0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

เทพบุตรหลุดสวรรค์ EP3

2 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin


ร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษาดูหล่อเนี๊ยบกว่าคนปกติทั่วไป ผมสีทองถูกจัดทรงในแนวตั้ง ท่าทางที่ดูสง่างามเรียกสายตาจากคนในบริเวณป้ายรถประจำทางให้เหลียวมองมายังเขา ดวงตากลมโตเหลือบมองคนรอบข้างด้วยความรู้สึกแปลกๆ ทำไมวันนี้จึงมีแต่คนสนใจคริสและจับจ้องมายังเขาทั้งสอง


รถประจำทางขนาดเล็กแล่นเข้ามาจอดช้าๆบริเวณป้าย ขายาวก้าวเท้านำร่างสูงโปร่งขึ้นไป คริสมีท่าทีเก้ๆกังๆเมื่อไม่แน่ใจว่าควรยืนส่วนไหนของรถ ด้วยความสูงเกินกว่ามนุษย์ปกติทำให้ศรีษะของเขาเกือบชนหลังคา



“พวกมนุษย์นี่จะสร้างหลังคารถให้สูงกว่านี้ได้ไหม” เสียงเข้มสบถเบาๆด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย


“ปาร์คชานยอล ทำไมผู้ชายคนนั้นไม่ลุกให้นายนั่ง” นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังชายหนุ่มรูปร่างบึกบึนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์สบายใจอยู่ไม่ห่างจากเขาทั้งสองนัก


“ทำไมเขาต้องลุกให้ฉันนั่งล่ะ ฉันก็เป็นผู้ชาย” ใบหน้าสวยใสฉงนและเหลือบมองดวงตาคมที่กำลังจับจ้องไปที่ร่างชายหนุ่มแปลกหน้า


“ไม่มีความยุติธรรม! เขาดูแข็งแรงกว่านาย ฉันไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบบนโลกมนุษย์” แววตาของเทพบุตรรูปงามแปรเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นทีละน้อย



นิ้วเรียวดีดเข้าหากันดังเป๊าะ.....ไม่นานภายในรถประจำทางก็เกิดลมกรรโชกแรงขึ้นจนหนังสือพิมพ์ในมือของชายแปลกหน้าปลิวว่อน ร่างกำยำลุกขึ้นคว้าและวิ่งตามเศษกระดาษที่ปลิวผ่านหน้าคริส ใบหน้าคมยกยิ้มด้วยความสะใจ มือหนาจับข้อมือบางจูงมายังที่นั่งที่ว่างเปล่า...ร่างบางถูกผลักให้นั่งลงตรงเบาะโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าหวานเลิ่กลั่กกับสิ่งที่เกิดขึ้น


“นั่งเฉยๆเถอะหน่า” มือหนาจับหัวไหล่เล็กที่กำลังดุกดิกและจะลุกขึ้นยืน


“นายทำบ้าอะไรคริส! ใช้เวทมนตร์บ้าบอของนายในทางที่ผิด...ฉันไม่เล่นด้วยนะ!” ร่างบางต่อว่าพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จังหวะเดียวกันรถประจำทางเกิดเบรคกะทันหันเนื่องจากไฟสัญญาณบริเวณสี่แยกที่บ่งบอกให้หยุดรถ



...เอี๊ยด!!...



ร่างบางเซถลาเกือบล้ม แขนแกร่งโอบรอบเอวของชานยอลไว้และดึงเข้าหาตัวเพียงมือเดียว โชคดีที่มืออีกข้างของเขายังคงจับห่วงเพื่อพยุงตัวเองไว้ ความแข็งแรงของเทพบุตรอย่างเขาสามารถโอบรอบร่างคนตัวเล็กกว่าได้อย่างสบาย แผ่นหลังกระแทกเข้ากับหน้าอกแกร่งอย่างจัง กลิ่นแชมพูหอมอ่อนๆจากเส้นผมสีน้ำตาลปะทะปลายจมูกโด่งของคริส ใบหน้าคมยกยิ้มบางๆในขณะที่ขำในความซุ่มซ่ามของชานยอล ดวงตากลมหลบมองไปทางอื่นเพื่อแก้เก้อ แต่ก็ไม่ทัน เทพบุตรร่างสูงมีความสามารถพิเศษในการอ่านใจ เขารู้ดีว่าชานยอลกำลังเขินอายเขาอย่างมาก



