0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ทะเลมาร์คแบม แจบอมxจินยอง

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า
เกลียดอย่างไหนมักได้อย่างนั้น



หลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายลง พวกเขาตกลงกันว่าจะแยกย้ายกันไปเที่ยว แต่จะใช้คำว่าตกลงกันอย่างนั้นก็ไม่ถูก เพราะจินยองและแจบอมไม่ได้เป็นคนต้องการ หากแต่เป็นอี้เอินผู้ชายที่ไม่ค่อยจะสนใจโลกคนนั้นเท่าไรต่างหากที่เป็นคนเสนอความคิด ตอนที่คุยกันพวกเขาก็แปลกใจมากเหมือนกัน ทว่าพอเห็นสายตาของเพื่อนสนิทก็พอจะเดาๆได้ว่าเจ้าตัวต้องการอะไร



เวลาอยู่ด้วยกันกับแบมแบมสองคน



พอเห็นอย่างนั้นพวกเขาก็เข้าใจได้ในทันที เป็นใครบ้างจะไม่อยากได้เวลาอยู่ด้วยกัน หลังจากที่ทะเลาะตบตีให้เสียเวลารักกันมาตั้งหลายเดือน สุดท้ายพวกเขาก็เลยเห็นดีด้วย ก่อนที่จะมานั่งคิดไม่ตกในภายหลังว่า แล้วพวกเขาจะไปเที่ยวที่ไหนดี


ด้วยประการที่ 1 แจบอมเป็นพวกติดบ้านมาก นอกจากเนิ่นน้ำแล้ว หมอนี่ก็แทบจะตาบอดเมื่ออยู่บนดินเลย


ประการที่ 2 จินยองเป็นพวกไม่ชอบไปไหน ลองคุณมาเกิดเป็นลูกของอโฟรไดท์ดูสิ การมีคนมามอง มาจีบอยู่ตลอดเวลาถือเป็นเรื่องน่ารำคาญมาก!



“หรือพวกเราจะแยกย้ายกันกลับบ้านเลยดี” ร่างโปร่งเสนอความคิด ขณะที่พวกเขาเหลือกันอยู่สองคน เพราะเพื่อนคนอื่นๆได้จุดหมายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


“ไม่มีทาง” เป็นครั้งแรกที่เห็นอิมแจบอมประกาศจุดยืนชัดเจนขนาดนี้ ร่างโปร่งหันกลับไปมองทันทีที่เห็นสายตานั้นเขาก็เข้าใจทันที



เป็นโรคเดียวกับอี้เอินสินะ



“เราเจอกันมาแทบจะทั้งชีวิตแล้วนะ” เขาพูดอย่างไม่ทันคิดอะไร คนฟังถึงกับขมวดคิ้ว


“และจะเจอกันตลอดไป ฉันคิดได้แล้วว่าเราจะไปที่ไหน” ไม่พูดเปล่า มือแกร่งรั้งข้อมืออีกคนให้ลุกขึ้นยืนตามด้วย


“ที่ไหน?” เอ่ยถามอย่างเหรอหรา ร่างสูงกว่าหันมาสบตาแล้ววาดยิ้ม


“บ้านฉันเอง”



แล้วนั้นก็คือสาเหตุที่ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เอ่อ แจบอมไม่มั่นใจเท่าไรว่ามันเรียกว่าเก้าอี้ได้ เพราะมันคือเปลือกหอยมุกขนาดใหญ่ โชคยังดีที่ฝามันไม่ได้เปิดอ้าหุบเป็นจังหวะอย่างที่เขาจินตนาการไว้ก่อนหน้านี้ ร่างโปร่งทำตัวเงอะๆเงิ่นๆเหลือบปากของมันอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนักก่อนจะหันไปมองสำรวจรอบๆอย่างสนใจ ต้องขอพูดด้วยความสัตย์จริงว่าตั้งแต่รู้จักกันมาเขาไม่เคยมาบ้านของแจบอมเลยสักครั้ง!


แค่คิดว่าต้องมาอยู่ใต้น้ำเขาก็พาลเอาหายใจไม่ออกไปเสียดื้อๆแล้ว



แจบอมพาเขามาที่ห้องของตัวเอง ทหารเอกรีบว่ายมารายงานข่าวเรื่องงานกับชายหนุ่ม ก่อนที่อีกฝ่ายจำต้องทิ้งเขาไว้ที่ห้องคนเดียวแล้วไปสะสางเรื่องงานด่วน และแม้เขาจะได้เห็นความงดงามอลังการของวังโพไซดอนตั้งแต่แวบแรกที่มาถึงไปแล้ว เขาก็ยังคงทำใจให้ชินกับข้าวของเครื่องเรือนภายในห้องของอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี ที่นี่เหมือนหลุดมาจากปราสาทใต้น้ำของแอเรียลที่ตอนเด็กๆแม่ของเขาเคยอ่านให้ฟังอย่างไรอย่างนั้น (แม่ของเขาชอบความรักของแอเรียลที่มีต่อเจ้าชายที่สุด แม่บอกว่าเธอช่างน่านับถือที่ยอมขายเสียงตัวเองเพื่อแลกกับขา แต่จินยองไม่ได้คิดอย่างนั้น) แต่ที่นี่งดงามกว่าในหนังสือ ตัวปราสาททำจากมุกสีขาวบริสุทธิ์ตกแต่งด้วยปะการังหลากสี ห้องของแจบอมสามารถมองเห็นสวนปะการังที่แซมไปด้วยดอกไม้ทะเลหลากสี หมู่ลูกปลาตัวน้อยแหวกว่ายโผล่หน้าลอบออกมาดูเขาอย่างสนอกสนใจก่อนจะรีบว่ายหลบเมื่อเขาสบตาด้วย แล้วยื่นหน้าขึ้นมาดูใหม่เมื่อเวลาผ่านไป ดูๆไปแล้วก็ตลกดี


