0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ทะเลมาร์คแบม ตอนที่ึ17

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin

เหมือนโลกทั้งใบถล่ม ทุกสิ่งทุกอย่างค้างเติ่งอยู่ท่ามกลางความตกใจ หัวใจของเขาเหมือนหยุดเต้น ลมหายใจสะดุด ดวงตาเบิกโพล่ง มองตรงไปยังที่ที่ทุกคนนั่งล้อมกันอยู่


“ว ว ว่าไงนะ” แบมแบมเอ่ยถามด้วยเสียงเบาหวิวและสั่นระริกจนน่าใจหาย ประโยคที่แจบอมเอ่ยบอกยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท ทว่าเขากลับไม่อยากเข้าใจความหมาย


“เขา  ตายแล้ว แบมแบม เขา…”


“ม ม ไม่จริง…” หยดน้ำตาร่วงเผาะ นัยน์ตาคู่สวยสั่นระริกอย่างสับสน มือไม้สั่นเทา เรี่ยวแรงพลันหายไปดื้อๆ



     มันจะเป็นไปได้อย่างไร มันจะเป็นไปได้อย่างไร อี้เอินที่เก่งกาจคนนั้น อี้เอินที่ชนะมาแล้วทุกสิ่ง อี้เอินที่ทรงพลังคนนั้น เขาจะมาพลาดท่าอย่างนี้ได้อย่างไร แค่เฮราเทพีที่ไม่ได้ทรงพลังอะไร อี้เอินจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร



“นาย   ตื่นขึ้นมาสิ ตื่นขึ้นมา” ร่างบางออกคำสั่ง หยาดน้ำตาหลั่งรินลงมาเป็นสาย ยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจากไปแล้วจริงๆ


“ฉันบอกให้ตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาสิ!  ต้วนอี้เอิน!” ตวาดทั้งๆที่เสียงสั่น ร่างทรุดฮวบลงกับพื้น ทรมานเหลือเกินที่ไม่อาจรับรู้ได้ถึงอีกฝ่าย มองไม่เห็นแม้กระทั่งวาระสุดท้าย


“ฉันขอโทษ  ฉันขอโทษ”


ยามเมื่อเขาจากไปแล้วอย่างที่เคยต้องการ


หัวใจกลับไม่ได้สุขสมหวังดังที่ตั้งใจ



         ร่างบางเอ่ยคำขอโทษออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เฝ้าโทษตัวเองว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเขา เพราะเขาอ่อนแอ เพราะเขาไม่แข็งแกร่ง จึงช่วยอีกคนไม่ได้ เพราะตัวเขามันโง่เอง


“อย่าโทษตัวเอง เพราะถึงยังไง” แจบอมเอื้อมมือมาบีบไหล่เอาเบาๆ ดวงตาทั้งสองคู่สบประสาน พวกเขาต่างเจ็บปวดไม่ต่างกัน


“……..”


“อี้เอินก็ต้อง  ไปอยู่ดี” แม้เสียงนั้นจะเบามากเพียงใด แต่ก็ยังดังก้องในใจของร่างบาง


“หมายความว่ายังไง” แบมแบมเอ่ยถาม เรียกให้เพื่อนทั้งสามต้องหันมาสบตากันอย่างหนักใจ สัญญาที่เคยให้เพื่อนเอาไว้จำต้องถูกทำลาย เมื่ออีกฝ่ายตราหน้าว่าตนเองเป็นสาเหตุให้อีกคนต้องจากไป
   


    แจบอมรับหน้าที่ในการอธิบาย ตลอดเวลาที่บอกเล่าทำนบน้ำตาของร่างบางค่อยๆพังทลาย หัวใจดวงน้อยสั่นคลอน ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ที่ผ่านมาเขาแทบไม่รู้เลย ไม่รู้เลยว่าเวลาเหลือน้อยนิดเพียงใด


“เราทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้มั้ย จินยอง จินยอง นายใช้วาจาสิทธิ์อย่างที่เคยทำสิ มันต้องได้ผลแน่นอน จินยอง” แบมแบมพยายามอ้อนวอนขอ ทว่าอีกฝ่ายกลับได้แต่ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง


