0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

เพื่อนเราเผาเรือน EP4

2 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin


ทั้งสองยืนจ้องมองกันด้วยบรรยากาศที่อึดอัด จงอินตัดสินใจคว้าข้อมือของเพื่อนตัวสูงจูงเข้าไปในห้องและให้เขานั่งลงบนโซฟา ความเงียบเข้ามาปกคลุมทั่วห้องพัก กล่องปฐมพยาบาลถูกเพื่อนผิวเข้มนำมาวางไว้ข้างๆ สำลีก้อนกลมสีขาวถูกชุบแอลกอฮอล์และซับเบาๆที่บาดแผล



มือหนาปัดมันออกด้วยความหงุดหงิดใจ แขนจงอินกระแทกขวดน้ำยาทำความสะอาดแผล เสียงขวดตกแตกดังเพล้ง!สร้างความตกใจให้กับเพื่อนผิวเข้มไม่น้อย



“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าถ้ากูมีแฟน มึงไม่ต้องทำหน้าที่นี้แล้ว!” แขนแกร่งกระชากข้อมือของคนตรงหน้าขึ้นมาบีบไว้อย่างแรง



“แล้วชานยอลแฟนมึงอยู่ทำให้มึงไหมล่ะคริส”ท่าทีสงบนิ่งของจงอินไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ เขายังคงเก็บความเจ็บปวดหัวใจไว้ลึกๆ



“มึงนอนกับแฟนกูแล้วยังกล้าพูดแบบนี้อีกเหรอ ไอ้จงอิน!” ร่างสูงลุกขึ้นยืนและผลักอกเพื่อนรักจนเขาเซถลา



“ทำไมคริส มึงจะต่อยกูอีกเหรอ มึงจะทำอะไรกูอีก” แววตาที่เศร้าหมองกำลังจับจ้องมาที่ร่างตรงหน้า เพื่อนสมัยเด็กที่จงอินหลงรักหมดหัวใจ แต่ไม่เคยได้รับความรักตอบกลับมาเลยสักครั้ง



“มึงกลับมาทำไม! กลับมาทำไมอีก!” แขนแกร่งบีบจับหัวไหล่เพื่อนทั้งสองข้างเขย่าไปมาด้วยความโกรธ ร่างเล็กสั่นไหวแต่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์และน้ำตาไว้ภายใน



“กู..กำลังจะไป..กู...กลับมาเก็บของบางส่วน”เขาเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าและเปิดมันออก เอื้อมคว้าเสื้อผ้าที่เหลืออยู่และของกระจุกกระจิกส่วนตัวที่จำเป็น



สายตาคมเหลือบมองตามร่างของเพื่อนรักที่กำลังขะมักเขม้นกับการจัดของ ความบังเอิญทำให้ร่างสูงเหลือบเห็นกรอบรูปที่ถูกซ่อนไว้ในกองเสื้อผ้า เมื่อสบสายตากับคริสที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ เพื่อนผิวเข้มจึงรีบใช้ร่างของตนเองบดบังและรีบยัดรูปภาพเหล่านั้นลงกระเป๋าด้วยความรีบร้อน



“รูปอะไร กรอบรูปอะไร” ว่าพลางรับเดินตรงไปยังร่างของจงอิน ท่าทีมีพิรุธทำให้เขาเกิดความสงสัยใครรู้



มือหนารื้อค้นกระเป๋าเสื้อผ้าของเพื่อนรักเพื่อหารูปพวกนั้น มือแกร่งผลักร่างเล็กออกไปให้ห่างและเริ่มยื้อแย่งกระเป๋ารวมถึงสิ่งของภายในก็เริ่มกระจัดกระจาย



