0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

อาการแอบรัก EP13

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1อาการแอบรัก EP13 Empty อาการแอบรัก EP13 Fri Nov 14, 2014 8:46 am

0ctogus

0ctogus
Admin

เสียงนกหวีดเป่าเรียกนักกีฬาให้ออกมาเข้าแถวเพื่อออกกำลังกายในช่วงเช้ามืด ร่างสูงคลายอ้อมกอดจากคนรักด้วยท่าทีเสียดาย นิ้วยาวขยี้ดวงตาคมเพื่อปรับโฟกัสกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาในเต็นท์ที่พัก เขาเหลือบมองร่างบางข้างกายด้วยความเป็นห่วง แม้ชานยอลจะไข้ลดลงแล้วแต่เขาก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา...







มือหนาเอื้อมแตะแก้มกลมใสเบาๆ รอยยิ้มบางวาดขึ้นที่มุมปาก ดวงตากลมเวลาปิดสนิทแล้วยังมีแววใสซื่อออกมาอย่างเคย..ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกเกลี่ยออกจากใบหน้า จมูกโด่งค่อยๆโน้มเข้าไปใกล้เพื่อต้องการปลุกคนตัวเล็กกว่า ฉับพลันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของรุ่นพี่เดินมาตามและส่งเสียงเรียกเขา







ร่างสูงผงะออกจากคนรัก เขาเขย่าตัวคนที่กำลังนอนหลับเบาๆเพื่อเป็นการปลุกให้ตื่นจากภวังค์







“ตื่นได้แล้วนะ นายนอนนานเกินไปแล้วชานยอล เห็นใจคนรออย่างฉันบ้าง” มือหนาขยี้ผมนิ่มเล่น







ร่างบางค่อยๆพลิกตัวไปมา ดวงตากลมโตปรือขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าคมของคริสเปลี่ยนเป็นตกใจและดีใจ ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าคม เขาโผเข้ากอดชานยอลและโอบกอดร่างบางด้วยความคิดถึง







“นายตื่นแล้วเหรอ ชานยอล เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม ฉันเป็นห่วงนายแทบแย่ ขอบคุณพระเจ้า นายตื่นแล้ว! นายโอเคนะ” มือหนาลูบคลำตามตัวคนรัก ทั้งจับใบหน้าพลิกดู โอบกอดแน่นขึ้นจนอึดอัดอย่างกับจากกันหลายปี







“ดีขึ้นแล้ว รู้สึกตัวตั้งแต่ตอนได้ยินเสียงรุ่นพี่ ฉันนอนหลับไปนานมากเลยเหรอ” น้ำเสียงแหบแห้งคล้ายคนไม่สบายเอ่ยถามช้าๆ







“นายหลับไป 1 วัน 1 คืนเต็มๆ พยาบาลฉีดยาให้นาย รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม” ดวงตาคมยังพยายามสอดส่ายสายตาดูความเรียบร้อยตามร่างกายของคนรัก







“อู๋ฟาน นายดีใจเหมือนฉันหลับไป 2 ปี” รอยยิ้มบางเริ่มปรากฏบนใบหน้าใสบ้าง เขานึกขำร่างสูงตรงหน้า เสียงหัวเราะของชานยอลทำให้คริสสบายใจมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นปกติดี







“ไม่เจอนายวันนึงก็เหมือน 2 ปีแล้ว คิดดูว่า 8 ปีของฉันมันทรมานแค่ไหน” เสียงเข้มเปรยพร้อมจับจ้องใบหน้านวลใส มือหนาจัดแต่งทรงผมสีน้ำตาลอ่อนให้คนที่เพิ่งฟื้นไข้







“หน้าตาสดใสขึ้นแล้ว ออกไปหาอะไรทานด้วยนะ ฉันจะออกไปเตรียมตัวก่อน” เขากำชับคนรักด้วยความเป็นห่วง ร่างสูงหยัดกายขึ้นและออกจากเต็นท์ไปเพื่อเข้าแถววอร์มร่างกายในช่วงเช้า







ร่างบางเดินออกมาด้านนอก ขนมปังและนมสดถูกจัดวางไว้อีกมุมนึงของแคมป์ หลายคนมีรอยยิ้มให้กับชานยอลเมื่อเห็นอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ อากาศในยามเช้าสดชื่นทำให้หัวใจของเขาเบิกบานขึ้น ดวงตากลมมองไปยังร่างของคนรัก เวลาผ่านไปสักพัก....ร่างเล็กที่คุ้นเคยเดินตรงเข้าไปทักทายคนป่วยที่ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ คำพูดที่ดูเหมือนจะจริงใจกลับถูกปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อถากถาง







