0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

เกลียดผมนักมารักผมเถอะ EP3

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin

"ปล่อยฉันนะ คริส! ไอ้บ้า! อย่าเล่นแบบนี้ ฉันไม่ชอบ" มือบางผลักร่างสูงของคนตัวโตกว่าถลาหงายหลัง เขาทุบลงไปบนตัวของร่างสูงหลายครั้งพร้อมสบถคำด่า



"ฉันไม่ใช่คนประเภทที่นายจะมาแกล้งเล่นแบบนี้ได้! นายอาจจะเคยเล่นแบบนี้กับคนอื่นมาเยอะ แต่ไม่ใช่กับฉัน!!" ใบหน้าหวานใสบูดบึ้งและเดินหนีไปด้วยความโมโห เสียงหัวเราะเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นขึงขังจนคริสงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



"อะไรของเขาวะ" เขาเปรยกับตัวเองเบาๆและมองตามร่างโปร่งไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ คนอะไรเปลี่ยนอารมณ์ไวจนปรับตัวตามอารมณ์ไม่ทัน...




อาการแปลกๆของคน...."กลัวใจตนเอง"




เย็นวันนั้นอาการป่วยของชานยอลกำเริบมากขึ้น ร่างโปร่งเดินกลับบ้านคนเดียวอีกตามเคย หลังจากหาข้อมูลทำรายงานในห้องสมุดเสร็จ เพื่อนในกลุ่มต่างแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง ร่างสูงคว้ากระเป๋าสะพายเดินตรงไปตามอาคารเรียนเพื่อให้ทันชานยอล แต่ก็สายไปเมื่อพบแต่เพียงเพื่อนสนิท ของเขาเท่านั้น



"ชานยอลกลับไปแล้ว พวกเราต้องหาข้อมูลทำรายงานต่อ พวกฉันเห็นเขาไม่สบายเลยให้กลับไปพักผ่อนน่ะ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเจือปนไปด้วยความห่วงใยเพื่อนรัก


"เขาไม่สบายเหรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง" เสียงเข้มสบถกับตัวเองเบาๆ เบอร์โทรศัพท์ของชานยอลถูกคริสบันทึกลงเครื่อง ด้วยข้ออ้างว่าเขามีธุระจะคุยกับชานยอล เพื่อนสาวจึงให้ไปด้วยใจที่ไม่คิดอะไร



ข้อความจากเครื่องถูกส่งไปด้วยโปรแกรมแชทไลน์ คำถามเกี่ยวกับสุขภาพคือสิ่งแรกที่คริสตั้งใจจะถามก่อนสิ่งอื่นใด



"เป็นอะไรไม่สบาย เพราะตากฝนวันนั้นหรือเปล่า?" -คริส



"อืม ก็วันนั้นฉันต้องรีบกลับบ้าน อ่า แล้วนายเอาเบอร์ฉันมาได้ยังไงเนี่ย..." -ชานยอล



"ทำไมไม่รอให้ฝนหยุดก่อน นายนี่มันดื้อชะมัด" -คริส



"มันก็แค่ละอองฝน คนอื่นเขาก็ตากฝนกลับบ้านกันทั้งนั้น นายบ่นอะไรเยอะแยะ" -ชานยอล



"คนอื่นที่ว่าเขาร่างกายอ่อนแอแบบนายไหมชานยอล" -คริส



"ไม่รู้ ฉันไม่ได้ถามเขา นี่ ฉันจะนอนแล้วนะ บ่นเป็นตาแก่ไม่หยุด สวัสดี..." -ชานยอล



"ก่อนนอนอย่าลืมหายาทาน รีบพักผ่อนด้วยนะ" -คริส




หน้าจอถูกปิดไปแล้ว ใบหน้าหวานใสมีท่าทีงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อความที่แลดูห่วงใยถูกส่งมา ในขณะที่คริสเองก็รู้ดีว่าชานยอลไม่ชอบหน้าเขา คำพูดและการกระทำบางอย่างของคริสทำให้ร่างโปร่งเริ่มไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไร หรือเพียงเพราะว่าเขาต้องการสร้างมิตรมากกว่าการที่จะมีศัตรู...



