0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

Secretofsuperstar EP16

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1    Secretofsuperstar EP16 Empty Secretofsuperstar EP16 Fri Nov 14, 2014 10:07 am

0ctogus

0ctogus
Admin

ภายในห้องผู้ป่วยสีขาวที่ดูสะอาดตา ......สีหน้าของชานยอลดูดีขึ้นมากจนเกือบจะเป็นปกติ แผลที่ศรีษะของเขาก็ได้รับการตัดไหมและดูแลจากแพทย์เจ้าของไข้อย่างดี....คริสยังคงอยู่ข้างๆชานยอลเสมอตลอดเวลาที่ชานยอลเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล



"ตกลงใจได้หรือยังคริส" เสียงปลายสายของประธานวูที่เอ่ยขึ้นมาหลังจากคริสขอปลีกตัวมาที่ระเบียงในช่วงที่ชานยอลกำลังทำแผล



"ผมยังไม่ได้คุยกับชานยอลเลยครับ" คริสยังไม่รู้จะเริ่มต้นกับชานยอลอย่างไร หากชานยอลรู้ว่าเขาจะไปดูแลงานที่แคนาดาโดยจะให้ชานยอลไปด้วยเขาจะต้องการไปหรือไม่



"ได้เรื่องยังไงก็บอกแม่ด้วย แม่จะได้ให้ทางเลขาจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้" คริสตอบรับคำมารดาที่กำลังห่วงใยในตัวเขา



...วันนี้เขาตัดสินใจที่จะปรึกษาเรื่องต่างๆกับชานยอล หลังจากทั้งแพทย์และพยาบาลเข้ามาดูแลอาการของชานยอลเรียบร้อยแล้วก็เดินออกจากห้องไปเพื่อดูแลคนไข้ห้องต่อไป คริสมีท่าทางลังเลนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยพูดประโยคบางอย่างกับชานยอลเพื่อขอคำแนะนำและความเห็นจากเขา...



"ชานยอล...ฉันว่าจะไปดูแลงานของบริษัทแทนแม่ที่แคนาดากับที่จีน....นายเห็นว่ายังไง...เอ่อ..แต่นายต้องไปกับฉันด้วยนะ"คริสพูดพร้อมกับเดินไปนั่งบนเตียงคนไข้ข้างๆชานยอลพร้อมทั้งโอบกอดรอบเอวบางของเขาไว้หลวมๆ



"ทำไมต้องไป....แล้วการเป็นซุปเปอร์สตาร์ของนายล่ะ จะทิ้งความฝันพวกนี้ไปเลยเหรอ" ชานยอลขมวดคิ้วบางและเหลียวมองไปยังใบหน้าของคนรักที่อยู่ข้างๆ



"ฉันเป็นห่วงนาย ฉันไม่อยากให้นายต้องเจอเรื่องอะไรแบบนี้อีก"มือหนาของคริสเอื้อมไปกุมที่มือบางของชานยอลที่อยู่ข้างลำตัวเขา



"คริส...ฉันรู้จักนายก็เพราะนายเข้ามาในวงการ ฉันไม่อยากเป็นคนที่ทำให้นายต้องออกไปจากวงการนี้นะ" คำพูดของชานยอลดูมีเหตุผลแต่มันก็ทำให้คริสไม่สบายใจอยู่ดี หากวันใดวันหนึ่งที่ชานยอลต้องเจอเล่ห์เหลี่ยมของคนในวงการอีก...ชานยอลจะผ่านพ้นมันไปได้ไหม



"เอาอย่างนี้ ก็ถือซะว่ามันคืออีกตำแหน่งหน้าที่ของฉันละกัน....ฉันช่วยแม่บริหารบริษัท หากมีงานติดต่อเข้ามาฉันจะเลือกรับ...จะรับงานที่มีผลกระทบต่อนายน้อยที่สุด โอเค๊" คริสยิ้มให้กับชานยอลพร้อมใช้มือหนาบีบปลายจมูกของชานยอลส่ายไปมาเบาๆ...คิดถึงชานยอลจะแย่ พอตื่นขึ้นมาเขาก็เริ่มสั่งการผมเลย...



"แต่ถ้าฉันไปดูแลงานที่แคนาดาหลายๆวันหรือเป็นเดือน นายก็ต้องไปด้วย นี่คือคำสั่งนะคุณผู้จัดการ!!"คริสแกล้งออกคำสั่งกับชานยอลบ้างเพราะเขากลัวว่าชานยอลจะไม่ไปกับเขา...เนื่องจากภาระหน้าที่ของลูกคนโตที่ต้องดูแลแม่และน้องสาวที่พักอาศัยในเกาหลี



"อืม..แต่ขอฉันบอกแม่ก่อนนะ"ชานยอลคงต้องปรึกษากับแม่ของเขาดูก่อน เพราะการเดินทางไปต่างประเทศหลายๆวันโดยไม่มีกำหนดระยะเวลากลับที่แน่นอนอาจจะทำให้แม่เขาเป็นห่วงได้



ข่าวลือระหว่างคริสและชานยอลถึงสัมพันธ์ลับๆถูกปกปิดด้วยอำนาจทางธุรกิจของประธานวู ไม่มีใครกล้าพาดหัวข่าวเพราะตัวอย่างจากนักข่าวคิมก็ทำให้ใครหลายๆคนเกรงกลัว...รวมถึงเมื่อเกิดข่าวลือต่างๆในบริษัท คิมจงอินก็มักจะออกมาพูดปกป้องให้กับคริสและชานยอลทุกครั้ง...ทำให้ข่าวลือต่างๆเจือจางและเบาบางลง ส่วนเหตุผลที่คริสไม่รับงานในช่วงที่ชานยอลป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ประธานวูก็แจ้งให้ติดประกาศและแถลงข่าวว่าเนื่องจากเป็นคำสั่งของเธอเพราะช่วงที่ชานยอลเจ็บหนักคริสไม่มีคนดูแล เขาจึงให้คริสหยุดพักงานไปด้วย....



