“โอ๊ยยย ทำไมต้องมาประชุมอะไรกันเวลาแบบนี้ด้วยวะ” เด็กหนุ่มร่างสูงสบถเสียงดัง เตะแข้งเตะขาระบายความหงุดหงิดเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ข้อมือเรียวถูกยกขึ้นเพื่อดูนาฬิกาที่เข็มสั้นชี้บอกเวลาห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว
“ป่านนี้มันยังจะมีรถให้กลับบ้านอยู่มั้ยวะเนี่ย” เสียงทุ้มนุ่มบ่นกับตัวเองเป็นรอบที่ล้าน สองขายาวก้าวเท้าเดินปึงปังออกไปจากตึกหน้าคณะที่เขียนว่า สถาปัตยกรรม เขาไม่น่าหลวมตัวเข้ามาประชุมชมรม(ที่ตลอดทั้งเทอมเคยเสนอหน้าเข้าไปอยู่แค่สามครั้งเท่านั้น) ตลอดทางที่เดินลัดเลาะไปตามซอกตึกมืดๆมีเพียงแสงไฟที่ค่อนข้างได้มาตรฐานของมหาลัยฯ ติดๆดับๆ อย่างกับมันกำลังทำตัวเป็นคอสเพลเสาไฟในหนังผีสุดสยองขวัญ แต่ขอโทษมีหรือที่เด็กผู้ชายตัวสูงโย่งกว่าร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตรคนนี้จะกลัว ไม่มีทางซะหรอก
“โอ๊ย สาธุ ขออย่าให้มีอะไรโผล่มาหลอกมาหลอนลูกเล้ย ลูกไม่ได้ตั้งใจมารบกวน ลูกแค่ต้องรีบกลับบ้านเดี๋ยวคุณแม่ด่า” ดูเหมือนว่าเราจะมองเขาผิดไป…
เด็กหนุ่มร่างสูงรีบยกสองมือขึ้นมาประนมไหว้ประลกๆ ดวงตาหรี่ลงกลัวเจออะไรที่ไม่อยากเจอเข้า สองขารีบจ้ำอ้าวไปตลอดทางเดินที่ยาวเพียงไม่กี่ร้อยเมตรข้างหน้า ทำตัวประหนึ่งตัวเองกำลังเดินเข้าไปพิสูจน์ความกล้าในตึกที่รวมระยะทางแล้วเป็นกิโลๆ
“ฮึ่ย รู้งี้น่าจะหนีประชุมพร้อมไอ้ไค ไอ้ฮุน ก็ดีแล้ว โอ๊ย ไม่น่าโชว์สปิริตเลย” สองกลีบปากยังคงทำหน้าที่ได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้สภาพจิตใจตอนนี้จะเรียกได้ว่าโคตรกลัวแล้วก็ตาม เด็กหนุ่มยังคงเดินจ้ำต่อไปอย่างไม่มีสะดุด แสงไฟจากริมถนนใหญ่กำลังส่องนำทางให้มนุษย์โย่งรีบพุ่งเข้าไปหา เด็กหนุ่มวิ่งอย่างสุดชีวิต ทั้งจากความกลัว และจากเข็มสั้นบนหน้าปัดกลมๆที่โคตรจะมีความหมายสำหรับเขา
ห้าทุ่มสี่สิบแล้ว อีกไม่กี่นาทีรถเที่ยวสุดท้ายก็จะหมดแล้ว !!
“ไม่นะเว่ย!! อย่าทำกับฉันอย่างนี้นะ ถ้าพลาดเที่ยวนี้แล้วจะนั่งอะไรกลับบ้าน!!” เขาร้องโวยวายพร้อมกับวิ่งเร็วขึ้น รถสายที่ต้องขึ้นขับเข้ามาจอดเทียบอยู่ที่ป้ายที่ห่างจากเขาไปไม่กี่เมตร เด็กมหาลัยจำนวนหนึ่งคนกำลังเดินขึ้นรถเมล์ที่ทั้งคันมีแค่คนขับ ก่อนที่ไอ้คนขับบ้าบอนั่นกำลังจะขับออกไปจากท่า
“เดี๋ยวก่อน!!!! รอผมก่อนนน!!!” เส้นเสียงที่ไม่ได้ฟังเสนาะหูอยู่แล้วแหกปากด้วยเดซิเบลระดับที่คนใกล้ๆสามารถหูดับได้ คนขับรถเมล์คนนั้นถึงกับเบรกรถกะทันหันจนที่จับสั่นคลอนไปตามแรง ชานยอลรีบวิ่งสี่คูณร้อยชนิดที่คุ๊กกี้รันอาจจะต้องอยากเชิญให้ไปเข้าร่วมด้วย ก่อนที่สองขายาวจะกระโดดขึ้นไปรถเมล์พร้อมกับรอยยิ้มแฉ่งที่วาดยิ้มอย่างโคตรจะภาคภูมิใจ
“แฮ่ ได้ขึ้นแล้ว” พูดอยู่สามคำก่อนที่จะ… จับราวยึดแล้วยืนหอบแฮ่กเป็นหมา
คนขับหัวเราะน้อยๆพร้อมกับพูดทักทายนิดหน่อยๆ ซึ่งคนอัธยาศัยดีอย่างชานยอลก็ต้องตอบไปตามนิสัยอยู่แล้ว
“พี่พูดอะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ชัด” คนขับหัวเราะก่อนจะต้องถามย้ำ
“กลับดึกจังเลยนะครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“พอดีเลิกประชุมดึกนะครับ”
ร่างโปร่งค่อยๆเดินโคลงเคลงไปตามแรงรถ ถึงแม้จะมีที่นั่งว่างอยู่มากมาย แต่เขาก็ยังคงเลือก ก่อนจะเจอเข้ากับเบาะที่ถูกใจที่สุด ชานยอลหย่อนก้นกลมกลึงนั่งอย่างหมดสภาพที่เบาะข้างคนขับ สองมือโบกพัดหน้าตัวเองที่เห่อร้อนด้วยความเหนื่อย มือเรียวปาดหยาดเหงื่อออกอย่างลวกๆ ก่อนจะเหลือบตาดูนาฬิกาที่เข็มยาวกำลังชี้เลขสี่สิบ
“ขอให้ถึงทันนะ” ปากอิ่มพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเบนสายตาออกไปมองยังนอกหน้าต่าง ย่านทั้งย่านกลายเป็นเมืองหลับใหลไปเสียแล้ว รถรามากมายที่ตอนกลางวันมักจะคลาคล่ำอยู่เต็มถนนกลับเหลืออยู่เพียงแค่รถเมล์คันนี้คันเดียว ตึกราบ้านช่องปิดไฟกันหมดแล้ว ที่ทางแถวนี้แทบไม่ต่างอะไรจากทางเปลี่ยวเลยสักนิด
เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น…
มันคงไม่มีใครช่วยทันแน่ๆ
ชานยอลสูดหายใจลึก พยายามไล่ความคิด เขาเป็นผู้ชาย มันคงไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก แถมผู้ชายที่ขึ้นรถมาด้วยก็ยังอยู่ ถ้าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีผู้ชายคนนั้นคอยช่วย เพราะฉะนั้นมันคงไม่มีอะไรหรอก เลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว เราไม่ใช่เด็กผู้หญิงนะ!!! เด็กหนุ่มบอกกับตัวเองอย่างนั้นก่อนที่จะค่อยๆผ่อนคลายลง หัวทุยเอนซบกับเบาะเก้าอี้ นัยน์ตากลมโตทอดมองออกไปไกลอย่างไม่มีจุดโฟกัส สายลมเย็นๆพัดมาล้อเล่นกับแก้มนวลที่ขึ้นสีนิดๆเพราะร่างกายเพิ่งผ่านการวิ่งมา ความเหนื่อยล้าและง่วงงุนค่อยๆเข้าคืบคลานมาหาเขาช้าๆ เปลือกตาสีมุขค่อยๆปิดลง สติสัมปชัญญะถูกดูดกลืนไปทีละนิด ทีละนิด ก่อนที่นิทราจะค่อยๆโอบอุ้มเข้าไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่า….