หลายวันผ่านไป ข้อความทักทายถูกส่งเข้ามาทุกวัน บางครั้งทั้งสองก็แอบลองใจกันและกันด้วยการตอบและส่งข้อความแค่สั้นๆ แต่ก็เป็นคริสทุกครั้งที่ส่งข้อความมาชักชวนเขาคุยต่อ หลายครั้งที่ทั้งสองเผลออมยิ้มหลังจากอ่านข้อความจบและหลายครั้งทั้งสองก็จบลงด้วยการกวนประสาทกันทางข้อความ



...และแล้ว ความอัดอั้นตันใจก็เกิดขึ้น ความรักต้องการเหตุผลและความชัดเจนในความรู้สึก เย็นวันหนึ่งหลังจากที่เลิกเรียนคาบบ่าย ชานยอลเก็บของในล็อคเกอร์ของมหาลัยและรีบตรงกลับบ้าน สิ่งเดียวที่เขาต้องการจะหนีคือ "คริส" แต่สิ่งหนึ่งที่เขาพยายามจะหนีมันแต่ทำไม่ได้คือ "หัวใจตัวเอง" ร่างโปร่งก้าวเดินไปตามถนนหนทาง แต่แล้วรถมอร์เตอร์ไซด์สี่สูบก็ดังตามมาทางด้านหลัง แค่ได้ยินเสียง ชานยอลก็รับรู้ดีว่านี่คือรถของคนที่ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว...



"จะกลับบ้านใช่ไหม ฉันจะไปส่ง ขึ้นมาสิ" เจ้าของร่างสูงชะลอรถด้านข้างและยื่นหมวกกันน็อคสีดำให้ร่างโปร่งตรงหน้า



"ฉันจะกลับเอง นายจะไปไหนก็ไปเถอะ" ร่างโปร่งสาวเท้าเร็วกว่าเดิม หนังสือหลายเล่มถูกกอดแนบหน้าอกยิ่งขึ้น



"นายเป็นอะไรน่ะชานยอล ไม่ตอบข้อความฉันมาสองวันแล้ว" มือหนารั้งข้อมือบางมาจับหลวมๆเพราะต้องการคำตอบ



"เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหมคริส นายวุ่นวายกับฉันมากเกินไปแล้ว" ชานยอลสะบัดข้อมือออกและรีบเดินตรงไปข้างหน้า ดวงตากลมไม่กล้าแม้แต่จะสบตา



ขาตั้งรถมอร์เตอร์ไซด์คันใหญ่ถูกเตะลงมาเพื่อประคองรถสี่สูบ ร่างสูงเดินตามร่างโปร่งเพื่อรบเร้าเขาอีกครั้ง



"เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเพิ่งไป คุยกันก่อน" มือหนารั้งข้อมือบาง ร่างโปร่งตวาดกลับไป ในที่สุดเขาก็ถูกหนังสือเล่มหนาตีเข้าไปที่แขนแกร่งตามมาด้วยเสียงดุของชานยอล




"บอกว่าอย่ามายุ่งไง ไปไกลๆได้แล้ว ทุกวันนี้เราคุยกันแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น ฉันไม่มีเวลาว่างมากนักนะ" หนังสือถูกตีเข้ามาด้วยความหมั่นไส้ ชานยอลกำลังสับสนในตัวเอง การกระทำและประโยคที่ออกจากปากไม่ตรงกับหัวใจ



"นายทำบ้าอะไรเนี่ย ฉันเจ็บนะ!" มือบางถูกรวบไว้ด้วยน้ำเสียงห้ามปราม



"จะให้ฉันไปจริงๆใช่ไหมชานยอล นายพูดเองนะ" ร่างสูงปล่อยมือออกและผละเดินตรงไปยังรถที่จอดนิ่งสนิทอยู่ ขายาวก้าวเท้าขึ้นรถและสตาร์ทออกตัวไป ร่างโปร่งกลับหัวใจวูบไหวเมื่อเหลือบมองแผ่นหลังกว้างที่ลับตาออกไปเรื่อยๆ ความรู้สึกบางอย่างเกาะกุมหัวใจเขา จากไม่ชอบหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกแปลกประหลาด ความรู้สึกลึกๆต้องการที่จะเรียกร้องเพื่อพบเจอ



ค่ำคืนนั้น ชานยอลนอนไม่หลับ ข้อความแชทเงียบหายไป เขาผิดเองที่ปากหนัก และออกปากไล่คริส




*ตึ่ง ตึ่ง...