“นี่ แอบมองกันอย่างนี้ฉันก็เขินนะ” เขาทักทาย ฝูงเจ้าลูกปลารีบว่ายหลบ พอเห็นว่าเขาไม่ได้มีท่าทีใจร้ายอะไรก็ค่อยๆยื่นหน้าขึ้นมาอีกครั้ง


“ท่านเป็นคนรักของท่านพ่อหรอ” คำทักทายแรกก็เล่นเอาเขาไปต่อไม่เป็น ท่านพ่อ? ท่านพ่อ? นั่นหมายถึงอิมแจบอมอย่างนั้นน่ะหรอ


“จ จ แจบอมน่ะหรอ อะ เอ่อ ใช่ ” แต่ตอนนี้ก็ชักไม่แน่ใจแล้ว แจบอมต่อท้ายอย่างนั้นในใจ


“ท่านชื่ออะไรหรอ” ลูกปลาผลัดกันถาม


“จินยอง ฉันชื่อจินยอง” เขาตอบอย่างเป็นมิตร เจ้าลูกปลาพวกนี้น่ารักเกินกว่าที่เขาจะทำใจไม่ชอบได้ลง แม้ว่านี่คือลูกของแจบอมกับใครก็ตาม เจ้าปลาตัวเล็กสุดรีบว่ายออกมาจากก่อดอกไม้ทะเลอย่างตื่นเต้น


“ท่านเป็นตัวเมียหยอ”


“จูนี่!” พี่ตัวใหญ่สุดเอ็ด เอาล่ะ คราวนี้จินยองมั่นใจแล้วว่าเจ้าลูกปลาพวกนี้น่ารักมากจริงๆ ร่างโปร่งยิ้มแห้งก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ


“ไม่ใช่หรอก ทุกตัวมีชื่อกันด้วยหรอ ไหน ใครชื่ออะไรกันมั่ง ” เขาเปลี่ยนเรื่อง เจ้าลูกปลาตัวเล็กสุดตัวเดิมรีบว่ายดุ๊กดิ๊กมาหาเขาอย่างกระตือรือร้น ครีบน้อยๆโบกสะบัดอย่างร่าเริง


“จูนี่” เสียงเล็กๆแนะนำตัวเองอย่างน่ารักน่าชัง พี่ตัวใหญ่สุดว่ายเข้ามาตีครีบสั่งสอนเบาๆ


“อยู่ต่อหน้าคนรักของท่านพ่อจะต้องสำรวมสิ ต้องขอโทษแทนจูนี่ด้วย น้องเขาฟักออกมาช้ากว่าตัวอื่นๆก็เลยยังเด็กอยู่ ”


“ไม่เป็นไรหรอก ทำตัวตามสบายเถอะ ฉันไม่ใช่คนมากพิธี” จินยองอดยิ้มไม่ได้เมื่อจูนี่ตัวน้อยแอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่พี่จากด้านหลัง มือเรียวเกลี่ยแก้มกลมสีส้มแสดของจูนี่เบาๆ เจ้าลูกปลาน้อยใช้ตัวถูไถกับฝ่ามือของเขาอย่างออดอ้อน “แล้วเธอล่ะชื่ออะไร” เงยหน้าขึ้นเอ่ยถามพี่คนโตสุด


“ไมร์นาค่ะ” เจ้าลูกปลาตัวโตสุดโค้งศีรษะให้เขา ก่อนที่ตัวอื่นๆจะเริ่มแนะนำตัวเองจนครบ เจ้าฝูงลูกปลาน้อยค่อยๆขยับเข้าใกล้เขาทีละนิด ทีละนิด จากที่อยู่ไกลระยะเอื้อมมือถึง จนตอนนี้มาว่ายเอาตัวถูฝ่ามือของเขาอย่างออดอ้อนออเซาะเต็มไปหมด


“น่ารักจัง” บอกอย่างมีความสุขขณะที่ลูบหัวนีนา พี่สาวคนรองของเจ้าลูกปลา นีนาหัวเราะคิกแหวกว่ายตีลังกาอย่างมีความสุข โดยมีจูนี่ตีหน้ายักษ์อยู่ข้างๆ เจ้าเด็กน้อยคนนี้หวงเขานัก เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “พวกเธอเป็นลูกของแจบอมหรอ” เอ่ยถามด้วยความอยากรู้


