดไว้ในอก ไม่อยากจะร้องอวดครวญให้เขาต้องรำคาญ เพราะนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำให้เขามีความสุขได้ เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่ผมจะทำให้เขาได้แล้ว ผมอยากจะให้เขามีความสุขที่สุด จดจำภาพของผมว่าเป็นปาร์คชานยอล ลูกหมาสีขาวที่น่ารัก ที่รักเขามาตลอด อยากจะทำให้มันเป็นภาพที่มีค่ามากที่สุด............อย่างน้อยก็ในจิตใจของผม


คุณคริสเริ่มขยับนิ้วเข้าออก ทุกจังหวะที่ทำไปล้วนไร้ความอ่อนโยน มีแต่ความโหดร้ายป่าเถื่อน ผมร้องครางออกมาเมื่อปลายนิ้วของเขาแตะสัมผัสจุดกระสันที่เรียกความเสียวซ่านไปทั่วร่าง

“อ้า อ๊า คุณ คริส ตรงนั้น” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มดูถูก ก่อนจะสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปทีเดียวอีกสองนิ้ว ช่องทางของผมแทบปริแตก ความเจ็บจากช่วงล่างแล่นไปทั่วทั้งร่าง แม้จะทรมานจนน้ำตาแทบไหลแต่ผมก็จะไม่ร้องไห้ จะไม่เศร้าให้คนคนนี้เห็น ภาพที่เขาเห็นจะต้องเป็นภาพที่ดีที่สุด และสวยงามที่สุด


นิ้วยาวถูกชักเข้าชักออกอยู่อย่างนั้นสักพักจนช่องทางเริ่มขยายออก เตรียมพร้อมที่จะเจอสิ่งที่ใหญ่กว่า ไม่รอช้าคุณคริสสอดใส่แก่นกายเข้ามาจนสุด

“อ๊า อื้อออ อ๊ะ” คุณคริสแช่มันข้างในตัวผม ร้องซี๊ดด้วยความเสียวซ่านเพราะช่องทางด้านหลังที่กำลังคับแน่น เส้นประสาทรอบส่วนนั้นเต้นตุ๊บๆ เร่งเร้าให้ร่างสูงอยากจะขยับเร็วๆ

“ขยับเถอะ” ผมเอ่ยบอกออกมา ทั้งๆที่ช่องทางตัวเองยังไม่พร้อม แต่ผมรู้ดีว่าคุณคริสกำลังต้องการมันมากแค่ไหน ร่างสูงไม่สนใจจะเอ่ยถามหรือพูดอะไร เขาขยับแก่นกายเข้าออกเร็วๆ ทุกจังหวะที่สอดใส่ก็ร้องครางเสียงต่ำในลำคอ ใบหน้าที่กำลังสุขสมลอยเด่นอยู่ตรงหน้าผม เป็นภาพที่ผมไม่เคยได้เห็นเวลาอื่นที่เราอยู่ด้วยกัน ผมทำให้คุณมีความสุขได้แค่เวลาอย่างนี้ใช่มั้ย คุณคริสของผม ผมค่อยๆเลื่อนฝ่ามือไปแนบแก้ม เกลี่ยนิ้วเรียวไปตามดวงหน้าที่ผมรัก คลี่ยิ้มบางๆยามเมื่อใบหน้านี้กำลังมีความสุขถึงขีดสุด นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วใช่มั้ยที่ผมจะได้เห็นภาพอย่างนี้......

คุณคริสเร่งจังหวะการสอดใส่หนักหน่วงขึ้น เมื่อแรงอารมณ์ของเขาเริ่มไต่ขึ้นสูงถึงระดับต้องการที่จะปลดปล่อย มือใหญ่เลื่อนลงมาบีบเฟ้นสะโพกของผม จนมันเป็นรอยแดงไปหมด แม้จะเจ็บแต่ก็ไม่เป็นไร ผมอยากจะจดจำทุกสัมผัส ทุกสุ่มเสียง ทุกๆอย่างที่เป็นของคนคนนี้ เพราะในอนาคตผมอาจจะลืมเลือนมันไปหมดเลยก็ได้ อาจจะไม่หลงเหลือเศษเสี้ยวของเขาในหัวใจ ถ้าถึงวันนั้นผมจะทำยังไงกันนะ จะอยู่ได้มั้ยถ้าทุกพื้นที่ในสมองไม่มีภาพของเขาอีกแล้ว......


จะอยู่ได้มั้ยถ้าจดจำไม่ได้แต่ชื่อของเขา ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของของเขา ลืมว่าเขาเคยเป็นเจ้าของตัวเอง ถ้าวันหนึ่งลูกหมาตัวนี้ตื่นขึ้นมา โดยจำทางกลับบ้านไม่ได้ จำไม่ได้ว่าปลอกคอที่สวมอยู่เป็นของใคร ลูกหมาตัวนั้นจะทำยังไง แล้วเจ้าของจะไปตามลูกหมาตัวนั้นกลับมามั้ย คุณจะไปตามผมกลับมามั้ยครับคุณคริส หรือคุณจะปล่อยผมเอาไว้อย่างนั้น ให้ผมกลายเป็นหมาข้างถนนอย่างนั้นรึเปล่า.........