เสียงข้อความแชทไลน์ดังขึ้น มือบางรีบกดเปิดอ่านด้วยหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ



"ฉันไปล่ะ ไอ้หูกาง โชคดีนะ" -คริส




แค่เพียงอ่านจบประโยค มือบางรีบกดข้อความตอบกลับทันทีด้วยความกลัว จากเดิมที่เคยกลัวหัวใจตนเอง แต่ตอนนี้เขากลัวว่าคริสจะหนีหายไปจริงๆมากกว่า



"คริส เดี๋ยวก่อน..." -ชานยอล




"หืม มีอะไร ..."-คริส




"พรุ่งนี้ฉันขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม" -ชานยอล

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.





...แสงอาทิตย์ยามเช้ามาเยือน วันนี้คือวันที่ชานยอลตัดสินใจจะเอ่ยถามความรู้สึกในใจของคริส เขาพ่ายแพ้ให้กับความเอาใจใส่ของผู้ชายคนนี้ ทั้งๆที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขามอบให้คือความสัมพันธ์แบบไหน รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ความห่วงใยที่คริสมีให้เสมอทำให้ชานยอลค่อยๆซึมซับความหวั่นไหวแบบไม่รู้ตัว



"อย่าบอกว่าจะมาสารภาพรักกับฉัน" เสียงเข้มเอ่ยถามเมื่อพบใบหน้าหวานใส แก้มเนียนขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกจี้ใจดำอย่างจัง



"ความกากของนายต้องใช้หมอคนไหนรักษา โรคหลงตัวเองของนายหมอเคยบอกไหมว่าให้ญาติทำใจได้แล้ว" แม้จะเขินอายเพียงไหนแต่ชานยอลก็ยังคงกวนประสาทเขาไม่เลิก



"จะพูดอะไรก็พูดมา ลีลามากจริง ฉันต้องไปดูน้องๆซ้อมบาสอีก เห็นฉันหล่อๆแบบนี้ไม่ได้มีเวลามากมายนะ ถ้านายไม่สำคัญจริงๆฉันคงไม่ออกมาพบนาย" ดวงตาคมหรี่เล็กลงอย่างเจ้าเล่ห์ คนอย่างคริสรู้ดีว่าสิ่งที่ชานยอลกำลังจะพูดคืออะไร เขาสามารถอ่านเกมส์และสายตาของชานยอลได้




"คริส....ฉันถามอะไรอย่างสิ....นาย...รู้สึกแบบไหนกับฉันเพราะตอนนี้...ฉันรู้สึกแปลกๆกับนาย" เสียงขาดห้วงบ่งบอกถึงความไม่มั่นใจ แต่เขาก็พร้อมแล้วที่จะรับฟังคำตอบจากร่างสูง



"แปลกๆแบบไหน? นายเองก็แปลกๆกับฉันแต่แรกอยู่แล้วนี่ เกลียดฉันอย่างกับอะไร ชาติที่แล้วฉันคงไปหักอกนายไว้" ร่างสูงยักไหล่ด้วยท่าทางยียวน



"ต้องบอกด้วยเหรอว่าแปลกๆแบบไหน...โว๊ะ นายนี่มัน" ใบหน้าหวานยังคงเขินอาย แต่ความปากหนักก็ทำให้เขาไม่กล้าที่จะพูดออกไป



"ฉันไม่ถามละ ไปดีกว่า ขอโทษที่รบกวนนะ" ร่างโปร่งรีบเดินหันหลัง มือบางคว้ากระเป๋าและหนังสือเรียน เขาก้าวเดินตรงไปข้างหน้าอย่างรีบร้อน แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงดังมาจากทางด้านหลัง



"ชานยอล! ฉันจะบอกว่าฉันเองก็ไม่รู้ว่ารู้สึกกับนายแบบไหนกันแน่ แค่...อยากคุยด้วยทุกวัน ไม่เห็นหน้านายแล้วก็คิดถึงแทบบ้า เวลาที่เราคุยกันฉันมีความสุขทุกครั้งจนยิ้มออกมาคนเดียว มีเรื่องอะไรไม่สบายใจฉันอยากจะเล่าให้นายฟังเป็นคนแรก เวลาที่ฉันแกล้งนาย แหย่นายจนโมโหได้ ฉันโคตรชอบเลยรู้ไหม!!.."