ผู้โดยสารหนึ่งเดียวที่นั่งมาด้วย กำลังจะลงจะรถแล้ว
เด็กผู้ชายคนนั้นค่อยๆก้าวย่างลงไปอย่างเชื่องช้าโดยหอบเอาความปลอดภัยและความสบายใจจากชานยอลเดินติดตามตัวไปด้วย ร่างโปร่งยังคงหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าโทรศัพท์กำลังสั่นครืดๆ แจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า และไม่แทบทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าคนขับกำลังเปลี่ยนเส้นทางแล้ว…
รถเมล์คันสีขาวคาดน้ำเงินถูกขับออกไปไกลจากเส้นทางหลักมากขึ้นเรื่อยๆ สองข้างทางกลายเป็นป่าดงพงหญ้า ตึกราบ้านช่องแทบไม่มีให้เห็น หันไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมิดโอบล้อม คนขับรถเมล์ที่รูปลักษณ์ดูไม่น่าไว้ใจ ผมที่โกนโล้น หูที่ใส่ต่างหูอย่างน้อยสองชิ้นต่อข้าง รอยบากที่หางคิ้ว ที่อกเสื้อมีป้ายชื่อติดว่าคริส ผู้ชายคนนั้นคอยเหลือบมองกระจกส่องหลังเป็นระยะๆ ภาพของชานยอลไหลเข้ามาในหัว เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวสักนิดว่าเขาแอบมองตั้งแต่ตอนที่ขึ้นรถขึ้นมาแล้ว ผิวขาวๆที่ระเรื่อด้วยริ้วสีแดงเพราะการวิ่ง ปากอิ่มที่เผยอออกก่อนที่จะหอบหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอด ก้นกลมๆที่น่าจับมาขย้ำแล้วฟาดให้ช้ำที่หย่อนนั่งลงไปบนเบาะข้างๆตัวเขา
ทีแรกเขาพยายามจะไม่คิด แต่งานนี้ต้องโทษเจ้าตัว ก็ใครใช้ให้ร่างโปร่งนั่งแหกขา ปาดเหงื่อ บิดตัวไปมาด้วยความไม่สบายตัว แล้วไหนจะเรียวลิ้นเล็กๆน่าดูดที่แลบลิ้นเลียปากนั่นอีกล่ะ…
แทบไม่อยากจะคิดเลย…ถ้าก้นกลมๆนั่นมาดุนดันตรงเป้าเขา
ถ้าขาเรียวๆนั่นมานั่งแหกขาให้เขาโถมตัวกระแทก
ถ้าร่างทั้งร่างจะเต็มไปด้วยเหงื่อไหลท่วมยั่วยวน
ถ้าเด็กคนนั้นจะมาดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่าง
ถ้าลิ้นเล็กๆนั่นจะมาแลบเลียที่หัวอวัยวะของเขา
“อ่าห์” เพียงแค่คิดร่างกายก็ตื่นตัว มือใหญ่จัดการรูดซิปกางเกง ควักท่อนเอ็นบวมร้อนที่สั่นกระตุก กระดิกไปมาอยู่ในมือของเขาแล้วจับรูด
“ซี๊ดดด อ่าห์” ใบหน้าหล่อเถื่อนเชิดขึ้น หลับตาเคลิ้มยามช่วยตัวเอง นิ้วยาวขยี้รูพ่นน้ำ ฝ่ามือแกร่งกระชับแน่นรูดรั้งเอ็นเร็วรัวจนหนังหุ้มล่น เห็นหัวเอ็นเด่นชัด
“ฮืมมม มม” สองขาก้าวเดินตรงไปหาเด็กหนุ่มที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว สะโพกสอบซอยลักหลับอีกคนที่สะโพกมน ท่อนเอ็นที่พองขยายเต็มที่กระแทกถูไถเข้าใส่ ฝ่ามือใหญ่จับอวัยวะนั้นให้หัวนูนเด่นของมันถูสะโพกอีกคนพร้อมกับขยี้รูพ่นน้ำตัวเองไปด้วย
“อ่าห์!” เชิดหน้า หลับตาครางสุขสม จินตนาการไปถึงอีกคนที่โก่งก้นแน่นบี้ถูท่อนเอ็นร้อนแล้วจับแหวกแหกรูร้อนตัวเองให้เขากระแทกกระทั้นเข้าไปไม่หยุดหย่อน เขาจะบีบขย้ำก้นนั้น จะกอดรัดโอบเอวเอาไว้ให้ทั้งเอ็นร้อน ทั้งรูรักเชื่อมติดจนแทบไม่หลุดออกจากกัน
“ซี๊ดดด!” คริสเร่งกระแทกถี่รัวขึ้นเรื่อยๆสองมือจับปลดกระดุมเสื้อ แผ่นอกบางที่แดงระเรื่อ ยอดอกนูนสีสวย เพียงแค่คิดก็อยากจะก้มลงไปดูดกัดให้แข็งสู้ลิ้นเขาแล้ว
มือหนาเลื่อนลูบไล้ ป้ายสัมผัสหยาบโลนไปทั่ว ใช้นิ้วดึงยอดอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้านล่างยิ่งเร่งจังหวะถี่รัวจนเกิดเสียง ชานยอลที่หลับใหลเริ่มขมวดคิ้วอย่างรำคาญ
“ฮือออ” เสียงทุ้มนุ่มฮึมฮัมร้องประท้วง เปลือกตาสีมุกค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะเบิกโพลงเมื่อเห็นภาพการกระทำทั้งหมด
“นายจะทำอะไรน่ะ!!!!” เขาผลักอกอีกคนให้ออกห่าง ทว่ากลับโดนอีกฝ่ายรวบข้อมือแล้วกระชากเข้าไปหาแทน