“ใช่ พวกเธอเป็นลูกฉันเอง” ร่างโปร่งหันไปตามเสียง แจบอมกลับเข้ามาในห้องแล้ว ทันทีที่พวกลูกปลาเห็นเขาก็รีบว่ายเข้าไปหาทันที


“ท่านพ่อ ท่านพ่อ” เสียงเล็กเสียงน้อยดังขึ้นพร้อมๆกัน แจบอมยิ้มอย่างอบอุ่น ไล่ลูบหยอกล้อลูกน้อยทุกตัวอย่างเท่าเทียม โดยมีสายตาของจินยองลอบมองอยู่ห่างๆ
ภาพนั้นช่างดูอบอุ่น


แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาก็แอบรู้สึกหน่วงๆในใจ



เขากับแจบอมรู้จักกันมานานก็จริง แต่ถ้าเทียบความสนิทกันแล้ว อี้เอินรู้เรื่องราวของอีกฝ่ายมากกว่า และการที่เขาเพิ่งจะมารู้ว่าอีกฝ่ายมีลูกแล้วหลังจากที่เพิ่งตกลงคบกันไปก็อดไม่ได้ที่ความรู้สึกหนึ่งจะแทรกซึมเข้ามาในหัวใจ



มันอดเจ็บไม่ได้…


“คิดอะไรอยู่” ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เขาเผลอให้แจบอมเข้ามาใกล้ได้ในระยะกระซิบได้แบบนี้ ร่างโปร่งหันไปส่ายหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม


“ฉันแค่คิดว่าอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ เพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกก็เลยตื่นตาไปหมด”


“คิดว่าใครเป็นแม่เด็กสินะ” แจบอมดักทาง ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้ฉายแววล้อเล่นแต่ก็ไม่ได้จริงใจจนเขาใจหายยิ่งกว่าเก่า


“คิดว่าฉันอยากรู้รึไง” ร่างโปร่งเบนสายตาไปสนใจจูนี่ที่มีคลอเคลียอยู่ที่มือเขาแทน แจบอมหัวเราะน้อยๆ


“จินยอง เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปี ทำไมฉันจะไม่รู้นิสัยนาย”


“แต่นายก็ไม่ได้…”สุ้มเสียงหวานถูกกลืนหายเมื่อหันกลับไปหาอีกคน ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เขาปล่อยให้อีกคนเข้าใกล้ได้ถึงเพียงนี้ และเช่นกัน…ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เขาปล่อยให้เพื่อนคนนี้เข้าใกล้ได้ถึงข้างในหัวใจ… “นายก็ไม่ได้รู้ใจฉันไปเสียทุกอย่าง”



ร่างโปร่งหันกลับไปหาจูนี่ ตัวช่วยเดียวของเขา แต่ก็ไม่เท่าทันคนมากเล่ห์เสียแล้ว แจบอมบอกให้พวกลูกปลาน้อยว่ายกลับไปแล้ว เหลือเพียงแต่เขาที่กำลังถูกอีกฝ่ายต้อนให้จนมุมด้วยวงแขนแข็งแกร่งที่โอบล้อมจากด้านหลัง


“นายกำลังหึง” เสียงทรงเสน่ห์กระซิบอยู่ข้างหู



“ตลกน่า ฉันไม่มานั่งจงเกลียดจงชังเด็กหรอก ต่อให้เขาเป็นลูกนายกับคนอื่นก็ตาม ปล่อยฉันได้แล้ว” ร่างโปร่งพยายามขืนตัวออก หากแต่อีกฝ่ายกลับยิ่งกระชับอ้อมกอด


“พวกเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆฉัน” เกิดความเงียบขึ้นเพียงชั่วครู่ จินยองไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหัวใจเต้นแรงตอนได้ยินอย่างนั้น เขาช่างเป็นคนไม่ดีเลย…


“ก ก ก็เรื่องของนายสิ มาบอกฉันทำไม” เฉไฉกลับก่อนจะถูกอีกฝ่ายพลิกตัวให้หันมาเผชิญหน้า ใบหน้าทรงเสน่ห์โน้มลงมาใกล้เล่นให้ใจดวงน้อยสั่นคลอน


“แต่ตาของนายไม่ได้บอกแบบนั้นนะจินยอง”


“นายจะทำอะไรของนายน่ะ ลูกๆนายกำลังมองอยู่นะ” ร่างโปร่งว่าตามจริง เมื่อเห็นว่าบรรดาเด็กน้อยทั้งหลายยังคงแหวกว่ายเล่นกันอยู่ในสวน แจบอมหัวเราะน้อยๆก่อนจะสบตากับอีกฝ่ายแล้วทำในสิ่งที่จินยองไม่คาดฝัน



จุมพิตอ่อนโยนถูกแต่งแต้มที่ริมฝีปาก


กลีบปากหนาไม่ได้รุกรานหรือจาบจ้วงให้เกรงกลัว เพียงแค่มอบสัมผัสอันบางเบาและอ่อนโยนราวกับต้องการถนุดถนอม ข้อนิ้วแกร่งเกลี่ยไล้หลังมืออีกคนอย่างแผ่วเบาแล้วแทรกสอดประสานกระชับให้แนบแน่นอย่างมั่นคง กลีบปากค่อยๆผละออกอย่างอ้อยอิ่งทว่าไม่ห่างไกล นัยน์ตาคู่คมสบตากับอีกฝ่ายด้วยแววตาที่แน่วแน่