ที่หน้ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของโซล มีนักศึกษาเดินขวักไขว่ ช่วงเช้าคนดูหนาตากว่าปกติ ร่างบางรีบตรงไปยังอาคารเรียนด้วยความรีบร้อน เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือพร้อมกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังห้องเรียนตรงหน้า


“ฉันจะสายแล้วๆ เพราะนายคนเดียวเลยคริส!!” ริมฝีปากเล็กพร่ำพูดบ่นคนตัวสูงข้างๆที่เดินตามมาไม่ห่าง


“ไม่ต้องรีบหรอกน่ะ อาจารย์นายยังไม่มา” ใบหน้าเรียบเฉยของเทพบุตรสุดหล่อไม่ยินดียินร้ายเท่าใดนัก ดวงตาคมสอดส่ายไปตามอาคารเรียนและมองไปยังห้องเรียนต่างๆที่คราคร่ำไปด้วยนักศึกษา


“พวกมนุษย์ต้องเรียนทุกคนใช่ไหม ไม่มีใครเก่งโดยที่ไม่เรียนหนังสือเลยเหรอ ไม่เหมือนเบื้องบนสักนิด เหล่าเทพพวกนั้นเก่งกันตั้งแต่ถือกำเนิดบนสรวงสวรรค์” ขายาวก้าวช้าๆผิดกับชานยอลที่พร้อมจะวิ่งไปยังห้องเรียนทุกเมื่อ


“ขืนนายยังเดินชักช้า ฉันไปก่อนล่ะนะ วุ่นวายจริงๆ” ขายาววิ่งตรงไปยังห้องเรียนด้านหน้าและทิ้งคริสให้เดินสำรวจดูสิ่งแวดล้อมภายนอกไว้ลำพัง



เสียงกระหืดกระหอบดังเล็ดลอดเข้ามาในห้องเรียน ชานยอลก้าวเท้าขอตัวเข้ามานั่งประจำที่ ร่างบางรีบหย่อนกายลงและหยิบหนังสือเรียนในกระเป๋าเป้ออกมา หลังมือปาดเหงื่อที่ผุดพรายจากใบหน้าขาวใสอย่างลวกๆ อาจารย์วัยกลางคนรูปร่างท้วมมองลอดเลนส์แว่นมายังเขา ชานยอลฉีกยิ้มบางฝืนยิ้มให้พร้อมกับก้มหน้างุดรีบอ่านหนังสือต่อไปเพื่อหลบสายตา


เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ลมกรรโชกแรงก็เกิดขึ้นในห้องเรียน นักศึกษาหลายคนคว้าหนังสือเรียนที่กำลังจะปลิวพร้อมเสียงหวีดร้อง ร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งหยุดยืนช้าๆและเงยหน้ามองป้ายหน้าห้อง อาจารย์หญิงรูปร่างท้วมเดินตรงไปยังร่างสูงและยิ้มให้ด้วยไมตรี ก่อนจะออกปากเอ่ยชวนให้ชายหนุ่มรูปงามก้าวเข้ามาในห้องด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ



“นักศึกษาทุกคน ฟังทางนี้ค่ะ...วันนี้ครูมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากมหาลัยชื่อดัง เขาจะเข้ามาเรียนรู้การเรียนการสอนกับทางมหาวิทยาลัยของเรา 1 วัน ขอเสียงต้อนรับให้กับเควิน วู นักศึกษาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและคว้าแชมป์ตัวแทนนักศึกษาที่เรียนเก่งทางด้านภาษาถึง 4 ภาษาค่ะ”