“ต่อให้ฉันใช้วาจาสิทธิ์ช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมา แต่คำสาปก็ยังไม่หายไปอยู่ดี เพราะคำสาปกับวาจาสิทธิ์ไม่ก้าวก่ายกันและกัน”  เกิดความเงียบขึ้นโดยฉับพลัน ทุกคนจมดิ่งความหวังลงในความเศร้าโศก แจ็คสันเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อนซ่อนน้ำตา จินยองประครองเพื่อนเอาไว้แทบตัก แจบอมเองก็ทอดมองด้วยแววตาเศร้าสลด มีเพียงร่างบางที่มองไม่เห็นร่างของอีกฝ่าย ไม่เห็นแม้กระทั่งความพยายามทั้งหมดของเขา


“เขาจะต้องตายเพราะบทลงโทษนั้นใช่มั้ย” แบมแบมหันไปเอ่ยถาม ทุกคนพยักหน้าตอบรับ


“ถ้าอย่างนั้น….”


“……..”


“คนที่จะช่วยเขาได้ก็คือพ่อของฉัน” ความหวังถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนสบตากันอย่างปรึกษา


“งั้นพวกเรา…” แจ็คสันพูดขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคน


“……..”


“พาเขากลับไปที่แท่นลงทัณฑ์นั้นอีกครั้ง”


“หมายความว่ายังไง” แจบอมเอ่ยถาม


“ก็ในเมื่อมาร์คหนีออกมาทำให้คำสาปตามติดตัว เราก็แค่พาเขากลับไปลงโทษที่นั่นอีกครั้งกลไกลการเกิดใหม่เพื่อขึ้นมารับโทษก็จะเกิดขึ้นอีก”


“แจ็คสัน ตั้งแต่รู้จักกันมา ครั้งนี้นายฉลาดที่สุดเลย!” จินยองร้องขึ้นอย่างดีใจ


“ถ้าอย่างนั้นเรารีบไปกันเถอะ ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน”แจบอมเอ่ยบอกขณะที่ค่อยๆพยุงเพื่อนขึ้นมา


“ทำไมถึงต้องไปให้ทัน” ร่างบางถามด้วยความฉงน ทั้งสามหันมาสบตาเขา ก่อนที่จินยองจะเป็นฝ่ายเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“เพราะถ้าช้ากว่านั้น กลไกลการรักษาตัวมันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว” สิ้นเสียงนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทางทันที โชคดีที่เทือกเขาคอร์เคซัสอยู่ในสหรัฐฯ มิเช่นนั้นแล้วการเดินทางครั้งนี้คงไม่ทันการณ์แน่




                   พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากเลือกใช้วิธีการเดินทางฉับไว แจ็คสันพาทุกคนมุ่งตรงมายังเทือกเขาคอร์เคซัส ณ ยอดเขาจุดที่แท่นตรึงและโซ่ตรวนตั้งตระหง่าน คราบเลือดย้อมบริเวณนั้นให้กลายเป็นสีน้ำตาลซีด หัวใจของแบมแบมกระตุกวูบเมื่อคิดว่าตนเคยเป็นต้นเหตุทำให้อี้เอินถูกทรมาน



                    พระอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า ลำแสงสุดท้ายแตะอยู่ที่เส้นแบ่งกลางวันกลางคืนเพียงน้อยนิด พวกเขารีบเร่งไปให้ถึง ก่อนจะจับร่างของอี้เอินให้ยืนอยู่กับแท่น แบมแบมพยายามใช้โซ่ตรวนรัดรึงทั้งๆที่มองไม่เห็นร่างอีกฝ่าย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่พยายามล่ามอยู่นี้คือส่วนไหนของร่างกาย แต่ถึงกระนั้นเขาก็อยากจะช่วย อยากจะช่วยให้ถึงที่สุด



“นายต้องกลับมา มาร์ค นายต้องกลับมา” เสียงหวานเอ่ยบอกเสียงสั่น มือไม้สั่นเทาจนเผลอทำโซ่หลุดมือ



                  แจ็คสันรีบเข้าไปช่วย ด้วยเพราะที่อีกฝ่ายมองไม่เห็นร่างของเพื่อนเขาจึงทำให้ทุกอย่างล่าช้า และถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ทุกอย่างจะไม่ทันการณ์แน่


“ม ม ไม่เป็นไร ฉันอยากทำเอง ฉันอยากช่วยเขา เอง” พูดด้วยใบหน้าที่กำลังจะร้องไห้


“แต่มันจะไม่ทัน”