“หายดีแล้วเหรอ โชคดีนะที่...ไม่ตาย...” ดวงตาเล็กฉายแววความริษยา คนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคริสควรจะเป็นเขา เพราะคริสคือต้นเหตุให้เขาเกิดรอยแผลที่ร่างกาย รวมถึงรอยแผลในใจที่ยากจะเยียวยา







ร่างบางนั่งนิ่งด้วยความเบื่อหน่าย เหนื่อยใจกับการแย่งชิงของแบคฮยอน เขาถอนหายใจออกมาช้าๆก่อนที่จะตัดสินใจเอ่ยประโยคที่ทิ่มแทงจิตใจแบคฮยอนกลับไปบ้าง







“นายคิดว่าถ้าฉันตาย .... เขาจะรักนายไหมแบคฮยอน”



“เหนื่อยไหมกับการวิ่งตามคนที่เขาไม่ใช่ของเรา สนุกมากไหมกับการแย่งคนรักของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า” น้ำเสียงเขาไม่บ่งบอกถึงความเย้ยหยัน มันกลับเย็นยะเยือกและเรียบเฉยจนแบคฮยอนชาไปทั้งตัว







มือเล็กกำเข้าหากันแน่น เขาคว้าแก้วน้ำที่อยู่ใกล้ตัวสาดเข้าไปที่ใบหน้าใส ชานยอลไม่มีท่าทีตกใจ มือบางลูบน้ำออกจากใบหน้าพร้อมกับเปรยต่อ







“จื่อเทาเป็นของนายแล้ว ฉันยอมหลีกทางให้พวกนายสองคน แต่อู๋ฟานคือรักแรกของฉัน ปล่อยเขาไปได้ไหม”







“ถ้าคิดว่าเก่งพอจะรั้งเขาไว้ มาขอร้องฉันทำไมให้ปล่อยเขา ไม่มั่นใจพี่คริสสินะว่าจะรักนายคนเดียว” น้ำเสียงเยาะเย้ยของแบคฮยอนทำให้ชานยอลเริ่มเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมาบ้าง







“อู๋ฟานเป็นคนดีเกินกว่าที่จะทันเล่ห์เหลี่ยมชั่วๆของนายมากกว่า” ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นช้าๆ คนตัวเล็กโกรธจนแทบขาดสติ เขาผลักร่างโปร่งที่เพิ่งฟื้นไข้ล้มลง สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่เขาทั้งสองพร้อมเสียงเอะอะโวยวายเพื่อเข้ามาห้ามปรามก่อนที่ทุกอย่างจะรุนแรงไปมากกว่านี้







“คริส!! ชานยอลกับแบคฮยอนมีเรื่องกัน!” เสียงตะโกนเรียกของรุ่นพี่ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ทำให้ร่างสูงวิ่งสวนออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความร้อนรนใจ







รุ่นพี่ที่สนิทสนมกับแบคฮยอนเข้ามารั้งร่างเล็กที่กำลังโมโหไว้ ทางฝั่งของชานยอลก็มีนักศึกษาหลายคนช่วยพยุงเขาขึ้นมาจากพื้นดิน....ร่างสูงวิ่งตรงมาด้วยท่าทีตกใจ เขารีบเข้าไปดูคนรักด้วยความเป็นห่วง จนรุ่นพี่คนสนิทของแบคฮยอนที่เป็นนักกีฬาเริ่มอดรนทนไม่ไหว เหตุการณ์ในคาราโอเกะวันนั้นเขาเองก็อยู่ มาถึงเหตุการณ์วันนี้ทำให้เขาไม่เข้าใจว่าคริสกำลังเล่นสนุกกับหัวใจของใครหรือไม่







“นายควรทำอะไรให้มันชัดเจนว่าจะเลือกชานยอลหรือแบคฮยอน หากนายจะเลือกชานยอลก็ไม่ควรทำกับแบคฮยอนแบบนี้! ฉันเตือนนายเพราะฉันเป็นรุ่นพี่ เรื่องพวกนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในชมรมกีฬา!!”







“ฉันไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่นะคริส เมื่อคืนนายทำอะไรกับแบคฮยอนก็ควรรับผิดชอบเขาด้วย!! พวกฉันได้ยินกันหมดเพียงแต่ไม่มีใครอยากยุ่ง ครั้งนี้ฉันว่านายทำเกินไปแล้ว” แขนแกร่งกระชากคอเสื้อของร่างสูงขึ้นมาประชิดตัว







“นี่พี่พูดถึงเรื่องอะไรครับ” ใบหน้าคมฉงนสงสัยกับคำพูดปริศนา







“เสียงพวกนายทำอะไรกันเมื่อคืนดังเล็ดลอดออกมาถึงด้านนอก พวกฉันเดินผ่านไปแถวนั้นพอดี จะแก้ตัวยังไงดีล่ะคริส” สีหน้าตกใจของแบคฮยอนทำให้ทุกคนจับจ้องไปที่ร่างสูงรวมถึงชานยอลก็เช่นกัน







“ไม่ใช่ผมนะครับ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ” ใบหน้าคมรีบส่ายไปมา เขาไม่ได้ปฎิเสธและโยนความผิดให้พ้นตัว เพียงแต่กำลังยืนยันความบริสุทธิ์ใจ







“พวกฉันได้ยินแม้กระทั่งชื่อที่แบคฮยอนร้องเรียก หลอดยาที่นายยืมพยาบาลไปให้แบคฮยอนเมื่อคืนเอากลับมาคืนหรือยัง” รุ่นพี่กำลังเข้าใจผิดเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นว่าคริสและแบคฮยอนกำลังร่วมรักอย่างเมามันส์ในเต็นท์ที่พัก ซึ่งถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรงของมหาวิทยาลัย พยานที่อยู่ในกลุ่มนั้นหลายคนพยักหน้าตามเพื่อยืนยันว่าคนในเต็นท์เป็นคริส กัปตันทีมบาสเก็ตบอลสุดหล่อของมหาลัย







ใบหน้าขาวผ่องของแบคฮยอนเริ่มเปลี่ยนสีและซีดเซียวขึ้น เขาเองก็อับอายหากเรื่องที่เขามีสัมพันธ์กับจื่อเทาเมื่อคืนนี้ถูกเปิดเผยออกไป ไม่คิดว่าในช่วงเวลาดึกดื่นขนาดนั้นจะมีรุ่นพี่เดินผ่านเต็นท์ แต่มันก็เหมือนกับการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสเมื่อหลายคนกำลังเข้าใจผิดว่าจื่อเทาคือคริส







“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ เมื่อคืนผมเจอกับ....”







“พี่คริส!!...เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วพี่เลิกปิดบังเรื่องของเราสักทีเถอะ” เสียงเล็กห้ามปรามเพื่อไม่ให้คริสพูดความจริงเรื่องเมื่อคืนออกไป







“นี่มันเรื่องอะไรกันอู๋ฟาน....” ชานยอลเอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึง







“เดี๋ยวนะครับ จะเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว” มือหนายกมือขึ้นห้ามปรามให้ทุกคนใจเย็นๆและฟังเขาบ้าง







จื่อเทาที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักเดินตรงเข้าไปเพื่อจะออกรับแทนว่าเขาคือคนที่ร่วมหลับนอนกับแบคฮยอน ฉับพลันรุ่นพี่คนหนึ่งที่มีศักดิ์เป็นประธานชมรมบาสเก็ตบอลก็มีคำสั่ง ให้คริสถูกพักจากการแข่งขัน เนื่องจากทำเรื่องผิดวินัยในกิจกรรมตั้งแคมป์ของสถานศึกษา จื่อเทาชะงักงัน เมื่อได้ยินบทลงโทษนั้น ความเห็นแก่ตัวทำให้เขาไม่กล้าพูดความจริงออกไปเพราะเกรงว่าจะได้รับบทลงโทษเช่นคริส เรื่องราวดูจะวุ่นวายมากขึ้นเมื่อร่างบางเดินออกจากกลุ่มไปโดยที่มีร่างสูงวิ่งตามไปไม่ห่าง







“ปาร์คชานยอล! ฟังฉันก่อน ชานยอล!” เสียงเข้มตะโกนออกไปสุดเสียง มือหนาคว้าข้อมือเล็กไว้เพื่อฉุดรั้ง







