0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

I CANT BREATHE : CYEOL

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1I CANT BREATHE  :  CYEOL    Empty I CANT BREATHE : CYEOL Tue Jun 03, 2014 6:15 pm

0ctogus

0ctogus
Admin

“พี่คริส พี่คริส พี่คริส~”เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มร่างโปร่งคนหนึ่งร้องเรียกใครสักคนที่กำลังอยู่ในสวนดอกไม้เบื้องหน้า ดวงตากลมโตมองออกไปยังเบื้องหน้าด้วยแววตาซุกซน รอยยิ้มหวานแต่งแต้มอยู่บนกลีบปากของเขาเมื่อเห็นอีกคนที่ตามหา


“พี่คริส พี่คริส~”ร่างโปร่งวิ่งไปหา ก่อนจะสวมกอดร่างสูงไว้แน่น


“คิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน กว่าจะกลับมาหาผมได้นะ!!!”เสียงบ่นกระเง้ากระงอดอย่างคนขี้งอนถูกเอ่ยออกมาจากกลีบปากอิ่ม แววตาขุ่นเคืองถูกส่งไปให้อีกฝ่าย แต่ใบหน้านั้นกลับถูกมองว่าน่ารักมากกว่าจะน่ากลัวจนคนที่มองตามไปด้วยต่างก็รู้สึก….


หดหู่…


ใช่ พวกเขาหดหู่ สิ่งที่ชานยอลกอดไม่ใช่พี่คริสที่เขาเรียกหา แต่เป็นเพียงอากาศธาตุที่ร่างโปร่งจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น….พี่คริสไม่ได้มีตัวตนจริงๆ



“พี่คริสรู้มั้ยว่าผมรอพี่นานแค่ไหนอะ ผมรอพี่ทุกวันเลยนะ”ร่างโปร่งเอ่ยบอกกับอากาศที่คนปกติมองเห็น แต่สำหรับเขามันคือพี่คริส  คือผู้ชายที่เขารัก รักยิ่งกว่าอะไรในโลก รักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง…


“ชานยอล….”หนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่มองอยู่เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบาหวิว…. มันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์นั้น….


“มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานมั้ย  ไค”เพื่อนอีกคนหนึ่งพูดขึ้น ทุกครั้งที่มาเยี่ยมชานยอล เขาไม่เคยเห็นว่าร่างโปร่งจะดีขึ้นเลย…


“ฉันก็ไม่รู้ เซฮุน”  ทั้งสองถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม ก่อนจะมองดูชานยอลอยู่เงียบๆ



    ครั้งหนึ่งเพื่อนของเขาเคยเป็นคนปกติ เป็นคนน่ารัก นิสัยดี และเป็นที่รักของทุกคน แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น  วันที่พี่คริส แฟนหนุ่มของเพื่อนมาหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะบินไปต่างประเทศ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป….




   ในบรรดากลุ่มเพื่อนไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น พวกเขาเข้ามาในห้องตอนที่ทุกอย่างจบไปแล้ว วันนั้นห้องทั้งห้องเละไปหมด ข้าวของกระจัดกระจายราวกับว่ามันเคยเป็นสมรภูมิรบมาก่อน ชานยอลเอาแต่นั่งร้องไห้ที่มุมห้องแล้วพร่ำบอกอยู่อย่างเดียวว่า ไม่  ไม่นะ ทุกอย่างต้องไม่เป็นอย่างนี้ แต่พอทุกคนถามว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างโปร่งกลับตอบแค่…พี่คริส แค่นั้น แล้วก็ไม่พูดอะไรต่ออีก แล้วหลังจากนั้นอาการของชานยอลก็แย่ลงเรื่อยๆ ร่างโปร่งสร้างโลกใบเล็กๆที่มีแต่ตัวเองและคริสอยู่ในนั้น แล้วไม่ยอมเปิดให้ใครเข้าไปทำลายอีก….



“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป มันจะไม่มีอะไรดีขึ้น เราจะต้องทำอะไรสักอย่างนะ”เซฮุนพูดขึ้นขณะที่มองชานยอลกำลังพูดคุยกับคริสในจินตนาการอยู่


“ไหนๆวันนี้พี่คริสก็มาแล้ว พี่ต้องอยู่กับผมทั้งวันเลยนะ ห้ามไปไหนเด็ดขาดนะ รู้มั้ย”ชานยอลชี้นิ้วคาดโทษอีกฝ่าย ก่อนจะวิ่งจูงมือพี่คริสในจินตนาการไปนั่งที่ม้านั่ง


“เราจะทำอะไรได้ล่ะ เซฮุน ชานยอลไม่เคยยอมรับว่าตัวเองเป็นบ้าด้วยซ้ำ”


“บางที…..เราอาจจะต้องรู้สาเหตุให้ได้ก่อนมั้ยว่าวันนั้นไอ้เลวนั่นมันทำอะไรกับเพื่อนของเรา”เซฮุนพูดขึ้นอย่างเคียดแค้น ในขณะที่คนถูกถามนิ่งเงียบไม่ยอมตอบ ปล่อยให้เสียงร้องเพลงของชานยอลตอบอีกฝ่ายแทน


“นี่ผมมีเพลงจะร้องให้ฟังด้วยยยย ผมชอบมาก ผมอยากให้พี่ได้ฟังล่ะ.....