รูปร่างสูงโปร่งโค้งคำนับหน้าห้อง ใบหน้าคมเงยขึ้นช้าๆ นักศึกษาหญิงชายในห้องต่างอ้าปากค้างในความดูดีของเขา มือเล็กของหญิงสาวหลายคนรีบปัดทำความสะอาดที่เก้าอี้ข้างกายและส่งสายตาชักชวนให้คริสเดินตรงเข้าไปหา ร่างสูงก้าวไปช้าๆและหยุดยืนที่โต๊ะตัวหนึ่ง เขาหย่อนกายลงนั่งข้างๆผู้ชายหน้าหวานที่กำลังตั้งใจจดเล็คเชอร์บนกระดานโดยไม่มีท่าทีสนใจเขาเท่าไรนัก...


“ผมจะนั่งตรงนี้ครับ” เสียงเข้มเอ่ยตอบอาจารย์ร่างท้วมที่ส่งยิ้มหวานให้


ปาร์คชานยอลยังคงมีท่าทีไม่ใส่ใจเทพบุตรสุดหล่อที่นั่งข้างกายเขา ใบหน้าหวานก้มลงอ่านหนังสือและจดข้อมูลลงสมุดเล่มหนา เมื่อเช้าเขาเสียเวลาไปมากกับเรื่องบ้าบอของคริส เขาเงยหน้าขึ้นลงมองระหว่างกระดานไวท์บอร์ดสลับกับหนังสือที่กางบนโต๊ะ ผมสีน้ำตาลอ่อนค่อยๆหล่นมาปรกหน้าหวานจนรู้สึกรำคาญตา...


นิ้วมือเรียวยาวของใครคนหนึ่งจับปอยผมนั้นขึ้นเหน็บที่ข้างใบหูของชานยอล ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้พร้อมเสียงกระซิบแผ่วเบา


“อย่าให้เส้นผมของนายมาบดบังใบหน้าสวยใสที่น่ามองแบบนี้อีก” น้ำเสียงอบอุ่นที่เอ่ยออกมาสร้างสัมผัสที่หอมละมุนจนชานยอลรู้สึกแปลกไปกับสิ่งนี้ รอยยิ้มบางจากใบหน้าของเทพบุตรสุดหล่อกระตุกหัวใจน้อยๆให้วูบไหวเหมือนใบไม้ต้องลม


“นี่!เอาหน้าออกไปไกลๆฉันเลย” ฝ่ามือเล็กผลักใบหน้าคมคายให้ออกห่าง มือหนาคว้าข้อมือนั้นไว้และจับจ้องดวงตากลมโต...


“นายกำลังเขินฉัน...อีกไม่กี่ชั่วโมงความชอบจะกลายเป็นความรัก ภารกิจของฉันบนโลกมนุษย์จะจบลงภายใน 7 วัน” เขากำลังอ่านใจชานยอล มันเป็นเรื่องง่ายที่เด็กหนุ่มคนนี้จะตกหลุมรักสายตาและการกระทำที่อ่อนโยนของเทพบุตรคริส หากภารกิจเสร็จสิ้น เทวดารูปงามจะได้กลับไปยังสรวงสวรรค์และลบคำครหาเกี่ยวกับพรมแดนระหว่างความรักลงได้



ริมฝีปากเล็กเบ้ลงด้วยความหมั่นไส้ เขารู้สึกเป็นรองร่างสูงตรงเกมส์อ่านใจ หากคริสไม่สามารถอ่านใจเขาได้ เขาต่างหากที่จะเป็นฝ่ายชนะเทวดาตัวร้ายคนนี้