“ชู่ว์ อย่าเสียงดังสิเมีย มาสนุกด้วยกันดีกว่า” กลีบปากหนานั่นกระซิบแทบชิดริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนตวัดเลียใบหูอย่างเสียวซ่าน สองมือเรียวถูกจับมัดด้วยเข็มขัดไว้กับราวจับเก้าอี้ ท่าทางตอนนี้จึงแทบไม่ต่างอะไรจากการโก่งก้นให้อีกคนลวนลามเลยสักนิด
“แก!! แกจะทำอะไรฉัน!! หยุดนะไอ้ชั่ว!! ฉันจะเรียกตำรวจ ฉันจะเรียกตำรวจ!!!” มือใหญ่บีบแก้มก้นแน่น โน้มตัวลงไปกระซิบจนท่อนเอ็นที่แข็งตัวดุนดันไปกับร่องก้น
“ก็เอาสิ จะไปเรียกมายังไงล่ะ แถวนี่นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีใครทั้งนั้นล่ะ” ชานยอลหันไปมองรอบๆ ก่อนที่ความกลัวและความทำอะไรไม่ถูกจะเข้าคุกคามจิตใจของเขา
“ก ก แก แกต้องการอะไร ฉ ฉ ฉันมีเงิน อยู่ในกระเป๋า แก แกเอาไปได้” คริสส่งเสียงหัวเราะในลำคอทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะกระซิบเสียงกระเส่าข้างหูให้อีกคนได้สั่นสะท้าน
“ต้องการเมีย” น้ำเสียงดังชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับกลีบปากที่ขบเม้มใบหู ลิ้นร้อนตวัดเลียชอนไชไปตามซอกหู มือใหญ่กระชากกางเกงและชั้นในออกมารวดเดียวจนหมด ก่อนจะบีบขย้ำฟอนเฟ้นมันส์มือเสียจนก้นขึ้นรอย
“ยะ ยะ อย่า นะ” ชานยอลร้องห้ามด้วยเสียงสั่น ร่างทั้งร่างสั่นกลัวอย่างน่าสงสาร แต่มีหรือที่คนอย่างคริสจะสนใจ
“อีกสักพักก็สนุกกันแล้ว” คริสกระชากเสื้อเชิ้ตนักศึกษาออกไปให้พ้นทางก่อนจะขบเม้ม ซุกไซร้ซอกคออีกคน ปลายจมูกโด่งคลอเคลีย สูดดมกลิ่นตัวอีกคนอย่างหื่นกระหาย ลิ้นสากลากเลียไปมาให้ชุ่มเยิ้มน้ำลาย ในขณะที่ด้านหน้าก็ถูกฝ่ามือหยาบโลนลูบไล้ นิ้วแกร่งสะกิดเขี่ย แล้วบีบบี้ยอดอกกระตุกความเสียวซ่านให้ไหลพล่านไปทั่วร่างอีกคน
“อะ อะ อื้อ! อย่า..”
“เก็บเสียงไว้ครางเถอะ!” คริสฟาดก้นอีกคนเต็มแรงจนเนื้อเด้งแล้วจับเอ็นแข็งขืนกระแทกเข้าไปในรูร้อนทีเดียวจนสุด
“ซี๊ดดดด / อ๊ะ!!!” สองเสียงร้องขึ้นพร้อมกัน อีกคนเสียวซ่าน ส่วนอีกคนกลับเจ็บจนสะดุ้ง หยาดน้ำตาคลอหน่วงอยู่ที่ขอบตาจนร้อนผ่าว คนป่าเถื่อนช้อนหน้าให้อีกคนเอี้ยวหันมาก่อนจะแลบลิ้นเลียไปทั่วหน้าแล้วบดปากจูบ มอบรสสัมผัสป่าเถื่อนแต่วาบหวามให้อีกคนอย่างกระหาย
เสียงครางเครือดังแว่วมาจากในคอ คริสเกี่ยวลิ้น ดูดพัน แล้วนัวเนียแลกลิ้นกับอีกคนจนน้ำลายไหลเยิ้มรดมุมปาก ก่อนที่เขาจะค่อยๆตวัดเลียชิมแล้วบดปากจูบแลกลิ้นกับอีกคนซ้ำๆ
“ฮะ อื้อ! อื้ออ!” ชานยอลยังคงร้องครางประท้วง แม้ว่าเรี่ยวแรงจะถูกกระชากออกไปหมดแล้วตั้งแต่ถูกกระแทก ร่างกายอ่อนระทวยเสียจนแทบทรงตัวไม่อยู่ แขนแกร่งต้องโอบรัดเอวเอาไว้ ร่างทั้งร่างแนบกันชิดสนิท ท่วงท่ายิ่งเอื้อต่อการถูกกระทำชำรัก
“ซี๊ดดด” ร่างสูงครางอย่างพอใจขณะที่สอดใส่เอ็นบวมร้อนกระแทกเข้าใส่รูรักที่ทั้งแน่น ทั้งตอดเขาจนแทบคลั่ง มือสากบีบเฟ้นแก้มก้น จับแหวกแหกให้รูยิ่งกว้าง กระแทกเข้าออกเร็วขึ้น พวงอัณฑะตีเนื้อก้นอีกคนจนเกิดเสียง ชานยอลก้มหน้าคางชิดอก พยายามกัดปากกลั้นเสียงตัวเองไว้
ฝ่ายคนกระทำยิ่งเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งได้ใจ เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก ท่อนเอ็นร้อนกระแทกเข้าออกเสียจนเนื้อปลิ้นเข้าปลิ้นออก น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมาเป็นสาย มือสากปาดขึ้นมาถูละเลงไปทั่วร่างโปร่ง กระแทกเข้าออกเข้าไปลึกขึ้น กดขยี้หัวโดนจุดเสียว ร่างโปร่งครางลั่น เผลอแอ่นก้น ส่ายร่อนเอวถูพวงอัณฑะอีกคนอย่างเสียวซ่าน
“อื้ออ อื้อออ ตรงนั้น ตรงนั้น! อ๊ะ! อ๊ะ! เสียว เสียว!!” เสียงหวานครางกระเส่า มือบางกำราวจับแน่น เผลอโก่งก้นกระแทกสวนอีกคนกลับจนร่างสูงยิ่งเร่งเร้าสัมผัสให้หนักหน่วงขึ้น