I call it magic
When I'm with you
And I just got broken~

หื้อ…ทำไม ทำไมมันเศร้า….ไม่นะ…ไม่ให้เศร้า…มันต้องไม่เศร้าสิ อยู่กับพี่คริสมันต้องไม่เศร้า” ชานยอลเถียงกับตัวเองเมื่อเพลงที่ร้องกำลังทำให้เขาเศร้า แน่นอนเขาต้องเศร้า แน่นอน เพราะเพลงที่เขาร้องอยู่ คือ…


เพลงๆเดียวกันกับที่เขาฟังซ้ำๆในวันที่คริสมาหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย….


วันนั้นไคและเซฮุนจำได้ดี เพื่อนของเขาพร่ำเพ้อสลับกับร้องไห้ โดยมีเสียงเพลงนี้คลอไปด้วยอยู่ตลอดเวลา…



“เปลี่ยนเพลงเนอะ เปลี่ยนเพลง พี่คงไม่ชอบเพลงแนวนี้ อย่างพี่ต้องฮิปฮอป~”ร่างโปร่งยิ้มร่า ก่อนจะทำบีทบ็อกเป็นจังหวะที่คริสเคยชอบ  เมื่อก่อนเซฮุนเคยชมว่ามันสนุกดี แต่วันนี้มันกลับฟังดูเศร้าเหลือเกิน


“เรื่องบางเรื่องก็อย่าไปถามหาสาเหตุดีกว่า ถ้ามันทำให้คนถูกถามต้องนึกถึงอะไรแย่ๆ”ไคพูดขึ้นเสียงเรียบ ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะเฝ้ามองดูชานยอลต่อไปเงียบๆ ร่างโปร่งร้องเพลงพร้อมกับเต้นประกอบ  จินตนาการไปว่าที่ว่างตรงม้านั่งคือพี่คริสของเขา รอยยิ้มสดใสแต่งแต้มอยู่บนใบหน้า เสียงหัวเราะดังคลอเรื่อยๆอย่างมีความสุข ภาพที่ชานยอลสร้างสวยงาม สวยจนเกินกว่าที่พวกเขาจะเข้าไปทำลาย


“ฉันว่าเรากลับกันเถอะ….”ไคพูดขึ้นทำลายความเงียบ เซฮุนนิ่งเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ


“…..วันนี้ใช่มั้ย ไค….ที่หมอนั่นกลับมา”


“….อืม   เทาบอกว่าวันนี้…”


“หึ ทำไมไม่ตกเครื่องบินตายไปวะ ไอ้ชั่วเอ๊ย  ขออย่าให้มันรู้เรื่องชานยอลเลย อย่าให้มาเจอกันเลย!!!”เซฮุนพูดอย่างหัวเสียพร้อมกับเดินไกลห่างออกไปเรื่อยๆ


“จะเจอกันได้ไง ชานยอลอยู่ในโรงพยาบาล ไม่มีทางไปเจอได้หรอก…”เสียงของไคของเบาลงเรื่อยๆ เมื่อทั้งคู่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ ชานยอลที่นั่งเล่นอยู่ที่สวนเอาแต่หัวเราะคิกคักแทบไม่รู้เลยว่ามีใครมาเยี่ยมตนเหมือนทั้งโลกของเขามีเพียงแค่พี่คริสและตัวเขาเท่านั้น นอกนั้นคืออะไร ยังไง เขาไม่เคยสน…


“พี่คริส พี่คริส พี่คริสจะกลับแล้วหรอ แต่พี่คริสเพิ่งมานะ”ร่างโปร่งถามคริสในจินตนาการ ดวงตากลมโตฉายแววเสียใจเหมือนเด็กกำลังถูกทิ้ง


“พี่ต้องไปแล้วครับ พี่ต้องไปทำงานต่อนะชานยอล”คริสที่เขาสร้างขึ้นเอ่ยตอบ ชานยอลรีบโผเข้าไปกอด


“แต่ผมไม่อยากให้พี่ไป อยู่กับผมก่อน อยู่กับผมก่อนนะ ไม่เอานะ ไม่ไป”ใบหน้านวลส่ายไปมา หยาดน้ำตาคลอหน่วงอยู่ที่ขอบตา


“ไม่ดื้อนะชานยอล เป็นเด็กดื้อพี่ไม่รักนะ”


“ไม่!! ไม่!!  พี่คริสต้องรักผมนะ!! ผม ผม ผมจะให้พี่ไปก็ได้ แต่ แต่พี่ต้องรีบกลับมานะ”