“ฉันไม่เคยนอกใจนายไปหาใคร และถ้านายลองไปถามลูกพี่ลูกน้องของนายเขาก็จะรู้ว่าฉันแอบรักนายเสมอมา” ฝ่ามือแกร่งจับมืออีกฝ่ายให้มาทามทับยังตำแหน่งที่ก้อนเนื้อขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ไปกว่ากำปั้นกำลังเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่ตรงนั้น จินยองนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ลูกพี่ลูกน้องที่อีกฝ่ายหมายถึงคงไม่พ้นอีรอส หรือที่ใครๆรู้จักกันในนามว่าคิวปิด ลูกพี่ลูกน้องต่างพ่อของเขา



“ฉันนับญาติกับเทพเจ้าไม่ได้”


จุมพิตบางเบาถูกมอบให้เขาอีกครั้ง


“อย่าเฉไฉ ถ้ายังไม่เข้าใจกัน” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปาก กลีบปากหนาเฉียดกลีบปากสีแดงกุหลาบไปมาอย่างจงใจ


“แอบรักฉันตั้งแต่ตอนไหน” เป็นครั้งแรกที่เขากล้าสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ


“อาจตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน” จินยองหัวเราะเมื่อนึกถึงเรื่องราวครั้งนั้น


“นายจะบอกว่านายชอบคนที่กัดกับนายเนี่ยนะ” อีกฝ่ายพยักหน้า


“ไม่เคยได้ยินหรอว่าถ้าเด็กผู้ชายแกล้งแปลว่าเด็กผู้ชายรัก” จินยองหัวเราะเบาๆ ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเสียเท่าไรนัก แต่ถึงจะอย่างนั้นพวกเขาก็จำได้จนมาถึงทุกวันนี้



วันนั้นเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของเขา โรงเรียนสำหรับมนุษย์ที่เขาเรียนอยู่ถือได้ว่าเพื่อนๆทุกคนน่ารักที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา หลังจากที่ย้ายโรงเรียนมาแล้วกว่าสิบโรงเรียน อย่าเพิ่งคิดว่าเขาเป็นพวกเด็กมีปัญหาเชียว ปัญหาชอบวิ่งมาหาเขาเองต่างหาก! ใครๆก็พากันอิจฉาเขาที่มีคนมาชอบมากมาย และนั่นก็ทำให้เขาเข้ากับเพื่อนไม่ได้เท่าไรนักจนมาเจอที่นี่ จินยองคิดว่านี่อาจเป็นโรงเรียนสุดท้ายแล้วที่เขาต้องย้าย



แต่ดูเหมือนว่าเขาจะด่วนสรุปไปสักนิด….



เสียงฮือฮาดังมาจากห้องเรียนของเขา พร้อมตัวยบรรดาเหล่าเพื่อนในห้องที่จู่ๆก็กรูกันออกมาเกาะระเบียงหน้าห้อง มองลงไปยังข้างล่างไปยังจุดโฟกัสเดียว ซึ่งจินยองก็ไม่เห็นว่าข้างล่างนั้นมีใครอื่นอีกนอกเสียจากผู้ชายท่าทางดูดีอย่างกับหลุดออกมาจากปกนิตยสารที่ไหนกำลังเดินอยู่ที่สนามบาส


“ใครหรอ” ถามเพื่อนที่อยู่ข้างๆอย่างสงสัย ตั้งแต่เขาอยู่ที่นี่ได้หนึ่งเทอม เขาก็มั่นใจแล้วนะว่ารู้จักบรรดาคนดังๆแทบจะครบทุกคน


“ก็แจบอมไง แจบอมที่เป็นนายแบบไง เขาย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเรา แถมอยู่ห้องเดียวกับเราด้วย โชคดีสุดๆ” เหอะ…จินยองคิดในใจ แค่แวบเดียวเขาก็รู้แล้วว่าตานี่เป็นมนุษย์กึ่งเทพแถมพลังยังเยอะจนเขาที่ยืนอยู่ไกลหลายเมตรขนาดนี้ยังรู้สึกได้ แล้วดูทำหน้าเข้าสิ ขนาดคนมาขอลายเซ็นต์ยังตีหน้านิ่ง เดินหนีไปเฉยๆเสียอย่างนั้น ช่างไม่มีมนุษยสัมพันธ์เลย


“จินยองๆ นั่นเขากำลังมองนายอยู่รึเปล่าน่ะ”เพื่อนข้างๆสะกิดเขายิกๆให้หันไปมอง ร่างโปร่งสบตากับอีกฝ่ายที่เงยหน้าขึ้นมาอย่างจัง


“เข้าห้องกันเหอะ ใกล้จะเข้าเรียนละ” เขารู้สึกไม่ชอบหน้าตานี่เลยจริงๆ



กริ่งเข้าเรียนดังขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนเข้าห้องเรียน ชั่วโมงโฮมรูมตอนเช้าเริ่มขึ้นเหมือนทุกๆวัน แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะยิ่งดูน่าเบื่อเป็นพิเศษเมื่อมีนักเรียนใหม่เข้ามาแนะนำตัวกับเพื่อนๆในห้อง