ท่อนเอ็นร้อนถูกกระแทกซ้ำ หัวเอ็นร้อนขยี้จุดเสียวแล้วบี้ค้างให้ดิ้นพล่าน ร่างโปร่งร้องครางลั่น ก้นแน่นถูไถอย่างลืมตัว พงขนดำของอีกฝ่ายเยิ้มไปด้วยน้ำล่อลื่น
“อ้ะ อ๊า ตรงนั้น ตรงนั้น อื้อออ ออ แรงอีก แรงอีก เอาแรงๆ” ก้นแน่นกระแทกสวนแรงๆ หน้าหวานเชิดขึ้น เผยอปาก เผลอตัวยั่วยวน
“ไหนตอนแรกบอกไม่เอาไงจ๊ะ เมีย”เสียงทุ้มกระซิบถ้อยคำยียวน ตวัดลิ้นเลียแก้มอย่างหลงใหล เร่งสอดใส่แรงขึ้นเรื่อยๆ หัวเอ็นร้อนขยี้จุดเสียวเน้นๆ ฝ่ามือใหญ่เลื่อนสอดเข้าเขี่ยยอดอกเร็วรัว อีกข้างก็ล้วงเข้าไปรูดรั้งท่อนเอ็นเล็ก บี้รูพ่นน้ำ แล้วบีบกระชับให้หัวนูนแดงเด่นขึ้นตามจังหวะสอดใส่ด้านหลังจนอีกคนสั่นสะท้าน
ร่างโปร่งหวีดร้องลั่น ครวญครางไม่เป็นภาษา ร่างโปร่งทรุดฮวบแทบล้ม ต้องคอยให้อีกคนกอดรัด ก้นแน่นกระแทกสวนกลับ ทั้งถูทั้งไถ ปรนเปรอ ยั่วเย้า เอี้ยวตัวหันหน้าไปสบตาฉ่ำเยิ้ม ปากอิ่มเผยออ้าออก แล้วกัดปากยามถูกกระแทกเข้ามาจนเสียดท้อง
คริสเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ หัวเอ็นบวมร้อนเยิ้มน้ำใกล้ปลดปล่อย ร่างกายเสียวจนแทบจะบ้าคลั่ง กดกระแทกสอดใส่อีกคนเหมือนติดสัตว์ พวงอัณฑะตีเนื้อดังไม่หยุด มือใหญ่รูดเอ็นอีกคนเร็วรัวจนปลายหัวเยิ้ม เพลิงแห่งราคะพุ่งทะยานขึ้นถึงขีดสุด ทั้งเร่าร้อน ป่าเถื่อน หฤหรรษ์ และสุขสม จนเปลวเพลิงแผดเผามอดไหม้ทั้งคู่ให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
“ซี๊ดดด!! อะ! อ่าห์” คริสลากเสียงครางยาว เกร็งกระตุกฉีดพุ่งน้ำคาวในตัวอีกคนแล้วรั้งร่างมากอดแนบชิด
“ฮะ! อะ อ๊ะ!!” ร่างโปร่งหวีดร้อง แก่นกายที่ถูกอีกคนเร่งรูด ปลดปล่อยหลักฐานความสุขสมออกมาเต็มมืออีกฝ่าย ก่อนจะหอบฮัก หายใจเข้าออกหนักหน่วง แต่ถึงกระนั้นก็ยังเปรยตาหวานฉ่ำมาจ้องอีกคนอย่างมาดร้าย
“น น นายมัน บ้า” คนโดนพรุสวาทกลับยกยิ้มขำ มองอีกคนกลับอย่างท้าทายแล้วเอ่ยถ้อยคำที่ชานยอลอยากตรงเข้าไปกระชากคอเขาที่สุด
“ว่าผัวตัวเองอย่างนี้หรอเมีย” ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่กลับเป็นประโยคบังคับ เมื่อท่อนเอ็นที่ยังแช่ค้างอยู่ในตัวเขากลับตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สะโพกสอบกระแทกขยี้จุดเสียวจนเขาเผลอคราง หันขวับไปตวัดค้อนกลับ
“มาสนุกด้วยกันดีกว่า ยังไม่หายอยากเลย” รอยยิ้มร้ายวาดขึ้นก่อนที่เพลิงรักสัมผัสดิบเถื่อนจะร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้พันธนาการที่ข้อมือนั่นกลับถูกปลดออก ปล่อยให้สองแขนได้ทำตามอำเภอใจ แต่ทว่า แทนที่เขาจะทำร้ายอีกฝ่าย แล้วรีบหนีไปซะ ร่างโปร่งกลับเผลอตระกองกอด หลงใหลไปกับสัมผัสอีกฝ่าย
ทั้งร่อนเอว
ทั้งนั่งคร่อม
ทั้งขย่มโยก
ทั้งส่ายก้นยั่ว และทั้ง…
ยอมอมแล้วกลืนกิน ยามเมื่ออีกฝ่ายเสร็จสิ้น
“อ่าห์ นายนี่มันสุดยอดจริงๆ” คริสครางทุ้มอย่างสุขสม ขณะที่ชานยอลก้มอยู่ตรงหว่างขาของเขา ในหัวของเขาคิดถึงแต่เรื่องจะทำยังไงให้เขาได้เจอเด็กคนนี้อีก เขาจะไม่ยอมปล่อยเด็กคนนี้ไป เขาจะต้องได้มี SEX กับเด็กคนนี้อีกครั้งให้ได้!!!
มือใหญ่ล้วงไปหยิบของในกระเป๋ากางเกง ซองยาเล็กๆถูกหยิบออกมา ก่อนที่ยาเม็ดประหลาดจะปรากฏแก่สายตาแล้วถูกจับยัดเข้าไปในรูร้อนของอีกคน
“อ๊า!!!” ชานยอลร้องลั่น คริสก้มหน้าไปหาแล้วกระซิบชิดริมฝีปาก
“ยานั่นคือยาที่จะทำให้นายอยากจนแทบจะเอากับหมาได้ ถ้าอยากหายก็มาหาฉันอีกวันศุกร์นี้”
“น น นายว่าอะไรนะ!!”
“หึหึ ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะเมีย…”
...........................................................................................