จากช่วงสายของวันล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็น นักศึกษาต่างทยอยกันเดินทางกลับบ้าน นักศึกษาหญิงเกือบสิบคนเดินล้อมหน้าล้อมหลังร่างสูงจนเขาเกือบเสียหลักล้ม หลายคนเดินเกาะแขนเกาะไหล่และสอบถามข้อมูลจากคริสว่าพักแถวไหน และจะมาศึกษาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยนี้อีกหรือไม่


“เฮ้ ชานยอล ช่วยฉันด้วยสิ!” เสียงเข้มตะโกนเรียกหลังจากเหลือบเห็นร่างบางเดินผ่านร่างเขาไปโดยไม่ใยดี


“ก็นายอยากมาที่นี่เอง ช่วยไม่ได้” คำพูดเยาะเย้ยถูกสบถออกมาลอยๆพร้อมกับเร่งฝีเท้าหนีร่างสูงที่เดินไม่ถนัดนักเนื่องจากถูกกีดขวางเส้นทางจากจำนวนผู้หญิงในกลุ่มหลายคน


“ฉันไม่อยากทำแบบนี้เลยให้ตายเถอะ” นิ้วเรียวยาวดีดเข้าหากันดังเป๊าะ พวกมนุษย์รอบข้างหยุดการกระทำทั้งหมดเหมือนถูก Pause ไว้ ชานยอลเองก็ยืนนิ่งเมื่อถูกมนต์สะกดด้วยเช่นกัน


“อยากกวนฉันนักใช่ไหม” ร่างสูงยกยิ้มเดินเข้าไปใกล้ ใบหน้าคมโน้มเข้าไปหาริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ เขาประกบริมฝีปากจูบสัมผัสไปช้าๆและค้างไว้ นิ้วมือดีดเข้าหากันอีกครั้งเพื่อเป็นการคลายเวทมนตร์


ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อรู้สึกตัว เขากำลังถูกคริสจูบในมหาวิทยาลัยที่คนเห็นหลายสิบคน ใบหน้าคมถูกผลักออกอย่างแรงพร้อมเสียงของชานยอลที่แผดใส่เข้ามาไม่ยั้ง ร่างสูงหัวเราะร่าในการกระทำของตน เขาคว้าข้อมือบางออกวิ่งนำเพื่อหนีนักศึกษาสาวที่วิ่งตามมาเป็นขบวน หลายคนกรีดร้องไม่พอใจที่เห็นคริสยืนจูบกับชานยอลต่อหน้า สองขายาวก้าวเท้าวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อให้พ้นสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ แม้ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเทพบุตรสุดหล่อก็ยังหัวเราะได้และรู้สึกสนุกสนานอย่างบอกไม่ถูก


...........7 วันผ่านไป..........




ในแต่ละวันที่ผ่านพ้นไป ร่างบางปฎิเสธไม่ได้ว่ามีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับเทพบุตรรูปงาม ความรักก่อตัวขึ้นช้าๆตามคำทำนายทายใจของคริส เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาที่เบื้องบนกำหนดและเขาสามารถอ่านใจของชานยอลได้ว่าเริ่มรักเขา ก็ถึงเวลาของการสารภาพรัก....หากภารกิจนี้เสร็จสิ้น เขาจะสามารถลบล้างคำครหา พ้นความผิดที่เคยถูกกล่าวหาไว้ข้างต้น....


ดอกกุหลาบสีขาวถูกแต่งแต้มในห้องนอน บนเตียงถูกประดับประดาด้วยกลีบกุหลาบสีอ่อนไปทั่ว กลิ่นหอมรัญจวนของดอกไม้ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น วันนี้จะเป็นวันที่ร่างสูงตัดสินใจจะสารภาพรักและต้องขอความรักจากชานยอลเช่นกัน....