สิ่งที่เขาพบปรากฏภาพถ่ายวัยเด็กของคริสหลายภาพ รวมถึงภาพตอนที่เขาเพิ่งเข้ามหาลัยแห่งนี้ใหม่ๆ บางรูปเป็นภาพเดี่ยว บางรูปก็เป็นภาพคู่ระหว่างร่างสูงและจงอิน แต่ที่น่าประหลาดใจคือมีหลายภาพที่เขาถูกแอบถ่ายโดยจงอิน ภาพเวลาที่เขากำลังเมามาย ภาพที่ร่างสูงนอนหลับไม่ได้สติและโดนเพื่อนๆแกล้งเขียนหน้าเขียนตา ภาพถ่ายตอนรับร้องที่ทั้งสองกอดกัน หน้าตาเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยด่างดำ ...แต่ละภาพล้วนใช้ระยะเวลาในการสะสมเป็นปี เปรียบเหมือนความรู้สึกที่จงอินมีต่อร่างสูง ความรู้สึกที่ถูกบ่มเพาะเป็นปีเช่นกัน



ดวงตาคมจับจ้องไปที่ภาพถ่ายในมือสลับกับการเหลือบมองร่างเล็กข้างๆ คำถามมากมายเกิดขึ้นในจิตใจ ภาพถ่ายแต่ละภาพมีทั้งตอนที่คริสเศร้า ดีใจ เสียใจ นอนหลับ นั่งทานอาหาร แม้กระทั่งภาพแผ่นหลังกว้างที่ถูกแอบถ่ายขณะเดินอยู่ข้างหน้าเขา คำบรรยายใต้ภาพยิ่งสร้างความฉงนสงสัยให้เพื่อนรักมากยิ่งขึ้น



-กูได้ยืนมองมึงข้างหลังแบบนี้ก็สุขใจ กูจะไม่ขออะไรไปมากกว่านี้..กูรักมึงคริส...-



“จงอิน...กูต้องการคำอธิบาย”


“รูปพวกนี้ของกูหมายความว่ายังไง”เสียงเข้มเอ่ยถามอย่างคนต้องการคำตอบ น้ำเสียงขาดห้วงด้วยความไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาคิดตรงกับความรู้สึกในใจของจงอินหรือไม่


“ไม่มีอะไรต้องพูดนี่..กูกำลังจะไป หลีกกู” ร่างเล็กเบี่ยงหลบเพื่อจะเดินหนีเขา



“คิมจงอิน! มึงตอบกูสิ รูปบ้าพวกนี้มันคืออะไร!”มือหนาเขวี้ยงภาพถ่ายลงไปที่พื้น ภาพอิริยาบถต่างๆของคริสกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ แววตาเศร้าสร้อยเหม่อมองภาพพวกนั้นด้วยความเสียใจระคนเจ็บปวด



“จงอิน มึงตอบกูสิวะกูบอกให้ตอบ!” ร่างสูงบันดาลโทสะด้วยการเตะกรอบรูป ภาพถ่ายเหล่านั้นถูกฝ่าเท้าของคริสเหยียบย่ำ เปรียบเสมือนความสัมพันธ์แบบเพื่อนของเขาทั้งสองที่ถูกย่ำยีไปจนหมดสิ้น



“หยุดได้แล้วคริส มึงหยุดได้แล้ว...กูขอร้อง” ร่างเล็กทรุดนั่งลงกับพื้นและจับขาของเพื่อนรักไว้ ต้องการเพียงจะให้เขาหยุดการกระทำที่ทำร้ายจิตใจของตนเองเสียที



“กูจะเก็บความทรงจำดีๆพวกนี้ไว้ไม่ได้หรือไง...มึงรังเกียจกูขนาดนั้นเลยเหรอ” ฝ่ามือโกยภาพถ่ายที่กระจัดกระจายตามพื้น ริมฝีปากขบเข้าหากันแน่นด้วยความเจ็บปวดสุดหัวใจ



“จงอิน!!มึงจะตอบกูได้หรือ..”