ฝากติดแท็ก #ฟิคส่งน้ำ ด้วยนะคร้าบบบบบ
ฝากผลงานชิ้นแรกของผมด้วยนะคร้าบบบบบบ
ซียอลเองคร๊าบบบบบบ
“ป่านนี้มันยังจะมีรถให้กลับบ้านอยู่มั้ยวะเนี่ย” เสียงทุ้มนุ่มบ่นกับตัวเองเป็นรอบที่ล้าน สองขายาวก้าวเท้าเดินปึงปังออกไปจากตึกหน้าคณะที่เขียนว่า สถาปัตยกรรม เขาไม่น่าหลวมตัวเข้ามาประชุมชมรม(ที่ตลอดทั้งเทอมเคยเสนอหน้าเข้าไปอยู่แค่สามครั้งเท่านั้น) ตลอดทางที่เดินลัดเลาะไปตามซอกตึกมืดๆมีเพียงแสงไฟที่ค่อนข้างได้มาตรฐานของมหาลัยฯ ติดๆดับๆ อย่างกับมันกำลังทำตัวเป็นคอสเพลเสาไฟในหนังผีสุดสยองขวัญ แต่ขอโทษมีหรือที่เด็กผู้ชายตัวสูงโย่งกว่าร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตรคนนี้จะกลัว ไม่มีทางซะหรอก
“โอ๊ย สาธุ ขออย่าให้มีอะไรโผล่มาหลอกมาหลอนลูกเล้ย ลูกไม่ได้ตั้งใจมารบกวน ลูกแค่ต้องรีบกลับบ้านเดี๋ยวคุณแม่ด่า” ดูเหมือนว่าเราจะมองเขาผิดไป…
เด็กหนุ่มร่างสูงรีบยกสองมือขึ้นมาประนมไหว้ประลกๆ ดวงตาหรี่ลงกลัวเจออะไรที่ไม่อยากเจอเข้า สองขารีบจ้ำอ้าวไปตลอดทางเดินที่ยาวเพียงไม่กี่ร้อยเมตรข้างหน้า ทำตัวประหนึ่งตัวเองกำลังเดินเข้าไปพิสูจน์ความกล้าในตึกที่รวมระยะทางแล้วเป็นกิโลๆ
“ฮึ่ย รู้งี้น่าจะหนีประชุมพร้อมไอ้ไค ไอ้ฮุน ก็ดีแล้ว โอ๊ย ไม่น่าโชว์สปิริตเลย” สองกลีบปากยังคงทำหน้าที่ได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้สภาพจิตใจตอนนี้จะเรียกได้ว่าโคตรกลัวแล้วก็ตาม เด็กหนุ่มยังคงเดินจ้ำต่อไปอย่างไม่มีสะดุด แสงไฟจากริมถนนใหญ่กำลังส่องนำทางให้มนุษย์โย่งรีบพุ่งเข้าไปหา เด็กหนุ่มวิ่งอย่างสุดชีวิต ทั้งจากความกลัว และจากเข็มสั้นบนหน้าปัดกลมๆที่โคตรจะมีความหมายสำหรับเขา
ห้าทุ่มสี่สิบแล้ว อีกไม่กี่นาทีรถเที่ยวสุดท้ายก็จะหมดแล้ว !!
“ไม่นะเว่ย!! อย่าทำกับฉันอย่างนี้นะ ถ้าพลาดเที่ยวนี้แล้วจะนั่งอะไรกลับบ้าน!!” เขาร้องโวยวายพร้อมกับวิ่งเร็วขึ้น รถสายที่ต้องขึ้นขับเข้ามาจอดเทียบอยู่ที่ป้ายที่ห่างจากเขาไปไม่กี่เมตร เด็กมหาลัยจำนวนหนึ่งคนกำลังเดินขึ้นรถเมล์ที่ทั้งคันมีแค่คนขับ ก่อนที่ไอ้คนขับบ้าบอนั่นกำลังจะขับออกไปจากท่า
“เดี๋ยวก่อน!!!! รอผมก่อนนน!!!” เส้นเสียงที่ไม่ได้ฟังเสนาะหูอยู่แล้วแหกปากด้วยเดซิเบลระดับที่คนใกล้ๆสามารถหูดับได้ คนขับรถเมล์คนนั้นถึงกับเบรกรถกะทันหันจนที่จับสั่นคลอนไปตามแรง ชานยอลรีบวิ่งสี่คูณร้อยชนิดที่คุ๊กกี้รันอาจจะต้องอยากเชิญให้ไปเข้าร่วมด้วย ก่อนที่สองขายาวจะกระโดดขึ้นไปรถเมล์พร้อมกับรอยยิ้มแฉ่งที่วาดยิ้มอย่างโคตรจะภาคภูมิใจ
“แฮ่ ได้ขึ้นแล้ว” พูดอยู่สามคำก่อนที่จะ… จับราวยึดแล้วยืนหอบแฮ่กเป็นหมา
คนขับหัวเราะน้อยๆพร้อมกับพูดทักทายนิดหน่อยๆ ซึ่งคนอัธยาศัยดีอย่างชานยอลก็ต้องตอบไปตามนิสัยอยู่แล้ว
“พี่พูดอะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ชัด” คนขับหัวเราะก่อนจะต้องถามย้ำ
“กลับดึกจังเลยนะครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“พอดีเลิกประชุมดึกนะครับ”
ร่างโปร่งค่อยๆเดินโคลงเคลงไปตามแรงรถ ถึงแม้จะมีที่นั่งว่างอยู่มากมาย แต่เขาก็ยังคงเลือก ก่อนจะเจอเข้ากับเบาะที่ถูกใจที่สุด ชานยอลหย่อนก้นกลมกลึงนั่งอย่างหมดสภาพที่เบาะข้างคนขับ สองมือโบกพัดหน้าตัวเองที่เห่อร้อนด้วยความเหนื่อย มือเรียวปาดหยาดเหงื่อออกอย่างลวกๆ ก่อนจะเหลือบตาดูนาฬิกาที่เข็มยาวกำลังชี้เลขสี่สิบ
“ขอให้ถึงทันนะ” ปากอิ่มพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเบนสายตาออกไปมองยังนอกหน้าต่าง ย่านทั้งย่านกลายเป็นเมืองหลับใหลไปเสียแล้ว รถรามากมายที่ตอนกลางวันมักจะคลาคล่ำอยู่เต็มถนนกลับเหลืออยู่เพียงแค่รถเมล์คันนี้คันเดียว ตึกราบ้านช่องปิดไฟกันหมดแล้ว ที่ทางแถวนี้แทบไม่ต่างอะไรจากทางเปลี่ยวเลยสักนิด
เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น…
มันคงไม่มีใครช่วยทันแน่ๆ
ชานยอลสูดหายใจลึก พยายามไล่ความคิด เขาเป็นผู้ชาย มันคงไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก แถมผู้ชายที่ขึ้นรถมาด้วยก็ยังอยู่ ถ้าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีผู้ชายคนนั้นคอยช่วย เพราะฉะนั้นมันคงไม่มีอะไรหรอก เลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว เราไม่ใช่เด็กผู้หญิงนะ!!! เด็กหนุ่มบอกกับตัวเองอย่างนั้นก่อนที่จะค่อยๆผ่อนคลายลง หัวทุยเอนซบกับเบาะเก้าอี้ นัยน์ตากลมโตทอดมองออกไปไกลอย่างไม่มีจุดโฟกัส สายลมเย็นๆพัดมาล้อเล่นกับแก้มนวลที่ขึ้นสีนิดๆเพราะร่างกายเพิ่งผ่านการวิ่งมา ความเหนื่อยล้าและง่วงงุนค่อยๆเข้าคืบคลานมาหาเขาช้าๆ เปลือกตาสีมุขค่อยๆปิดลง สติสัมปชัญญะถูกดูดกลืนไปทีละนิด ทีละนิด ก่อนที่นิทราจะค่อยๆโอบอุ้มเข้าไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่า….