“สวัสดีครับ ผมชื่ออิมแจบอม ฝากเนื้อฝากตัวด้วย” เสียงทุ้มแนะนำตัว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยากให้ทั้งห้องรู้จักเสียเท่าไร ดวงตาทรงเสน่ห์คู่นั้นมองตรงไปยังจินยองที่นั่งเท้าคางมองอยู่


“ฝากดูแลเพื่อนด้วยนะจ๊ะทุกคน อย่ามัวแต่กรี๊ดกร๊าดกันล่ะ” อาจารย์ประจำชั้นเอ่ยบอกก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าไปนั่งที่ตัวเอง ซึ่งมันอยู่ถัดไปจากที่ของจินยองแค่สามที่เท่านั้น ระหว่างทางที่เจ้ามนุษย์ขี้เก๊กนั่นเดินเฉียดเขาไป ร่างสูงก็สำแดงฤทธิ์ให้เขารู้ว่าตัวเองเป็นลูกของเขา!


เคร้ง

ขวดน้ำที่เขามั่นใจมากว่าตัวเองปิดฝาสนิทแล้วตกลงมาบนพื้นจนน้ำหกกระจาย ทั้งห้องหันมามองเขาเป็นตาเดียว


“จินยอง ซุ่มซ่ามอีกแล้วนะจ๊ะ” อาจารย์เอ็ดอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะพยักเพยิดไปทางไม้ถูพื้นที่อยู่หลังห้อง จินยองขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิด เดินหน้าบูดบึ้งไปที่หลังห้อง โดยจงใจเลือกเดินผ่านโต๊ะของตัวต้นเรื่อง


“นายจะประกาศสงครามใช่มั้ย ได้เลยได้!” กระซิบรอดไรฟันก่อนจะคว้าไม้ถูพื้นมาเช็ดพื้นอย่างไม่สบอารมณ์ และนั่นก็นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นคู่กัดกันของพวกเขา



หลังจากนั้นแจบอมและจินยองก็กลายเป็นคู่กัดกันโดยสมบูรณ์แบบ แจบอมจะไม่มีทางพลาดโอกาสในการแกล้งอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เขาแกล้งตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยระดับไร้สาระมากๆอย่างการควบคุมน้ำซุปในถ้วยของอีกฝ่ายให้แห้งเหือดจนจินยองต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาอาฆาต หรือจะเป็นการแกล้งให้ก๊อกน้ำแตกอยู่ตลอดเวลาตอนที่ร่างโปร่งมีเวรต้องทำความสะอาดห้องน้ำ หรือจะใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยตอนที่เขาแกล้งทำหนังสืออีกฝ่ายเปียกจนหมด แล้วแปะกระดาษที่เขียนคำขู่ไว้ว่า
ถ้าอยากให้มันกลับเป็นเหมือนเดิมก็มาหาฉันที่สระว่ายน้ำหลังโรงเรียน



ฟังดูแล้วเหมือนไม่ใช่เขาแต่เชื่อเถอะ เวลาที่คุณชอบใครสักคน คุณไม่มีทางเป็นตัวของตัวเองหรอก และแน่นอนว่าการที่เขาขู่อีกฝ่ายอย่างนั้นก็เพราะอยากเจอ และอยากสร้างความประทับใจให้อีกคนปลื้มเขาอย่างที่สาวๆคนอื่นปลื้มบ้าง โดยที่เขาคิดอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้วว่าจะกลายร่างเป็นมังกรในสระน้ำตอนที่อีกคนมาถึง ใครๆก็ชอบมังกรกันทั้งนั้น แต่….


แจบอมลืมไปว่าจินยองไม่ได้เหมือนกับคนอื่น…


“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย” นั่นคือคำพูดแรกของจินยองตอนที่มาถึงสระว่ายน้ำ เล่นเอาร่างมังกรที่ขนาดยังไม่โตเต็มวัยของเขาชะงักไปครู่หนึ่ง


‘ฉันแค่คิดถึงบ้าน’ โกหก โกหกชัดๆ เขาโทรจิตบอกจินยองอย่างนั้น ถึงแม้จะไม่โกหกเรื่องที่คิดถึงบ้าน แต่ก็ไม่ได้สาเหตุจริงๆของการมาทำตัวบ้าๆในสระว่ายน้ำนี่
ทว่า…. เหมือนคำพูดนั้นจะได้ผล



จินยองมีท่าทีอ่อนลง นัยน์ตาคู่สวยแฝงแววเห็นใจเล็กๆ ขณะที่เท้าเล็กๆค่อยๆเดินมาทรุดนั่งอยู่ข้างขอบสระ


“นายคิดถึงบ้านเป็นกับเขาด้วยหรอ”


‘เห็นฉันเย็นชาขนาดนั้นเลยรึไง’


“ก็นอกจากหน้าตายๆกับคำพูดที่สั้นยิ่งกว่าหางมดก็ใช่ล่ะ” คนตัวเล็กกว่าทำหน้าล้อเลียนอีกคนจนคนตัวใหญ่กว่าอดที่จะหัวเราะในใจไม่ได้