“ครับ แล้วพี่จะกลับมา รอพี่อยู่นี่นะ”คริสพูดขึ้น ก่อนจะค่อยๆเดินห่างออกไปจากเขา ชานยอลโบกมือให้ ในส่วนลึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาทิ่มแทงหัวใจของเขา ราวกับว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน  คริสหันหลังให้เขา  แล้วก็เดินออกไป แล้วหลังจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย…


“ไม่ ไม่ ไม่นะ พี่คริส พี่คริส!!!”ชานยอลกัดเล็บ ก่อนจะเริ่มมองหาคริส ร่างสูงที่จินตนาการเดินอยู่นอกรั้วกำแพงตรงหน้าชานยอล


“พี่คริส พี่คริส พี่คริสรอผมด้วย อย่าเพิ่งไป!!!”ร่างโปร่งร้องบอก ก่อนจะวิ่งถลาไปที่กำแพง แผ่นหลังของคริสที่เริ่มไกลจนสุดสายตาทำให้ชานยอลตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดมหันต์….



      ร่างโปร่งปีนกำแพงขึ้นไป แขนเรียวคว้าเอาขอบกำแพง ก่อนจะดันตัวขึ้น แล้วกระโดดมาอยู่ที่อีกฟากของกำแพง….



“พี่คริส พี่คริส!!!”เสียงทุ้มนุ่มร้องเรียกหาเมื่อมองไม่เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย ความกลัวและอ้างว้างเข้าเขย่าขวัญ


“ไม่นะ ไม่นะ พี่คริส พี่คริส อยู่ไหน พี่คริส!!!”ร่างโปร่งกอดตัวเองแน่น หันซ้ายหันขวามองหา หยาดน้ำตาเริ่มคลอหน่วงอยู่ที่ขอบตา  สายตาคนภายนอกเริ่มมองเขาราวกับตัวประหลาด


“หะ เห็น เห็น พี่คริสมั้ย เห็นพี่คริสของผมมั้ย…”ชานยอลหยิบรูปที่ขาดไปครึ่งใบเหลือแต่หน้าของคริสที่พกติดตัวไว้ตลอดเวลาขึ้นมาถามคนที่ได้สวนไปมาอย่างกล้าๆกลัวๆ เขากลัว กลัวคนพวกนั้น แต่พี่คริส พี่คริสกำลังจะหนีเขาไปแล้ว


“คนบ้า!!! แกรีบโทรแจ้งเร็ว”หญิงสาวคนหนึ่งบอกเพื่อน


“ไม่ ไม่ ไม่บ้านะ!! ไม่!!!”ชานยอลส่ายหน้าเป็นพัลวัน รีบวิ่งหนีเตลิดไปไกล  เขาไม่ได้บ้า เขาไม่ได้บ้า เขาแค่มาตามหาพี่คริส เขาไม่ได้บ้า!!!




    ร่างโปร่งรีบมองหาพี่คริสของตน หยาดน้ำตาเริ่มพรั่งพรูลงมาเป็นสาย มือเรียวเริ่มจิกทึ้งผมตัวเองด้วยความเครียดและหวาดกลัว เมื่อหันไปทางไหนก็เจอแต่คนแปลกหน้าที่มองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด ร่างโปร่งรีบออกเดินหนีไปให้ไกล กลัวว่าคนพวกนั้นจะจับเขาไปก่อนที่เขาจะเจอพี่คริส




“พี่คริส พี่คริส พี่คริสอยู่ไหน พี่คริส” ชานยอลพึมพำอย่างเศร้าสร้อย มือเรียวกอดรูปของคริสไว้แนบอกกลัวจะทำหาย  ดวงตากลมโตคอยมองหาร่างสูงราวกับเด็กที่หลงทางอยู่ในโลกที่ตัวเองไม่รู้จัก  ก่อนจะเดินตามหาอีกฝ่ายอย่างน่าสงสาร เท้าเปล่าที่เหยียบย้ำพื้นถนนร้อนระอุเริ่มพอง  เลือดค่อยๆไหลออกซิบๆ ชานยอลเจ็บ แทบจะเดินต่อไม่ไหวแล้ว แต่เขาก็ยังคงฝืน ยังคงเดินตามหาคนที่เขารัก



“พี่คริส พี่คริส…”เสียงทุ้มเอาแต่พึมพำชื่ออีกฝ่าย น้ำตาไหลอาบแก้มตลอดเวลาที่ตามหา พี่คริส พี่คริสของเขาหายไปไหน หายไปไหนอีกแล้ว จะทิ้งเขาไปอีกแล้วหรอ…


“คุณ…คุณเห็นพี่คริสมั้ย เห็นพี่คริสของผมมั้ย”ร่างโปร่งพยายามขอความช่วยเหลือจากคนอื่น รูปใบเดียวที่ถูกฉีกไปครึ่งหนึ่งเหลือแต่หน้าของคริสถูกยื่นให้กับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาดู


“คนบ้านี่!!! ฉันไม่เห็นหรอก ไปให้พ้นนะ ไอ้คนบ้า!!!”หญิงคนนั้นตวาดใส่พร้อมปัดรูปของชานยอลจนตกลงไปในน้ำ ร่างโปร่งรีบวิ่งไปเก็บ มือเรียวพยายามปัดน้ำออก ปากอิ่มพยายามเป่าให้มันแห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้