ผู้โดยสารหนึ่งเดียวที่นั่งมาด้วย กำลังจะลงจะรถแล้ว
เด็กผู้ชายคนนั้นค่อยๆก้าวย่างลงไปอย่างเชื่องช้าโดยหอบเอาความปลอดภัยและความสบายใจจากชานยอลเดินติดตามตัวไปด้วย ร่างโปร่งยังคงหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าโทรศัพท์กำลังสั่นครืดๆ แจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า และไม่แทบทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าคนขับกำลังเปลี่ยนเส้นทางแล้ว…
รถเมล์คันสีขาวคาดน้ำเงินถูกขับออกไปไกลจากเส้นทางหลักมากขึ้นเรื่อยๆ สองข้างทางกลายเป็นป่าดงพงหญ้า ตึกราบ้านช่องแทบไม่มีให้เห็น หันไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมิดโอบล้อม คนขับรถเมล์ที่รูปลักษณ์ดูไม่น่าไว้ใจ ผมที่โกนโล้น หูที่ใส่ต่างหูอย่างน้อยสองชิ้นต่อข้าง รอยบากที่หางคิ้ว ที่อกเสื้อมีป้ายชื่อติดว่าคริส ผู้ชายคนนั้นคอยเหลือบมองกระจกส่องหลังเป็นระยะๆ ภาพของชานยอลไหลเข้ามาในหัว เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวสักนิดว่าเขาแอบมองตั้งแต่ตอนที่ขึ้นรถขึ้นมาแล้ว ผิวขาวๆที่ระเรื่อด้วยริ้วสีแดงเพราะการวิ่ง ปากอิ่มที่เผยอออกก่อนที่จะหอบหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอด ก้นกลมๆที่น่าจับมาขย้ำแล้วฟาดให้ช้ำที่หย่อนนั่งลงไปบนเบาะข้างๆตัวเขา
ทีแรกเขาพยายามจะไม่คิด แต่งานนี้ต้องโทษเจ้าตัว ก็ใครใช้ให้ร่างโปร่งนั่งแหกขา ปาดเหงื่อ บิดตัวไปมาด้วยความไม่สบายตัว แล้วไหนจะเรียวลิ้นเล็กๆน่าดูดที่แลบลิ้นเลียปากนั่นอีกล่ะ…
แทบไม่อยากจะคิดเลย…ถ้าก้นกลมๆนั่นมาดุนดันตรงเป้าเขา
ถ้าขาเรียวๆนั่นมานั่งแหกขาให้เขาโถมตัวกระแทก
ถ้าร่างทั้งร่างจะเต็มไปด้วยเหงื่อไหลท่วมยั่วยวน
ถ้าเด็กคนนั้นจะมาดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่าง
ถ้าลิ้นเล็กๆนั่นจะมาแลบเลียที่หัวอวัยวะของเขา
“อ่าห์” เพียงแค่คิดร่างกายก็ตื่นตัว มือใหญ่จัดการรูดซิปกางเกง ควักท่อนเอ็นบวมร้อนที่สั่นกระตุก กระดิกไปมาอยู่ในมือของเขาแล้วจับรูด
“ซี๊ดดด อ่าห์” ใบหน้าหล่อเถื่อนเชิดขึ้น หลับตาเคลิ้มยามช่วยตัวเอง นิ้วยาวขยี้รูพ่นน้ำ ฝ่ามือแกร่งกระชับแน่นรูดรั้งเอ็นเร็วรัวจนหนังหุ้มล่น เห็นหัวเอ็นเด่นชัด
“ฮืมมม มม” สองขาก้าวเดินตรงไปหาเด็กหนุ่มที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว สะโพกสอบซอยลักหลับอีกคนที่สะโพกมน ท่อนเอ็นที่พองขยายเต็มที่กระแทกถูไถเข้าใส่ ฝ่ามือใหญ่จับอวัยวะนั้นให้หัวนูนเด่นของมันถูสะโพกอีกคนพร้อมกับขยี้รูพ่นน้ำตัวเองไปด้วย
“อ่าห์!” เชิดหน้า หลับตาครางสุขสม จินตนาการไปถึงอีกคนที่โก่งก้นแน่นบี้ถูท่อนเอ็นร้อนแล้วจับแหวกแหกรูร้อนตัวเองให้เขากระแทกกระทั้นเข้าไปไม่หยุดหย่อน เขาจะบีบขย้ำก้นนั้น จะกอดรัดโอบเอวเอาไว้ให้ทั้งเอ็นร้อน ทั้งรูรักเชื่อมติดจนแทบไม่หลุดออกจากกัน
“ซี๊ดดด!” คริสเร่งกระแทกถี่รัวขึ้นเรื่อยๆสองมือจับปลดกระดุมเสื้อ แผ่นอกบางที่แดงระเรื่อ ยอดอกนูนสีสวย เพียงแค่คิดก็อยากจะก้มลงไปดูดกัดให้แข็งสู้ลิ้นเขาแล้ว
มือหนาเลื่อนลูบไล้ ป้ายสัมผัสหยาบโลนไปทั่ว ใช้นิ้วดึงยอดอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้านล่างยิ่งเร่งจังหวะถี่รัวจนเกิดเสียง ชานยอลที่หลับใหลเริ่มขมวดคิ้วอย่างรำคาญ
“ฮือออ” เสียงทุ้มนุ่มฮึมฮัมร้องประท้วง เปลือกตาสีมุกค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะเบิกโพลงเมื่อเห็นภาพการกระทำทั้งหมด
“นายจะทำอะไรน่ะ!!!!” เขาผลักอกอีกคนให้ออกห่าง ทว่ากลับโดนอีกฝ่ายรวบข้อมือแล้วกระชากเข้าไปหาแทน