“คนเราจะสามารถผิดพลาดได้สองครั้งเลยเหรออู๋ฟาน...ครั้งที่แล้วก็ในคาราโอเกะ ครั้งนี้ในเต็นท์ เมื่อคืนฉันนอนหลับไม่รู้เรื่องในขณะที่นายกำลังสนุกอยู่กับแบคฮยอน” น้ำเสียงเจือปนความเสียใจ ใบหน้าใสเบือนหนีเนื่องจากเขากำลังจะร้องไห้ พยายามหนักแน่นจนถึงที่สุดแล้ว เขาต้องปล่อยมือจากคริสเพื่อให้ยกแบคฮยอนอีกคนใชไหม







“ไม่ว่าใครจะพูดอะไรเกี่ยวกับตัวฉันว่ายังไง นายเชื่อใจฉันได้ไหมชานยอล เชื่อฉันแค่คนเดียว....” ร่างสูงโอบกอดคนรักทางด้านหลังและกำลังขอร้องเขาอีกครั้ง ความผิดที่เขาไม่ได้ก่อแต่ต้องเป็นคนรับโทษ







“เชื่อใจนายจนกลายเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่นเหรอ ฉันควรทำอย่างนั้นใช่ไหม ความอดทนของฉันใกล้จะสิ้นสุดแล้วอู๋ฟาน ฉันเหนื่อยกับการแก่งแย่งของแบคฮยอน ฉันอยากหยุดพัก ฉันควรต้องไปแล้วใช่ไหม” ร่างบางยืนนิ่ง น้ำตาหยดใสเริ่มคลอลงมาจากดวงตาคู่สวย







ร่างสูงทรุดนั่งคุกเข่าลงกับพื้น แขนแกร่งยังคงโอบรอบเอวเล็กไว้ เขาซุกใบหน้าลงกับหน้าท้องของคนรัก...







“ฉันไม่เคยขอร้องใครมาก่อนในชีวิต ตอนนี้ฉันกำลังขอร้องให้นายเชื่อใจฉัน....อู๋ฟานคนนี้มีแค่นายคนเดียวมาตลอด....เชื่อฉันได้ไหม....ให้โอกาสฉัน อย่าให้คนอื่นเข้ามาทำลายความรักความเชื่อใจของเรา” น้ำเสียงเข้มเริ่มสั่นเครือ ความกลัวแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจ กลัวกับคำตอบของคนรักที่จะไม่ให้อภัยเขา







“ฉันขออยู่เงียบๆสักพัก” มือหนาถูกแกะออกจากรอบเอว ร่างบางเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ทิ้งชายคนหนึ่งที่กำลังคุกเข่าร้องขอความเชื่อใจไว้เพียงลำพัง...







เย็นวันนั้นบรรยากาศในรถบัสที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเตรียม ค่อนข้างเงียบเชียบ หลายคนเหลือบมองไปยังร่างสูงที่นั่งด้านหลังสุด จื่อเทาเองก็รู้สึกละอายใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เขายังไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปขอโทษคริสและรับผิดชอบกับการกระทำ แบคฮยอนเพียงแต่นั่งมองดูห่างๆ เพียงเพราะการอยากได้ความรักจากเขา กลับเป็นการทำร้ายคริสโดยที่เขาไม่รู้ตัว อนาคตกัปตันทีมบาสเก็ตบอลต้องมาสะดุด กับเรื่องน่าอับอายผิดวินัยที่เขาไม่ได้ก่อขึ้น







ไม่นานนักก็ถึงจุดหมายปลายทาง นักศึกษาทั้งหมดรับสัมภาระลงจากรถ หลายคนตรงไปยังผู้ปกครองที่มารอรับ ร่างสูงเดินก้มหน้างุดไปยังรถสปอร์ตคันหรู แขนแกร่งกระชากร่างเล็กของแบคฮยอนขึ้นรถในขณะที่เขาเดินสวนกัน







“ไปกับฉัน!! เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน” เสียงเข้มตวาดดังลั่น ร่างเล็กถูกเหวี่ยงเข้าไปในรถอย่างแรง ความอ่อนโยนที่มอบให้กับชานยอลช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหวเมื่อเขาอยู่กับคนอื่น