“ให้เขาทำเถอะ” แจบอมยกมือขึ้นห้ามเป็นเชิงให้เพื่อนสนิทหยุดพูด เขารับรู้ได้ถึงเจตนาของอีกฝ่าย แบมแบมกำลังรู้สึกผิด และการจะปลดเปลื้องความรู้สึกนั้นได้ ต้องเกิดขึ้นจากการไถ่โทษของตนเอง



                   แสงอาทิตย์ค่อยๆเลือนราง ราชรถพระจันทร์ของอทีมิสเตรียมจะออกจากประตูตะวันตก ทว่าร่างบางกลับยังตีตรวนร่างอีกฝ่ายได้ไม่หมด แบมแบมพยายามหยิบโซ่ขึ้น น้ำตาร่วงเผาะลงมาเป็นสาย ก่นด่าตัวเองที่ขอพรกับเนเมซิสอย่างนั้น แต่ถึงจะอย่างนั้นจะโทษใครได้นอกเสียจากตัวเอง  ร่างบางรนจนมือไม้สั่น อทีมิสกำลังจะออกรถแล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมหยุด ยังคงพยายามจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย



                 พระอาทิตย์ลาลับไปแล้ว พระจันทร์ลอยเด่นขึ้นมาแทนที่ โลกทั้งใบตกอยู่ในอ้อมกอดของความมืด ร่างของอี้เอินถูกโซ่ตรวนไว้หมด พวกเขาทั้งหมดถอยออกมาเพื่อเฝ้ารอดูปฎิหาริย์


“เขาจะฟื้นขึ้นมามั้ย” แบมแบมเอ่ยถามอย่างหวาดหวั่น


“ต้องฟื้นสิ” จินยองรับคำ


“นายพอรู้มั้ยว่าเขาจะเกิดใหม่เมื่อไร”


“โดยปกติเมื่อเขาตื่นเช้ามา แผลทุกอย่างก็สมานแล้ว แต่เหตุการณ์แบบนี้มันไม่ปกติ ฉันก็ไม่แน่ใจ”แจบอมเอ่ยตอบ ร่างบางพยักหน้ารับอย่างเลือนลอย


“เราคงทำได้แค่รอให้เช้า”



         ไม่มีใครพูดอะไรจากนั้น ทุกคนทำได้แค่รอ รอให้ถึงเช้าด้วยความหวังที่เลื่อนลอยและกำลังใจที่ริบหรี่ รอจนกระทั่งที่พระจันทร์เคลื่อนคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ จากฟากฟ้าหนึ่งไปยังอีกฟากฟ้าหนึ่ง รอต่อไปเรื่อยๆจนพระอาทิตย์เริ่มแตะขอบฟ้า และพระจันทร์ใกล้เข้าประตูทิศตะวันออก หัวใจของทุกคนเต้นไม่เป็นส่ำ ห้วงเวลาที่เฝ้ารอใกล้มาถึง ลำแสงแดดแรกค่อยๆกรีดม่านความมืดให้แยกออก พระจันทร์ลาขอบฟ้า โลกทั้งใบเข้าสู่เช้าวันใหม่อีกครั้ง


ทว่า….




ร่างของอี้เอินกลับแน่นิ่ง


เพื่อนทั้งสามหันมาสบตากันอย่างเคร่งเครียด มีเพียงแบมแบมที่ยังไม่รับรู้สถานการณ์เท่านั้น


“ก ก เกิดอะไรขึ้น เขายังไม่ฟื้นอีกหรอ”  ทุกคนพยักหน้าแทนคำตอบ   ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ มีเพียงเสียงความหวังที่หล่นกระทบพื้นแตกกระจายดังก้องอยู่ในโสตประสาท แสงแดดสาดส่องขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆจนอาบร่างของอี้เอินให้เป็นสีส้มแดดหากแต่ทุกอย่างก็ยังคงไม่ไหวติ่ง


“แผลมันอาจจะใหญ่มาก ฟื้นขึ้นมาสิ  มาร์ค ฟื้นขึ้นมา” เสียงหวานละล่ำละลักพูด ทุกคนก้มหน้าลงอย่างหมดหวัง กลไกลของเทพเจ้าไม่เคยผิดพลาด


“ทำอะไรสักอย่างหนึ่งสิ คำสาปนั่นมันอาจจะผิดพลาดก็ได้”