“กูรักมึงคริส! กูรักมึงได้ยินไหม รักมึงมานานแล้ว รักมึงมาก่อนชานยอล รักมึงมาเป็นปี รักมึงมาก่อนทุกคนที่มึงรัก แต่มึงไม่เคยรักกู ไม่เคยเห็นกูในสายตา กูเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งของมึงเท่านั้น!” คำพูดมากมายในจิตใจพรั่งพรูออกมาไม่จบสิ้น ใบหน้าเข้มแสดงสีหน้าเสียใจอย่างเห็นได้ชัด ความอัดอั้นตันใจถูกระเบิดออกมาจนเกือบหมด



“มึงพอใจหรือยัง คำตอบที่มึงต้องการ...กูไปได้แล้วใช่ไหม!”



ร่างเล็กคว้ากระเป๋าสะพายเดินปลีกตัวออกไปจากห้อง เขาทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังรวมถึงเพื่อนตัวสูง คริสกำลังยืนตกตะลึงกับสถานการณ์ที่เขาถูกปล่อยให้เผชิญคนเดียว...ไม่นานเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเพื่อเรียกสติของเขา มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อเปิดดู หน้าจอปรากฏรายชื่อคนรักของเขา...น้ำเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรงถูกเปล่งออกมาตามสายด้วยความเหนื่อยใจคล้ายคนไม่มีแรงจะเดินต่อ



“ผมไปหาพี่คริสได้ไหม...” ริมฝีปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันอย่างลังเลก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไป



“พี่เจอจงอินบ้างไหม ผม...มีเรื่องจะพูดกับเขา” น้ำเสียงตะกุกตะกักที่สำนึกผิดเอ่ยช้าๆ เขาไม่สามารถหักห้ามใจไม่ถามถึงอีกคนได้ เป็นเวลากว่าหลายวันแล้วที่จงอินหายไปโดยไม่มีใครพบหน้าเขา แม้เพื่อนสนิทอย่างคริสก็ตาม



“เดี๋ยวพี่โทรกลับ..” สายถูกตัดบทสนทนา



ดวงตากลมโตของชานยอลสะกดกลั้นน้ำตาและก้อนสะอื้นไว้ มือบางกดวางสาย โทรศัพท์ถูกกำแนบไว้ที่หน้าอก เสียงหอบหายใจเหนื่อยหนักกับความเจ็บปวดสุดหัวใจ...คนรักและเพื่อนของคนรักที่ทำให้เขาหาทางออกไม่ได้ ความสัมพันธ์ทั้งสามที่ต้องมาร้าวฉานเพราะตัวเขาคนเดียว...



ร่างสูงรีบเดินตรงออกไปที่หน้าห้องพัก ขายาวก้าวเร็วขึ้นจนเปลี่ยนจังหวะเป็นวิ่งตาม ร่างเล็กของเพื่อนค่อยๆลับตาไป ภาพสะท้อนในวัยเด็กที่ทั้งสองต่างเล่นวิ่งไล่จับกันย้อนเข้ามาอีกครั้ง จงอินเป็นฝ่ายวิ่งหนี ส่วนเขาเป็นคนวิ่งตาม ขายาวสะดุดก้อนหินล้มลงและเพื่อนร่างเล็กก็หยุดเล่นเพื่อหันหลังกลับมาช่วยเหลือเขา ในวันนี้มิตรภาพดีๆระหว่างเขาทั้งสองกำลังจะจบสิ้นหากร่างสูงไม่ทำอะไรซักอย่าง...



เอี๊ยด!! เสียงรถยนต์เบรคดังลั่นเรียกความสนใจจากร่างเล็กให้หันกลับมามองตามต้นตอของเสียง



“คริส!!” จงอินอุทานออกมาด้วยความตกใจ เขารีบวิ่งกลับไปดูเพื่อนตัวสูงที่ทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรง



“คุณเป็นอะไรไหม นี่วิ่งตัดหน้ารถผมได้ยังไง” คนขับรถเปิดประตูลงมาดูอาการของร่างสูงที่นั่งอยู่พื้น



“ผมยังไม่ได้ชนคุณนะ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ผมว่าผมเบรคทัน แล้วแผลคุณ...?” ชายคนดังกล่าวยังคงพูดพร่ำและจับจ้องมาที่เขาทั้งสอง



“ผมไม่เป็นอะไรครับ แผลนี้มันก่อนหน้าที่คุณจะชน คุณไปเถอะ ผมไม่เอาความคุณ” มือหนาโบกไล่คนขับรถไป เหลือทิ้งไว้แค่เพื่อนตัวเล็กที่คอยจับตามเนื้อตัวเพื่อดูบาดแผลด้วยความเป็นห่วง...