รถสปอร์ตออกตัวด้วยความเร็ว จุดมุ่งหมายปลายทางคือแม่น้ำฮัน ภายในรถไม่มีแม้เสียงสนทนาใดๆบรรยากาศชวนอึดอัดจนแบคฮยอนอยากจะหลุดไปจากตรงนี้ แม้จะอยู่ข้างคนที่เขารัก แต่คริสกลับมีมุมที่เขาเองไม่เคยเห็น ความอ่อนโยนจางหายไป เหลือไว้แต่ความดุดัน ซึ่งมันคงมีไว้ให้เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น







ร่างสูงแวะซื้อเบียร์กระป๋องจากร้านค้าในบริเวณนั้นเพื่อดื่มดับอารมณ์ ปัญหาความไม่เข้าใจกันกับชานยอลและเรื่องที่ถูกพักจากการลงแข่งขันทำให้เขาเครียด แอลกอฮอล์คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในยามนี้...







อากาศสดชื่นยามหัวค่ำเหมาะสำหรับคู่รักแต่คงไม่ใช่สำหรับคริสและแบคฮยอน ร่างสูงนั่งลงกับพื้นและเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ดวงตาคมหันไปจับจ้องร่างเล็กที่นั่งอยู่ไม่ห่าง







“เมื่อไรนายจะเลิกยุ่งกับฉัน ต้องทำยังไงถึงจะหยุดวุ่นวายกับฉันสักที!” น้ำเสียงดุดันตะคอกใส่คนตัวเล็กจนเขาสะดุ้ง







“เลิกกับชานยอลแล้วเรามาคบกันได้ไหม พี่คริส ผมพยายามเลิกรักเลิกสนใจพี่แล้ว แต่ผมทำไม่ได้” สีหน้าจริงจังของเขาทำให้ร่างสูงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ







“คิดว่าถ้าฉันเลิกกับชานยอลแล้วฉันจะรักนายเหรอ นายคิดว่าใจฉันมันเปลี่ยนได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันหลงรักเขามา 8 ปี จนกว่าจะมีวันนี้นายรู้ไหมว่ามันยากลำบากแค่ไหน” กระป๋องเบียร์ถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด หลังมือหนาปาดเช็ดริมฝีปากของตนเองก่อนจะเอ่ยต่อ







“ช่วยหลีกทางให้ฉันกับเขาได้ไหมแบคฮยอน ถ้านายรักฉันจริงๆช่วยทำแบบนั้นเถอะนะ...” ดวงตาคมเปลี่ยนเป็นโอนอ่อนขึ้นเล็กน้อย แบคฮยอนยังคงดื้อรั้นและอ้อนวอนให้คริสเห็นเขาในสายตาบ้าง







“ความรักแบบไหนกันที่ไม่ต้องการครอบครอง พี่คริส...ผมทำอย่างที่พี่ต้องการไม่ได้ ผมปล่อยพี่ไปไม่ได้” มือเล็กสัมผัสไปที่แขนแกร่งและขอร้องร่างสูง







“เหนื่อยไหมกับการวิ่งตามฉัน ในขณะที่ฉันวิ่งหนีนายไปหาคนอื่น เอาเวลาที่วิ่งตามฉันไปดูแลคนที่เขารักนายดีกว่า การได้อยู่กับคนที่รักเราคือสิ่งที่ถูกต้อง”







“ผมก็รักพี่ไง ทำไมพี่คริสไม่อยู่กับผม” ร่างเล็กนั่งเขย่าแขนคนตัวสูง เขาซุกใบหน้าลงที่แขนแกร่งและเกือบจะร้องไห้







“ฉันรักชานยอล ชานยอลเองก็รักฉัน นายเข้าใจไหมแบคฮยอน เข้าใจฉันใช่ไหม” เบียร์ถูกดื่มหมดเป็นกระป๋องที่สี่ มือหนาเสยผมตัวเองที่ปรกหน้าออกช้าๆเพื่อคลายความตึงเครียด เขาตัดสินใจจะพูดดีๆกับแบคฮยอน หวังว่าเขาจะรับฟังเหตุผลของคริสบ้าง







“พี่คริส...ผมแพ้แล้ว ผมควรยอมแพ้ชานยอลแล้วใช่ไหม ยังไงพี่ก็ไม่มีทางรักผม” ใบหน้าใสเริ่มเปรอะเปื้อนคราบน้ำตา มือเล็กยกขึ้นปาดมันช้าๆด้วยตนเอง หากเป็นน้ำตาของชานยอล คริสคงเต็มใจที่จะช่วยเช็ดมัน