‘ถามฉันทำไมว่าคิดถึงบ้านจริงมั้ย นายก็คิดถึงหรอ’ ร่างโปร่งมีท่าทีลังเลที่จะตอบ เหมือนกำลังประเมินว่าสามารถแสดงความรู้สึกให้เขาเห็นได้มากน้อยแค่ไหน ก่อนที่สุดท้ายจะยอมพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ


“มากๆเลยล่ะ”


‘ทำไมไม่กลับไป วังของอโฟรไดท์ก็ไม่ได้ไปยากไม่ใช่หรอ’


“ท่านแม่อยากให้ฝึกการอยู่ร่วมกับมนุษย์ให้ได้ก่อน ต้องเป็นที่รักของทุกคน ”


‘แล้วใกล้สำเร็จรึยัง’


“ไม่สำเร็จตอนมาเจอนาย” แจบอมหลุดยิ้มในใจก่อนจะแปรงกายกลับเป็นร่างมนุษย์แล้วนั่งเคียงข้างอีกฝ่าย


“จะบอกว่าฉันทำให้นายไม่ได้กลับบ้านหรอ”


“ก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย”


“แล้วรู้ได้ยังไงว่าไม่สำเร็จ”


“ก็…”


“เงียบก่อน” จู่ๆท่าทีของแจบอมก็เปลี่ยนไป คนตัวโตกว่าทำสัญญาณมือให้เขาเงียบ ดวงตาคู่คมมองไปที่พุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ๆ อะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาหมายกระโจนใส่จินยอง แจบอมอาศัยช่วงจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีแปรงกายกลับเป็นมังกร ใช้ปากที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวกระชากอีกฝ่ายลงไปในน้ำ


“แจบอม!” เสียงหวานเรียกด้วยความตื่นตระหนก แจบอมกระชากฟัดกับลูกของนีเมียนอย่างสูสีใต้น้ำ


‘รีบหนีไปซะ! ฉันไม่เป็นไรหรอก!’ เห็นชัดว่าไม่ เลือดสีแดงฉานกระจายเป็นสายใต้น้ำ แจบอมเผลอพลาดท่าโดนคมเขี้ยวของอีกฝ่ายถากสีข้างจนได้แผล


“นาย!! ”


‘รีบไปเร็ว! นายกำลังทำให้ฉันเสียสมาธินะ’ ร่างโปร่งทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากยอมทำตามที่อีกฝ่ายบอก จินยองจำใจต้องวิ่งออกมาจากตรงนั้น หากแต่ยังไม่กล้าพอที่จะทิ้งอีกฝ่ายไว้คนเดียว ร่างโปร่งภาวนาขอให้ผู้เป็นแม่ลงมาช่วย ขณะที่เสียงการปะทะระหว่างแจบอมกับลูกนีเมียนตัวนั้นก็ยังคงดังต่อเนื่อง



แจบอมใช้คมเขี้ยวกัดเข้าที่ลำคออีกฝ่ายก่อนจะสะบัดไปมาให้อีกฝ่ายหมดแรง ทว่าลูกนีเมียนตนไหนก็ใช่จะสิ้นฤทธิ์ได้โดยง่าย มันพยายามใช้กงเล็บตะปบตาของเขา ร่างสูงในตอนนั้นเริ่มโกรธจัด ดวงตาทอแสงสีน้ำทะเล น้ำในสระว่ายน้ำเริ่มสั่นสะเทือนก่อนจะบิดเป็นเกลียวคลื่นสูงขึ้นเสียดฟ้าก่อนที่แจบอมจะปล่อยนีเมียนตนนั้นร่วงหล่นลงสู่ก้นสระที่เหือดแห้ง เสียงตกกระทบดังสนั่น ร่างของนีเมียนแน่นิ่ง แจบอมปล่อยให้สายน้ำกลับคืนสู่สระ ก่อนจะแปรงกายกลับเป็นมนุษย์คลานขึ้นมายังขอบสระ แผลที่สีข้างแม้จะไม่ฉกรรจ์นักแต่ก็ทำเอาเขาปวดแปลบ


“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นกันหรอ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับเสียงรองเท้าส้นสูงของเธอกระทบพื้นดังมา


“นั่นไง! เขาตายอยู่ตรงนั้น!” จินยองรีบชี้ให้ผู้เป็นแม่ของเขาดู แจบอมตีหน้านิ่งก่อนจะชูมือขึ้น


“ฉันยังอยู่ดี”


“อ่าว สู้กันเสร็จแล้วหรอเนี่ย อดใช้พลังเลย” เทพีอโฟรไดท์บ่นอย่างเสียดาย แจบอมนึกไม่ออกจริงๆว่าเธอจะสู้ได้ยังไง


“นี่ เจ้าหนู อย่าประมาทข้าต่ำเชียว” เธอยื่นหน้าเข้ามาดูสภาพเขาใกล้ๆ “โอ้! นายนี่เอง”