เรื่องต่างๆเหมือนจะผ่านพ้นไปด้วยดีแล้ว ฟ้าหลังฝนของคน 2 คนนี้กำลังดูสดใส...หลังจากคริสติดต่อกับแพทย์เจ้าของไข้ของชานยอลช่วงบ่ายว่าเขาต้องการจะพาชานยอลกลับไปพักผ่อนที่บ้านเนื่องจากดูอาการโดยรวมแล้วไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ทางแพทย์ลงความเห็นว่าอนุญาตให้กลับบ้านได้คริสจึงเดินกลับมาที่ห้องพักของชานยอลและช่วยชานยอลเก็บของใช้ต่างๆรวมถึงเสื้อผ้าของเขาที่ให้แม่บ้านจัดมาตั้งแต่วันแรก....



"ดีใจไหม จะได้กลับบ้านแล้ว นายไม่เจ็บแผลแล้วแน่นะ" คริสพูดพร้อมกับดูบาดแผลที่ศรีษะของชานยอลด้วยความเป็นห่วง



"รักฉันมากหรือเปล่าคริส..." ชานยอลแกล้งพูดยิ้มๆพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ



"รักมากแล้วก็ห่วงมากด้วย ตอนนี้ก็อยากจะ........ทำอะไรๆที่คนรักเขาทำกัน" คริสแกล้งพูดแหย่ชานยอลด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ของเขา...ชานยอลจึงแกล้งตีไปที่แขนเขา 1 ครั้งด้วยความเขินอาย เสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังเบาๆในห้องคนไข้..จนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่มาหยุดยืนที่หน้าประตู



เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดังขึ้นก่อนที่จะมีร่างของหญิงสูงวัยที่ดูอ่อนโยนเปิดประตูเข้ามาพร้อมเด็กหญิงตัวเล็กๆ...คุณแม่ของชานยอลก้าวเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้มเมื่อเธอทราบจากคริสว่าวันนี้ชานยอลจะออกจากโรงพยาบาล.....



"เป็นไงบ้างลูก....วันนี้ได้กลับบ้านแล้ว อยากกลับไปบ้านเราไหม"คุณแม่ของชานยอลเอ่ยทักลูกชายพร้อมกับเดินเข้าไปลูบศรีษะลูกชายสุดที่รักเบาๆ



"พี่ชานยอลลลล วันนี้กลับบ้านเรานะะะ ไปทำเนื้อย่างกินกันนน"น้องสาวของชานยอลส่งเสียงเจื้อยแจ้วของเธอตามประสาเด็กร่าเริง เธอเองก็คิดถึงพี่ชายของเธอไม่น้อย



คงมีแต่คริสเท่านั้นที่ดูหน้าเจื่อนลงไปเนื่องจากคิดว่าวันนี้ชานยอลจะได้กลับไปที่บ้านเขาและเขาเองก็จะได้ดูแลชานยอลอย่างเต็มที่โดยลืมคิดไปว่าชานยอลเองก็มีครอบครัวที่ยังต้องการเขาเหมือนกัน...



ชานยอลโอบกอดร่างของแม่เขาด้วยความคิดถึง เขาพยักหน้ารับคำแม่ที่ชวนกลับบ้าน เขาเองก็คิดถึงบ้านและไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วเช่นกัน....



"กลับไปด้วยกันนะค่ะคุณคริส"แม่ของชานยอลเอ่ยชักชวนพร้อมกับยิ้มหวานอย่างหญิงสูงวัยใจดี



"ต้องถามชานยอลล่ะครับว่าเขาอยากให้ผมไปไหม"คริสแกล้งเหลือบตาไปมองชานยอลพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆตามสไตล์ของนักแสดงเจ้าบทบาท...



"ไปด้วยกันสิคะะะะ พี่พระเอก พี่ชานยอลให้พี่พระเอกไปด้วยนะ นะ พี่เขาหล่อจะตายยยย"เด็กหญิงตัวน้อยรบเร้าพี่ชายของเธอที่นอนอยู่บนเตียงและกำลังมีรอยยิ้ม



ในที่สุดเย็นวันนั้นคริสก็ได้ขับรถมาที่บ้านของชานยอล โดยความยินยอมของชานยอลเอง หลังจากคุณแม่ของชานยอลและคริสขนสัมภาระเข้าไปเก็บในบ้านเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็น เมนูโปรดวันนี้คือเนื้อย่างที่ชานยอลชอบทานและแม่ของชานยอลก็จำได้ดีว่าวันเกิดชานยอลที่ชานยอลหายไปกับคริส ชานยอลยังไม่ค่อยได้ทานเมนูโปรดของตัวเองเท่าไรนัก



เสียงหัวเราะขำขันกันในครอบครัวบ่งบอกถึงความสุขที่เกิดขึ้นภายในบ้านหลังเล็ก....คริสนั่งข้างชานยอลและเอื้อมฝ่ามือหนาของตนไปจับมือของชานยอลไว้ใต้โต๊ะเพื่อต้องการความอบอุ่นจากคนรักของเขา.....แม้ว่าคุณแม่ของชานยอลจะรับรู้เรื่องของทั้งสองโดยที่เธอไม่พูด แต่คริสและชานยอลเองก็ไม่อยากจะทำอะไรที่ดูประเจิดประเจ้อต่อสายตาของผู้ใหญ่นัก...