ผมเลื่อนนิ้วมือลูบไล้รอบดวงตาคุณคริสเบาๆ มองลึกเข้าไปในดวงตาคมที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะรัก ภาพที่สะท้อนในดวงตา เริ่มวูบไหว ขยับเขยือนเร็วขึ้น เพราะคุณคริสเร่งจังหวะสอดใส่ให้มากขึ้นไปอีก ปากหนากัดปากอย่างหักห้ามอารมณ์ เสียงทุ่มต่ำครางสุขสมในลำคอดังออกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ ผมจ้องภาพในดวงตาเขานิ่ง......


คุณคริสครับ ถ้าวันหนึ่งผมไม่อยู่ให้คุณทำอย่างนี้ ถ้าวันหนึ่งที่ว่างข้างเตียงของคุณไม่มีผมอีกแล้ว คุณจะคิดถึงผมบ้างมั้ย.........

มือใหญ่ปัดเอามือเรียวของชานยอลออกไปให้พ้นใบหน้า เขารู้สึกรำคาญมาสักพักแล้ว ไม่เข้าใจว่าร่างโปร่งจะจับมันทำไม แล้วสายตาเศร้าสร้อยแบบนั้นหมายความว่ายังไง

“น่ารำคาญ”

“ขอโทษ” คำขอโทษถูกเอ่ยออกมาจากปากอิ่ม คริสชักสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถอนแก่นกายออกมาทั้งหมดแล้วกระแทกกลับเข้าไปใหม่

เจ้าของรำคาญผมหรอครับ อีกไม่นานลูกหมาตัวนี้ก็จะไปแล้วล่ะ
.......จากนี้คุณก็ไม่ต้องรำคาญผมอีกแล้วนะ......

คุณคริสสอดใส่แก่นกายเข้าออกไปอีกสักพัก จนระดับอารมณ์ไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด ร่างสูงครางทุ้มต่ำในลำคอก่อนจะปลดปล่อยในตัวผม ในขณะที่ผมเองก็ปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องแกร่ง มือหนาหยิบทิชชู่มาปาดเอาน้ำรักออกก่อนจะปาทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ใยดี คุณรังเกียจมันหรอ.........แต่ไม่เป็นไร มันสกปรก ผมไม่อยากให้คุณต้องแปดเปื้อนเพราะตัวผม แต่สำหรับผมน่ะ ต่อให้สกปรกยิ่งกว่านี้ ผมก็ยอมแปดเปื้อนเพราะคุณได้.....


คุณคริสค่อยๆลูบไล้ไปทั่วโคนขา ผมรับรู้ได้ว่าอีกสักพักบทรักบทต่อไปก็คงจะเริ่มขึ้นอีก ผมไม่คิดจะขัดขืนอะไร รู้ดีว่าเจ้าของตัวเองนิสัยยังไง ต้องการอะไร และบางทีนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราจะได้ทำเรื่องแบบนี้ ผมเลยอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ตอนนี้ จดจำทุกอย่างๆของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้มันประทับลงไปในหัวใจของผม..............


เราสองคนเปิดฉากบทรักขึ้นมาอีกครั้ง ตลอดเวลาที่บรรเลงเพลงผมก็เอาแต่จับจ้องใบหน้า การกระทำ น้ำเสียง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขา อยากจะจำเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะบางที.......อนาคตผมอาจจะจำเรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้อีกเลย อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใคร มีความสำคัญยังไงกับตัวเอง......

หลังจากที่เราทำเรื่องนั้นเสร็จ เราทั้งคู่ก็ล้มตัวนอนลงบนเตียง หากแต่มีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หลับ ผมยังตื่น ไม่ใช่ว่าไม่เหนื่อย แต่เพราะผมหลับไม่ลง....

ผมพลิกตัวหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของคุณคริส จ้องค้างอยู่อย่างนั้น ไล่สายตามองตั้งแต่ดวงตา จมูกโด่งที่เชิดรั้น ริมฝีปากหนา ค่อยๆยื่นมือไปลูบไล้แก้มคร้าน

“คุณคริส...................” พูดไม่ออก ผมได้แต่กั้นน้ำตาเอาไว้

ดวงตาคู่นี้
จมูกจมูกนี้
ริมฝีปาก ปากนี้
ผมจะจดจำไว้ว่าครั้งครั้งหนึ่ง ลูกหมาตัวนี้ก็เคยได้สัมผัสกับสิ่งล้ำค่าเหล่านี้
ผมเบือนสายตามองไปทางอื่น เม้มปากตัวเองแน่น นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นไปสักพัก ก่อนจะพูดออกมา