“ชู่ว์ อย่าเสียงดังสิเมีย มาสนุกด้วยกันดีกว่า” กลีบปากหนานั่นกระซิบแทบชิดริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนตวัดเลียใบหูอย่างเสียวซ่าน สองมือเรียวถูกจับมัดด้วยเข็มขัดไว้กับราวจับเก้าอี้ ท่าทางตอนนี้จึงแทบไม่ต่างอะไรจากการโก่งก้นให้อีกคนลวนลามเลยสักนิด
“แก!! แกจะทำอะไรฉัน!! หยุดนะไอ้ชั่ว!! ฉันจะเรียกตำรวจ ฉันจะเรียกตำรวจ!!!” มือใหญ่บีบแก้มก้นแน่น โน้มตัวลงไปกระซิบจนท่อนเอ็นที่แข็งตัวดุนดันไปกับร่องก้น
“ก็เอาสิ จะไปเรียกมายังไงล่ะ แถวนี่นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีใครทั้งนั้นล่ะ” ชานยอลหันไปมองรอบๆ ก่อนที่ความกลัวและความทำอะไรไม่ถูกจะเข้าคุกคามจิตใจของเขา
“ก ก แก แกต้องการอะไร ฉ ฉ ฉันมีเงิน อยู่ในกระเป๋า แก แกเอาไปได้” คริสส่งเสียงหัวเราะในลำคอทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะกระซิบเสียงกระเส่าข้างหูให้อีกคนได้สั่นสะท้าน
“ต้องการเมีย” น้ำเสียงดังชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับกลีบปากที่ขบเม้มใบหู ลิ้นร้อนตวัดเลียชอนไชไปตามซอกหู มือใหญ่กระชากกางเกงและชั้นในออกมารวดเดียวจนหมด ก่อนจะบีบขย้ำฟอนเฟ้นมันส์มือเสียจนก้นขึ้นรอย
“ยะ ยะ อย่า นะ” ชานยอลร้องห้ามด้วยเสียงสั่น ร่างทั้งร่างสั่นกลัวอย่างน่าสงสาร แต่มีหรือที่คนอย่างคริสจะสนใจ
“อีกสักพักก็สนุกกันแล้ว” คริสกระชากเสื้อเชิ้ตนักศึกษาออกไปให้พ้นทางก่อนจะขบเม้ม ซุกไซร้ซอกคออีกคน ปลายจมูกโด่งคลอเคลีย สูดดมกลิ่นตัวอีกคนอย่างหื่นกระหาย ลิ้นสากลากเลียไปมาให้ชุ่มเยิ้มน้ำลาย ในขณะที่ด้านหน้าก็ถูกฝ่ามือหยาบโลนลูบไล้ นิ้วแกร่งสะกิดเขี่ย แล้วบีบบี้ยอดอกกระตุกความเสียวซ่านให้ไหลพล่านไปทั่วร่างอีกคน
“อะ อะ อื้อ! อย่า..”
“เก็บเสียงไว้ครางเถอะ!” คริสฟาดก้นอีกคนเต็มแรงจนเนื้อเด้งแล้วจับเอ็นแข็งขืนกระแทกเข้าไปในรูร้อนทีเดียวจนสุด
“ซี๊ดดดด / อ๊ะ!!!” สองเสียงร้องขึ้นพร้อมกัน อีกคนเสียวซ่าน ส่วนอีกคนกลับเจ็บจนสะดุ้ง หยาดน้ำตาคลอหน่วงอยู่ที่ขอบตาจนร้อนผ่าว คนป่าเถื่อนช้อนหน้าให้อีกคนเอี้ยวหันมาก่อนจะแลบลิ้นเลียไปทั่วหน้าแล้วบดปากจูบ มอบรสสัมผัสป่าเถื่อนแต่วาบหวามให้อีกคนอย่างกระหาย
เสียงครางเครือดังแว่วมาจากในคอ คริสเกี่ยวลิ้น ดูดพัน แล้วนัวเนียแลกลิ้นกับอีกคนจนน้ำลายไหลเยิ้มรดมุมปาก ก่อนที่เขาจะค่อยๆตวัดเลียชิมแล้วบดปากจูบแลกลิ้นกับอีกคนซ้ำๆ
“ฮะ อื้อ! อื้ออ!” ชานยอลยังคงร้องครางประท้วง แม้ว่าเรี่ยวแรงจะถูกกระชากออกไปหมดแล้วตั้งแต่ถูกกระแทก ร่างกายอ่อนระทวยเสียจนแทบทรงตัวไม่อยู่ แขนแกร่งต้องโอบรัดเอวเอาไว้ ร่างทั้งร่างแนบกันชิดสนิท ท่วงท่ายิ่งเอื้อต่อการถูกกระทำชำรัก
“ซี๊ดดด” ร่างสูงครางอย่างพอใจขณะที่สอดใส่เอ็นบวมร้อนกระแทกเข้าใส่รูรักที่ทั้งแน่น ทั้งตอดเขาจนแทบคลั่ง มือสากบีบเฟ้นแก้มก้น จับแหวกแหกให้รูยิ่งกว้าง กระแทกเข้าออกเร็วขึ้น พวงอัณฑะตีเนื้อก้นอีกคนจนเกิดเสียง ชานยอลก้มหน้าคางชิดอก พยายามกัดปากกลั้นเสียงตัวเองไว้
ฝ่ายคนกระทำยิ่งเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งได้ใจ เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก ท่อนเอ็นร้อนกระแทกเข้าออกเสียจนเนื้อปลิ้นเข้าปลิ้นออก น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมาเป็นสาย มือสากปาดขึ้นมาถูละเลงไปทั่วร่างโปร่ง กระแทกเข้าออกเข้าไปลึกขึ้น กดขยี้หัวโดนจุดเสียว ร่างโปร่งครางลั่น เผลอแอ่นก้น ส่ายร่อนเอวถูพวงอัณฑะอีกคนอย่างเสียวซ่าน
“อื้ออ อื้อออ ตรงนั้น ตรงนั้น! อ๊ะ! อ๊ะ! เสียว เสียว!!” เสียงหวานครางกระเส่า มือบางกำราวจับแน่น เผลอโก่งก้นกระแทกสวนอีกคนกลับจนร่างสูงยิ่งเร่งเร้าสัมผัสให้หนักหน่วงขึ้น