“ท่านแม่รู้จักเขาด้วยหรอครับ” จินยองเอ่ยถามขณะที่เข้ามาพยุงแจบอม ผู้เป็นแม่แย้มยิ้มงดงามก่อนจะส่ายหน้า


“แม่น่ะไม่รู้จักหรอก” เธอส่งน้ำทิพย์ให้เด็กหนุ่ม “ แต่สักวันหนึ่งลูกจะรู้จักเขาดีเลยล่ะ” แจบอมไม่ได้สนใจคำพูดปริศนานั่นเท่าไรนัก เขาจัดการดื่มน้ำทิพย์อย่างช้าๆ ร่างกายร้อนผ่าวจนแทบไหม้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่บาดแผลจะเริ่มสมานตัวเองอย่างรวดเร็ว


“ทำไมมันถึงมาโจมตีจินยอง แล้วทำไมคุณถึงได้ยอมลงมาช่วย” เขาถามด้วยความสงสัย เพราะเท่าที่รู้เทพมักไม่แทรกแซงเรื่องของมนุษย์แม้ว่านั่นจะหมายถึงลูกตัวเองก็ตาม


“มันเป็นลูกหลานของนีเมียนในตำนานตัวนั้นน่ะ แล้วคงจะเข้าใจผิดคิดว่าข้าเป็นคนสังหารบรรพบุรุษตัวเองกระมัง โถ่ ข้าแค่ยืมเสื้อคลุมของเฮอร์คิวลิสมาใส่เพราะเห็นว่ามันสวยเท่านั้นเอง นี่คงเห็นว่าทำอะไรข้าไม่ได้เลยจะมาทำร้ายลูกของข้าแทน นีเมียนตัวนั้นช่างไม่อ่านประวัติบรรพบุรุษบ้างเลยจริงๆ” เทพีพูดถึงราชสีห์นีเมียนหนึ่งในภารกิจทั้งสิบสองของเฮอร์คิวลิสที่ถูกชายคนนั้นสังหารแล้วถลักหนังนำมาเป็นเสื้อคลุม


“ขอบคุณท่านแม่มากที่มาช่วยลูก” จินยองเอ่ยคำขอบคุณ อโฟรไดท์ลูบผมเขาเบาๆอย่างรักใคร่


“ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันน่ะจ๊ะ เอาล่ะ แม่ต้องไปแล้ว ไว้เจอกันนะลูกรัก” เทพเจ้าจะจำแลงแปลงกายเป็นนกพิราบสีขาวที่งดงามที่สุดที่แจบอมเคยเห็นมา


“เดี๋ยว” ทว่าก่อนที่เธอจะไป เด็กหนุ่มกลับฉุกคิดอะไรได้ “เมื่อกี้ท่านหมายความว่ายังไงที่ว่าสักวันหนึ่งจินยองจะรู้จักผมดี ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้ว เราเป็นเพื่อนกัน” เทพียิ้มเมื่อได้ฟังคำถาม


“ข้าเห็นในนิมิตรของคิวปิดน่ะ” แล้วเธอก็บินจากไป ทิ้งปริศนาใหม่ให้พวกเขาขบคิดจนมากระจ่างชัดแจ้งในวันนี้





“หลังจากนั้นนายก็ญาติดีกับฉัน นี่ แต่ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจเลยทำไมนายถึงได้ชอบแกล้งฉันขนาดนั้น ฉันไม่เคยทำอะไรให้นายสักหน่อย” ร่างโปร่งยู่ปากโดยที่ไม่รู้เลยว่าทำให้คนมองเอ็นดูมากแค่ไหน


“เด็กผู้ชายน่ะ เวลาจะจีบใครแรกเขาก็เริ่มต้นไม่ถูกกันหรอก รู้แค่ว่าต้องทำให้อีกคนสนใจให้ได้”


“นายนี่มัน…” จินยองหลุดหัวเราะ “ถ้ามีสอบการจีบคนล่ะก็ ฉันว่านายติดลบแน่ๆ”


“ก็ไม่เท่ามาร์คหรอก”


“พูดถึงมาร์คไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างเนอะ อยากรู้จังว่าจะสวีทหวานกันแค่ไหนนะ” ร่างโปร่งพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อคิดถึงเพื่อน แจบอมเชยคางอีกคนให้หันมาสบตา


“อย่ามัวแต่สนใจเรื่องคนอื่นนักเลย นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าหึงฉันหรอ” นัยน์ตาคู่ทรงเสน่ห์จ้องตาอีกคนตรงๆ เดือดร้อนจนจินยองต้องหลบสายตา ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเมื่อเขาเชยคางให้อีกคนหันกลับมาหา


“บอกฉันสิ” เสียงทุ้มรบเร้าจนร่างโปร่งกัดริมฝีปากตัวเอง เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันน้อยๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาด้วย


“ถ้าเด็กๆพวกนั้นไม่ใช่ลูกของนาย แล้วทำไมเขาถึงเรียกว่าพ่อ”


“ตอบคำถามฉันก่อน” จินยองพอจะรู้มาบ้างว่าแจบอมเป็นคนดื้อเงียบ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ ร่างโปร่งเริ่มหน้างอง้ำ อีกฝ่ายหลุดยิ้มขำ


“ถ้าไม่ยอมรับ ฉันก็จะไม่เล่าให้ฟัง แล้วอย่าคิดเชียวว่าไปถามเอาจากพวกเด็กๆได้ เพราะถ้าฉันสั่ง ก็ไม่มีใครกล้าบอกนายทั้งนั้น”


เผด็จการ…


จินยองคิดในใจ ใบหน้าหวานบูดบึ้งยิ่งกว่าทุกครั้งที่อารมณ์ไม่ดีและยิ่งฉุนหนักขึ้นไปอีกเมื่อเหลือบไปเห็นใบหน้ายิ้มถูกใจของอีกฝ่าย ใครว่าแจบอมเป็นคนสุขุม! ไม่เลยไม่! หมอนี่คือวายร้ายในคราบนักบุญชัดๆ!!