วันเวลาเข้าสู่ช่วงค่ำของวัน ...อากาศหนาวเย็นเริ่มเข้ามาปกคลุมพร้อมๆกับความมืดที่ก่อตัวขึ้นช้าๆ...วันนี้หิมะตกโปรยปรายอยู่ที่ด้านนอกอีกตามเคย แม่ของชานยอลเอ่ยปากชวนให้คริสค้างคืนที่นี่เพราะหิมะตกเกรงว่าขับรถกลับบ้านจะไม่ปลอดภัยและเธอเองก็ไม่เคยรังเกียจคริส กลับรักและชอบในตัวเขาด้วยซ้ำที่ดูแลลูกชายของเธอดีอย่างที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน...



"แม่จะให้คริสนอนที่นี่เหรอฮะ...ผมว่าเขาอาจจะ"



"ครับคุณแม่ ผมนอนค้างก็ได้"คริสรีบตอบอย่างไม่ลังเลเมื่อคุณแม่ของชานยอลเอ่ยปากชวน มันเป็นไมตรีที่ดีจากผู้ใหญ่เขาคงต้องรับไว้...



"ฉันไม่ได้ดูตารางงานให้นายหลายวันแล้ว นายไม่มีงานบ้างเหรอคริส"ชานยอลเอ่ยถามเขาด้วยความกังวลเกี่ยวกับงาน



"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก แม่ฉันจัดการหมดแล้ว ช่วงนี้นายก็พักผ่อนไปก่อนเถอะ....คุณแม่ครับ ผมขออนุญาตพาชานยอลไปพักนะครับ"คริสพูดพร้อมโค้งศรีษะให้คุณแม่ของชานยอล ตอนนี้เขาเดินเข้านอกออกในบ้านชานยอลเหมือนลูกชายคนนึงของบ้านหลังนี้แล้ว



คริสเดินจับข้อมือบางของชานยอลพาเขาเข้าห้องนอน...หาเวลาอยู่ด้วยกันสองคนก็ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่ชานยอลไม่สบายเขาเองก็ไม่เคยล่วงเกินชานยอลเลยซักนิดเนื่องจากเขาต้องการใช้เวลาทั้งหมดเพื่อทุ่มเทในการดูแลชานยอล...ชานยอลเดินตามคริสมาด้วยท่าทางงุนงงและค่อยๆนั่งลงบนเตียงนุ่มของตนเองที่ที่คริสและเขาเคยมีความหลังกันที่นี่ครั้งแรก


"จริงๆนายน่าจะกลับบ้านนะ อยู่ที่บ้านนายน่าจะสบายกว่าอยู่บ้านฉัน บ้านฉันสถานที่ก็คับแคบไม่กว้างขวางเหมือนที่บ้านของนาย"ชานยอลพูดออกความเห็น เขาอยากให้คริสได้กลับไปพักผ่อนเช่นกันเนื่องจากคริสเองต้องทนนอนเฝ้าเขาที่โซฟาแข็งๆมาหลายคืนแล้ว


"อยู่ที่ไหนก็ได้แค่มีนายอยู่"คริสนั่งลงข้างๆชานยอลพร้อมกับเอนศรีษะไปพิงไหล่ของชานยอล ดูแล้วเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆที่กำลังจะคลอเคลียเจ้าของด้วยความคิดถึง


"ฉันกลัวมากเลย กลัวว่านายจะไม่ตื่นขึ้นมา....ชานยอล ฉันดีใจมากนะที่นายกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง"คริสยังคงนั่งพิงไหล่ชานยอลและนั่งคุยเงียบๆกับเขาในห้องนอนมันคือความในใจที่เขาเก็บไว้และไม่ได้บอกใครเลยตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นที่ชานยอลประสบอุบัติเหตุ


ชานยอลใช้มือบางของตนลูบศรีษะคริสช้าๆด้วยความอ่อนโยน...เขาเองก็กลัวเหมือนกัน ตอนที่เขาหมดสติไปทุกอย่างมันดูดำมืดไปหมด เขาเองก็กลัวว่าจะไม่สามารถกลับมาพบคริสและคนที่เขารักได้อีกแล้ว...


"อีกไม่กี่วัน ฉันต้องเดินทางไปแคนาดา นายไปกับฉันนะชานยอล....คุณแม่นายต้องอนุญาตแน่ๆ"คริสผงกศรีษะขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่าเขาต้องเดินทาง...ตอนนี้งานหลักของเขาคือการดูแลบริษัทโมเดลลิ่งยักษ์ใหญ่ที่มีสาขามากมายทั้งในเกาหลี จีน และแคนาดาที่แม่ของเขาลงทุนทำธุรกิจไว้


"หื้อออ...คิดถึงนายจัง ชานยอล"คริสโอบกอดชานยอลรอบตัวเขาเต็มแรง กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของชานยอลทำให้เขาไม่อยากคลายอ้อมกอดนั้น...ปลายจมูกโด่งของคริสยังคงซุกซนไปตามแก้มเนียนใสของชานยอลคนข้างกายเขา...โดยชานยอลเองก็ใช้แขนของตนเองผลักคริสออกไปเบาๆ


"คริส...นี่มันเพิ่งหัวค่ำนะ เดี๋ยวแม่กับน้องฉันมาเห็นเข้า ห้องก็ยังไม่ได้ล็อค"สีแก้มของชานยอลเริ่มแดงระเรื่อเมื่อถูกคริสบรรจงหอมแบบที่เขาไม่ทันตั้งตัว


"ก็ฉันคิดถึงนายน่ะชานยอล...อือ..วันนี้หิมะตกอีกแล้ว....เหมือนคืนนั้น.."คริสมองออกไปนอกหน้าต่างที่มุมเดิม ยังคงมีหิมะสีขาวโพลนมากองที่มุมหน้าต่างของห้อง


คริสยังคงไม่คลายอ้อมกอดจากชานยอล สายตาที่คริสมองชานยอลยังคงอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยนแม้กระทั่งในวันนี้ กรอบรูปที่ชานยอลทำขึ้นมายังวางตรงโต๊ะเขียนหนังสือของเขาดังเดิม....ชานยอลคนตรงหน้าคริสไม่ได้ดูยั่วยวนจากท่าทางและการกระทำ....แต่ความใสซื่อและบริสุทธิ์ของชานยอลต่างหากที่ทำให้คริสทั้งรักทั้งหลงใหลในตัวของชานยอล....


