ชานยอลกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นมายังเนินเขา ขายาวพาร่างของเจ้าของวิ่งฝ่าทุ่งดอกหญ้าหลากสีก่อนจะมุ่งตรงสู่ทางเข้าป่าสน ชานยอลเดินหันซ้ายหันขวา มองสิ่งต่างๆรอบตัว
พื้นดินที่เขียวชะอุ่มด้วยต้นหญ้า ถูกประดับด้วยต้นสนสูงชะลูด ลำแสงยาม....ยาม เขาไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว แต่อย่างน้อยนี่ก็คงจะอยู่ในช่วงเช้าหรือไม่ก็บ่าย
ปากอิ่มคลี่ยิ้มน้อยๆเมื่อดวงตาสบเข้ากับเส้นทางเท้าที่ตัดกลางพื้นป่า อย่างน้อยที่นี่ก็น่าจะมีคนอาศัยอยู่....
....คนอย่างนั้นน่ะหรือ....
ร่างโปร่งเดินไปตามเส้นทางเท้า ตลอดทางที่เดินก็มักจะมองวิวทิวทัศน์สองข้างทางที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ไปเรื่อยๆ ตากลมเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นกวางสองสามตัวเดินออกมาเล็มยอดหญ้า พวกมันเงยหน้ามองเขาสักพักก่อนจะก้มลงจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อ ชานยอลขมวดคิ้วเล็กน้อย แปลกใจที่เขามาเห็นมันในที่แห่งนี้ แต่แล้วร่างโปร่งก็ต้องขมวดคิ้วมากขึ้น เมื่อเจ้ากระต่ายน้อยสีขาวกับสีน้ำตาลวิ่งตัดหน้าเขาไป กระต่ายสีขาว มันควรจะอยู่ในที่ที่มีหิมะไม่ใช่หรอ แต่ทำไมถึงได้มาอยู่ในป่าสนแบบนี้ ชานยอลหันไปมองรอบๆตัวอีกครั้ง ผืนป่าที่สวยงามแล้วกับอยู่บนสวรรค์ปรากฎสู่สายตา........
ที่นี่สวยเกินไป เกินกว่าที่จะมีจริงบนโลก
ร่างโปร่งปล่อยให้ความแคลงใจครอบงำตัวเองได้สักพัก ก่อนจะสบัดความคิดต่างๆเหล่านั้นทิ้ง แล้วออกเดินต่อ สมองไม่ใช่ตัวบงการสั่งการการเคลื่อนไหวของเขา หากแต่ตอนนี้เขาใช้หัวใจและความรู้สึกในการกำหนดเส้นทางการเดินทาง ชานยอลเดินต่อไปเรื่อยๆ จนมาเจอทางแยก ไม่ต้องเสียเวลาคิด ความรู้สึกสั่งให้เดินไปทางขวา ร่างโปร่งเดินต่อไปได้อีกหน่อยก็เจอรั้วต้นไม้สีเขียวหนาทึบที่ถูกแซมด้วยดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ล้อมคฤหาสถ์หลังหนึ่ง แม้จะมีเพียงหลังคาที่โผล่พ้นสู่สายตา แต่เขาก็จำได้ดี.........
บ้านของคริส
ชานยอลออกตัววิ่ง ทุกย่างก้าวที่เข้าใกล้ เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ขายาวพาร่างตัวเองหยุดยืน หอบหนักอยู่ที่หน้าประตูเหล็กดัดสีดำ สองมือเรียวผลักเปิดประตูเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ปากอิ่มคลี่ยิ้มออกทันทีเมื่อภาพที่ปรากฎณ์ตรงหน้าคือคฤหาสถ์ทรงหรูบ้านของคริสแน่นอน แต่ครู่ต่อมาคิ้วสวยก็ขมวดเข้าหากันจนแทบจะรวมเป็นเส้นเดียว ทางเข้าคฤหาสถ์ของคริสไม่สดใส
เขียวชะอุ่มไปด้วยต้นไม้แบบนี้ และตรงกลางก็ไม่ได้มีน้ำพุที่รอบบ่อรายล้อมไปด้วยดอกไม้แบบนี้ด้วย ร่างโปร่งลังเลที่จะเดินต่อไปสักพักหนึ่ง แต่ความรู้สึกในหัวใจก็สั่งให้เขาเดินไปต่อ
สองขายาวค่อยๆออกเดินอีกครั้ง ชานยอลเพ่งมองทางข้างหน้าอย่างสงสัย ร่างของใครบางที่คุ้นตาเดินออกมาจากตัวบ้าน ไม่ผิดแน่ ต้องไม่ผิดแน่ คริส คริส คุณคริสของเขา!!!