“กูไม่เป็นอะไรแล้ว มึงไม่ต้องห่วง” ดวงตาคมเหลือบมองดูสีหน้าและอาการของเพื่อนผิวเข้ม



“ไม่เป็นอะไรแล้ว งั้นกูไปก่อนล่ะ” มือหนากระชากแขนของเพื่อนรักไว้ในทันทีหลังจงอินพูดจบประโยค หากช้าอาจจะรั้งเพื่อนรักคนนี้ไว้ไม่อยู่



“อย่าเพิ่งไป มึงกับกูต้องคุยกันก่อน” แขนแกร่งค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นยืน ขายาวเดินช้าลงด้วยความเจ็บปวดจากการหกล้ม จงอินช่วยประคองร่างนั้นออกมาพักบริเวณม้านั่งตัวยาวใกล้สวนสาธารณะ



บทสนทนาของคนทั้งสองดำเนินไปอย่างเรียบง่าย คำถามมากมายในหัวสมองของคริสถูกกลบทับด้วยคำว่าขอโทษ ความในใจของจงอินที่พรั่งพรูออกมาทั้งน้ำตา เพื่อนผิวเข้มพยายามอย่างหนักที่จะสะกดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกแต่เขาก็ทำไม่ได้ ความผิดที่เกิดขึ้นชั่ววูบและคำว่าให้อภัยคือสิ่งที่จงอินต้องการจะได้ยิน เขาพร้อมจะจากไปและเลือกเจ็บเพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น



“คิดว่ามึงไปแล้วเรื่องจะจบเหรอ” เสียงเข้มเอ่ยถาม ดวงตาคมเหม่อมองออกไปเมื่อคิดถึงภาพของชานยอลที่เผยความในใจถึงเพื่อนของเขา



“แล้วมึงจะให้กูอยู่ทำไม” ใบหน้าเข้มเหลือบมองคนข้างกาย



มือหนาเอื้อมไปโอบไหล่ของเพื่อนตัวเล็กกว่าไว้หลวมๆ รอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฎบนใบหน้าของคริสถูกแย้มยิ้มออกมาบางๆ ดวงตาที่เศร้าสร้อยพยายามปรับให้ดูเหมือนมีความสุข



“ถ้ามึงไม่อยู่เพื่อชานยอล...อยู่เพื่อกูได้ไหม...คิดซะว่าอยู่เพื่อกู”



“ความรักของกู คือการที่ได้เห็นคนรัก มีความสุข ชานยอลขาดมึงไม่ได้ เขายอมปริปากถามถึงมึง แสดงว่าเขารักมึงมาก จงอิน ทำเพื่อกูได้ไหม...ครั้งสุดท้ายเพื่อมิตรภาพระหว่างเพื่อนของเรา” น้ำเสียงจริงจังที่ทำให้จงอินประหลาดใจและปวดหนึบอีกครั้ง



ร่างสูงเองก็รู้สึกผิดที่ทำร้ายเพื่อนรักในวัยเด็กของเขาด้วยแรงโทสะที่เกิดขึ้นชั่ววูบ ทั้งสามคนต่างทำภายใต้อารมณ์ความต้องการโดยไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา บทเรียนที่สำคัญของเขาทั้งสามที่ยากในการหาทางออก แม้บาดแผลของทั้งสามจะผ่านพ้นวันเวลาที่เจ็บปวดทรมานมาซักระยะแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น รอยแผลนั้นก็จะถูกสะกิดให้รู้สึกเจ็บปวดหัวใจอีกครั้ง