“ความรักไม่มีคำว่าแพ้ ชนะ มีแค่คนผิดหวังและสมหวังเท่านั้น” มือหนาลูบผมสีดำขลับของแบคฮยอนเพื่อเป็นการปลอบใจ







ร่างเล็กโผเข้ากอดร่างสูงและสะอื้นตัวโยน ความรักที่เขาวิ่งไล่ตามแต่ก็ไขว่คว้ามันเอาไว้ไม่ได้ ต่อให้ร่างกายของคริสจะนั่งอยู่ข้างเขา แต่ใจก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ เย็นชาชะมัดกับสิ่งที่เขาพูดออกมา ผิดกับชานยอลที่ได้รับทุกความอ่อนโยน ทุกการกระทำที่ล้ำค่า







ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยการกล่าวคำลา คริสหวังว่าแบคฮยอนจะเข้าใจในสิ่งที่เขาร้องขอ ปัญหาระหว่างเขาและชานยอลจะได้จบลงเสียที ร่างสูงเดินผละออกเพื่อตรงไปยังรถคันหรูคู่ใจ เขาตัดสินใจขับรถไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของคนรักด้วยความคิดถึง ไฟหน้าบ้านยังคงเปิดสว่างไสว ร่างที่ดูคุ้นเคยของใครคนหนึ่งก้าวออกมาจากในบ้าน...จื่อเทากำลังยืนบอกลากับร่างบางต่อหน้าเขา







ใบหน้าสวยใสยิ้มแย้ม ดูสบายใจและสุขใจที่จื่อเทามาหา มือหนากำพวงมาลัยแน่นด้วยความหึงหวง บอกลาเขาแต่กลับต้อนรับแฟนเก่าให้เข้าบ้าน เมื่ออดีตคนรักก้าวเดินห่างจากตัวบ้านไป ร่างสูงก็ผลุนผลันออกมาจากในรถ เขาเดินตรงไปที่หน้าประตูบ้านด้วยความร้อนรน







“ชานยอล! เดี๋ยวก่อน แฟนเก่ามาหาหน้าตาระรื่นขนาดนี้เลยเหรอ” มือหนาคว้าข้อมือบางมาบีบไว้ ร่างบางในชุดนอนยิ่งทำให้เขาโกรธจัด สมองประมวลผลไปไกลกับแรงโทสะ กับคนที่อ้อนวอนขอร้องให้เชื่อใจกลับไม่ได้รับโอกาสนั้น แต่คนรักของเขากำลังยิ้มแย้มกับคนรักเก่าแทน







“นี่ดื่มเหล้ามาเหรอ ปล่อยฉันนะอู๋ฟาน! หายเมาแล้วค่อยคุยกัน” ข้อมือเล็กพยายามสะบัดจากการเกาะกุม







“หายไข้แล้วสิ ได้ยาดีใช่ไหม ฉันอ้อนวอนขอร้องแทบตายแต่นายไม่ให้โอกาส กลับมายิ้มแย้มรื่นเริงกับคนรักเก่าแทน” มือหนาจับร่างบางเขย่าไปมา น้ำเสียงอ้อแอ้และดวงตาคมปรือลงด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์







“ฉันจะไม่ถือคนเมาหรอกนะ กลับไปนอนบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”







“ฉันไม่กลับ นายมันใจร้าย! ฉันต่างหากที่เหมือนไอ้โง่ที่หลงรักนายมาตลอดหลายปี เบื่อมากสินะกับสายตาของฉันที่มองแค่นายคนเดียว อึดอัดมากไหมกับความรักที่ฉันมีให้จนมันเยอะเกินไป” เขาพร่ำพูดความน้อยใจออกมาไม่หยุด ร่างสูงโผกอดร่างบางตรงหน้า กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจากลมหายใจ จมูกโด่งซุกลงตรงหัวไหล่เล็กเพื่อสูดดมกลิ่นหอมของคนรัก







“ให้โอกาสฉันนะชานยอล ฉันขอร้อง” แขนแกร่งโอบกอดร่างบางแน่นเข้าไปอีก คริสกำลังทั้งโมโหและสับสน เขาไม่รู้ว่าควรจะโกรธหรืออ้อนวอนขอความรัก ความเมามายกับพฤติกรรมหลายบุคลิกของเขากำลังสร้างความขบขันให้ชานยอล