ชานยอลวิ่งเข้าไปหา ก่อนจะโผกอดร่างสูง ในที่สุดก็ได้เจอ ในที่สุดก็ได้เจอกันแล้ว! เขาจะไม่ปล่อยคนคนนี้ไปไหนอีกแล้ว จะไม่ให้ต้องพรากจากกันอีกแล้ว
“คุณคริส!......”เอ่ยเรียกด้วยเสียงสั่น เขาดีใจเสียจนหลั่งน้ำตาออกมา
“คุณคริส คุณคริส คุณคริส ผมคิดถึง คุณคริส”ความคิดถึงที่อัดแน่นอยู่ในอก ถูกระบายออกมาผ่านคำพูดและการกระทำของชานยอล ร่างโปร่งกระชับอ้อมกอดแน่นเสียจนน่าหวั่นว่าอีกฝ่ายอาจหายใจไม่ออกได้....
“คุณคริส คุณคริส คิดถึง ผมคิดถึง” ร่างโปร่งฝังใบหน้าอิงแอบกับเส้นผมของอีกฝ่าย กลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบป่าลอยมาแตะจมูกให้ได้กลิ่น มันยิ่งทำให้เขาโหยหาคริสมากขึ้นไปอีก ชานยอลผละออกมาเล็กน้อยก่อนจะยกสองมือเรียวขึ้นแนบแก้มกร้าน ปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้างพร้อมกับร้องไห้อย่างเปรมปรีด์.....
ไม่มีอะไรจะสุขไปกว่านี้แล้ว
มือเรียวที่สั่นระริกลูบไล้ไปตามโครงหน้าอีกฝ่ายอย่างโหยหา ตลอดเวลาที่สัมผัสชานยอลก็ยิ้มกว้างออกมา คริสอยู่กับเขาตรงหน้านี่แล้ว คุณคริสอยู่กับเขาแล้ว ไม่จากเขาไปไหนแล้ว นิ้วเรียวแตะกลีบปากของอีกคน ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบ รสจูบที่แผ่วเบา อ่อนละมุน และหอมหวานเหมือนสายไหม แม้จะไม่ได้ลุกล้ำ ลิ้มรสไปมากกว่านั้นแต่พวกเขาก็รับรู้ถึงความรักที่อัดแน่นอยู่ในจูบนี้ได้ พวกเขามอบทุกความรู้สึกให้แก่กันอย่างนั้นอยู่นาน จนร่างสูงค่อยๆผละออกมา สองมือใหญ่จับแขนของชานยอล ก่อนจะมองใบหน้านวลด้วยแววตาจริงจัง
“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่” ทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มชานยอลก็เอาแต่ยิ้มกว้าง.....
เสียงที่อยากได้ยินมาตลอด
“ชานยอล”
“ห๊ะ ครับๆ”ร่างโปร่งเรียกสติกลับคืนมา ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามร่างสูง
“ผมไม่รู้ มีคนพายเรือพาผมมา แล้วเขาก็บอกให้มาในที่ของผม ผมก็เลยเดินเข้ามาเรื่อยๆ แล้วก็มาเจอกับคุณคริส คุณคริสเป็นยังไงบ้าง คุณคริสมีความสุขมั้ย
คุณคริสเหงามั้ย คุณคริส คุณคริส” คริสยิ้มออกมาบางๆ กับท่าทางของชานยอล....
คงจะคิดถึงมากสินะ
“ถ้าเอาตามความจริง ก็ไม่ค่อยมี เพราะไม่มีนายอยู่ด้วย ”
“คุณคริส คุณคริส ผมมาอยู่กับคุณคริสแล้ว เราจะไม่จากกันอีกแล้วใช่มั้ย คุณคริส”ร่างโปร่งพูดรัว สองมือเอื้อมไปจับมือร่างสูงไว้แน่น
“คิดถึงฉันมากใช่มั้ย”ชานยอลพยักหน้าหลายๆที ร่างสูงดึงอีกคนเขามากอดแน่น
“คิดถึง คิดถึงมากๆ ที่สุดเลย” มือใหญ่ลูบผมอีกคนเบาๆอย่างรักใคร่ ก่อนจะจูบขมับหลายๆที เขาเองก็คิดถึงไม่แพ้กัน....
“ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน นี่ฉันควรดีใจดีมั้ยที่นายมาอยู่กับฉันด้วย”
“ทำไม คุณไม่ดีใจที่ผมมาอยู่หรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ที่นี้คือโลกของวิญญาณผู้ทำพันธนาการ ถ้านายมาอยู่ที่นี้ ก็เท่ากับ….....ตายไปแล้ว”ท้ายประโยคน้ำเสียงร่างสูงเบาลง เขากลัวว่าชานยอลจะเสียใจที่ตัวเองตาย
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เขาเองก็คงจะรู้สึกไม่ดี….