ท่อนเอ็นร้อนถูกกระแทกซ้ำ หัวเอ็นร้อนขยี้จุดเสียวแล้วบี้ค้างให้ดิ้นพล่าน ร่างโปร่งร้องครางลั่น ก้นแน่นถูไถอย่างลืมตัว พงขนดำของอีกฝ่ายเยิ้มไปด้วยน้ำล่อลื่น
“อ้ะ อ๊า ตรงนั้น ตรงนั้น อื้อออ ออ แรงอีก แรงอีก เอาแรงๆ” ก้นแน่นกระแทกสวนแรงๆ หน้าหวานเชิดขึ้น เผยอปาก เผลอตัวยั่วยวน
“ไหนตอนแรกบอกไม่เอาไงจ๊ะ เมีย”เสียงทุ้มกระซิบถ้อยคำยียวน ตวัดลิ้นเลียแก้มอย่างหลงใหล เร่งสอดใส่แรงขึ้นเรื่อยๆ หัวเอ็นร้อนขยี้จุดเสียวเน้นๆ ฝ่ามือใหญ่เลื่อนสอดเข้าเขี่ยยอดอกเร็วรัว อีกข้างก็ล้วงเข้าไปรูดรั้งท่อนเอ็นเล็ก บี้รูพ่นน้ำ แล้วบีบกระชับให้หัวนูนแดงเด่นขึ้นตามจังหวะสอดใส่ด้านหลังจนอีกคนสั่นสะท้าน
ร่างโปร่งหวีดร้องลั่น ครวญครางไม่เป็นภาษา ร่างโปร่งทรุดฮวบแทบล้ม ต้องคอยให้อีกคนกอดรัด ก้นแน่นกระแทกสวนกลับ ทั้งถูทั้งไถ ปรนเปรอ ยั่วเย้า เอี้ยวตัวหันหน้าไปสบตาฉ่ำเยิ้ม ปากอิ่มเผยออ้าออก แล้วกัดปากยามถูกกระแทกเข้ามาจนเสียดท้อง
คริสเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ หัวเอ็นบวมร้อนเยิ้มน้ำใกล้ปลดปล่อย ร่างกายเสียวจนแทบจะบ้าคลั่ง กดกระแทกสอดใส่อีกคนเหมือนติดสัตว์ พวงอัณฑะตีเนื้อดังไม่หยุด มือใหญ่รูดเอ็นอีกคนเร็วรัวจนปลายหัวเยิ้ม เพลิงแห่งราคะพุ่งทะยานขึ้นถึงขีดสุด ทั้งเร่าร้อน ป่าเถื่อน หฤหรรษ์ และสุขสม จนเปลวเพลิงแผดเผามอดไหม้ทั้งคู่ให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
“ซี๊ดดด!! อะ! อ่าห์” คริสลากเสียงครางยาว เกร็งกระตุกฉีดพุ่งน้ำคาวในตัวอีกคนแล้วรั้งร่างมากอดแนบชิด
“ฮะ! อะ อ๊ะ!!” ร่างโปร่งหวีดร้อง แก่นกายที่ถูกอีกคนเร่งรูด ปลดปล่อยหลักฐานความสุขสมออกมาเต็มมืออีกฝ่าย ก่อนจะหอบฮัก หายใจเข้าออกหนักหน่วง แต่ถึงกระนั้นก็ยังเปรยตาหวานฉ่ำมาจ้องอีกคนอย่างมาดร้าย
“น น นายมัน บ้า” คนโดนพรุสวาทกลับยกยิ้มขำ มองอีกคนกลับอย่างท้าทายแล้วเอ่ยถ้อยคำที่ชานยอลอยากตรงเข้าไปกระชากคอเขาที่สุด
“ว่าผัวตัวเองอย่างนี้หรอเมีย” ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่กลับเป็นประโยคบังคับ เมื่อท่อนเอ็นที่ยังแช่ค้างอยู่ในตัวเขากลับตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สะโพกสอบกระแทกขยี้จุดเสียวจนเขาเผลอคราง หันขวับไปตวัดค้อนกลับ
“มาสนุกด้วยกันดีกว่า ยังไม่หายอยากเลย” รอยยิ้มร้ายวาดขึ้นก่อนที่เพลิงรักสัมผัสดิบเถื่อนจะร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้พันธนาการที่ข้อมือนั่นกลับถูกปลดออก ปล่อยให้สองแขนได้ทำตามอำเภอใจ แต่ทว่า แทนที่เขาจะทำร้ายอีกฝ่าย แล้วรีบหนีไปซะ ร่างโปร่งกลับเผลอตระกองกอด หลงใหลไปกับสัมผัสอีกฝ่าย
ทั้งร่อนเอว
ทั้งนั่งคร่อม
ทั้งขย่มโยก
ทั้งส่ายก้นยั่ว และทั้ง…
ยอมอมแล้วกลืนกิน ยามเมื่ออีกฝ่ายเสร็จสิ้น
“อ่าห์ นายนี่มันสุดยอดจริงๆ” คริสครางทุ้มอย่างสุขสม ขณะที่ชานยอลก้มอยู่ตรงหว่างขาของเขา ในหัวของเขาคิดถึงแต่เรื่องจะทำยังไงให้เขาได้เจอเด็กคนนี้อีก เขาจะไม่ยอมปล่อยเด็กคนนี้ไป เขาจะต้องได้มี SEX กับเด็กคนนี้อีกครั้งให้ได้!!!
มือใหญ่ล้วงไปหยิบของในกระเป๋ากางเกง ซองยาเล็กๆถูกหยิบออกมา ก่อนที่ยาเม็ดประหลาดจะปรากฏแก่สายตาแล้วถูกจับยัดเข้าไปในรูร้อนของอีกคน
“อ๊า!!!” ชานยอลร้องลั่น คริสก้มหน้าไปหาแล้วกระซิบชิดริมฝีปาก
“ยานั่นคือยาที่จะทำให้นายอยากจนแทบจะเอากับหมาได้ ถ้าอยากหายก็มาหาฉันอีกวันศุกร์นี้”
“น น นายว่าอะไรนะ!!”
“หึหึ ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะเมีย…”
...........................................................................................
ฝากติดแท็ก #ฟิคส่งน้ำ ด้วยนะคร้าบบบบบ
ฝากผลงานชิ้นแรกของผมด้วยนะคร้าบบบบบบ
ซียอลเองคร๊าบบบบบบ