"คุณผู้จัดการครับ....ผมขออะไรอย่างนึงสิ รอผมแปบนึงนะ"สายตาของคริสดูแอบแฝงไปด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่าง...ความคิดถึงและความรักที่เขาไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมาหลายวันแล้ว....



ยังไม่ทันที่ชานยอลจะตอบอะไร ..ร่างสูงโปร่งของคริสก็เดินตรงไปยังลูกบิดประตูห้องนอนพร้อมกับกดล็อคมันด้วยเกรงว่าแม่ของชานยอลและน้องสาวตัวเล็กของเขาจะเดินมาเปิด....ปากเรียวบางของชานยอลถูกจูบซับด้วยปากหนาของคริสครั้งแล้วครั้งเล่าจนเขาพอใจ....มือหนายังคงอยู่ไม่สุขและป้วนเปี้ยนไปตามร่างบางของชานยอลด้วยความถวิลหา...ชานยอลเองก็ไม่ขัดขืนต่อการกระทำนั้นยังคงตอบรับด้วยดีอย่างที่คนรักมอบความสุขให้กันและกัน ร่างสองร่างบนเตียงเล็กที่อบอุ่นกำลังบรรเลงเพลงรักที่เขาทั้งสองเรียกร้องมันจากร่างกายและภายใต้จิตใจ....คืนอันหวานฉ่ำของทั้งคริสและชานยอล กลิ่นหอมหวานของความละมุนยังคงอบอวลไปทั่วห้องนอน....ความสิเน่หาของทั้งคริสและชานยอลคงไม่จบลงง่ายๆ...เสียงครวญของความสุขยังคงดังออกมาจากริมฝีปากบางของชานยอลเป็นระยะ...จนความอ่อนล้าและความสุขสมถาโถมเข้าสู่ร่างกายของคนทั้งสอง...เสียงเพลงที่บรรเลงเพลงรักจึงเดินทางมาถึงตอนท้ายและจบลงอย่างน่าประทับใจ




เช้าวันรุ่งขึ้นชานยอลตัดสินใจบอกแม่ของเขาเรื่องที่จะเดินทางไปกับคริสที่แคนาดาด้วยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า......ใช้เวลาไม่นานนัก ชานยอลก็เดินกลับมาที่ห้องนอนพร้อมกับสีหน้าที่ดูเศร้ากว่าเดิม...


"คุณแม่ว่ายังไงบ้างชานยอล"คริสเอ่ยถามด้วยความกังวล...เขากลัวคำตอบที่เขากำลังจะได้ยิน ครั้งนี้คริสอาจต้องไปหลายเดือนและหากชานยอลไม่ได้ไปด้วยเขาคงเป็นห่วงชานยอลที่ต้องอยู่ที่นี่คนเดียว


"คริส.....แม่ฉันไม่ให้ไป ท่านบอกว่าท่านเป็นห่วงหากฉันต้องไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศที่ไกลหูไกลตา"ชานยอลตอบคริสกลับไปด้วยความรู้สึกเสียใจเช่นกัน


คริสนั่งก้มหน้าด้วยความเศร้าใจพร้อมกับเคารพการตัดสินใจของคุณแม่ชานยอล...ในเมื่อชานยอลเป็นลูกชายคนเดียวของท่าน ท่านเป็นห่วงชานยอลก็เป็นเรื่องปกติ...คริสพยายามเข้าใจถึงเหตุผลที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาหักล้างกับความรู้สึกของตัวเอง....ตอนนี้เขาคงทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจว่าตนเองต้องเดินทางไปเพียงลำพังเพื่อดูแลธุรกิจของมารดาที่ปูรากฐานไว้ให้เขา....






และแล้ว.....วันที่คริสต้องเดินทางก็มาถึง...


กระเป๋าสัมภาระถูกเตรียมโดยแม่บ้านและคริสเองก็เก็บของใช้ส่วนตัวบางส่วนของเขา...แม่ของเขาเปิดบริษัทแถวริชม่อนด์ในแคนาดา หลังจากบินไปแคนาดาและดูแลกิจการที่นั่นหลายเดือนก็ต้องเดินทางไปจีนก่อนที่จะกลับมาที่เกาหลี....การรับงานของคริสในการแสดงรวมถึงการถ่ายแบบทั้งหลายยังคงพักไว้ก่อน ส่วนชานยอลเองก็ยังคงดำรงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวของคริสเช่นเคย เนื่องจากชานยอลตัดสินใจว่าต่อไปนี้หากมีเรื่องอะไรเขาจะไม่ตัดสินใจเพียงลำพังและจะปรึกษาคริสก่อนอันดับแรก


ชานยอลช่วยคริสขนสัมภาระบางส่วนขึ้นรถแวนและนั่งเคียงข้างเขาไปตลอดทางในรถ...คริสยังคงกำชับชานยอลตลอดทางเรื่องที่เขาจะเฟชไทม์มาหาทุกวันในเวลาไหน รวมถึงการดูแลตัวเองในระหว่างที่เขาไม่อยู่ด้วย


"นายออกคำสั่งกับฉันเยอะมากเลยคริส....ไม่ต้องห่วงฉันหรอกน่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ นายก็ดูแลตัวเองด้วยนะ"


ชานยอลเอ่ยคำร่ำลากับคริสที่หน้าเกทผู้โดยสาร เขาพยายามที่จะไม่แสดงท่าทีเศร้าสร้อยให้คริสเห็นหรือเป็นห่วง ยิ่งเขาแสดงความรู้สึกมากแค่ไหน คริสก็ยิ่งเป็นห่วงเขามากแค่นั้น....