“พี่คริส พี่คริส พี่คริสไม่เป็นไรใช่มั้ย ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ฮึก….ทำไม ทำไมต้องทำร้ายพี่คริสด้วย ทำไม…”ชานยอลตัดพ้อถาม ก่อนจะกอดรูปไว้แนบอกอย่างหวงแหน แล้วค่อยๆเดินตามหาร่างสูงอีกครั้ง   ฉับพลันนั้นเขาก็ยิ้มออกเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างนั้นอยู่ที่อีกฟากของถนน


“พี่คริส !!!” ชานยอลร้องเรียก ก่อนจะวิ่งไปหา จังหวะเดียวกับที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว…


“พี่คริส  พี่คริสรอผมดะ…….”



ปรี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!   เสียงบีบแตรลากยาวกลางสี่แยก ชานยอลเบิกตาโพลง รถยนต์หรูขับพุ่งเข้ามาใส่เขาจนไม่มีเวลาหนี ร่างของชานยอลกระเด็นขึ้นไปอยู่บนกระโปรงรถ ก่อนจะกลิ้งตกลงมายังพื้นถนน เลือดสาดกระจายไปทั่ว เศษกระจกหน้าแตกละเอียดทิ่มแทงตามร่างกาย  หากแต่มือเรียวยังคงกำรูปถ่ายของคริสเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย


“มีคนถูกรถชน มีคนถูกรถชน!!!”เสียงผู้คนแถวนั้นหวีดร้องดังระงม คนขับรถรีบวิ่งลงมาดูร่างของชานยอล


“คุณ  คุณครับ!!!”ชายคนนั้นพยายามเขย่าตัวร่างโปร่งให้รู้สึกตัว ก่อนที่เสียงเปิดประตูรถจะดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อคนที่นั่งอยู่ด้านหลังเดินลงมา


“เขย่าไปก็เท่านั้นล่ะ!!! รีบโทร….”เสียงนั้นเงียบหายไป ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว


“ชานยอล….”


“ท่านครับ มีรูปของท่านด้วยครับ!!!”คนขับรถดึงรูปคริสที่เปื้อนเลือดของชานยอลขึ้นมาให้ดู  คนเป็นเจ้านายมองภาพนั้นก่อนจะรีบกดเรียกรถพยาบาล


“ขอรถพยาบาลด่วน มีคนถูกรถชนที่สี่แยกชองนัมโด”



--------------------------------------------------------



“ว่าไงนะชานยอลถูกรถชน!!!!”เซฮุนพูดอย่างตกใจเมื่อได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งจากโรงพยาบาล  ร่างสูงรีบกดวางโทรศัพท์ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากคลาสเรียน


“เซฮุนเดี๋ยว เกิดอะไรขึ้น!!!”ไคที่วิ่งตามมาด้วยร้องถามอย่างร้อนรน


“โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าชานยอลถูกรถชน!!!”


“เป็นไปได้ยังไง ชานยอลอยู่…”


“มันเป็นไปแล้ว เลิกถามแล้วรีบไปสักที!!!”ร่างสูงตัดบทก่อนจะเปิดประตูรถ พร้อมกับที่ไครีบสอดตัวนั่ง เซฮุนขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว



           ทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล ร่างสูงก็รีบวิ่งตรงไปที่ประชาสัมพันธ์ทันที ก่อนจะรีบขึ้นไปยังห้องพักผู้ป่วยของชานยอล ความเป็นห่วงทำให้พวกเขาออกวิ่งเร็วขึ้นจนเกิดเสียงดังกระทบไปทั่วทั้งโถงทางเดิน พยาบาลหลายคนมองด้วยสายตาตำหนิ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชานยอลอีกแล้ว พวกเขาออกวิ่งเร็วขึ้น ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่หน้าห้องของชานยอล….


“พี่คริส….”เซฮุนและไคเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความตกใจ คริสหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะพูดขึ้น


“ชานยอลสะ….”


“พี่มาทำอะไรที่นี้!!! พี่มายุ่งอะไรกับชานยอลอีก !!! แค่นี้เพื่อนผมยังเจ็บไม่พออีกหรอ!!!!!”เซฮุนถลาไปคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายอย่างเดือดดาล


“เซฮุน เดี๋ยว ใจเย็นๆก่อนดิวะ”ไครีบยื้อตัวเพื่อนเอาไว้


“ไม่ต้อง ไค ให้เขาทำไป”คริสพูดขึ้นเสียงเรียบ…


“เออต่อให้ไม่พูดก็จะทำ!!! พี่มายุ่งกับชานยอลอีกทำไม พี่ทำอะไรเขา!!! นี่อย่าบอกว่าพี่….คือคนที่ขับรถชนมันนะ!!!!”เซฮุนตวาดใส่หน้า