“คุณคริส ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านมาคุณเคยรักผมบ้างมั้ย ไม่รู้ว่าเคยสงสารผมคนนี้บ้างมั้ย แต่สำหรับผม ผมรักคุณอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเริ่มรักตั้งแต่ตอนไหน แต่รู้อีกทีผมก็รักคุณแล้ว รักทั้งๆที่คุณเอาแต่ทำร้ายผม เอาแต่ทำให้ผมเจ็บ คุณอาจจะรำคาญผม เบื่อผม เกลียดผม แต่ผม ผม....ก็ยังรักคุณ ไม่รู้ว่าทำไมสมองของผมกลับไม่เคยจำข้อเสีย หรือเรื่องร้ายๆของคุณเลย มันเลือกจำแต่สิ่งดีๆที่คุณทำให้ผม ถึงมันจะน้อยนิดสำหรับคนอื่น แต่มันก็ยิ่งใหญ่สำหรับผม คุณคริส……………….”



“ถ้าต่อไปนี้ จะไม่มีปาร์คชานยอลคนนี้อีกแล้ว คุณจะคิดถึงผมมั้ย จะคิดถึงผม.............เหมือนที่ผมคิดถึงคุณมั้ย วันที่ไม่มีคุณผมคงจะคิดถึงคุณมากๆนะ จิตใต้สำนึกของผมคงเอาแต่จะหาคุณ..........”


“คุณคริส….....จากนี้คุณคงมีความสุขกับเขาสินะ คงไม่ต้องมาหงุดหงิด รำคาญใจเพราะผมอีกแล้ว...................ถึงอย่างนั้นแต่ผมจะขอรักคุณได้มั้ย ให้ผมรักคุณได้มั้ย ให้ลูกหมาโง่ตัวนี้รักเจ้าของของมันได้มั้ย ต่อให้มันต้องตาย มันก็ยังรักคุณ เพราะร่างกาย หัวใจ วิญญาณของมัน ทุกอย่างมันเป็นของคุณคนเดียว.......................
ผมขอโทษนะ ขอโทษที่ผมทำอย่างนี้ คุณจะไม่โกรธลูกหมาโง่ตัวนี้ใช่มั้ย แต่นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรา คุณไม่ต้องการผม แต่ผมต้องการความรักที่สวยงามของเราสองคน มันก็ถูกแล้วที่ผมจะไป”

ผมค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปประกบปากจูบคุณคริส แตะกลีบปากตัวเองลงบนกลีบปากหนา แช่อยู่อย่างนั้นสักพัก ปล่อยหยดน้ำตาให้ไหลหยดลงบนแก้มกร้านของคนที่หลับอยู่

“ผมรักคุณ” เอ่ยบอก จากนั้นก็ค่อยๆผละออกมา มองใบหน้านั้นสักพัก ก่อนจะตัดใจเดินออกจากห้องไป








“ลาก่อน คุณความรักของผม”

-------------------------------------------------------------

http://0ctogus.forumth.com

3Part 16  the last memory Empty Re: Part 16 the last memory Sun Dec 23, 2012 3:54 pm

plengklui



ง่ะ เป็นแบบนี้หรอกเหรอ TT
สุดท้ายลดาก็ต้องเจ็บอีกแล้ว

ไม่คิดว่ายอลจะกล้าพูดขนาดนั้น 555
เอาใจฉันไปเลย ยอลลดา >< สุดยอดมากลูก
ตอกจนเทาเทาหน้าหงาย ฮ่าๆ

ไคก็รับมุขได้เจ๋ง แต่อิเน่ฮุน...เออะ คำพูดแต่ละคำของแกนั้นมัน..เหมือนผญ.เค้าพูดกันเลยนะ ==
'ตอแหล' ผช.เค้าพูดกันด้วยเหรอออออ =[]= 5555

4Part 16  the last memory Empty Re: Part 16 the last memory Tue Mar 26, 2013 11:05 pm

pachaam_

pachaam_

จะดราม่าแล้ว ; _ ;
เจ็บปวดสุดๆ ลดากำลังจะไปแล้ว
พี่คริสสสสสสสส เอออไม่สนใจ T _ T
จะร้องไห้

https://twitter.com/_5Qwc

5Part 16  the last memory Empty Re: Part 16 the last memory Wed Jun 26, 2013 11:22 pm

panaddaj



ทำไมมันเศร้าขนาดนี้
ดราม่าสุด ๆ
ถ้าชานยอลหายไปจริง ๆ
ไอ้พี่คริสจะคิดถึงชานยอลไหมเนี่ย

6Part 16  the last memory Empty Re: Part 16 the last memory Sun Aug 04, 2013 11:54 pm

potter



น้องยอลจะไปไหนอ่ะ ฮือออ ใครคือคนที่ทำมนตร์ได้อ่ะ

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