“ว่าไงล่ะ”


“ก็ได้ๆ! ฉันหึงนาย หึงมากด้วย คราวนี้จะเล่าได้รึยัง!!!” เสียงหวานตะโกนใส่อีกคนอย่างสุดกลั้น แจบอมหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่จนได้ค้อนจากอีกคนเป็นรางวัลตอบแทน


“โอเคๆ ฉันจะเล่าแล้ว จะเล่าแล้ว” เอ่ยบอกทั้งๆที่ยังคงหัวเราะอยู่เนือง ร่างโปร่งกอดอกตีหน้ายักษ์ “เด็กๆพวกนี้เป็นเด็กกำพร้า ฉันช่วยพวกเขาไว้หลังจากที่พ่อแม่ของพวกเขาถูกพวกมนุษย์จับไปเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม”


“เหมือนในนีโม่”


“นีโม่อะไร” แจบอมขมวดคิ้ว จินยองได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับตีตราอีกฝ่ายด้วยคำศัพท์ใหม่ ‘หลังเขา’


“เด็กๆก็เลยเรียกนายว่าพ่อน่ะหรอ”


“ก็รอคนมาเป็นท่านแม่ให้พวกเขาอยู่” สายตากระหริ่มกระเหรี่ยถูกส่งมาให้ ร่างโปร่งรีบหลบสายตา ใบหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย


“ฉันไม่เคยเลี้ยงปลา”


“จะยากอะไรก็แค่ให้ความรัก” ร่างสูงเอ่ยตอบ ดวงตายังคงจ้องอีกคนด้วยสายตาวาววับก่อนจะพูดประโยคที่มีพลังสั่นสะเทือนหัวใจของอีกคนให้เขินอายจนระทวย

“เหมือนที่ให้กับพ่อของเขา”


“นายนี่มัน..” จินยองพูดไม่ออก แต่ที่แน่ๆเขารู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังหลุดยิ้มเขินอยู่


“ว่าไง ตกลงยอมมั้ยหื้ม” แจบอมขยับเข้ามาใกล้ ข้อนิ้วแกร่งเกลี่ยไล้ที่พวงแก้มเนียนอย่างเบามือ จินยองยิ่งก้มหน้าลงต่ำ


“ลูกๆน่ารัก…”


“หื้มม พูดอะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน แล้วนั่นคือการตอบตกลงหรอ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย” แจบอมโน้มหน้าลงมาฟังใกล้ๆ หากแต่สีหน้าไม่ได้ดูเหมือนคนฟังไม่ถนัดสักนิด


“ก็บอกว่าตกลงไงเล่า!” ร่างโปร่งแกล้งหงุดหงิดกลบเกลื่อนความเขินอาย คนฟังได้แต่หัวเราะเบาๆก่อนจะรวบตัวอีกคนเข้าไปกอดจากด้านหลังไว้แน่น


“ลูกๆฉันจะได้เลิกกำพร้าแม่สักที” ร่างสูงมองไปยังบรรดาลูกปลาตัวน้อยที่แหวกว่ายไปตามกลุ่มดอกไม้ทะเลอย่างสนุกสนานด้วยสายตาอบอุ่น จินยองที่ลอบมองอยู่อดที่จะยิ้มไม่ได้


“ฉันจะดูแลพวกเขาอย่างดีที่สุด”


“ท่านแม่ ท่านแม่” เสียงเล็กๆของจูนี่ดังขึ้นอย่างร่าเริงพร้อมกับแหวกว่ายเข้ามาหา ที่ครีบเล็กๆมีไข่มุกสีสวยเม็ดนึงมาด้วย


“จูนี่ให้”


“ไมร์นาก็มีให้” ปะการังจิ๋วสีสันสดใสถูกวางอยู่ที่ฝ่ามือเรียว


“นีนาก็มีให้ นีนาก็มี” แล้วพวกพี่ๆคนอื่นๆก็เอาของเล็กๆน้อยๆมากมายที่หาได้จากในสวนเอามาให้ร่างโปร่ง จินยองแสดงความขอบคุณทุกคนด้วยการลูบหัวเบาๆอย่างอ่อนโยน พวกลูกปลาเข้ามาคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง แจบอมลอบมองพวกเขาด้วยแววตามีความสุข



ดูเหมือนว่าเขาจะมีคนมาแบ่งเบาภาระไปตลอดชีวิตเสียแล้วสิ



http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