“พอเถอะแบม คำสาปของเทพเจ้าไม่เคยผิดพลาด  เขา…..คงไม่อยากอยู่กับพวกเราแล้วจริงๆ”

“ถ้าพวกนายไม่ทำ ฉันทำเอง!” ลั่นวาจาก่อนจะเดินเข้าไปหาแท่นลงทัณฑ์ อย่างมุ่งมั่น แม้มองไม่เห็นก็ยังคงจับจ้องไปเบื้องหน้า จินตนาการว่าตำแหน่งนั้นคือใบหน้าของอีกฝ่าย


“ได้ยินฉันมั้ย ฟื้นขึ้นมาสิมาร์ค ฟื้นขึ้นมาได้แล้ว มันเลยเวลามานานแล้วนะ”


“……….”


“มาร์ค….นายไม่อยากฟังคำยกโทษจากฉันหรอ มาร์ค” ทว่าทุกอย่างก็ยังคงไม่ไหวติ่ง หยาดน้ำตาค่อยๆหลั่งริน ความหวังที่มีอยู่น้อยนิดถูกบั่นทอนจนแทบมลายสูญ


“มาร์ค” ร่างบางค่อยๆทรุดฮวบลงกับพื้น ก้มหน้าร่ำไห้อย่างเศร้าสลด ความหวังแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย “ได้ยินฉันมั้ย ฉันยกโทษให้นายแล้ว ฉันยกโทษให้นายแล้ว กลับมาสิมาร์ค กลับมา” สิ้นเสียงนั้น ร่างของอี้เอินที่เคยหายไปจากโลกของแบมแบมก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งด้วยเพราะบ่วงบาศก์แห่งความแค้นถูกปลดเปลื้องด้วยการให้อภัย และทันทีที่ได้เห็นทำนบน้ำตาก็พังทลาย แบมแบมยกฝ่ามือขึ้นป้องปากอย่างผวา ร่างของอี้เอินโชกไปด้วยเลือด รากแห่งคำสาปกลืนกินไปทั่วทั้งร่าง ของเหลวสีดำหลั่งรินอาบร่างจนไม่เห็นแม้กระทั่งสีผิว


“ฉ ฉ ฉันขอโทษ ฉัน” เอ่ยพูดอะไรไม่ออกได้แต่ปล่อยน้ำตาและเสียงสะอื้นให้อธิบายทุกอย่างแทนความรู้สึก


“แบมแบม” เสียงของเพื่อนทั้งสามดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามา


“ไม่ ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร” ยกมือขึ้นห้ามอย่างไม่ต้องการให้ใครเข้ามาปลอบ


“แบมแบม…”


“ขอฉันอยู่กับเขาสักพัก”


“แต่ว่า” แจ็คสันแย้ง


"ฉันขอเวลาแค่….” คำพูดทั้งหมดถูกกลืนหาย แบมแบมที่เงยหน้าขึ้นมา ทว่ากลับสบตาเข้ากับใครอีกคนที่ไม่คิดว่าจะเป็นเขา…



อี้เอินกำลังมองเขาอยู่ กำลังมองตรงมาที่เขา



“น น นาย” คนถูกเรียกคลี่ยิ้มบางๆ


“นายให้อภัยฉันแล้วหร…”


“นายกลับมาแล้ว!!!” ร่างบางโผกอดแน่นด้วยความลืมตัว ความดีใจและโล่งอกล้นปรี่จนกลั้นเอาไว้ไม่อยู่

“ฉันคิดว่านายจะไม่กลับมาแล้ว นายฟื้นขึ้นมานานรึยัง ทำไมถึงไม่มีใครบอกฉันเลย” แบมแบมละล่ำละลักถาม เพื่อนทั้งสามได้แต่ส่ายหน้า


“ก็จะบอกตั้งแต่แรกแล้ว แต่นายดันขออยู่คนเดียว” แจ็คสันเอ่ยตอบขำๆ ความจริงพวกเขาเห็นตั้งแต่อี้เอินกระพริบตาจนกระทั่งลืมตาขึ้นมามองร่างบางแล้ว


“ฉันไม่รู้นี่ นาย แล้วนาย นายยังเจ็บอยู่มั้ย มีตรงไหนบาดเจ็บอีกรึเปล่า” เอ่ยถามพร้อมกับกวาดตาสำรวจให้ทั่ว อี้เอินมองตามสายตาอีกฝ่ายพร้อมกับวาดยิ้มจางๆโดยแทบไม่สนใจคำถามของร่างบางเลย


“ว่าไงนายยังเจ็บตรง…” สองสายตาสบประสานราวกับทั้งโลกหยุดหมุน ทุกอย่างถูกแช่ค้างอยู่ในห้วงแห่งเวลา ร่างบางรีบหลุบตามองต่ำ ก่อนที่อี้เอินจะได้สติ


“ขอโทษที  ฉันแค่….”