“คริส...ไม่ว่าจะยังไง..มึงก็ไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตา มึงให้กูทำเพื่อชานยอล แล้วกูล่ะ มึงคิดถึงใจกูบ้างไหม!” ร่างเล็กลุกขึ้นยืน มือเอื้อมคว้ากระเป๋าสะพายข้างตัว เตรียมจะเดินจากไปในทิศทางเดิม



“จงอิน... กูขอร้อง ช่วยอยู่ตรงนี้แทนกู...เพื่อชานยอล” มือหนารั้งข้อมือของเพื่อนรักไว้ด้วยคำพูดอ้อนวอน ทุกอย่างที่เขาจะให้ได้หากจงอินต้องการ ขอเพียงคนรักมีความสุข ตนเองจะทุกข์ใจแค่ไหนก็ยอม



“กูมีค่าแค่นี้ใช่ไหม...กูมีค่ากับมึงแค่นี้ใช่ไหม” หลังมือยกขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ มือเขย่าแขนเพื่อนตัวสูงอย่างต้องการคำตอบ



“แม้ว่ามึงจะรู้ว่ากูคิดยังไงกับมึง กูก็ยังมีค่ากับมึงแค่นี้!”



“จงอิน..กู ขอโทษ” มือหนาจับไหล่เล็กของเพื่อนบีบไว้เบาๆ ร่างเล็กโผเข้าสวมกอดที่เอวสอบ แผ่นหลังสั่นเบาๆด้วยความเสียใจและแรงสะอื้น



นานเท่าไรไม่รู้ที่ทั้งสองยืนกอดกัน ความอบอุ่นใจแบบเพื่อนที่คริสมอบให้ ได้รับความรักในอีกแบบฉบับคืนกลับมา คนเดียวที่เขาจะมอบหัวใจให้มีแค่ปาร์คชานยอล เด็กน้อยที่สดใสของเขาเท่านั้น แม้ความรู้สึกของร่างสูงจะคิดถึงจงอินในบางครั้ง แต่มันก็ยังคงเป็นความรู้สึกแบบเพื่อนที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่วันนี้คนที่จะลาจากไป ไม่ควรจะเป็นเพื่อนผิวเข้มแต่ควรเป็นเขาเอง...






1 เดือนผ่านไป....





เสียงกริ่งหน้าห้องพักดังขึ้นหลายครั้ง ร่างบางที่กำลังเตรียมอาหารเดินตรงมายังประตูด้วยความรีบร้อน ผ้ากันเปื้อนที่ผูกอยู่ตรงขอบเอวถูกเช็ดมืออย่างลวกๆ ดวงหน้าสวยใสดูสดชื่นขึ้นมากเมื่อเทียบกับหลายเดือนก่อน


“พี่คริส...” เสียงเรียกแผ่วเบาและรอยยิ้มหวานยังคงต้อนรับคนรักคนเดิมของเขา



“รีบมาเปิดเพราะคิดว่าพี่เป็นใครหรือเปล่า...หืม” ใบหน้าคมยกยิ้มทะเล้นอย่างเคย กระเป๋าสะพายถูกวางไว้ข้างโต๊ะตัวเล็ก



“ผมดีใจที่พี่มาหาผมบ้าง หลังจากวันนั้นที่เราสามคน...” ดวงตากลมโตหลุบลงต่ำเมื่อคิดถึงเหตุการณ์รุนแรงวันนั้น เหตุการณ์ที่จะทำให้เขาจำไปจนวันตายว่าคริสรักเขามากแค่ไหน



“แผลที่หน้าผากหายหรือยัง ให้พี่ดูหน่อยสิเด็กโง่” รอยแตกเล็กๆขึ้นเพียงสะเก็ดบางๆเท่านั้น บาดแผลที่ศรีษะอันเนื่องมาจากการฉุดรั้งและห้ามไม่ให้ร่างสูงออกไปจากชีวิตของเขา