“ใช่….รถพี่ขับ…”


“พี่มันเลว!!!”เซฮุนกระแทกอีกฝ่ายเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนร่างสูงนิ่วหน้า


“เซฮุน พอก่อน ฟังพี่เขาพูดก่อน !!! ไม่ฟังแล้วมันจะรู้เรื่องกันมั้ยวะ!!!”ไคกระชากเพื่อนออกมาจากอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยถาม


“มันเกิดอะไรขึ้น ชานยอลอยู่ในโรงพยาบาลแล้วพี่ไปขับรถชนมันได้ยังไง!” ร่างสูงเอ่ยตอบเสียงเรียบ สีหน้าดูเหม่อลอยเหมือนคนเพิ่งรับรู้เรื่องกระทบกระเทือนใจมา


“ฉันไม่รู้  คนขับรถของฉันกำลังจะออกรถตอนที่ไฟเขียวขึ้น แล้วพอรถขับออกมา ชานยอลก็วิ่งตัดหน้ารถพอดี…”


“ไอ้เลว”เซฮุนยังคงสบถด่าไม่เลิก  แต่ตอนนี้คริสมีเรื่องอื่นที่ต้องกังวลมากกว่าการถูกด่า…


“แล้วชานยอลเป็นยังไงบ้าง อันตรายมากรึเปล่า”


“หัวแตก ขาหัก ซี่โครงหักทิ่มปอด นอกนั้นก็แค่แผลตามตัว”คริสเอ่ยตอบเสียงเรียบ


“สะใจดีมั้ยล่ะที่เห็นมันเป็นงี้น่ะ!!!”เซฮุนตวาดใส่ ไคกลอกตาไปมาก่อนจะลากเพื่อนเข้าไปเยี่ยมชานยอล แต่ก็ถูกขัดด้วยเสียงของคริสเสียก่อน


“ทำไมชานยอลถึงใส่ชุดโรงพยาบาลนั้น….”เซฮุนกับไคหันกลับไปมองคนถาม คริสสบตาพวกเขากลับด้วยแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด


“ตอนที่ฉันชนเขา เขาใส่ชุดโรงพยาบาลนั้น  ทำไมเขาถึงไปอยู่ที่นั่น…” คนถูกถามสบตากัน ก่อนที่เซฮุนจะเป็นฝ่ายพูดขึ้น


“มันไม่ใช่เรื่องของพี่”ร่างสูงว่า ตั้งท่าจะเดินกลับเข้าไปในห้อง เขาไม่อยากให้คริสมารับรู้อะไรทั้งนั้น ไม่อยากให้มายุ่งอะไรกับชานยอลอีกแล้ว


“มันเป็นเรื่องของฉันแน่ ถ้าฉันทำให้เขาต้องไปอยู่ที่นั้น”


“คนอย่างพี่ไม่มีความสำคัญ….”


“ใช่! ชานยอลไปอยู่ที่นั้นเพราะพี่ หลังจากเหตุการณ์นั้น ชานยอลของพวกเราก็เปลี่ยนไป”ไคพูดแทรกขึ้น เซฮุนหันขวับไปมองหน้า ในขณะที่เขา
พยายามกันคริสออกจากชานยอล แต่ไคกลับให้หมอนี่มันมายุ่งกับเพื่อนรักของพวกเขาอีกงั้นหรอ


“ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะไม่รู้เซฮุน ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ปิดไปก็เท่านั้น” ไคอธิบาย ในขณะที่คริสกลับตกอยู่ในภวังค์ ชานยอล ชานยอลเป็นบ้าเพราะเขางั้นหรอ….


“………..ชานยอล…. ชานยอลเป็นหนักแค่ไหน”


“เดี๋ยวพี่ก็รู้เอง ตอนที่เขาตื่นขึ้นมา….”ไคตอบก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของชานยอลเป็นการตัดบท ทิ้งให้คริสนั่งอยู่ด้านนอกคนเดียว  เขาไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้ เขาไม่ได้คิดว่าชานยอจะเป็นบ้า ไม่ได้อยากทำให้ความรักของพวกเขามันจบลงแบบนี้ แต่ แต่ แต่ทุกอย่างมันบีบให้เขาทำ  ให้เขาต้องบอกเลิกชานยอลในวันนั้น….


“ชานยอล พี่ขอโทษ….”



-----------------------------------------------------




        ภาพในความฝันทุกความฝันล้วนสวยงามเสมอ มันเลิศเลอ เกินจินตนาการ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ในโลกแห่งนั้นจนบางคนก็แทบไม่อยากจะออกมา....