"ไฟล์ทฉันมืดน่ะ นายรีบกลับบ้านเถอะชานยอล ให้คนรถฉันไปส่ง กลับค่ำๆมันอันตราย ถึงริชม่อนด์ฉันจะรีบโทรมานะ"คริสจับศรีษะชานยอลส่ายไปมาเบาๆเขารู้ดีว่าชานยอลเองก็คงเศร้าใจไม่น้อย มือหนาของคริสเลื่อนไปจับที่แก้มใสของชานยอลพร้อมกับลูบมันอย่างเบามือและนึกเสียดายที่ชานยอลไม่ได้ไปด้วย...


"ดูแลตัวเองดีๆนะ ดูแลตัวเองเพื่อรอฉันกลับมา.....ถ้าคนไม่เยอะ ฉันคงจูบลานายละ"


คริสพูดพลางอมยิ้มน้อยๆ....ก่อนจะเดินหันหลังจากไป...โค้ทสีดำตัวยาวบนร่างสูงโปร่งของคริสค่อยๆเดินห่างจากสายตาของชานยอลไป...คริสไม่ต้องการเหลียวกลับมามองชานยอลอีกครั้ง เพราะเขาก็ไม่ต้องการเห็นน้ำตาของชานยอลตอนที่เขาต้องจากไปเช่นกัน...หากชานยอลมาด้วยเขาคงมีความสุขมากกว่านี้...แต่นี่เป็นความต้องการของแม่เขา รวมถึงเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะขอพักเกี่ยวกับเรื่องงานแสดงของเขาไปก่อนเพื่อปกป้องชานยอลให้พ้นจากข่าวที่ไม่ดีทั้งหลาย....


สายการบินแคนาดาแอร์ไลน์จะออกเดินทางช่วงประมาณ 4 ทุ่ม หลังจากคริสโหลดกระเป๋าสัมภาระ เขาก็เดินตรงไปยังที่นั่งของเขาในชั้นบิสเนสคลาส....แว่นดำถูกสวมใส่บนใบหน้าของคริสเพื่ออำพรางสายตาคน...ในไฟล์ทนี้คนไม่เยอะมากเนื่องจากเป็นไฟล์ทดึกและก็เป็นการเดินทางไกล...คริสนั่งด้านในติดกับริมหน้าต่าง ...เขาเหม่อมองไปที่พื้นดินเมื่อเครื่องออกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆจากรันเวย์.....ปาร์คชานยอล...ฉันจะทนคิดถึงนายได้นานแค่ไหน...


เบาะข้างๆคริสมีชายคนนึงเดินมานั่งพร้อมกับหนังสือวารสารดาราไอดอลในมือ คริสไม่ได้สนใจเขานัก....เนื่องจากการแต่งกายของเขาซึ่งดูมิดชิดกว่าคนปกติ...เขาคงจะหนาวมาก...ทั้งหมวกไหมพรม แว่นตาดำ ผ้าพันคอและเสื้อกันหนาวคือสิ่งที่เขาสวมใส่เพื่อปกป้องความหนาวเย็น


หลังจากเครื่องออกเดินทางไปได้ 2 ชม.คริสก็ลุกจากเบาะของตนเพื่อขอทางไปเข้าห้องน้ำ...ไฟในเครื่องถูกหรี่ลงจนแทบจะดับ....ตามทางเดินค่อนข้างสลัวและในไฟล์ทนี้คนก็น้อยแต่ก็ดูเป็นส่วนตัวสำหรับเขา...


เมื่อเสร็จธุระส่วนตัวแล้วคริสก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเขากำลังเอื้อมมือเพื่อบิดลูกบิดประตู ฉับพลันก็มีชายร่างสูงผลักประตูเข้ามาและดันตัวเขาเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับใช้อุ้งมือสีขาวของเขาปิดปากคริสไว้....คริสตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกำลังจะกระชากคอเสื้อของชายผู้นั้นด้วยความโมโห...แต่เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่เขาคุ้นเคยซะก่อน...


"ฮ่าๆแกล้งนายนี่สนุกชะมัด...กลัวฉันมากหรือไงคุณซุปตาร์"ชายร่างสูงถอดแว่นดำ หมวกไหมพรมและผ้าพันคอของเขาออก เผยให้เห็นดวงตากลมโตและผมสีน้ำตาลอ่อนที่เขาจำกลิ่นหอมของมันได้ดี


"ปาร์คชานยอล นายเล่นอะไร!แล้วมาได้ยังไงเนี่ย"คริสอุทานออกมาด้วยความตกใจที่เห็นชานยอลบนเครื่อง....เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าชานยอลจะเล่นอะไรแผลงๆแบบนี้...


"อ่าว ก็ฉันเป็นผู้จัดการนายก็ต้องตามไปดูแลนายทุกที่สิ"ชานยอลยิ้มออกมาด้วยความขบขันที่ทำให้คริสตกใจและเซอร์ไพร์สได้...


"โถถถ ฉันไม่มานายคงเศร้ามากเลยสินะ คิดถึงฉันใช่มั้ยล่ะ"ชานยอลแกล้งหยิกแก้มของคริสเบาๆ เขากล้ามากที่หยอกล้อกับซุปตาร์ขี้เหวี่ยงคนนี้.....