"............" ร่างโปร่งยืนนิ่งงัน ความในใจของคริสยังคงถูกระบายออกไป



"ฉันยอมรับว่าตอนแรก ฉันมาคุยกับนายเพราะอยากเอาชนะใจนาย มันน่าภูมิใจมากนะที่ฉันทำให้คนที่เกลียดฉัน ไม่ชอบหน้าฉันยอมคุยกับฉัน แต่ตอนนี้...ฉันไม่ได้อยากเอาชนะแล้ว ฉันกำลังทำตามหัวใจตัวเองต่างหาก"



ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหาร่างโปร่งช้าๆ มือหนาลูบจับศรีษะคนตัวเล็กกว่า นิ้วเรียวยาวเกลี่ยปอยผมด้านหน้าเล่นอย่างเบามือ



"รู้สึกเหมือนกันกับฉันไหม หืม.." ปลายจมูกโด่งกระซิบลงข้างหูอย่างแผ่วเบา เขาทวนคำถามที่อาจจะตรงใจของร่างโปร่งเช่นกัน



"คริส...ฉัน" ริมฝีปากบางเอ่ยเสียงตะกุกตะกักด้วยความประหม่า ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆจนลมหายใจรดริน



ดวงตากลมหลับลงช้าๆเพื่อรอรับสัมผัสครั้งแรกของกันและกัน และแล้วก็เกิดเสียงที่ทำลายความเงียบสงบรอบข้าง



"ฮัดเช้ย!" เสียงจามดังออกมาจากร่างสูง โชคดีที่เขาเบี่ยงหน้าหลบทัน ไม่เช่นนั้นใบหน้าสวยหวานคงชุ่มไปด้วยน้ำลาย



"ขออีกครั้งได้ไหม เมื่อกี้ฉันยังไม่ได้จูบเลย" คริสรบเร้าร่างโปร่งแต่ไม่เป็นผล คนกากยังไงก็ยังคงเป็นคนกากอย่างนั้น แม้ในตอนที่กำลังจะโรแมนติค ชานยอลได้แต่ส่ายศรีษะไปมาพร้อมรอยยิ้มขำของความไม่เอาไหน กัปตันทีมบาส ประธานนักศึกษาที่ดูดีทุกมุมมอง กลับเปิดเผยมุมแปลกประหลาดที่ใครไม่เคยมองเห็นมัน นอกจาก "ปาร์คชานยอล"



"คบกันนะ" คือประโยคสุดท้ายของเย็นวันนั้น ในที่สุดสถานะของทั้งสองก็ข้ามขั้น จากคนที่เกลียดหน้ากันกลายเป็นคนรักกัน








หลายวันต่อมา.....




ตึ้ง ตึ้ง... เสียงข้อความแชทไลน์ดังเข้ามาที่ตัวเครื่อง



"ชานยอล นายทำกับข้าวเป็นไหม" -คริส



"เป็น ถามทำไม..." -ชานยอล



"วันนี้แม่ฉันไม่อยู่บ้าน อาหารสดเต็มตู้เย็นฉันทำไม่เป็นสักอย่าง มาทำให้ฉันทานหน่อยสิ" -คริส



ในที่สุดชานยอลก็ไม่สามาถปฎิเสธได้ เขาถูกรบเร้าจากคนรักและยอมใจอ่อนเดินทางไปบ้านของคริส...