    ภายในห้องพักของคอนโดหรูแถวย่านใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง ร่างโปร่งบางของใครคนหนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากห้องนอน ดวงตากลมโตกวาดตามองไปรอบๆราวกับกำลังหาใครบางคนอยู่ ก่อนจะแย้มยิ้มเมื่อเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังนั่งหันหลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะกินข้าว


“อ่านหนังสือพิมพ์อีกแล้ววววว~”เสียงใสดังขึ้นพร้อมสวมกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง


“ตื่นแล้วหรอชานยอล”อีกฝ่ายส่งยิ้มอบอุ่นให้พร้อมกับขโมยหอมแก้มใสไปหนึ่งฟอด ร่างโปร่งยู่ปาก แกล้งงอนอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะทรุดนั่งลงข้างๆ


“อ่านหนังสือพิมพ์อีกละ อ่านแต่อะไรก็ไม่รู้ ชอบสนใจแต่เรื่องเครียดๆ”


“อ้าว จะให้เป็นอย่างเราหรอ ชอบอ่านแต่การ์ตูน นิยายเพ้อเจ้อน่ะ หัดสนใจเหตุการณ์บ้านเมือง โลกความเป็นจริงหน่อยสิ่”ร่างสูงบีบจมูกอีกคนแรงๆด้วยความเอ็นดู ชานยอลพองแก้ม เบ้ปากก่อนจะตีมืออีกฝ่ายแรงๆ


“เพ้อเจ้อแต่มันก็มีความสุขนี่! มาว่าผมอย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่ทำข้าวเช้าให้กินซะหรอก” คนถูกขู่หัวเราะก่อนจะรวบตัวอีกคนเข้ามากอดแน่น


“ทำมื้อเช้าให้ผมกินหน่อยนะครับบบบ คุณชานยอลนะ อย่าใจร้ายกับผมเลย นะครับบบบ”ร่างสูงออดอ้อน ชานยอลหัวเราะคิกคักก่อนจะกอดตอบอีกฝ่าย พร้อมถูจมูกไปมากับอีกคน เสียงหัวเราะของทั้งสองยังคงดังคลอไปเรื่อยๆ ก่อนที่เสียงนั้นจะค่อยๆเบาลง เบาลง และฟังดูห่างไกลออกไปเรื่อยๆ พร้อมกับที่ภาพวันวานเหล่านั้นค่อยๆจางหายอย่างช้าๆ แล้วถูกแทนที่ด้วยแสงของหลอดไฟนีออน และเพดานสีขาวปรอทเบื้องหน้าแทน….


“ที่นี้ที่ไหน….”เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างแหบแห้ง


“ชานยอล ชานยอล ตื่นแล้วหรอ!!!”ไคและเซฮุนถลาเข้าไปหา  ร่างโปร่งปรายตามองด้วยความงุนงง ก่อนจะค่อยๆปรับประสาทการรับรู้


“พี่คริส….รูปพี่คริส….อยู่ไหน….” สองเพื่อนสนิทหันมามองกัน ก่อนจะเหลือบตาไปมองสิ่งมีชีวิตอีกคนในห้อง…


“ใบนี้รึเปล่า…”เสียงทุ้มดังขึ้น พร้อมกับยื่นรูปใบนั้นให้ชานยอล


“ใช่ ใช่ ใช่ พี่คริส พี่คริส หื้ออออ ทำไม ทำไมมีเลือด พี่คริส พี่คริสเป็นอะไร  พี่คริส!!!”ร่างโปร่งหวีดเสียงร้องก่อนจะรีบเช็ดคราบเลือด หยาดน้ำตาพรั่งพรูลงมาเป็นสาย แทบไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองถูกรถชน...


“ชานยอล……”คริสเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาหวิว เขาไม่รู้ ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ยังไง แต่…แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะทำให้ชานยอลเป็นถึงขั้นนี้….


“พี่คริส พี่คริส ฮึก ฮึก ฮึก ไม่ ไม่นะ หน้าเปื้อนหมดแล้ว ไม่ ไม่นะ ไม่!!!” ชานยอลเช็ดคาบเลือดอย่างเอาเป็นเอาตาย


“ชานยอล ชานยอลครับ….” มือหนาเอื้อมมาจับมือเรียวเอาไว้ ชานยอลเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงเรียก...


ดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายนิ่งราวกับประมวลผลอะไรสักอย่างอยู่  ทุกคนในห้องเหมือนถูกแช่แข็งอยู่ในกาลเวลาและความเงียบงัน ก่อนที่ชานยอลจะก้มมองคนในรูปสลับกับคริสที่อยู่ตรงหน้า…


“คุณเป็นใคร…” หยดน้ำตาร่วงเผาะลงมาจากดวงตาคู่คม ชานยอลชักมือกลับก่อนจะหันไปสนใจรูปใบเดียวที่เขามี


“ฮึก…พี่คริส..พี่คริส…พี่คริสต้องไม่เป็นอะไรนะ ฮึก ผม ผม ผมขอโทษที่ดูแลไม่ดี ฮึก ผมขอโทษ ผมขอโทษ…”ชานยอลนาบรูปกับแก้ม ปากพร่ำบอกว่าขอโทษไม่หยุดที่ทำให้รูปเปื้อน ในขณะที่คริสถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อเจอความจริงที่โหดร้าย…