"แล้วคุณแม่นายล่ะ ท่านว่ายังไงบ้าง"คริสถามชานยอลด้วยความสงสัย


"แม่อนุญาตตั้งแต่วันที่ฉันเดินไปขอท่านละ แต่ที่ผ่านมาฉันหลอกนาย ฮ่าๆ"ชานยอลยังคงหัวเราะชอบใจกับเรื่องที่เขาวางแผนมานาน ทั้งการตีหน้าเศร้ารวมถึงวันนี้ที่เขามาส่งคริสก็เป็นแผนการณ์ของเขาทั้งหมด


"แกล้งฉันสนุกมากไหม"คริสแสร้งตีสีหน้าขรึมใส่ชานยอล


"ก็สนุกดี...ฮิ...นานๆทีจะเห็นนายตกใจ.....เอ่อ ว่าแต่เราออกไปจากในห้องน้ำนี่เถอะ ในนี้แคบจังเบียดชะมัด"ชานยอลเพิ่งรู้สึกตัวว่าในนี้มันแคบจนตัวเขากับคริสแนบชิดกันแทบจะเป็นร่างเดียว


คริสแกล้งดึงข้อมือของชานยอลไว้ในขณะที่เขากำลังจะเปิดประตู.....มือหนาแกร่งโอบกอดร่างของชานยอลจากทางด้านหลังพร้อมกับหัวเราะเบาๆในลำคอ


"อย่าเพิ่งรีบไปสิ.....อยู่ในนี้ก่อน...ถึงตาฉันแกล้งนายคืนบ้างละชานยอล" สิ้นคำพูดของคริสปลายจมูกโด่งก็ซุกไซร้ไปตามซอกคอสีขาวนวลเนียนพร้อมกับใช้มือแกร่งถอดเสื้อโค้ทของชานยอลออกด้วยความชำนาญ...


"ชอบอะไรที่มันตื่นเต้นก็ไม่บอก....ไม่อย่างนั้นฉันจัดให้ตั้งนานละ" คริสดึงร่างของชานยอลให้หันหน้าเข้าหาเขาและใช้ริมฝีปากหนาประกบจูบไปที่ปากบางอย่างที่ชานยอลไม่ทันตั้งตัว....ลิ้นเรียวยาวสอดเข้าไปในโพรงปากที่หอมหวานของชานยอลอย่างรวดเร็วและดูดดุนเรียวลิ้นเล็กนั้นอย่างอ่อนโยน


ดวงตากลมโตของชานยอลเบิกกว้างด้วยความตกใจ....นี่คริสจะเอาจริงใช่มั้ย...ชานยอลทุบไปที่ไหล่ของคริส 2-3 ครั้งเพื่อเรียกสติเขาว่านี่เป็นห้องน้ำของเครื่องบินไม่ใช่ห้องน้ำของโรงแรมหรือที่บ้าน....หากมีใครมาเห็นเข้าจะทำอย่างไร...


คริสยังคงนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้านต่อแรงทุบตีของชานยอล....มือหนาของคริสยังคงล้วงเข้าไปใต้เสื้อบางหลังจากที่ชานยอลถูกถอดเสื้อโค้ทออกแล้ว...ริมฝีปากหนาขบเม้มไปที่ลำคอขาวเนียนไล่ขึ้นไปบนติ่งหูขาวๆของชานยอลจนชานยอลเริ่มรู้สึกถึงความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น...ใบหน้าของชานยอลเริ่มเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเสียวซ่านและความเขินอายระคนกันมือที่คอยทุบตีไปที่ไหล่กว้างของคริสเริ่มอ่อนแรงลง..เปลี่ยนเป็นการกำและจิกเสื้อบนร่างกายของคริสแทน....เรียวลิ้นของคริสเริ่มไล้ไปตามติ่งหูและซอกคอของชานยอลด้วยความตื่นเต้น ในตอนนี้อารมณ์ของทั้งสองคนมันเริ่มกระเจิงจนฉุดไม่อยู่แล้ว ริมฝีปากบางของชานยอลเริ่มอ้าเผยอรับการรุกล้ำเข้ามารับลิ้นร้อนชื้นของคริส...อากาศในห้องน้ำเริ่มระอุขึ้นตามลำดับเพราะแรงสัมผัสที่คริสกำลังมอบให้....


มือหนาเคล้าคลึงบริเวณเนินอกสีชมพูของชานยอลอย่างมันส์มือ...หลังจากเสื้อตัวบางนั่นถูกคริสถอดออกแขวนบนหลังประตู...คริสก็เริ่มใช้ริมฝีปากของเขาจัดการกับยอดอกของชานยอลโดยการใช้ลิ้นเรียวยาวของเขาลากไล้และเลียวนเพื่อสร้างอารมณ์ให้กับชานยอล...ลิ้นสากลากผ่านเนินเนื้อจนชานยอลเกิดความเสียวกระสันต์ ....เขาสอดมือบางเข้าไปกำผมของคริสไว้พร้อมกับแอ่นอกรับแรงสัมผัสนั้นด้วยความตื่นเต้น


......ห้องน้ำในเครื่องบินที่กำลังโลดแล่นทะยานบนท้องฟ้าเงียบงัน..มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคริสและชานยอลที่กำลังหอบถี่เบาๆ....