แขนเรียวโอบรอบต้นคอคนรักอย่างออดอ้อน ริมฝีปากบางจุมพิตที่ข้างแก้มเบาๆเมื่อทำครัวเสร็จ อาหารถูกตระเตรียมมาวางไว้พร้อมสรรพ กับข้าวถูกตักใส่จานอย่างสวยงามด้วยฝีมือของปาร์คชานยอล



“พี่คงทานไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวต้องออกไปข้างนอก น้องชานตักใส่จานพี่ขนาดนี้พี่ทานไม่หมดหรอกนะ” น้ำเสียงหยอกล้อตามประสาคู่รักแลดูมีความสุข ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างดีใจเมื่อความสุขระหว่างพวกเขากลับมาอีกครั้ง
.
.
.
.
.
บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารผ่านพ้นไปด้วยดี หลังจากทั้งสองช่วยกันทำความสะอาดเครื่องครัวพระอาทิตย์ก็เริ่มตกดิน เมื่อความมืดเข้ามาปกคลุมในเวลาสามทุ่มกว่า ร่างบางนอนกระสับกระส่ายไปมา คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างคนที่กำลังฝันร้าย มือเอื้อมไขว่คว้าไปในอากาศและละเมอร้องไห้ออกมาคล้ายคนจะขาดใจ



“พี่คริส อย่าไปนะฮะ อย่าไปจากผม ผมขอโทษ พี่ให้อภัยผมนะ...ฮรึก..” น้ำเสียงสะอึกสะอื้นดังระงมทั่วห้องปลุกให้ร่างสูงที่นอนอยู่ด้านข้างละดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ



“ชานยอล...ชานยอล พี่อยู่นี่แล้วไงครับ” แขนแกร่งโอบกอดร่างคนรักไว้และเรียกสติเบาๆ



“พี่คริส ผมฝันร้าย ผมฝันถึงเหตุการณ์วันนั้นอีกแล้ว” มือบางยกขึ้นมาปิดใบหน้าหวานและก้มลงร้องไห้ เขาซบลงที่ไหล่กว้างของคนรักและโอบร่างไว้ด้วยความกังวล เกรงว่าคริสจะหนีหายเขาไปอีก



ภาพในนิมิตของชานยอลปรากฏร่างคน 3 คน คริส ยอล ไค ร่างสูงเดินจูงแขนแกร่งของเพื่อนรักเข้ามาในคอนโด ทั้งสองโต้เถียงกันเรื่องที่ใครจะเป็นคนดูแลเด็กน้อยของเขา คำพูดวิงวอนขอร้องของร่างสูงต่อเพื่อนผิวเข้มแทบจะไม่มีประโยชน์เมื่อเพื่อนผิวเข้มปฎิเสธ น้ำตาของคนทั้งสามพรั่งพรูออกมาขณะที่มีปากเสียงกัน คริสตัดสินใจเดินจากไปพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ ร่างบางเหนี่ยวรั้งรอบเอวเขาไว้สุดกำลัง ด้วยแรงโทสะ ร่างสูงผลักจนชานยอลล้มลงศรีษะกระแทกโต๊ะหมดสติ หัวใจของคริสเหมือนถูกทำร้ายมากกว่าครั้งแรกที่รับรู้ว่าชานยอลและจงอินมีอะไรกัน ความกลัวที่จะสูญเสียคนรักไปด้วยการกระทำของเขาเองทำให้ร่างสูงมีสติ หากสิ่งใดที่เป็นความสุขของคนรัก เขาจะยอมทำมัน เขาจะยอมเป็นคนโง่ที่ปิดหูปิดตาเพื่อให้ทั้งตนเองและคนรักมีความสุขต่อไป...