“……..”


“ไม่คิดว่าจะมีวันที่นายห่วงฉันอย่างนี้”


“ฉันทำให้นายเจ็บ”


“แต่ฉันทำให้นายเจ็บกว่า” เกิดความเงียบขึ้นหลังจากอี้เอินเอ่ยประโยคนั้น แบมแบมไม่ได้สบตากับเขาตรงๆ หากแต่ก็ไม่ได้เมินเฉยไม่สนใจเสียทีเดียว ร่างบางเม้มปากเล็กน้อยราวกับขบคิด ก่อนจะรวบรวมความกล้าขึ้นสบตาอีกครั้ง


“แต่ฉันให้อภัยนายแล้ว”รอยยิ้มบางๆถูกส่งให้อีกฝ่าย อี้เอินมองราวกับไม่เชื่อสายตาก่อนที่รอยยิ้มใสซื่อจะถูกวาดขึ้นที่กลีบปาก ทั้งคู่สบตากันอยู่อย่างนั้น เป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่องร้ายแรงต่างๆที่พวกเขารู้สึกสบายใจอย่างนี้ ราวกับภาระของบ่วงแห่งการอาฆาตแค้นได้ถูกปลดเปลื้องออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงเนื้อแท้ของความรู้สึกดีๆที่มีให้กันและกัน


“ฉัน..” เสียงทุ้มดังขึ้นเบาๆ


“อะแฮ่ม! ก็ยังไม่อยากจะขัดน่ะนะ แต่พวกนายลืมอะไรไปรึเปล่า” แจ็คสันแกล้งกระแอมเรียกร้องความสนใจพร้อมกับชี้โบ้ชี้เบ้ไปที่โซ่ตรวน “มาร์คยังถูกลงทัณฑ์อยู่ ต่อให้คืนชีพขึ้นมาแล้ว แต่ก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้อยู่ดี”


“ฉันจะให้พ่ออภัยโทษให้เขา” ร่างบางหุนหันจะออกไปทันที ทว่ากลับถูกรั้งไว้ด้วยคำพูดของอี้เอิน


“เดี๋ยวก่อน! เขาจะยอมทำได้ยังไง ยังไงเขาก็อยากให้ฉันตายอยู่ดี” แบมแบมค่อยๆเอี้ยวหันกลับมาสบตาด้วยสายตาแน่วแน่


“ไม่หรอก ถ้าเขาได้รู้ความจริงทุกอย่าง”  เรื่องราวทั้งหมดถูกอธิบาย อี้เอินกำหมัดแน่นอย่างโกรธแค้น เรื่องราวบ้าๆทั้งหมดนี่เกิดขึ้นจากกลลวงโลกของเทพีงี่เง่าจอมขี้หึงที่ไม่สนใจว่าจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์เพียงใดอย่างนั้นน่ะหรอ


“ออกจากที่นี่ไปได้ ฉันจะไปฆ่าเธอคนแรก!”


“ล่าสุดที่นายแค้นผลมันก็ออกมาไม่ดีเท่าไรนะ” แบมแบมสวนกลับหน้าตาย อี้เอินถึงกับหัวเราะ เขาเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายดี


“ก็ได้ ก็ได้ ฉันสัญญาว่าจะไม่กลับไปทำอะไรบ้าๆแบบเมื่อก่อน”


“ยังไงซะ ท่านพ่อต้องไม่ปล่อยเรื่องนี้ไว้แน่  นายรออยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะจัดการทุกอย่างเอง” ทันทีที่ว่าจบร่างบางก็หายลับไปจากตรงนั้นพร้อมกับเพื่อนๆของเขา เสี้ยวหน้าสุดท้ายที่เขาเห็นคือ ใบหน้าที่แววตาเต็มไปด้วยความจริงจัง


“โชคดีนะครับ ท่านเทพีเฮ-รา”

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