                          ร่างสูงปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาอย่างไม่อาย ชานยอลลืมเขาไปแล้ว ลืมพี่คริสที่ตัวเองรักไปแล้ว ราวกับว่าร่างโปร่งขังตัวเองอยู่ในโลกที่เขายังคงงดงาม ยังคงเป็นพี่คริส คนดีที่รักร่างโปร่งยิ่งกว่าชีวิต ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก แล้วเลือกที่จะลืมความจริงอันโหดร้ายที่เขาเคยทำ  ลืมตัวตนของเขาในโลกแห่งความเป็นจริง แล้วอยู่แต่ในโลกที่ตัวเองสร้างขึ้นอยู่อย่างนั้น…


“ชาน…ยอล…”  ร่างสูงเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา มือที่สั่นเทาเอื้อมไปแตะแขนอีกคน แต่ชานยอลไม่สนใจเขา ไม่สนอะไรนอกจากรูปใบนั้น…


“พี่คริส ฮึก…ทำ ทำยังไง ทำยังไง..พี่คริส…รูปพังหมดแล้ว”หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงใส่รูปใบเก่า ชานยอลรีบปาดมันออก เหมือนว่าทั้งชีวิตเขามีอยู่แค่รูปใบนี้


“…..ชานยอล…พี่ …พี่ถ่ายให้ใหม่ก็ได้…..พอ…พอเถอะนะ…”


“ไม่ ไม่ ไม่ได้ รูปนี้…ไม่ได้”ร่างโปร่งส่ายหน้าไปมา ยิ่งสร้างความเจ็บปวดลงบนหัวใจคนมอง เขารู้ เขารู้ว่าทำไมมันถึงไม่ได้…


“รูปวันครบรอบ ไม่ได้ ไม่ได้  ถ่ายใหม่ไม่ได้แล้ว…” คริสมือสั่นเทา ภาพวันที่ทะเลาะกันครั้งนั้นไหลเข้ามาในหัวของร่างสูง…. วันนั้นเขาทะเลาะกับชานยอลแรงมาก เขาปากรอบรูปวันครบรอบ แล้วฉีกรูปนั้นทิ้งทั้งๆที่รู้ว่าชานยอลรักมันมาก…



         ชานยอลพยายามปาดคราบเลือดและน้ำตาออกจากรูป แต่ยิ่งพยายามรูปก็ยิ่งเปื่อย คริสรีบจับมือเรียวเอาไว้ แล้วบีบมันเบาๆ พยายามให้อีกคนหยุดการกระทำอันน่าหดหู่เสียที


“เดี๋ยวพี่เอาไปเคลือบให้ พอนะ พอก่อนนะ ชานยอล รูปจะเปื่อยนะ”


“จะ จะ จริงนะ เอา เอาไปเคลือบให้จริงๆนะ”คริสพยักหน้าช้าๆ


“อืม จะเอาไปทำให้นะ หยุดร้องก่อน หยุดร้องนะ”


“ไม่ร้อง ไม่ร้อง พี่คริสไม่ชอบคนร้องไห้  พี่คริสชอบคนเข้มแข็ง ไม่ร้องๆ”ร่างโปร่งส่ายหน้า ก่อนจะรีบปาดน้ำตาออก แล้วพยายามฉีกยิ้ม


“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ผมจะยิ้ม พี่คริส พี่คริสชอบให้ผมยิ้ม ยิ้ม ผมจะยิ้มนะ”


“พี่คริส พี่คริส พี่คริสสสส ~ อู๋อี้ของผม อู๋อี้ของชานเลี่ย  อู่อี้~” ชานยอลเพ้อพร้อมกับนาบรูปกับแก้มอย่างแสนรัก รอยยิ้มสดใสแต่งแต้มอยู่บนใบหน้านวลนั้นอย่างมีความสุข  เหมือนว่าชีวิตเขาไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากคริส…



      ร่างสูงมองภาพตรงหน้าทั้งน้ำตา มือหนาค่อยๆเอื้อมไปลูบแก้มอีกคนอย่างถะนุดถนอมราวกับกลัวว่าร่างนี้จะแตกสลายถ้าออกแรงมากกว่านี้  เขาไม่เคยคิด ไม่เคยคิดมาก่อนว่าการกระทำของเขาจะมีผลต่อชานยอลมากขนาดนี้  ไม่เคยคิดว่าจะทำให้อีกคนต้องเปลี่ยนไป เขาแค่คิดว่ามันก็แค่การเลิกกันธรรมดา  แค่ทางบ้านบังคับให้เขาต้องไปดูกิจการที่ต่างประเทศ มันเป็นแผนที่ไม่มีกำหนดกลับ วันนั้นเขาจึงตัดสินใจบอกเลิกชานยอล  แน่นอนว่าชานยอลไม่ยอมฟัง เรามีปากเสียงกัน ทะเลาะกันอย่างหนัก คำพูดประชดประชันถูกสาดใส่กัน เขาพลั้งปากบอกไปว่าเลิกกับชานยอล เพราะร่างโปร่งงี่เง่า ทำตัวเป็นเด็กอยู่อย่างนี้ แล้วเขาก็ตัดสินใจเดินออกมาเลย แต่เขาไม่รู้ เขาไม่รู้ว่าการหันหลังให้ชานยอลครั้งนั้นจะทำให้ร่างโปร่ง……เป็นแบบนี้….