ห้องทั้งห้องถูกตกแต่งด้วยดวงไฟสีนวล ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากฝีมือการดีดนิ้วและเวทมนตร์จากคริสตามเคย...ร่างบางถูกผ้าสีขาวพันรอบดวงตา ข้อมือบางถูกจูงเข้ามาที่กลางห้อง มือหนาค่อยๆแก้ผ้าผูกตาออกช้าๆพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น


“ห้องนอนของนายใกล้กับประตูสวรรค์ที่สุด สถานที่นี้จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในความรักของเรา” เสียงเข้มเอ่ยด้วยท่าทีจริงจัง การแก้มลทินให้กับเขาไม่จำเป็นต้องพาชานยอลขึ้นไปบนสรวงสวรรค์ เพียงแต่หากทำพิธีกรรมใกล้เคียงกับประตูสวรรค์ก็เป็นการช่วยเหลือเขาและยืนยันความรักระหว่างเขาทั้งสองได้


“ฉันต้องทำยังไงบ้าง แค่ยืนเฉยๆเหรอ” ดวงหน้าหวานใสมีท่าทีฉงน


“ยืนเฉยๆและปลดปล่อยความต้องการไปตามอารมณ์ความรู้สึก” นิ้วเรียวยาวเกลี่ยไปตามแก้มใส ดวงตากลมถูกนิ้วมือของคริสปิดเปลือกตาลงช้าๆ กลิ่มหอมจากดอกไม้นานาพรรณตลบอบอวลไปทั่วห้อง


ริมฝีปากหนาคลอเคลียตามซอกคอขาวและติ่งหู ปลายจมูกโด่งซุกไซร้ไปตามแก้มใสเพื่อเก็บเกี่ยวความหอมละมุนไว้ให้เนิ่นนานที่สุด ริมฝีปากถูกกอบกุมและขบเม้มแผ่วเบาจนร่างบางรู้สึกเบาหวิว วาบหวามจนเกิดความสุข


“ฉันรักนายนะปาร์คชานยอล แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆเราก็ได้พิสูจน์มันแล้ว” เสียงกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบา ดวงตาคมหลับลงช้าๆพร้อมกับคลอเคลียหยอกล้อเล่น


“นายรักฉันไหม” เสียงเอ่ยถามตามพิธี หากคำตอบที่ได้รับตรงกับความรู้สึกในใจ คริสจะได้กลับไปยังเบื้องบนและลบคำกล่าวหาจากผู้ทรงอำนาจ


“อืม ฉันรักนายคริส ฉันรักนาย” ใบหน้าหวานพยักเพยิดช้าๆ หัวใจเต้นแรงเมื่อสารภาพสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ ชานยอลไม่รู้เลยว่าคำพูดที่เขาเปล่งออกไปเมื่อครู่จะทำให้ชายคนรักตรงหน้าค่อยๆสลายหายไปกับตา...


ริมฝีปากที่สัมผัสกันของทั้งสองค้างไว้ ร่างสูงสลายหายเป็นเมฆหมอกในอากาศ ไม่มีแม้คำเอ่ยลา คริสเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าหากชานยอลสารภาพความในใจแล้วเขาจะต้องกลับไปยังสรวงสวรรค์ทันที ดวงตากลมโตลืมขึ้นมองเมื่อสัมผัสได้ถึงร่างตรงหน้าที่กลายเป็นอากาศธาตุ เขาตกใจกับภาพที่พบเห็น มือบางเอื้อมจับแขนแกร่งรั้งไว้แต่ก็ไขว่คว้าได้แต่เพียงสายลมพัดผ่าน ร่างบางเปล่งเสียงตะโกนร้องเรียกเทพบุตรจากเบื้องบนด้วยความตกใจ....