“หรอ จะเป็นจะตายผมไม่สน ตอนนี้มีคุณคริสอยู่ด้วย แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว คุณคริส คุณคริส” ผิดคาด แทนที่จะสลด ชานยอลกับโผเข้ากอดเขาแน่น พร้อมกับจูบเขาซ้ำๆ
“เด็กน้อยของฉัน เราได้เจอกันสักที” ชานยอลผละออกมา ตากลมจับจ้องไปยังใบหน้าของคนตรงหน้านิ่ง ทั้งคู่สบตากันอยู่สักพัก ก่อนที่คริสจะค่อยๆโน้มหน้าลงมาจูบอีกฝ่าย...
ปากหนาดูดเม้มกลีบปากอีกฝ่ายเบาๆ ทำซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานที่เขาโหยหามานาน ร่างโปร่งเผยอปากออกแต่โดยดี เขาเองก็คิดถึงสัมผัสอีกฝ่ายไม่แพ้กัน ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัด ดูดดึงเรียวลิ้นอีกคน ร่างสูงป้อนความรักและความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกตัวเองให้กับร่างโปร่งช้าๆ ไม่รีบร้อนผ่านรสจูบที่หอมหวาน ละมุนไปด้วยกลิ่นไอความอบอุ่น ทุกสัมผัสที่คริสส่งมา ค่อยๆแทรกซึมเข้ามาในหัวใจของชานยอล ร่างโปร่งยกแขนขึ้นคล้องคออีกฝ่าย ก่อนจะใช้เรียวลิ้นเล็กตอบสนองสัมผัสของร่างสูง ปากอิ่มดูดเม้ม ขบกัดปากหนาเบาๆ บ่งบอกว่าเขาเองก็รัก และคิดถึงคริสมากเหมือนกัน รสจูบที่อบอวลไปด้วยความรัก ทำพวกเขาแทบไม่อยากผละออกจากกัน ทั้งสองบอกรักกันและกันผ่านสัมผัสที่ปลายลิ้นอยู่อย่างนั้นต่อไปอีกเนิ่นนาน......
หมู่มวลแมกไม้ในโลกแห่งวิญญาณของผู้ทำพันธนาการต่างผลิบาน สายลมอ่อนๆพัดผ่านมา หอบเอากลีบดอกไม้และกลิ่นหอมอ่อนๆของมันจนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ผีเสื้อหลากสีตัวน้อยๆกระพรือปีกสีสวยของมัน บินรอบๆ คนทั้งสอง ราวกับว่าพวกมันกำลังร่วมยินดีถึงความรักของพวกเขา ต่อจากนี้จะไม่มีการจากลาอีกแล้ว
ต่อจากนี้จะไม่มีหยาดน้ำตาแห่งความเศร้าโศกเสียใจอีกแล้ว จะมีแต่ความสุข และเสียงหัวเราะเท่านั้น ทั้งคู่จะอยู่ครองคู่กันในโลกแห่งนี้ตลอดกาล ดั่งการคำกล่าวที่เคยว่าไว้ในพันธนาการ.........
เมื่อจันทราแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด หนึ่งโลหิตจำต้องหลั่งเพื่อบวงสรวง
หนึ่งชีพต้องสังเวยสู่ความตาย หนึ่งวิญญาณต้องถูกพันธนาการ
เราทั้งสองจักผูกมัดติดตรึงกันไปชั่วกัปชั่วกัลย์
หนึ่งชีพต้องสังเวยสู่ความตาย หนึ่งวิญญาณต้องถูกพันธนาการ
เราทั้งสองจักผูกมัดติดตรึงกันไปชั่วกัปชั่วกัลย์
Writer Talk :
จบแบบสวยงาม วิ๊งค์ๆ 5555555555 เราหวังว่าทุกคนจะละมุนกับฉากจบของคู่นี้นะ
พยายามแต่งออกมาให้เหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์มาก-.- (เพ้อเจ้อดีป่ะละ)
ตอนสุดท้ายแล้วก็อยากจะขอบคุณทุกๆคนมากๆที่ติดตามมาตลอด ถ้าไม่มีทุกคน ฟิคเรื่องนี้ก็คงจะสำเร็จไม่ได้
1 วิวที่เข้า 1เม้นที่เม้น 1ทวิตเตอร์ที่พูดถึง มันคือกำลังใจของเรา ขอบคุณมากจริงๆที่รักฟิคเรื่องนี้นะ
แล้วก็เรื่องรวมเล่ม มีแน่ มีจริงๆ-.- 55555 ราคารูปเล่ม 380 บาท (รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน) จะแจ้งรายละอียดการจองทั้งหมดอีกทีในวันที่4มกราฯ2556นะทุกคน
ทุกคนเราแอบกระซิบ ในรูปเล่มมีตอนพิเศษ(sweetie NC part)ด้วยนะทุกคน แต่งเองยังชอบเองอะ 55555555 ไม่ได้โม้นะ พูดจริงๆ!!!
See u Tmr with.....
The Clock ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องโลกคู่ขนาน
The Clock ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องโลกคู่ขนาน
แก้ไขล่าสุดโดย 0ctogus เมื่อ Thu Jan 10, 2013 10:33 am, ทั้งหมด 7 ครั้ง