บ้านหลังใหญ่สีขาวที่ดูอบอุ่นตั้งตระหง่านรอต้อนรับร่างโปร่ง ครัวขนาดใหญ่มีข้าวของเครื่องใช้จัดวางอย่างเป็นระเบียบ โต๊ะอาหารเต็มไปด้วย ผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ มือบางคนซุปกิมจิในหม้อสีขาว ไฟจากเตาทำให้อาหารส่งกลิ่นหอมไปทั่วและน้ำในหม้อก็เริ่มเดือดปุดๆ



"หอมจังเลยครับ" ร่างสูงโผเข้าสวมกอดคนตัวเล็กกว่าจากทางด้านหลัง



"ไม่ได้หอมอย่างเดียว อร่อยด้วยนะ ลองชิมสิ" ชานยอลใช้ทัพพีเล็กตักน้ำแกงขึ้นมาเพื่อจะป้อนคนรัก



"ที่บอกว่าหอม ฉันไม่ได้หมายถึงซุป ฉันหมายถึงนายน่ะ" จมูกโด่งซุกลงตรงไหล่ขาวเนียนพร้อมสูดกลิ่นหอมฟอดใหญ่



"อื้อ อย่าเพิ่งเล่นสิ" เขาเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยเมื่อเริ่มถูกกลั่นแกล้ง



"ไหนบอกให้ฉันลองชิม อยากชิมแล้วนะ" ร่างสูงยังคงหยอกล้อ ริมฝีปากหนาขบเบาๆไปตามลำคอขาวเนียน



"ไม่เอานะคริส..." มือบางปิดเตาแก๊สและหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กกะจี๋



โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ถูกจัดวางอาหารที่ทำสำเร็จ ควันสีขาวลอยฟุ้งบ่งบอกถึงความสดใหม่ของอาหาร ชานยอลร้องเรียกคริสให้ลงมาทานหลังจากจัดเตรียมความเรียบร้อยหมดแล้ว



"หิวแล้วนะครับคุณ" เสียงเข้มแสร้งดุร่างโปร่งตรงหน้า



"หิวแล้วก็ทานได้เลย เสร็จหมดแล้ว" เอ่ยตอบกลับไปทั้งๆที่ยังคงสาละวนกับการตักข้าวใส่ถ้วยใบเล็ก



"งั้นผมทานละนะ" มือหนากระตุกปมผ้ากันเปื้อนด้านหลังออก แขนแกร่งโอบกอดรัดร่างขาวเนียนเพื่อกลั่นแกล้งเขา



"ทานข้าวก่อนคริส" ร่างโปร่งดิ้นรนพร้อมเสียงหัวเราะขบขัน



"กินนายก่อนค่อยกินข้าวดีกว่า" หลังจบประโยคมือหนาก็เริ่มซุกซนมากขึ้น



เสื้อตัวบางถูกล้วงและลูบไล้เล่นอย่างเบามือ จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอหอมละมุน ริมฝีปากอิ่มถูกดูดดึงจนบวมเจ่อตามริมฝีปากหนาของคริส ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากจนลิ้นเล็กต้องถดหนี มือหนาเลื่อนไปบริเวณหน้าอกเนียนและคลึงเล่นอย่างมันส์มือ กระดุมเม็ดเล็กค่อยๆถูกฝีมือของคริสปลดออกด้วยความว่องไว เสียงร้องห้ามปรามเบาๆแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางอื้ออึงในลำคอ ไม่นานทั้งสองก็เปลือยเปล่าในห้องครัวสีขาวขนาดกว้าง



ร่างโปร่งถูกจับนั่งบนตักของคริสบริเวณโต๊ะอาหาร ริมฝีปากหนาไล้เลียไปตามแผ่นหลังขาวเนียน ส่วนเล็กน่ารักของร่างโปร่งถูกเล้าโลมและชักรูดขึ้นลงด้วยมือหนาช้าๆ นิ้วเรียวยาวของร่างสูงสอดเข้าไปที่โพรงปากร้อนเพื่อให้ชานยอลดูดอม หลังจากมันชุ่มน้ำลายจนเป็นที่พอใจแล้ว นิ้วเรียวก็ค่อยๆสอดแทรกเข้าไปทางช่องทางรักด้านหลัง เขาชักมันเข้าออกช้าๆและเปลี่ยนจังหวะให้เร็วขึ้นทีละน้อย เมื่อประตูสวรรค์เริ่มตอบรับความต้องการของเจ้าของร่างมากขึ้น นิ้วเรียวก็ถูกถอนออกและเปลี่ยนเป็นส่วนแข็งขืนที่มีขนาดใหญ่กว่านั้นมาก...