“ คริส!! นายจะไปไหน ฉันเพิ่งจะสารภาพรักกับนายนะ ไม่ มันต้องไม่เป็นแบบนี้!” เสียงร่ำไห้เบาๆด้วยความเสียใจ มือบางยกขึ้นปิดหน้า ไม่นานห้องทั้งห้องก็กลับสู่สภาวะปกติ กลีบกุหลาบและกลิ่นหอมรัญจวนสลายหายไปพร้อมๆกับร่างสูงของคนรัก...ไม่มีแม้เสียงตอบรับ ทุกอย่างเงียบงันจนชานยอลเริ่มใจหาย เขาพยายามพูดปลอบตนเองว่าอีกไม่นานคริสคงจะกลับมา อาจจะเป็นคืนนี้ คืนพรุ่งนี้ ที่ร่างสูงจะร่วงหล่นลงมาจากสรวงสวรรค์อีกครั้ง



จาก 1 วันผ่านพ้นเป็น 2 วัน ล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 3 และ 4 ........จากเดือนเคลื่อนผ่านเป็นปีที่ชานยอลเฝ้ารอคนของหัวใจที่หายไปโดยไม่บอกลาสักคำ...


จากความเจ็บปวดกลายเป็นความชินชา น้ำตาที่หลั่งใหลทุกๆวันแปรเปลี่ยนเป็นความเข้มแข็งที่หล่อหลอมหัวใจของเขา ชานยอลอยู่โดยไม่มีความรักกับใครเป็นปีๆเพื่อเฝ้ารอคริส แม้จะไม่มีทางได้รับรู้ว่าชีวิตนี้เขาจะได้พบเจอกับเทพบุตรคนนี้อีกหรือไม่ ชานยอลก็ยังคงยึดมั่นที่จะรอเขาต่อไป.....




3 ปีผ่านไป.....



ร่างบางกระหืดกระหอบก้าวเท้าออกจากบ้านด้วยความเร่งรีบ แฟ้มเอกสารหอบใหญ่ถูกถือด้วยความยากลำบาก นาฬิกาข้อมือบ่งบอกเวลาเกือบ 9 โมงเช้า เมื่อคืนเขานอนดึกอีกแล้วเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อน เทพบุตรตัวร้ายที่ขโมยทั้งหัวใจและจิตวิญญาณของเขาไป ทิ้งไว้เพียงร่างกายที่เหี่ยวเฉาไร้ซึ่งชีวิตชีวา


สองเท้าก้าวขึ้นรถประจำทางด้วยความรีบร้อน มือบางถือแฟ้มเอกสารที่หนักอึ้งหนึ่งข้าง และอีกหนึ่งข้างจับห่วงในรถเพื่อพยุงตนเอง ร่างบางโงนเงนตามแรงเหวี่ยงของตัวรถ ดวงตากลมเหลือบมองไปยังผู้ชายร่างกำยำคนหนึ่งที่นั่งอ่านหนังสือสบายใจ ภาพวันวานย้อนกลับมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงคริสที่แกล้งให้ชายวัยกลางคนลุกจากเก้าอี้และเสียสละที่นั่งให้แก่เขา...



ริมฝีปากบางแย้มยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าคมคายที่หล่อเหลาราวเทพบุตร ยามที่เขายกยิ้มค่อนไปทางกวนประสาทเสียมากกว่า ด้วยความใจลอยของชานยอลที่กำลังมองเหม่อ เมื่อรถเบรคกะทันหันทำให้เขาเสียหลัก แฟ้มในมือร่วงหล่นลงสู่พื้น แขนแกร่งของใครคนหนึ่งโอบรอบเอวเขาไว้และรั้งเข้าหาตัว....


“ไม่เป็นอะไรนะครับคุณ” เสียงเข้มเอ่ยถามด้วยความห่วงใย


“ไม่ฮะ ขอบคุณ ผมซุ่มซ่ามเอง” เขาส่ายศรีษะและรีบก้มลงไปเก็บแฟ้มเอกสารที่หล่นลงบนพื้นรถประจำทาง


“ผมไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบบนโลกมนุษย์นี่เลย” ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อช่วยเก็บแฟ้มเอกสาร ประโยคและน้ำเสียงที่ดูคุ้นเคยทำให้ชานยอลต้องเหลือบมองเจ้าของร่างข้างๆเขา


แว่นตาดำถูกสวมใส่บนใบหน้า เสื้อเชิ๊ตสีดำถูกสวมใส่คู่กับกางเกงเข้ารูปสีดำ ทรงผมสีทองไถข้างแบบสูง รูปร่างท่าทางที่ดูดีตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ต่อให้ผ่านไปหลายปีเขาก็จำคนๆนี้ได้ ท่าทางไม่สบอารมณ์ของร่างสูงสบถเบาๆเมื่อจับจ้องไปยังร่างของชายกำยำที่ไม่มีน้ำใจจะช่วยลุกให้ชานยอลนั่ง...