“กลับบ้านไปก่อน ฉันบอกว่าให้คุยกันพรุ่งนี้ไง” มือบางผลักร่างคนตัวสูงให้ออกห่าง เพราะเกรงว่าคนในบ้านจะเห็น







“ถ้าจะกลับก็กลับไปด้วยกัน ตื่นมาตอนเช้าจะได้คุยกันให้มันจบ!” มือหนากระชากข้อมือบางให้ตามมา เขาจูงชานยอลมาที่รถและขับรถกลับบ้านตัวเองด้วยความรวดเร็ว







โชคดีที่เขาทั้งสองเดินทางมาถึงบ้านหลังใหญ่ได้อย่างปลอดภัย ร่างบางถูกลากขึ้นไปบนห้องนอน ร่างสูงพร่ำพูดและต่อว่าชานยอลด้วยความเสียใจที่เห็นเขาอยู่กับจื่อเทา







“ปากบอกให้ฉันเชื่อใจนาย แล้วนายเชื่อใจฉันไหมอู๋ฟาน” เขาแกล้งเปรยออกไปบ้าง เผื่อจะเรียกสติที่เหลือน้อยนิดของคริสให้กลับมา







“หน้าตานายดูระรื่นมากเมื่ออยู่กับจื่อเทา ผิดกับฉันเมื่ออยู่กับแบคฮยอน”







“ก็ฉันได้รับรู้เรื่องราวดีๆ ก็เลยดีใจ แค่นั้น...” ริมฝีปากบางรั้นขึ้นเพื่อกวนประสาทคนรัก







“ทำไม มันมาขอคืนดีเหรอ ชานยอลนายมันใจง่าย! แล้วใส่ชุดนอนแบบนี้อยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันได้ยังไง บ้าจริงเลย!” มือหนาถกเสื้อนอนดูตามร่างกายเพื่อดูร่องรอยที่น่าสงสัยของชานยอล







“นี่รอยอะไร!! ฉันถามว่ารอยอะไร!” นิ้วยาวชี้ไปที่รอยแดงบนตัว ผิวเนียนขาวถูกแต่งแต้มรอยแดงใกล้ๆกับเนินหน้าอก







“อือ รอยอะไรนะ ฉันเพิ่งเห็นตอนอาบน้ำ ดูแลฉันไม่ดีจนแมลงกัดฉันใช่ไหม” ดวงตากลมก้มลงมองรอยแดงจ้ำ แต่กลับไม่รู้เลยว่ากำลังทำให้คริสโมโหมากขึ้นกับท่าทางยียวนของเขา







“ร่างกายของนายเป็นของฉันคนเดียว!! แมลงก็ห้ามมาแตะต้อง!!”







ริมฝีปากหนาจูบซับไปที่เนินอก ชานยอลปลดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นมุมงอแงเอาแต่ใจของคริส เวลาเขาเมาแล้วน่ากวนประสาทชะมัด หึงหวงด้วยท่าทีตลกๆ บุคลิกขัดแย้งในตัวเอง จะโกรธก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเพราะเกรงว่าคนรักจะบอกลา พฤติกรรมแปลกๆแบบนี้คงมีแค่อู๋ฟานคนเดียวที่เป็น







มือหนาลูบไล้ไปตามร่างกาย จากเนินอกถูกสลับตำแหน่งเป็นต้นคอขาวเนียน ลิ้นยาวเริ่มลากไล้หนักหน่วงขึ้น เสียงหัวเราะเมื่อครู่เงียบหายไปแปรเปลี่ยนเป็นเสียงห้ามปรามกับการกระทำของคริสเบาๆ







“เดี๋ยวก่อนอู๋ฟาน ฉันไม่สบายนะ” มือบางผลักหน้าอกแกร่งไว้







“ฉันก็จะช่วยเป็นหมอรักษานายไง อยู่นิ่งๆสิคะ เอามือออก” ข้อมือบางถูกรวบไว้หลวมๆ ริมฝีปากหนาดูดดุนกลีบปากอิ่มไว้ ก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไป....







ไม่นานกิจกรรมที่คริสต้องการก็ดำเนินขึ้น........







End EP13…………………………………………………… หากอยากสกรีมติดแทค #อาการแอบรัก ในทวิตนะคะ ขอบคุณมาก ><

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