"เจ็บหน่อยนะ ฉันจะทำให้อ่อนโยนที่สุด" เสียงกระซิบแหบพร่าที่ข้างหูช่วยลดความตื่นเต้นของชานยอลลงได้บ้าง



ใบหน้าหวานใสค่อยๆเปลี่ยนเป็นซีดเซียว ริมฝีปากบางขบเข้าหากันด้วยความเจ็บระคนเสียวซ่าน ไม่นานนักเมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชิน จังหวะที่เนิบนาบก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเร่งขึ้น ร่างสูงกระแทกส่วนปลายเข้ามาจนสุดและถอนออกช้าๆ เสียงครางระงมบ่งบอกถึงความสุขสันต์ภายในห้องครัวที่ยังคงมีกลิ่นอาหารลอยฟุ้ง



"อ๊ะ ...คริส...เบาๆหน่อย" เสียงห้ามปรามเมื่อคนที่อยู่ด้านล่างเริ่มเพิ่มจังหวะที่หนักหน่วงมากขึ้น



สะโพกบางถูกดึงรั้งลงมาที่ตัวหลายครั้ง ใบหน้าคมซุกลงตรงแผ่นหลังขาวเนียนและร้องครางออกมา เขาขบกรามแน่นจนเส้นเลือดค่อยๆบวมปูด



"อืมม อาา ชานยอล" ร่างสูงครวญครางเมื่อร่างโปร่งขยับตัวขึ้นลงและบดขยี้สะโพกมนลงมา



"อ่าาา ชานยอล.... ฉันจะไม่ไหวแล้ว" ร่างโปร่งทิ้งสะโพกลงมาย้ำๆหลายครั้ง จนคนใต้ร่างกอดเอวบางไว้แน่น เสียงหอบแฮ่กของทั้งสองประสานกัน ไม่นานร่างกายของเขาก็กระตุกเกร็งด้วยความเสียวกระสันต์ น้ำรักถูกฉีดเข้าไปทางด้านหลังจนเกิดความอุ่นในร่างขาวเนียน



เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพรายบนใบหน้าคม มือหนาเอื้อมหยิบทิชชู่บนโต๊ะอาหารเพื่อจะจัดการกับคราบไคล แต่เขาก็พลาดท่าทำข้าวในถ้วยใบเล็กหกใส่ขาชานยอล



"นายนี่ไม่เคยเปลี่ยนนะคริส กากเสมอต้นเสมอปลาย" ริมฝีปากอมยิ้มและขบขันความโก๊ะของคนรัก



"แต่เรื่องนี้ผมก็ทำได้ดีไม่ใช่เหรอครับคุณ..." เขายักคิ้วและทำหน้าตายียวนคนรัก



"ตัวเลอะข้าวแบบนี้ ฉันควรจะพานายไปอาบน้ำต่างหาก" แขนแกร่งช้อนร่างโปร่งขึ้นอุ้ม ทั้งสองหัวเราะหยอกล้อกันเสียงดัง ห้องน้ำคือสถานที่ต่อไปที่กำลังจะร้อนระอุอย่างในห้องครัวอีกครั้ง...




กับข้าวบนโต๊ะเย็นชืดเมื่อทั้งสองยังคงหลงระเริงกับกิจกรรมอื่น อาหารคาวในมื้ัอเย็นถูกจัดจานไว้นานแล้ว มีเพียงคริสและชานยอลที่กำลังทานของหวานที่ละมุนชุ่มคอไม่รู้จักเบื่อหน่าย






"เกลียดผมดีนักใช่ไหมครับ สักวันคุณจะต้องหันมาหลงรักผม"....โบราณว่าไว้ "เกลียดอย่างไหนจะได้อย่างนั้นนะครับคุณ"






จบบริบูรณ์.......... ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