“ถ้าผมเป็นพวกเทวดามีเวทมนตร์อะไรเทือกนั้น จะแกล้งคนแล้งน้ำใจพวกนี้ให้น่าดู”


“คุณไม่เป็นอะไรแน่นะครับ” มือหนาเอื้อมจับไหล่ของชานยอลเขย่าเบาๆเพื่อเรียกสติ เนื่องจากเขาอยู่ในอาการตกตะลึง ดวงตากลมเบิกกว้างและจับจ้องใบหน้าคมไม่ลดละ


“ค...คุณ...ชื่อคริส..หรือเปล่าฮะ” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความตื่นเต้นสุดหัวใจ


“อ่อ...ไม่ใช่ครับ ผมชื่อ...อู๋อี้ฝาน เพิ่งกลับมาเกาหลีไม่นานนี้เอง ก่อนหน้านี้เรียนอยู่แคนาดาแล้วเพิ่งจบน่ะครับ” รอยยิ้มที่อ่อนโยนบ่งบอกถึงความอบอุ่นและความมีน้ำใจของเขา


“คุณเหมือนคนที่ผมรู้จักมาก...ขอโทษด้วยนะฮะ” ชานยอลรีบโค้งคำนับและขอโทษขอโพยที่เสียมารยาทกับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก


“อ่าไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวก่อนนะ” อี้ฝานกล่าวคำอำลาก่อนที่จะก้าวเดินไปยังประตูรถ


เขาลงจากรถไปแล้วพร้อมทั้งสายตาของชานยอลที่มองตามร่างนั้น ความคุ้นเคยและความผูกพันที่เคยมีให้กัน น้ำเสียงรวมถึงรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นกระตุกหัวใจของชานยอลให้เหม่อมองตามไปอย่างไม่รู้ตัว....เขาตะโกนบอกคนขับรถให้หยุดเมื่อรถเคลื่อนตัวจากร่างสูงโปร่งไปสักระยะ


ร่างบางวิ่งกระหืดกระหอบตามมาทางด้านหลัง เสียงเรียกของชานยอลสะกดให้ชายหนุ่มรูปงามหยุดยืนนิ่ง


“เดี๋ยวฮะ คุณอู๋อี้ฝาน!! ผ..ผมมีเรื่องจะรบกวน”



ใบหน้าคมคายยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมมีเงาสีฟ้าฉาบเคลือบแวววับ เขากระพริบตาหนึ่งครั้งสีของแววตาก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทเหมือนดวงตาปกติของพวกมนุษย์…



“ภารกิจของฉันยังไม่จบหรอกปาร์คชานยอล มนุษย์อย่างนายได้รับเกียรติอันสูงส่งแค่ไหนที่ฉันต้องลงมารับ นายจะดีใจไหมที่เจอฉันอีกครั้งในฐานะคริสผู้ทรงอำนาจแห่งสรวงสวรรค์ ไม่ใช่คริสเทพบุตรหลุดสวรรค์คนเดิม....นางฟ้าของฉัน”.....




-จบบริบูรณ์-


ติดแทค #เทพบุตรหลุดสวรรค์_KY หากอยากหวีด เราจะตามส่อง ขอบคุณนะ Razz

http://0ctogus.forumth.com

mecharui



ได้เลื่อนตำแหน่งด้วยหรอออ เริ่ดมากค่ะ ขอบคุณค่ะ

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