"ในนี้มันแคบมากนะคริส...."ชานยอลกระซิบที่ข้างหูคริสด้วยเสียงที่แหบพร่าหลังจากอารมณ์ต่างๆเริ่มคุกรุ่นขึ้นมา


"นายก็มานั่งตรงนี้สิ..."คริสคว้าข้อมือบางของชานยอลมานั่งทาบทับลงบนฝาที่รองนั่งของโถชักโครกที่ถูกปิดไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับถอดเสื้อของชานยอลออกจนท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า


ร่างขาวโพลนของชานยอลสะท้อนความมืดมิดในห้องน้ำ.....แผ่นหลังนวลเนียนเอนพิงไปด้านหลังให้ท่าทางถนัดขึ้น...คริสยังคงใช้ลิ้นของเขาสัมผัสไปตามร่างกายของชานยอลตั้งแต่ริมฝีปากเรื่อยมาจนถึงต้นคอตามลำดับและมาหยุดตรงเนินอกสีมชมพูที่ตอนนี้เริ่มแข็งชูชันเนื่องจากการถูกเล้าโลม...ใช้เวลาไม่นานร่างทั้งสองร่างก็เปลือยเปล่าโดยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน...มือเรียวบางของชานยอลปลดกระดุมกางเกงของคริสซุปเปอร์สตาร์จอมเร่าร้อนออก...เสื้อผ้าของทั้งสองถูกกองวางไว้ในห้องน้ำ...ชานยอลใช้มือของเขาลูบคลำความแข็งขืนของคริสเบาๆตามอารมณ์และเริ่มเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นเมื่ออารมณ์ของเขาเองก็เริ่มทวีคูณ....

ที่ส่วนปลายของคริสเริ่มมีน้ำรักมาหล่อลื่นเล็กน้อย บ่งบอกถึงความต้องการภายในของเขาที่ตอนนี้เริ่มพลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น.......


"ชานยอล....ฉันอยู่ใกล้นายทีไร ฉันทนไม่ได้แทบทุกครั้ง....กลิ่นตัวของนายมันหอมหวานเหมือนลูกกวาดที่น่าลิ้มลอง"คริสครางเสียงต่ำในลำคอขณะที่มือหนาก็ลูบไปตามร่างกายของชานยอลและบีบเคล้นสะโพกขาวที่ยั่วยวนเขาตรงหน้า


"แล้วนายคิดว่าฉันทนได้เหรอเวลาที่อยู่ใกล้นาย..."ปากเรียวบางของชานยอลยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะก้มลงไปใช้เรียวลิ้นกับส่วนนั้นของคริสช้าๆ เขาเลียวนที่ส่วนปลายพร้อมกับใช้มือรูดขึ้นลงอย่างเบาๆ


ส่วนโคนและส่วนปลายทั้งหมดอยู่ในเรียวปากของชานยอล...ชานยอลหลับตาลงช้าๆและยินดีที่จะมอบทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขาให้กับคริส เขาต้องการจะมอบความสุขสมให้กับผู้ชายที่เขารักมากที่สุด


"อาาา ชานยอล"คริสครางเสียงต่ำและใช้มือหนากุมศรีษะของชานยอลไว้ทั้งสองข้างด้วยความเสียวซ่าน นิ้วมือเรียวยาวของคริสสอดเข้าไปดึงรั้งผมสีน้ำตาลอ่อนของชานยอลเป็นจังหวะเข้าออกช้าๆทำอะไรกันในนี้มันอึดอัดชะมัด ไม่ใช่เพราะสถานที่ที่คับแคบ เพียงแต่เขาทั้งสองไม่สามารถส่งเสียงร้องครางออกมาได้อย่างใจต่างหาก


หลังจากที่ชานยอลใช้เรียวปากและลิ้นที่อ่อนนุ่มของเขาปรนเปรอส่วนนั้นของคริสจนพอใจ เขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่งและหันแผ่นหลังที่ขาวนวลให้คริสแทน...คริสไม่รอช้า เขาค่อยๆแทรกกายของเขาเข้าไปโดยที่จมูกโด่งก็ยังคงคลอเคลียบริเวณหัวไหล่และต้นคอของชานยอลเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการของชานยอล....


"อดทนรอก่อนนะครับคนดี"

....คริสยังไม่ลุกล้ำเข้ามาในด้านหลังของชานยอล เพียงแแต่เขากำลังค่อยๆคุกเข่าลงไปเพื่อใช้เรียวลิ้นของเขาไล้เลียไปตามร่องทางรักเพื่อให้น้ำลายที่อุ่นและเหนียวเปิดทางให้เขาทั้ง 2 สะดวกมากยิ่งขึ้นและบรรเทาความเจ็บให้กับชานยอล มือหนาสองข้างบีบคลึงสะโพกของชานยอลที่อยู่ตรงหน้า....พร้อมกับใช้ลิ้นแหลมไล้เลียเข้าไปที่ช่องสวาท

เมื่อชานยอลเริ่มส่งเสียงครางร้องออกมาเบาๆพร้อมกับแอ่นสะโพกเข้ารับเรียวลิ้นของคริส เขาก็รู้ดีว่าชานยอลคงพร้อมสำหรับเขาแล้ว...คริสยืนขึ้นเต็มความสูงและค่อยๆแทรกกายเข้ามาทางด้านหลัง...ส่วนกลางของคริสค่อยๆลุกล้ำเข้าไปที่ช่องทางรักของชานยอลช้าๆอย่างอ่อนโยน...มือหนายังคงเคล้าคลึงเนินอกสลับกับการบีบเคล้นสะโพกขาว...จมูกที่ซุกซนของคริสยังคงคลอเคลียที่ติ่งหูของชานยอล..หากชานยอลผ่านช่วงนี้ไปได้ เมื่อช่องทางตอบรับได้ดี นั่นหมายถึงความสุขของเขาทั้งสองก็เริ่มเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น...