ร่างบางสั่นไหวในอ้อมกอด ใบหน้าหวานซุกตรงหน้าอกเพื่อโหยหาความอบอุ่น ทั้งสองนั่งกอดกันบนเตียงใหญ่ ไม่นานก็มีเสียงกระวีกระวาดเดินตรงมาที่ประตูและเปิดมันออกด้วยความรีบร้อน



“ใครเป็นอะไรอีก ชานยอลฝันร้ายอีกแล้วเหรอ?” เสียงเข้มเอ่ยถามพร้อมตรงเข้ามาดูที่เตียงใหญ่



“นายเป็นอะไรชานยอล ปวดหัวหรือเปล่า” มือสีแทนจับหน้าผากเล็กของชานยอลเบาๆเพื่อวัดอุณหภูมิ



“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ดีขึ้นแล้ว” ใบหน้าหวานพยักเพยิดช้าๆ



“ต้องให้พี่ปลอบไหมคะ เด็กขี้กลัว” มือหนากอบแก้มกลมขึ้นมาสองข้าง ประคองปากอิ่มสีสดขึ้นมาจ้องมองช้าๆ... ใบหน้าคมโน้มลงจูบสัมผัสเบาๆอย่างอ่อนโยน



“อื้อ พี่คริส...” สีหน้าอมชมพูบ่งบอกถึงความเขินอายมากมายเกินที่จะปกปิด



“มึงนี่ชอบทำโชว์กูเรื่อยเลยไอ้คริส...” เพื่อนผิวเข้มสบถออกมาเบาๆ เขาแสร้งโน้มใบหน้าลงไปจูบสัมผัสที่หน้าผากใสของชานยอลบ้าง



“ไม่เอานะฮะ ทำไมพวกพี่แกล้งกันแบบนี้” แสร้งต่อว่าทั้งที่ในใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ ตื่นเต้นชะมัดเมื่ออยู่ต่อหน้าคริสและจงอินชายหนุ่งที่ชานยอลพึงใจทั้งสองคน



ใบหน้าหล่อเหลาเหลือบมองเพื่อนตัวเล็กกว่าและยกยิ้มอย่างมีความหมาย ดวงตาคม 2 คู่จ้องมองร่างบางอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะโถมร่างลงมาบนเตียงนุ่มเพื่อกลั่นแกล้งเด็กน้อย...



ริมฝีปากบางถูกดูดดุนช้าๆ ลิ้นยาวโดนเกี่ยวกระหวัดจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก กางเกงนอนตัวเล็กถูกรูดลงมาจากช่วงเอวด้วยฝ่ามือสีเข้มของเพื่อนแฟน เสียงหัวเราะเบาๆกำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางในไม่ช้า



เสื้อนอนตัวบางถูกปลดออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่เย้ายวน หน้าอกชูชันสีชมพูกำลังหอบหายใจอย่างตื่นเต้นเมื่อถูกคนสองคนรุกราน ลิ้นร้อนชื้นกอบเม็ดไตที่ชมพูไว้ในปากหนา ด้านล่างถูกฝ่ามือใหญ่ของคนผิวเข้มลูบไล้อย่างเร้าอารมณ์ นิ้วแกร่งถูกสอดเข้าไปที่ด้านหลังทีละนิ้ว สลับกับการที่จงอินช่วยใช้ลิ้นวาดไล้ไปตามร่องรักของร่างบาง



“อ๊าาาา อย่านะฮะ ผมใจจะขาดแล้ว” ร่างบิดเร่า ขาเรียวเกี่ยวเข้าหากันด้วยความเสียวซ่าน มือหนาของร่างสูงค่อยๆแยกเรียวขาออกและลูบไล้ส่วนอ่อนโยนที่กำลังแข็งขืนเล่นอย่างทะนุถนอม



“ช่วยพี่บ้างสิครับ” กางเกงบ็อคเซอร์ลายสป๊องของร่างสูงถูกถอดออก ส่วนแข็งขืนถูกยื่นเข้าไปบริเวณใบหน้าสวย ริมฝีปากบางกอบกุมเข้าไปทั้งปาก น้ำลายและเรียวลิ้นไล้เลียไปตามแกนกายด้วยความเร่าร้อน มือบางกำและรูดขึ้นลงตามอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน



ใบหน้าเข้มยกยิ้มและกำลังสนุกกับร่องรักของร่างบาง หลังจากเขาถอนนิ้วออก แกนกายก็ถูกแทนที่เข้าไป ดวงตากลมโตค่อยๆปรือลงเล็กน้อยเมื่อรับรู้ถึงขนาดและความเสียวซ่านสุดบรรยาย ยิ่งถูกรุกเร้ามากเท่าไร ริมฝีปากก็ทำหน้าที่ดูดดุนแกนกายของร่างสูงแรงขึ้นมากเท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาซู๊ดปากด้วยความสุขสม มือหนาขยุ้มผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างอ่อนโยน เขาขยับสะโพกเข้าออกตามอารมณ์ความต้องการในตอนนี้



“อูยยย ชานยอลครับ พี่ไม่ไหวแล้ว” เสียงครวญครางของคนรักร่ำร้อง น้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยจนเลอะใบหน้าสวยพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ



“จงอินมึงหลบกูได้แล้ว” เพื่อนผิวเข้มถูกไล่ให้ไปปรนเปรอชานยอลช่วงบน ส่วนตนสลับตำแหน่งมารุกเร้าช่องทางทางด้านหลังแทน



เสียงร้องของคนทั้งสามประสานกันในห้องนอน ร่างบางปรับเปลี่ยนท่าทีโดยขึ้นไปนั่งขย่มบนร่างสูง มือบางชักรูดอวัยวะแข็งขืนของเพื่อนแฟนเล่นอย่างสนุกสนาน ริมฝีปากบางกอบกุมแกนกายไว้ภายในปากจนอบอุ่น น้ำลายสีใสไหลเปรอะตามร่องฟันขาวเมื่อเขาเผลอยิ้ม บทเพลงรักที่ได้รับการขับกล่อมจากคนทั้งสามเร่าร้อนจนภายในห้องแทบจะลุกไหม้ ไม่นานวันเวลาแห่งความสุขสมก็เดินทางมาถึงตอนจบเมื่อทั้งสามสำเร็จความใคร่ ร่างบางเหนื่อยหอบและผล็อยหลับไปบนเตียงนุ่มสีขาว เหลือไว้เพียงคริสและจงอินที่เดินออกมาชำระล้างร่างกาย



“ขอบใจมึงมากนะจงอินที่ทำให้กูและชานยอลมีความสุข” มือหนาตบไหล่เพื่อนเบาๆด้วยความซาบซึ้งใจ



“กูถือคติเดียวกับมึง อะไรที่กูจะทำให้คนที่กูรักมีความสุขได้กูจะทำทุกอย่าง” ร่างเล็กยกยิ้มอย่างมีความนัยน์




เรื่องระหว่างคริสและจงอินถูกเก็บเป็นความลับเพื่อสร้างความสุขใจให้กับชานยอล ศรีษะของเพื่อนตัวเล็กกว่าแอบอิงไหล่ของร่างสูงเมื่อเขาทั้งสองนั่งพักตรงโซฟาด้านนอก มือหนาโอบกอดไหล่ของเพื่อนไว้หลวมๆ เขาไม่ต้องการเสียทั้งเพื่อนที่ดีและคนรักอย่างชานยอลไป แม้การกระทำเช่นนี้จะดูเห็นแก่ตัวหรือดูผิดแปลกจากความรักทั่วไป แต่การที่เรายอมทำทุกอย่างให้คนที่เรารักมีความสุขมันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอครับ แม้มันจะดูผิดศีลธรรมในสายตาของคนภายนอกก็ตาม....



-จบบริบูรณ์-

http://0ctogus.forumth.com

Lovekyhh



ให้ตายเถอะ การยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักขนาดนี้
ฟินกันไปทุกคน เอาเลยเอาที่สบายใจ ไม่ต้องสนคนอ่านว่าจะน้ำลายฟูมปากเพราะอิจฉาขนาดไหนนะ

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