“โอ๊ะ!!! พี่คริส พี่คริส  พี่คริสมา!!!”จู่ๆร่างโปร่งก็พูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่ที่ว่างหน้าประตูห้อง


“พี่คริสมาหาผมแล้ว พี่คริสมาหาผมแล้ว พี่คริสกลับมาจากทำงานแล้ว พี่คริส พี่คริส”ชานยอลร้องเรียกหาคริสในจินตนาการอย่างดีใจ แขนเรียวอ้าออกเพื่อรอให้อีกคนกอดตัวเอง คริสมองด้วยความหดหู่…ร้องเรียกหาเขาทั้งๆที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ อยากให้เขากอดทั้งๆที่เขาก็รออยู่ตรงนี้ แต่ร่างโปร่งกลับไม่เห็น กลับไม่สนใจอะไรเขาอีกแล้ว



“วันนี้พี่คริสเหนื่อยมั้ย กินอะไรมารึยัง เดี๋ยวผมทำให้กินนะ  หย๊า อย่าหอมแก้มตอนนี้สิ”ชานยอลเบี่ยงตัวหลบ ก่อนจะล้มตัวลงบนเตียง แขนชูขึ้นเหมือนกับโอบกอดอีกคนเอาไว้ ใบหน้าดูมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่คริสในจินตนาการ ในขณะที่คริสในโลกแห่งความจริงกลับได้แต่เฝ้ามองดูอยู่เงียบๆด้วยหัวใจที่เจ็บปวด



ชานยอลมองไม่เห็นเขาอีกแล้ว มีแต่เขาคนเดียวที่มองเห็นชานยอล…



“ชานยอลเจ็บจนไม่อยากออกมาจากโลกที่ตัวเองสร้างขึ้น”ไคพูดขึ้นเสียงเรียบ คริสนิ่งไปสักพัก พร้อมกับมองชานยอลที่กำลังนอนเล่นอยู่กับคริสในจินตนาการ


“……หมอบอกว่าจะรักษาหายมั้ย”


“ไม่ ชานยอลปิดตายตัวเองไปแล้ว…”เซฮุนตอบ คริสหลับตาลงก่อนจะปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเงียบๆ สลับกับฟังเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของชานยอล  ก่อนที่เขาจะค่อยๆลืมตาขึ้น


“…………..ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะอยู่ข้างๆเขาอย่างนี้…ถึงเขาจะมองไม่เห็นฉัน ไม่รู้ว่าฉันมองเขาอยู่ แต่ฉันก็จะไม่ทิ้งเขาไปไหนอีกแล้ว” คริสพูดขึ้นเสียงเรียบ


“หวังว่าพี่จะรักษาคำพูด”เซฮุนเป็นฝ่ายตอบ


“แน่นอน….. ฉันจะอยู่ข้างๆเขา….ตลอดไป…” แล้วคริสก็ทำตามอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆ เขาไม่เคยทิ้งชานยอลไปไหน ไม่เคยปล่อยให้อยู่คนเดียว ทุกที่ที่ชานยอลไป มักจะมีสายตาของเขามองดูอยู่ห่างๆเสมอ คอย เฝ้ามองร่างโปร่งบางที่เขาแสนรักจะมุมมองหนึ่งที่เจ้าตัวไม่เคยรู้  ในขณะที่ชานยอลแม้ไม่เคยมองเห็นอีกฝ่าย แต่เขาก็มีความสุขอยู่ในโลกที่ตัวเองสร้างขึ้น….ในโลกที่คริสไม่เคยจากเขา ไม่เคยทิ้งให้เขาต้องอยู่คนเดียว ในโลกที่ทั้งสองยังคงรักกันดีเหมือนในความทรงจำครั้งวันวาน…


“พี่คริส เราจะรักกันตลอดไปเลยรึเปล่า จะรักกันไปจนแก่จนเฒ่าเลยมั้ย~”


“แน่สิ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่ก็จะรักเราคนเดียว เราจะเป็นดาวดวงเดียวในกาแล็คซี่ของพี่”


“ผมก็จะรักพี่คนเดียวเหมือนกัน ไม่ว่ายังไงพี่ก็จะเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตของผม”



 พวกเขาไม่เคยผิดสัญญากัน…




คริสเฝ้ามองดวงดาวที่เจิดจรัสดวงนั้นของเขาเพียงคนเดียว  แม้ว่าดาวดวงนั้นจะไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองถูกห้อมล้อมโดยกาแล็กซี่อย่างเขาก็ตาม  ในขณะที่ชานยอลก็ไม่เคยมองใครดีกว่าคริสอีกแล้ว เพราะภาพความเจ็บปวดเหล่านั้นร่างโปร่งเลือกที่จะไม่จดจำมัน…

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