ไม่นานส่วนปลายของคริสทั้งหมดก็ถูกกลืนเข้าไปในร่างกายของชานยอล...ชานยอลยกสะโพกขึ้นรับแรงโยกช้าๆ...ด้วยอารมณ์ที่เริ่มเร่าร้อน...จากจังหวะเนิบๆของคริสก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นการกระแทกกระทั้นเข้ามาจนหมด...คริสถอนส่วนปลายออกช้าๆและกระแทกเข้ามาใหม่อยู่หลายครั้ง...ชานยอลไม่กล้าร้องครางออกมาเนื่องจากภายในห้องน้ำค่อนข้างเงียบ มือเรียวบางของเขากำแน่นและพาดไปยังผนังขอบห้องน้ำด้วยความเสียวกระสันต์...เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดพรายที่ใบหน้าของคนทั้งสองเพราะอากาศภายในห้องที่เริ่มร้อนระอุ...


"อยากครางไหม"คริสกระซิบถามที่หูของชานยอลแผ่วเบาเพราะเขารู้ดีว่าชานยอลต้องการอะไร...

ชานยอลพยักหน้าตอบรับคริสช้าๆด้วยใบหน้าที่สุขสม .....คริสพลิกร่างของชานยอลให้นั่งบนโถของชักโครกอีกครั้ง พร้อมเอนแผ่นหลังพิกพนัง ชานยอลชันเข่าขึ้นมาสองข้างพร้อมกับการแทรกกายของคริสเข้ามาอย่างรีบร้อน เนื่องจากตอนนี้ความต้องการของคริสมันพลุ่งพล่านมากแล้ว เขาไม่ต้องการพลาดความสุขสันต์ไปแม้แต่วินาทีเดียว...

"ถ้าอยากครางก็ครางในปากฉันนะ"คริสก้มลงประทับริมฝีปากของตนเองลงไปที่ปากบางของชานยอลพร้อมกับใช้เรียวลิ้นดูดดุนลิ้นเล็กไว้...มันทำให้ชานยอลรู้สึกดีขึ้นเมื่อเขารู้สึกเสียวกระสันต์ก็แค่ครางเบาๆในปากของคริสและดูดดุนลิ้นของคริสกลับคืนไปก็เท่านั้น...

คริสยังคงกระแทกกระทั้นส่วนปลายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีเสียงครางออกมาแต่หากตั้งใจฟังเสียงดีๆก็ยังคงมีเสียงของร่างกายที่กำลังกระทบบดเบียดกันในห้องน้ำตามจังหวะ...บทเพลงรักบรรเลงไปเรื่อยจนถึงตอนสุดท้าย....ความอดทนของคริสและชานยอลเริ่มหมดลง...คริสร้องครางออกมาเบาๆพร้อมกับถอนส่วนกลางออกมาจากช่องทางรักและรูดมันเข้าออกช้าๆเพื่อปลดปล่อยน้ำรักอุ่นๆบริเวณหน้าท้องของชานยอล รวมถึงชานยอลก็ปลดปล่อยมันออกมาเช่นกัน....กระดาษทิชชู่ด้านข้างภายในห้องน้ำถูกใช้เพื่อเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้กันและกัน...ก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้ากันและอมยิ้มถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องน้ำนี้....


ทั้งคริสและชานยอลลงมือใส่เสื้อผ้าและเดินออกมาจากห้องน้ำทีละคน....โดยที่คริสเดินออกไปก่อนและนั่งรอชานยอลที่ริมหน้าต่างตรงที่นั่งบิสเนสคลาสบรรยากาศภายนอกในไฟล์ทนี้เป็นปกติ ผู้โดยสารบางตาและหลายคนก็นอนหลับพักผ่อนกันอย่างสบาย....หลังจากคริสเดินมานั่งรอชานยอล ไม่นานชานยอลก็เดินตามออกมานั่งข้างๆ....เรื่องที่เขาทำอะไรในห้องน้ำยังคงเป็นความลับของเขาทั้งสองคนต่อไป....หากชานยอลริจะรักกับซุปเปอร์สตาร์ผู้โด่งดังและเร่าร้อนอย่างคริส ก็คงต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกหลายครั้ง..

ความลับของซุปตาร์ก็ยังคงเป็นความลับอยู่วันยังค่ำ....และคริสเองก็ไม่เคยกลัวว่าเรื่อง Secret ของเขาจะถูกแพร่งพรายออกไป...และเขาก็พร้อมทุกเมื่อแม้มันจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป....เขาพร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องราวระหว่างเขาและชานยอลให้ทุกคนได้รับรู้...และก็จะขอสัญญากับตัวเองว่าเขาจะรักและดูแลชานยอลตลอดไปไม่ว่าเขาจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังหรือประธานบริษัทโมเดลลิ่งก็ตาม.....


"คุณผู้จัดการ....นอนพักผ่อนได้ละครับ เมื่อครู่คุณเหนื่อยกับผมมาเยอะแล้ว" เสียงราตรีสวัสดิ์ของคริสคือคำสุดท้ายก่อนที่มือหนาจะลูบขยี้ไปบนผมที่อ่อนนุ่มและนอนพิงศรีษะไปที่ไหล่ของผู้จัดการส่วนตัวของเขา....กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวชานยอลเปรียบเสมือนลูกกวาดที่น่าลิ้มลองสำหรับผมเสมอ...เมื่อเราทั้งสองไปถึงแคนาดาเราจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างมีความสุขและไม่ต้องแคร์สายตาใคร...ที่ที่มีเพียงเราสองคนเหมือนที่หาดทรายขาวครั้งนั้น...สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมและผู้จัดการส่วนตัวของผมต้องการ....


จบบริบูรณ์ ~~ ENDING Secretofsuperstar

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Similar topics

-

»  BLACKDRAGON EP16

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